460 likes | 603 Views
การให้ข้อมูลย้อนกลับ แก่ทีมบริหารและบุคลากรคณะทรัพยากรธรรมชาติ. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549. สรุปผลการประเมินตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้. มาตรฐานที่ 1-3. จุดแข็ง อาจารย์ผู้สอนมีคุณวุฒิสูง ทั้งวุฒิการศึกษาและตำแหน่งทางวิชาการ และมีความเอาใจใส่ในการเรียนของนักศึกษา
E N D
การให้ข้อมูลย้อนกลับ แก่ทีมบริหารและบุคลากรคณะทรัพยากรธรรมชาติ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549
สรุปผลการประเมินตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้สรุปผลการประเมินตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้
มาตรฐานที่ 1-3 จุดแข็ง • อาจารย์ผู้สอนมีคุณวุฒิสูง ทั้งวุฒิการศึกษาและตำแหน่งทางวิชาการ และมีความเอาใจใส่ในการเรียนของนักศึกษา • มีบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการที่มีประสบการณ์ • มีกิจกรรมที่เป็นการสร้างประสบการณ์จริงแก่นักศึกษาในขณะที่เป็นนักศึกษา เช่น มีการตั้งชมรมเลี้ยงไก่เนื้อ หรือ เพาะปลูกพืช • มีพื้นที่ที่รองรับการเรียนการสอนที่เพียงพอตามสถานีวิจัยต่าง ๆ
มาตรฐานที่ 1-3 จุดอ่อน • ระบบการประกันคุณภาพการเรียนการสอน ยังดำเนินการได้ไม่ สมบูรณ์ มีบางภาควิชาที่ยังไม่ได้มีการปรับปรุงหลักสูตร • ปัญหาความรู้ด้านภาษาอังกฤษของนักศึกษา • การใช้ประโยชน์สถานีวิจัยต่าง ๆ ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ • ค่าใช้จ่ายต่อหัวนักศึกษาสูง
มาตรฐานที่ 1-3 ปัจจัยคุกคาม • องค์ความรู้บางสาขา และความสามารถของบัณฑิตไม่สามารถแข่งขันได้กับบัณฑิตบางสถาบัน
มาตรฐานที่ 1-3 กลยุทธ์/แผนพัฒนา • ควรมีการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของตลาดและให้ทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ
มาตรฐานที่ 1-3 ข้อสังเกต • คณะฯ ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังในการจัดทำระบบการประกันคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่ครบถ้วน เช่น การประเมินข้อสอบ/ความสอดคล้องของข้อสอบกับวัตถุประสงค์ของการเรียน • คณะและภาควิชา ยังขาดการวางแผน เสียสละ และดำเนินการในการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่เหลืออยู่ ตามสถานีวิจัยต่าง ๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งพื้นที่เหล่านั้นเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน และวิจัย ทั้งในระดับปริญญาตรี โท เอก สามารถลดภาวะคุกคามจากการถูกบุกรุกพื้นที่ฟาร์มในปัจจุบันได้
มาตรฐานที่ 4 การวิจัยและงานสร้างสรรค์ จุดแข็ง • คณาจารย์มีความชำนาญและประสบการณ์สูงและในบางสาขาสามารถทำวิจัยในเชิงลึก • สัดส่วนของผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ต่ออาจารย์สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของมหาวิทยาลัย
มาตรฐานที่ 4 การวิจัยและงานสร้างสรรค์ จุดอ่อน • สัดส่วนของอาจารย์ที่ active งานวิจัยยังกระจุกอยู่ในบางภาควิชา
มาตรฐานที่ 4 การวิจัยและงานสร้างสรรค์ โอกาส • มีศูนย์และสถานีวิจัยที่รองรับการดำเนินงานวิจัย
มาตรฐานที่ 4 การวิจัยและงานสร้างสรรค์ กลยุทธ์/แผนพัฒนา • สำหรับภาควิชาและ/หรือศูนย์วิจัยที่มีศักยภาพ เช่น ภ.ธรณีศาสตร์/ศูนย์ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ คณะควรสนับสนุนให้หน่วยงานเหล่านี้เข้าในลู่ของ excellence center เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ และครุภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้งานด้านวิจัยของคณะฯ มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
