551 likes | 1.54k Views
ตัวแปร และ สมมติฐาน Variable and Hypothesis. ตัวแปร Variables สิ่งที่แปรเปลี่ยนค่าได้ มากกว่า ๑ ค่า. ตัวแปรอิสระ (ตัวแปรต้น) Independent Variable ตัวแปรที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดผลตามมา ตัวแปรตาม Dependent Variable ตัวแปรที่เป็นผลจากการกระทำของตัวแปรต้น
E N D
ตัวแปร และ สมมติฐานVariable and Hypothesis
ตัวแปร Variablesสิ่งที่แปรเปลี่ยนค่าได้ มากกว่า ๑ ค่า ตัวแปรอิสระ (ตัวแปรต้น) Independent Variable • ตัวแปรที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดผลตามมา ตัวแปรตาม Dependent Variable • ตัวแปรที่เป็นผลจากการกระทำของตัวแปรต้น ตัวแปรแทรกซ้อน Intervening Variable • ตัวแปรที่ไม่ต้องการศึกษา ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ป้องกันได้
การกำหนดตัวแปร ผลของการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริงที่มีต่อ การลดพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ของนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรคงที่ การให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริง พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์
การกำหนดตัวแปร ผลการใช้แบบฝึกอ่านคำควบกล้ำกับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสายสมรอุปถัมภ์ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรคงที่ แบบฝึกคำควบกล้ำ ผล/คะแนน จากการฝึกคำควบกล้ำ นักเรียนชั้น ป.2
การกำหนดตัวแปร แรงจูงใจในการเป็นชายขายบริการ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรคงที่ แรงจูงใจ การตัดสินใจเป็นชายขายบริการ ชายขายบริการ (กลุ่มตัวอย่าง)
การกำหนดตัวแปร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้าห้องเรียนสาย ด้วยกิจกรรมสร้างลักษณะนิสัย ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรคงที่ กิจกรรมสร้างลักษณะนิสัย พฤติกรรมการเข้าห้องเรียน
สมมุติฐาน Hypothesis ข้อความที่คาดคะเนคำตอบ หรือผลการศึกษาวิจัย เป็นการคาดคะเนความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ๒ ตัวขึ้นไป • อาศัยทฤษฎี หลักการ เหตุผล ความรู้ ประสบการณ์ • เป็นจริง / ไม่จริง ถูกต้อง / ไม่ถูกต้อง สมมุติฐานจะเป็นจริง / ถูกต้อง เมื่อมีการพิสูจน์ /ทดสอบ โดยอาศัยข้อมูลและวิธีการทดสอบทางสถิติ
สมมติฐาน ทางการวิจัย มีลักษณะเป็นข้อความบรรยาย ทางสถิติ ใช้สัญลักษณ์แทน H0สมมติฐานกลาง H1 สมมติฐานทางเลือก มีทิศทาง สูงกว่า ต่ำกว่า < > ไม่มีทิศทาง แตกต่าง ไม่แตกต่าง = ≠
ประเภทของสมมติฐาน สมมติฐานทางสถิติ Statistical Hypothesis : ใช้สัญลักษณ์แทนข้อความที่เป็นการพยากรณ์คำตอบ การวิจัยไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้ในการทดสอบทางสถิติ สมมติฐานการวิจัยResearch Hypothesis : ข้อความที่เป็นการพยากรณ์คำตอบการวิจัยไว้ล่วงหน้า
ประเภทของสมมติฐาน Ex. นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างจากนักเรียนที่เรียนแบบปกติ สมมติฐานการวิจัย Research Hypothesis : ข้อความที่เป็นการพยากรณ์คำตอบการวิจัยไว้ล่วงหน้า
ประเภทของสมมติฐาน : แบบมีทิศทาง Directional Hypothesis เขียนการคาดคะเนคำตอบการวิจัยที่ระบุทิศทางแน่นอน Ex. นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่า นักเรียน ที่เรียนแบบปกติ
ประเภทของสมมติฐาน :แบบไม่มีทิศทางNondirectional Hypothesis การคาดคะเนคำตอบการเขียนที่ไม่ระบุทิศทางแน่นอน Ex. นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่างจากนักเรียนที่เรียนแบบปกติ
ประเภทของสมมติฐาน สมมติฐานทางสถิติ Statistical Hypothesis : ใช้สัญลักษณ์แทนข้อความที่เป็นการพยากรณ์คำตอบ การวิจัยไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้ในการทดสอบทางสถิติ
สมมติฐานทางสถิติ Statistical Hypothesis : สมมติฐานกลาง NullHypothesis = H0 ใช้เป็นเกณฑ์การทดสอบ ค่าพารามิเตอร์ - ระบุถึงความไม่แตกต่างของค่าพารามิเตอร์ - เขียนในลักษณะไม่มีความสัมพันธ์ หรือ ไม่มีความแตกต่าง ณ ระดับไร้นัยสำคัญ (ความเป็นจริง)
สมมติฐานทางสถิติ Statistical Hypothesis : สมมติฐานทางเลือก Alternative Hypothesisตรงข้ามกับสมมติฐานกลาง(H1) - เขียนแสดงถึงความแตกต่าง หรือสัมพันธ์กันของ ค่าพารามิเตอร์ - เป็นสมมติฐานที่ควรจะเป็น ถ้าสมมติฐานกลางไม่ถูกต้อง
การเขียนสมมติฐานทางเลือกการเขียนสมมติฐานทางเลือก :แบบมีทิศทาง -เขียนแสดงถึงความแตกต่าง ความสัมพันธ์ของตัวแปร ทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (มากกว่า น้อยกว่า ) - ต้องใช้ทฤษฎี เหตุผล ข้อมูลมายืนยันอย่างเพียงพอ ที่จะกำหนดทิศทาง H0: 1 2 H1 : 1 2
