1.09k likes | 3.83k Views
ประมาณงบยืดหยุ่น และ การวิเคราะห์ผลต่าง Flexible Budgeting and Variance Analysis. แนวคิดงบประมาณยืดหยุ่น และการวิเคราะห์ผลต่าง. งบประมาณยืดหยุ่น ( Flexible Budgets). คือ งบประมาณที่จัดทำขึ้น ณ ระดับผลการปฏิบัติหลายระดับ เช่น ระดับแผนก ระดับสายการผลิต ระดับบริษัท ฯลฯ. การวิเคราะห์ผลต่าง.
E N D
ประมาณงบยืดหยุ่น และ การวิเคราะห์ผลต่าง Flexible Budgetingand Variance Analysis
แนวคิดงบประมาณยืดหยุ่นและการวิเคราะห์ผลต่างแนวคิดงบประมาณยืดหยุ่นและการวิเคราะห์ผลต่าง
งบประมาณยืดหยุ่น (Flexible Budgets) คือ งบประมาณที่จัดทำขึ้น ณ ระดับผลการปฏิบัติหลายระดับ เช่น ระดับแผนก ระดับสายการผลิต ระดับบริษัท ฯลฯ
การวิเคราะห์ผลต่าง แนวคิดการวิเคราะห์ผลต่างนั้นมีวัตถุประสงค์ ก็เพื่อที่จะทราบสาเหตุที่ทำให้ผลกำไรสุทธิแตกต่างไปจากแผนงบประมาณหลักที่วางไว้
ตัวอย่างการประเมินผลโดยงบประมาณยืดหยุ่นในระดับแผนกตัวอย่างการประเมินผลโดยงบประมาณยืดหยุ่นในระดับแผนก
จะเห็นได้ว่า ปริมาณการผลิตไม่เท่ากัน การเปรียบเทียบที่เห็นดังกล่าวจึงไม่สามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆได้ เหมือนเอานักมวยต่างรุ่นกันมาชกกัน การแพ้ชนะที่เกิดขึ้นไม่มาสารถบอกได้ว่า ใครเก่งกว่า เราจึงต้องจัดทำงบประมาณยืดหยุ่นขึ้น
Variable Fixed ขั้นตอนการจัดทำงบประมาณยืดหยุ่น(Preparing a Flexible Budget) • คำนวณต้นทุนผันแปรต่อหน่วยตามงบประมาณเดิม • จัดทำงบประมาณยืดหยุ่นใหม่โดยต้นทุนผันแปรคำนวณ • คัดลอกงบประมาณชนิดคงที่ลงงบประมาณยืดหยุ่นใหม่ในจำนวนเท่าเดิม • วิเคราะห์ผลต่างใหม่
Advantages of Flexible Budgets Show revenues and expensesthat should have occurred at theactual level of activity. May be prepared for any activity level in the relevant range. Reveal variances due to good cost control or lack of cost control. Improve performance evaluation.
การคำนวณต้นทุนผันแปรต่อหน่วยตามงบประมาณเดิมการคำนวณต้นทุนผันแปรต่อหน่วยตามงบประมาณเดิม
ตัวอย่างการประเมินผลโดยงบประมาณยืดหยุ่นในระดับบริษัทตัวอย่างการประเมินผลโดยงบประมาณยืดหยุ่นในระดับบริษัท
WEBB COMPANY
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง บริษัท เว็บ จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้าเด็กออกจำหน่าย เพื่อให้ง่ายในการทำความเข้าใจขอสมมุติว่าในเดือนมกราคม ปีงบประมาณ 25+7 บริษัทได้วางแผนที่จะผลิตและจำหน่ายเสื้อแจ็กเก็ตเด็กจำนวน 12,000 ตัว แต่จากผลการปฏิบัติงานจริงพบว่าบริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายเพียง 10,000 ตัวเท่านั้น โดยบริษัทกำหนดบัตรต้นทุนมาตรฐานแจ็กเก็ต 1 ตัว ไว้ดังต่อไปนี้
ในหนึ่งปีมีงบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ปีละ 3,312,000 บาท และมีกำลังการผลิตเท่ากับ 57,600 ชั่วโมงเครื่องจักร
ผลต่างปริมาณขาย (Sales Volume Variance)
สาเหตุที่ปริมาณขายน้อยกว่าแผนที่วางไว้ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้ • ความต้องการสินค้าประเภทนี้ไม่เติบโตตามที่คาดไว้เหมือนตอนวางแผนงบประมาณหลัก • คู่แข่งสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากบริษัท • บริษัทไม่สามารถปรับปรุงสินค้าให้มีรูปแบบให้เปลี่ยนไปตามความต้องการของตลาดได้ทัน • งบประมาณขายได้ประมาณการณ์ไว้ไม่ถูกต้องตั้งแต่ แรกทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้จริง • อื่นๆ
ผลต่างราคาขาย (Selling Price Variance)