มาตรฐานที่ 4 การวิจัยและงานสร้างสรรค์ ข้อสังเกต • ควรเพิ่มบทบาทในด้านการบริหารงานวิจัย เพื่อให้มีทิศทางและผลงานวิจัยที่นำไปสู่การบรรลุพันธกิจของคณะฯ • ต้องเพิ่มปริมาณของจำนวนอาจารย์ที่ Active งานวิจัย
มาตรฐานที่ 5 บริการวิชาการ จุดแข็ง • คณะฯ มีคณาจารย์และบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ • มีนักศึกษาจำนวนน้อยซึ่งทำให้บุคลากรมีเวลาที่จะทำวิจัยและให้บริการวิชาการมากขึ้น • เป็นสาขาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของการพัฒนาประเทศ • มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่สามารถให้บริการวิชาการได้อย่างต่อเนื่อง
มาตรฐานที่ 5 บริการวิชาการ จุดอ่อน • จำนวนกิจกรรม/โครงการ ลดลง • จำนวนเงินรายได้ที่เกิดจากการบริการวิชาการ ค่อนข้างน้อย
มาตรฐานที่ 5 บริการวิชาการ โอกาส • เป็นหน่วยงานที่ให้บริการวิชาการด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของภาคใต้
มาตรฐานที่ 5 บริการวิชาการ ปัจจัยคุกคาม • เครื่องมือและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ • มีหน่วยงานอื่น ๆ ของกรมวิชาการเกษตรและเอกชนที่อาจจะให้บริการที่คล้ายคลึงกัน
มาตรฐานที่ 5 บริการวิชาการ กลยุทธ์/แผนพัฒนา • ควรประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบถึงศักยภาพของคณะฯ ในการให้บริการ • ควรจัดกิจกรรมRoad Show การให้บริการวิชาการเพื่อหาลูกค้า • ควรพัฒนาการให้บริการวิชาการให้เข้าสู่มาตรฐานสากล • ควรสนับสนุนให้นักศึกษา(สาขาพัฒนาการเกษตร) มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการวิชาการ
มาตรฐานที่ 7 การบริหารจัดการ จุดอ่อน • ขาดผู้ประสานงานในภาพรวมในสำนักงานเลขาฯ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและขาดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน • ยังขาดบุคลากรที่จบทางด้าน ICT โดยตรง เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและงานเชิงบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ • ยังไม่มีการจัดทำ Career Path ที่ชัดเจน • ยังขาดการจัดการระบบการดูแลความปลอดภัยด้านสารเคมีในห้องปฏิบัติการ
มาตรฐานที่ 7 การบริหารจัดการ กลยุทธ์/แผนพัฒนา • ควรมีระบบการบริหารจัดการสำนักงานเลขาฯ ที่ชัดเจน • ควรมีนโยบายสนับสนุนให้บุคลากรโดยเฉพาะของสำนักงานเลขาฯ สามารถเลื่อนระดับได้ตามความเหมาะสม • ควรมีนโยบายที่ชัดเจนและควรจัดสรรงบประมาณการวิจัยสถาบันให้เพียงพอกับความต้องการของบุคลากรเพื่อให้สามารถเข้าลู่ชำนาญการได้ • ควรเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ในการวิจัยให้แก่บุคลากรโดยการจัดฝึกอบรมและมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง • ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลด้านการบริหารจัดการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของมหาวิทยาลัย
มาตรฐานที่ 7 การบริหารจัดการ ข้อสังเกต • งบประมาณในหมวดของค่าจ้าง/เงินเดือน สูงมาก
มาตรฐานที่ 8 ความสัมพันธ์ของคณะฯ กับสังคมและชุมชนภาคใต้ จุดแข็ง • มีกิจกรรมการให้บริการวิชาการที่หลากหลาย ซึ่งสามารถสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้
มาตรฐานที่ 8 ความสัมพันธ์ของคณะฯ กับสังคมและชุมชนภาคใต้ โอกาส • มีสถานีวิจัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งสามารถสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนในภาคใต้ได้เป็นอย่างดี
มาตรฐานที่ 8 ความสัมพันธ์ของคณะฯ กับสังคมและชุมชนภาคใต้ ปัจจัยคุกคาม • การถูกบุกรุกพื้นที่ของชุมชนใกล้เคียง • การขอใช้พื้นที่จาก อบต.