การเขียนสมมติฐานทางเลือกการเขียนสมมติฐานทางเลือก : แบบไม่มีทิศทาง เขียนแสดงถึงความแตกต่าง หรือความสัมพันธ์ ของตัวแปรที่ไม่ระบุทิศทางแน่นอน(แตกต่าง สัมพันธ์) หน้า 46 H1 :1 2 ค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มที่ 1 ไม่เท่ากับ ค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มที่ 2
ตัวอย่างการเขียนHypothesis นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่า นักเรียนที่เรียนแบบปกติ H0 : 1 2 H1 : 1 2
ตัวอย่างการเขียนHypothesis นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือมีคะแนน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่าง จากนักเรียนที่เรียนแบบปกติ H0 : 1 = 2 H1 : 1 2
สมมติฐาน ที่ดี สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย เป็นไปตามหลักการกำหนดสมมติฐาน แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอย่างชัดเจน เป็นข้อความที่เขียนชัดเจน อ่านเข้าใจง่าย มีโอกาสเป็นไปได้สูง มีทฤษฎี เหตุผล ข้อมูลสนับสนุน สามารถตรวจสอบ ทดสอบ ตัดสินเพื่อยอมรับ หรือปฏิเสธ และสรุปผลได้
ขั้นตอนการทดสอบสมมติฐานขั้นตอนการทดสอบสมมติฐาน 1. กำหนดสมมติฐานการวิจัย และสมมติฐานทางสถิติ 2. กำหนดระดับความมีนัยสำคัญ (ระดับความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นได้ในการทดสอบ ความน่าจะเป็น โอกาสที่จะปฏิเสธสมมติฐานกลางที่ถูกต้อง) 3. หาค่าวิกฤติ โดยการเปิดตาราง t(ค่าของขอบเขตการยอมรับหรือปฏิเสธสมมติฐานกลางที่ถูกต้อง) 5.หาค่าสถิติทดสอบ (คำนวณ) 6. เปรียบเทียบค่าที่คำนวณได้กับค่าวิกฤต 7. ตัดสินใจ สรุปผล
การทดสอบสมมติฐาน • 2.กำหนดระดับความมีนัยสำคัญ level of significance • ใช้สัญลักษณ์ (alpha) • - ระดับความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นได้ในการทดสอบ • - ความน่าจะเป็นหรือโอกาสที่จะปฏิเสธสมมติฐานกลางที่ถูกต้อง • ค่าระดับความมีนัยสำคัญ โดยทั่วไปคือ 0.01 และ 0.05 • (การทดสอบมีความน่าเชื่อถือได้ ร้อยละ 99 และ 95
การทดสอบสมมติฐาน 3. หาค่าวิกฤติ Critical value - ค่าที่เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าจะยอมรับ หรือ ปฏิเสธสมมติฐานกลาง - ได้จากการเปิดตารางtโดยใช้ค่าระดับความมีนัยสำคัญ และชั้นแห่งความเป็นอิสระdfหน้า 197 Degree of Freedom
การทดสอบสมมติฐาน : เป็นการพิจารณาค่าสถิติที่คำนวณได้ โดยเทียบกับพื้นที่ตามขอบเขตการยอมรับ หรือ ปฏิเสธ - ค่าที่คำนวณได้น้อยกว่า ค่าวิกฤติ = ยอมรับH0 : ค่าเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกัน - ค่าที่คำนวณได้มากกว่า ค่าวิกฤติ = ยอมรับ H1: ค่าเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มแตกต่างกัน
การหาค่าวิกฤตจากการเปิดตาราง t เป็นการทดสอบสมมติฐานหนึ่งทาง / สองทาง กำหนดระดับนัยสำคัญ = .05 / .01 หาชั้นแห่งความเป็นอิสระ : หนึ่งกลุ่ม df = n-1 : สองกลุ่ม df = n1+n2-2 ค่าที่ระดับนัยสำคัญ กับ dfตัดกัน
ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 df= 32 ค่าวิกฤต = ????? ตัวอย่าง นักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่า นักเรียนที่เรียนแบบปกติ
ตัวอย่าง ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 df = 32 ค่าวิกฤต = ????? นักเรียนที่เรียนสังคมศึกษาด้วยวิธีเรียนแบบรวมมือ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่าง จากนักเรียนที่เรียน แบบปกติ
การกำหนดตัวแปร ผลของการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริงที่มีต่อ การลดพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ของนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรคงที่ การให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริง พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์
การเขียนสมมติฐานการวิจัยการเขียนสมมติฐานการวิจัย ผลของการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริงที่มีต่อการลดพฤติกรรม ไม่ตั้งใจเรียน ของนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี การให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริงทำให้พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ลดลง มีทิศทาง ไม่มีทิศทาง พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนก่อน กับหลังการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริง แตกต่าง กัน
การเขียนสมมติฐานทางสถิติการเขียนสมมติฐานทางสถิติ ผลของการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริงที่มีต่อการลดพฤติกรรม ไม่ตั้งใจเรียน ของนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี มีทิศทาง ไม่มีทิศทาง H0 : ก่อน < หลัง H1 : ก่อน > หลัง H0 : = 0 H0 : ก่อน = หลัง H1 : 0 H1 : ก่อน หลัง