สาเหตุที่ผลต่างราคาขายน่าพึงพอใจเช่นนี้ อาจจะมาจาก • แผนการตลาดประสบความสำเร็จทำให้ภาพลักษณ์สินค้าของบริษัทอยู่ในระดับสูงจึงทำให้สามารถตั้งราคาขายได้สูง หรือ • อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของประเทศ ทำให้ราคาสินค้าโดยทั่วไปในท้องตลาดสูงขึ้น รวมทั้งราคาขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วย เป็นต้น
การวิเคราะห์ผลต่างต้นทุนมาตรฐานวัตถุดิบทางตรงการวิเคราะห์ผลต่างต้นทุนมาตรฐานวัตถุดิบทางตรง
ในหนึ่งปีมีงบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ปีละ 3,312,000 บาท และมีกำลังการผลิตเท่ากับ 57,600 ชั่วโมงเครื่องจักร
ข้อมูลผลการดำเนินงานจริงข้อมูลผลการดำเนินงานจริง ประกอบการวิเคราะห์ผลต่างต้นทุนมาตรฐาน • การซื้อและใช้วัตถุดิบทางตรง • ปริมาณผ้าที่ถูกใช้ในการผลิตทั้งหมด 22,200 หลา2 • ต้นทุนผ้าที่ใช้ในการผลิตทั้งหมด 621,600 บาท • ค่าแรงทางตรง • ชั่วโมงการทำงานจริง 9,000 ชั่วโมง • ต้นทุนค่าแรงทางตรง 198,000 บาท • ค่าใช้จ่ายการผลิต • ชั่วโมงเครื่องจักรใช้ในการผลิต 4,500 MH • ต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 135,000 บาท • ต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ 285,000 บาท
MATERIAL VARIANCE AQ X AP AQ X SP SQ X SP Material Price Variance Material Quantity Variance Total Material Variance
MATERIAL VARIANCE AQ X AP AQ X SP SQ X SP =22,200 x 28 =22,200 x 30 =(10,000x2)x30=621,600 =666,000 =20,000 x 30 =600,000 Material Price Variance Material Quantity Variance 44,400 F 66,000 U Total Material Variance 21,600 U
สาเหตุที่ผลต่างวัตถุดิบมีราคาถูกกว่ามาตรฐานที่วางไว้อาจจะมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้ • พนักงานฝ่ายจัดซื้อมีทักษะในการต่อรองสูง ทำให้สามารถจัดซื้อผ้าในราคาที่ต่ำกว่า ราคามาตรฐาน • ฝ่ายจัดซื้อเปลี่ยนไปซื้อวัตถุดิบจากผู้จัดจำหน่ายเจ้าอื่นที่มีราคาขายถูกกว่า • การจัดซื้อในปริมาณมากทำให้ได้รับส่วนลดปริมาณ ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยราคาถูกลง • ราคาวัตถุดิบโดยรวมในภาคอุตสาหกรรมมีราคาลดลงกว่าครั้งที่ บริษัทกำหนดราคามาตรฐาน • การกำหนดราคาวัตถุดิบตั้งแต่ตอนต้นไม่รอบคอบทำให้ตั้งราคาสูงไปหรือ ฝ่ายจัดซื้อ จงใจกำหนดราคาวัตถุดิบให้สูงตั้งแต่ต้นเพื่อว่าผลการปฏิบัติงาน จริงจะได้มีผลต่างน่าพอใจ เพื่อจะได้ผลการประเมินการปฏิบัติงานในระดับที่ดี และได้รับผลตอบแทนที่ดี • ฝ่ายจัดซื้อเปลี่ยนไปซื้อวัตถุดิบอีกชั้นคุณภาพทำให้มีราคาถูกลง และเพื่อให้แผนกตนมีผลต่างน่าพอใจ
สาเหตุที่วัตถุดิบมีผลต่างปริมาณไม่น่าพอใจอาจจะมาจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้ • ฝ่ายจัดซื้อเปลี่ยนไปซื้อสินค้าคุณภาพต่ำ ซึ่งผลิตยากกว่าคุณภาพปกติที่ได้กำหนดไว้ตามมาตรฐาน ทำให้เกิดของเสียในกระบวนการผลิตมาก • ผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายผลิต ไม่ติดตามและควบคุมงานให้ดีพอจึงทำให้พนักงาน ฝ่ายผลิตไม่ใส่ใจต่อกรรมวิธีการผลิตใช้วัตถุดิบสิ้นเปลือง • พนักงานผลิตมีทักษะต่ำ ก่อให้เกิดของเสียจากกระบวนการผลิตสูง • ปัญหาจากเครื่องจักรการผลิต ที่ด้อยประสิทธิภาพหรือขัดข้อง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่วัตถุดิบ • การควบคุมวัตถุดิบคงคลังด้อยประสิทธิภาพ อาจมีของเสียหาย หรือการขโมยวัตถุดิบจากคลัง หรือแม้แต่ในกระบวนการผลิต
การวิเคราะห์ผลต่างต้นทุนมาตรฐานค่าแรงทางตรงการวิเคราะห์ผลต่างต้นทุนมาตรฐานค่าแรงทางตรง
ในหนึ่งปีมีงบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ปีละ 3,312,000 บาท และมีกำลังการผลิตเท่ากับ 57,600 ชั่วโมงเครื่องจักร