มาตรฐานที่ 8 ความสัมพันธ์ของคณะฯ กับสังคมและชุมชนภาคใต้ กลยุทธ์/แผนพัฒนา • ควรเพิ่มบทบาทของสถานีวิจัยในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและองค์กรท้องถิ่น ที่สถานีวิจัยนั้น ๆ ตั้งอยู่
ข้อสังเกตของสถานีวิจัยในภาพรวมข้อสังเกตของสถานีวิจัยในภาพรวม • ควรวางแผนในการให้นักศึกษา ได้มีการฝึกงานตามสภาพจริง เพื่อให้นักศึกษาได้รับทราบกระบวนการผลิตและสามารถวิเคราะห์บัญชีต้นทุน (cost-benefit) รวมทั้งการตลาดแบบครบวงจร เพื่อเป็นการเสริมกระบวนการเรียนการสอน • คณะฯ ควรสร้างเสริมองค์ความรู้ทางด้านยางพารา ปาล์ม และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ทันสมัย เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ • สถานีวิจัย ควรมีระบบการบริหารการจัดการและผลิตภัณฑ์ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือเลี้ยงตัวเองได้ในระดับหนึ่ง และสถานีวิจัยควรวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจโดยใช้หลักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นตัวช่วยทำให้สถานีวิจัยสามารถหารายได้จากการทำวิจัยและจากการรับเป็นสถานที่ฝึกงาน
ข้อสังเกตของสถานีวิจัยในภาพรวมข้อสังเกตของสถานีวิจัยในภาพรวม • สถานีวิจัยควรใช้ระบบการจ้างเหมาตามภารกิจ (Outsource) เพื่อลดภาระการจ้างบุคลากร • สถานีวิจัยของวาริชศาสตร์ ควรมีการทำแผนร่วมกับมหาวิทยาลัยในการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ • สถานีวิจัยควรมีส่วนร่วมในการสนับสนุนชุมชนที่อยู่รอบ ๆ สถานีวิจัยดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ชุมชน
สัมภาษณ์ตัวแทนผู้ประกอบการ/ผู้ใช้บัณฑิตสัมภาษณ์ตัวแทนผู้ประกอบการ/ผู้ใช้บัณฑิต
สัมภาษณ์บริษัทเอกชน (สาขาวาริชศาสตร์) • ไม่ได้รับนักศึกษาเข้าทำงานในสายวิจัย เนื่องจาก นักศึกษาไม่ได้ลงเรียนรายวิชา water quality management (เนื่องจากภาควิชาจัดให้เป็นวิชาเลือกไม่ใช่วิชาบังคับ) และเห็นว่าวิชานี้มีความสำคัญต่องานวิจัย • รับนักศึกษาบางส่วนเข้าทำงานในสาย production line ซึ่งความก้าวหน้าและเงินเดือนจะต่ำกว่าสายงานวิจัย • วิชาปัญหาพิเศษ ยังไม่มีวิชาสหกิจศึกษา ทำให้ความรู้ของนักศึกษาต่ำกว่านักศึกษาที่มาจากมหาวิทยาลัยอื่น เช่น ม.เกษตรศาสตร์, ม.ลาดกระบัง, ม.แม่โจ้, ม.บูรพา
สัมภาษณ์บริษัทเอกชน (สาขาวาริชศาสตร์) • ในส่วนวิชาฝึกงาน ต้องการให้มีระบบการรายงานของนักศึกษาและ present ให้เพื่อนนักศึกษาทราบเพื่อให้ทราบรูปแบบการฝีกงานของแหล่งฝึกงานต่าง ๆ อย่างทั่วถึง • ควรปลูกฝังให้นักศึกษามีความใฝ่รู้ในวิชาการตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เพื่อสร้างนักศึกษาให้มีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้กับมหาวิทยาลัยอื่น ในด้านวิชาการ
สัมภาษณ์บริษัทเอกชน (สาขาวาริชศาสตร์) • อยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์ในภาควิชา ให้มีความกลมเกลียวสามัคคี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการศึกษาของนักศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในการร่วมงานทางวิชาการของทั้ง advisor และ Co-advisor (ม.แม่โจ้) • การรับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ยังรับอยู่ แต่เนื่องจากบริษัทต้องการสร้าง Royalty ต่อองค์กร โดยต้องการสนับสนุนส่งบุคลากรไปศึกษาต่อเพิ่มเติมในระดับปริญญาเอก เอง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของบุคลากรเอง ดังนั้น จึงยังไม่มีนโยบายรับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก
สัมภาษณ์บริษัทเอกชน (สาขาวาริชศาสตร์) • เนื่องจากการผลิตบัณฑิตในสาขานี้ มีอยู่ในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ดังนั้น บริษัทจึงมีทางเลือกที่จะรับบัณฑิตที่มีคุณภาพสูง
สัมภาษณ์บริษัทเอกชน (สาขาสัตวศาสตร์/วาริชศาสตร์) • บัณฑิตของ มอ.จะเน้นผลิตบัณฑิตในภาคการผลิตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันตลาดแรงงานในภาคเอกชนจะมีสัดส่วนของการจ้างบัณฑิตในภาคการตลาดมากขึ้น ดังนั้น บัณฑิตที่สำเร็จ ควรมีความรู้ในด้านการเสนอข้อมูล ด้านการตลาด และด้านการขาย ด้วย • ในภาพรวมของทุกสถาบัน บัณฑิตมีความรับผิดชอบลดลง
สัมภาษณ์หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจสัมภาษณ์หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ • ได้ดำเนินสัมภาษณ์ผู้ใช้งานบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจาก ภ.วาริชศาสตร์ ภ.พืชศาสตร์ ภ.พัฒนาการเกษตร ในเรื่องขององค์ความรู้ ทุกหน่วยงานยอมรับในศักยภาพว่า เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ และมีศักยภาพเทียบเท่าบัณฑิตที่จบจากสถาบันหลักของรัฐ เช่น จาก ม.ขอนแก่น, ม.เชียงใหม่ • ในเรื่องความรับผิดชอบและความคิดริเริ่ม อยู่ในระดับที่ดี และน่าพอใจ
สัมภาษณ์หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจสัมภาษณ์หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ • ประเด็นที่ผู้ใช้บัณฑิตต้องการให้คณะ/หลักสูตร เติมเต็ม มี 2 ประเด็น คือ • ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ควรเพิ่มเติมให้สามารถติดต่อกับชาวต่างชาติได้ • อยากให้นักศึกษาได้มีโอกาสฝึกงาน เยี่ยมชมสภาพจริงของผู้ประกอบการและชาวสวนยาง และปาล์ม ให้มากกว่าสภาพปัจจุบัน
ข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่ต้องการให้คณะ/มหาวิทยาลัยรับทราบ
นำเสนอคณะฯ เพื่อรับทราบ • คณะฯ ควรจะทำแผนทดแทนบุคลากรสาย ก ที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งระยะสั้น และปานกลาง อย่างเร่งด่วน โดยใช้ศักยภาพของคณะฯ ที่สามารถผลิตบุคลากรในระดับปริญญาเอกเป็นเครื่องมือ • ควรเร่งทำแผนการใช้ประโยชน์จากสถานีวิจัยทุกแห่ง เพื่อสนองตอบต่อการจัดการเรียนการสอน การฝึกงาน และการบริการชุมชนในท้องถิ่น ที่สถานีวิจัยดังกล่าวตั้งอยู่ เพื่อลดแรงกดดันขององค์กรท้องถิ่นที่จะขอพื้นที่คืนบางส่วน • ควรมีเจ้าหน้าที่ทางด้าน ICT ให้กับหน่วย ICT ของคณะฯ เพื่อเสริมศักยภาพการสนับสนุนงานด้าน IT ทั้งการเรียนการสอน และงานบริหาร
นำเสนอคณะฯ เพื่อรับทราบ • ควรจัดระบบการสนับสนุนของสำนักงานเลขานุการ โดยจัดให้มีผู้ที่จะทำหน้าที่ประสานงาน/ประสานความคิด คล้าย ๆ กับผู้ที่ทำหน้าที่เลขานุการคณะฯ ซึ่งอาจจะเป็นทีมบริหาร ท่านใด ท่านหนึ่ง ก็ได้ • ควรจะต้องหาวิธีการลด Unit Cost ของการผลิตบัณฑิตของคณะฯ จาก 157,076: 1 ให้ลดลง เพราะว่า ICL กลาง อยู่ในช่วง 60,000 – 70,000 บาท เท่านั้น • คณะฯ ควรมีการปรับสูตรการคำนวณ ใน ฟอร์ม SAR เพื่อให้ภาควิชาสามารถดำเนินการได้ถูกต้อง • อยากให้คณะฯ มีนโยบายช่วยในด้านการตลาดของสถานีวิจัยต่าง ๆ
นำเสนอคณะฯ เพื่อรับทราบ • คณะฯ ควรอาศัยระบบ TOR, KPIs และ LU เป็นตัวช่วยกระตุ้นเพื่อให้อาจารย์ทำวิจัยเพิ่มขึ้น (เช่น ตัวอย่างของ ภ.วาริชศาสตร์ Active researcher มีประมาณ 50% ของอาจารย์ในภาคฯ ซึ่งทางภาควิชาไม่สามารถกระตุ้นให้อาจารย์ทำวิจัยได้ทุกคน) • คณะฯ ต้องวางแผน กำหนดนโยบายในการพัฒนาศูนย์วิจัยให้ชัดเจน และให้ดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนการกำหนดจำนวนศูนย์วิจัยที่จำเป็นต่อการดำเนินภารกิจที่ก่อให้เกิดการบรรลุพันธกิจของคณะฯ รวมถึงการกำหนดอำนาจ บทบาทหน้าที่ ของผู้อำนวยการศูนย์และผู้บริหารศูนย์ให้เป็นตำแหน่งบริหารที่มี TOR ชัดเจน รวมถึงการกำหนดค่าตอบแทนในตำแหน่งบริหาร
นำเสนอคณะฯ เพื่อรับทราบ • ต้องพัฒนาสถานีวิจัยให้เป็นวิสาหกิจ เป็นที่จัดการเรียนการสอนโดยคิดค่าใช้จ่ายจากรายวิชาที่ไปใช้พื้นที่และทรัพยากรของสถานีวิจัย รวมทั้งการดูแลระบบสาธารณูปโภคของสถานีวิจัย และมีการเพิ่มภาคการผลิตของสถานีวิจัยต่าง ๆ • ควรมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในด้านการทำธุรกิจเกษตรแก่บุคลากรศูนย์/สถานีและนักศึกษา • ควรมีการจัดสรร และบริหารเงินรายได้ ให้คืนกลับแหล่งสร้างรายได้ตามผลงานที่ได้ • Reorganize การบริหารสถานี/ศูนย์ ในส่วนผลผลิต ส่วนวิจัย บริการวิชาการ ไม่ให้ซ้ำซ้อน
นำเสนอมหาวิทยาลัยรับทราบนำเสนอมหาวิทยาลัยรับทราบ • สถานีวิจัยนาทวี มีนโยบายที่ต้องการให้เลี้ยงตัวเองได้ แต่ยังไม่สามารถทำให้นโยบายดังกล่าวบรรลุเป้าหมายได้ เนื่องจาก รายจ่ายในด้านการบริหารจัดการค่อนข้างสูง และยังไม่สามารถทำการตลาดได้ตามแผน ??? • มหาวิทยาลัย ควรอาศัยระบบ TOR, KPIs และ LU เป็นตัวช่วยกระตุ้นเพื่อให้อาจารย์ทำวิจัยเพิ่มขึ้น (เช่น ตัวอย่างของ ภ.วาริชศาสตร์ Active researcher มีประมาณ 50% ของอาจารย์ในภาคฯ ซึ่งทางภาควิชาไม่สามารถกระตุ้นให้อาจารย์ทำวิจัยได้ทุกคน)
นำเสนอมหาวิทยาลัยรับทราบนำเสนอมหาวิทยาลัยรับทราบ • วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา :FTES น่าจะหาวิธีการประเมินโดย (ไม่รวมหรือรวมครุภัณฑ์โครงการพิเศษ) (ตัวบ่งชี้ที่ 7.5) • วิธีการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ที่ 4.4 จำนวนเงินสนับสนุนการวิจัย น่าจะมองทั้ง 2 มิติ คือ ไม่ควรเปรียบเทียบของจำนวนเงิน : บุคลากรของปีที่ผ่านมาอย่างเดียว แต่น่าจะเทียบกับค่า Benchmark ที่มหาวิทยาลัย/ประเทศ กำหนดก็ได้ • วิธีการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ที่ 3.4 อัตราการเพิ่มของตำแหน่งทางวิชาการ ควรจะมองทั้งมิติจำนวนตำแหน่งทางวิชาการที่มีอยู่ และอัตราที่เพิ่มขึ้น เพราะว่าบางคณะฯ เมื่อมีผู้ครองตำแหน่งวิชาการในสัดส่วนสูงแล้ว อัตราการเพิ่มของตำแหน่งทางวิชาการจะยากมากขึ้นตามลำดับ
จุดเด่นที่ควรเป็นแบบอย่าง (Good Practices)
จุดเด่นที่ควรเป็นแบบอย่าง (Good Practices) • มีความคิดสร้างสรรค์ ในการนำกิจกรรมเชิงวิชาการ เช่น การเลี้ยงผึ้งที่สถานีวิจัยเทพา เพื่อเสริมผลผลิตจากพืชหลัก เช่น ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล และยังก่อให้เกิดรายได้เสริม และสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนรอบข้าง • การดำเนินการของบางศูนย์ที่พยายามแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชนในด้านการวิจัยและบริการวิชาการ เช่น ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมัน
สิ่งที่ต้องการให้คณะฯ พัฒนาอย่างเร่งด่วน 1 คณะฯ ควรมอบหมายให้มีผู้ประสานงานกลาง ในสำนักงานเลขาฯ 2 ควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้สายสนับสนุนทางวิชาการ เร่งสร้างผลงาน เพื่อเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงาน และ/หรือ เข้าสู่ตำแหน่งชำนาญการ 3 ควรมีการวิเคราะห์บัญชีต้นทุนของสถานีวิจัยทุกสถานี และหากลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ การลดค่าใช้จ่ายต่อหัวนักศึกษา 4