1 / 23

วิถีชุมชนวัด

วิถีชุมชนวัด. B asic E cclesial C ommunity. ประวัติความเป็นมา เริ่มพูดถึงที่อเมริกาใต้ ภายใต้คำว่า เทวศาสตร์แห่งการปลดปล่อย เป็นการตรึกตรองเทวศาสตร์ในมิติของสังคมและการเมือง ภายหลังหลายกลุ่มพัฒนาเป็นองค์กรอิสระ โดยไม่ขึ้นกับพระศาสนจักรท้องถิ่น

Download Presentation

วิถีชุมชนวัด

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิถีชุมชนวัด Basic Ecclesial Community

  2. ประวัติความเป็นมา เริ่มพูดถึงที่อเมริกาใต้ ภายใต้คำว่า เทวศาสตร์แห่งการปลดปล่อย เป็นการตรึกตรองเทวศาสตร์ในมิติของสังคมและการเมือง ภายหลังหลายกลุ่มพัฒนาเป็นองค์กรอิสระ โดยไม่ขึ้นกับพระศาสนจักรท้องถิ่น ต่อมาที่อัฟริกา มีการตรึกตรองเช่นกัน โดยมีกระบวนการ Lumgo ในเอเชียที่อินโดนีเซีย เมือง Bundung 1990 มีการใช้คำว่า The new way of being Church และมีการออกแบบหลักสูตรเรียกว่า AsIPA

  3. 2. เกิดอะไรขึ้นที่บันดุงBEC (Basic Ecclesial community)The New Way of Being Church the new way of being Church ถูกใช้เป็นครั้งแรก ที่ Bundung Indonesiaเอกสารจากที่บันดุงพูดถึงเรื่องต่อไปนี้ • แนะนำให้กลับไปใช้จิตตารมณ์กลุ่มคริสตชนยุคแรกๆ • การถูกเรียกมาสู่การประกาศพระวรสาร ในรูปแบบใหม่ • การสมานฉันท์กับพี่น้องต่างความเชื่อ ต่างศาสนา ในรูปแบบใหม่ • การมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม

  4. 2. เกิดอะไรขึ้นที่บันดุงBEC (Basic Ecclesial community)The New Way of Being Church • การเอาใจใส่คนยากจน • the new movement มี พระวรสารเป็นศูนย์กลางของชีวิต • the new way of being Church คือ การชุมนุมกันเป็นสังคมที่มีรากฐานอยู่ที่พระคัมภีร์ • ตั้งกลุ่มวิถีชุมชนวัดโดยใช้กระบวนการAsIPA เพื่อสร้าง Bec เพื่อพัฒนาพระศาสนจักรในทุกระดับ ทั้งสภาภิบาล

  5. 3. เป้าหมายของพระศาสนจักร • The new way of being Church การเป็นพระศาสนจักรในรูปแบบใหม่ คือ • การที่คริสตชนทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานพระศาสนจักร • เพื่อที่จะเป็น พระศาสนจักรรูปแบบใหม่ พระศาสนจักรแนะนำให้ฟื้นฟูคริสตชนเป็นกลุ่มย่อย วิถีชุมชนวัดBec, Scc • ในแต่ละกลุ่มย่อย ใช้กระบวนการ AsIPAเป็นเครื่องมือฝึกฝนอบรม หล่อเลี้ยงลุ่มย่อยด้วยพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธ์ • AsIPA เป็นหลักสูตรที่ประกอบด้วยหนังสือ 4 ภาค ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการแบ่งปันพระวาจา 7 ขั้นตอน

  6. 4. AsIPA ย่อมาจากอะไร As = Asian โปรมแกรมนี้ได้รับการออกแบบในแวดวงของชาวเอเชีย I = Integral เป็นการรวบรวมสรรพความรู้มาร่วมกัน P = Pastoral เป็นแง่มุมเกี่ยวกับงานอภิบาล A = Approach เป็นวิธีการที่เป็นกระบวนการ

  7. 5. ใครเป็นผู้สนับสนุน AsIPA FABC The Federation of Asian Bishops Conference The Office of Laity AsIPA desk

  8. 6. New way and Old way • คำว่า new และ old ไม่ได้มีอคติว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่ถูกต้องสู้แบบใหม่ไม่ได้ แต่มองในแง่ความเหมาะสมกับสถานการณ์ • ความจำเป็นในประวัติศาสตร์ทำให้พระศาสนจักรสอนให้ระวังคนที่มีความเชื่อแตกต่าง เพราะจะทำให้พระศาสนจักรแตกแยก จึงเน้นเอกสิทธิ์ของพระศาสนจักร ฐานานุกรม • ทำให้พระสงฆ์ ฆราวาสอยู่คนละชั้นในพระศาสนจักร • New way มาจากพระสังคยานาวาติกันที่ 2 เน้นการกลับไปสู่ชีวิตคริสตชนยุคแรกๆ ที่ทุกคนมีสำนึกถึง ความเป็นพี่น้องกัน และการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในพระศาสนจักร • เราถูกเรียกร้องให้แสดงความรักต่อเพื่อนพี่น้อง โดยเฉพาะบรรดาคนยากจน • การเจริญชีวิตไม่ใช่เพียงเมื่อมีโอกาสที่จะทำความดี แต่เป็นการเจริญชีวิตประจำวันของเราตามพระวรสาร

  9. 6. New way and Old way • การยอมรับความเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีของสงฆ์ที่ทุกคนมี ทั้งฆราวาสเอง และพระสงฆ์ ต่างต้องการการตระหนักถึงบทบาทของตนใหม่ • การยอมรับผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ • เราจึงได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าใจพิธีกรรมอย่างลึกซึ้ง เป็นต้นในวันฉลองพระเจ้า

  10. 7. วิถีชุมชนวัดจำเป็นต้องชุมนุมกันในละแวกบ้าน • BEC เป็นเซลล์ย่อย เป็นวัดย่อย ของวัดของเรา • เป็นพระศาสนจักรที่กำลังทำพันธกิจของตนในละแวกบ้านของเรา • การรวมกลุ่มละแวกบ้านจึงเป็นการปรากฏอย่างแท้จริงของพระศาสนจักร เพราะเราจะรู้ปัญหาของละแวกบ้านของเรา เป็นหู เป็นตา เป็นเท้า ฯ ของวัดอย่างแท้จริง • พระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่วมเป็นจริงเมื่อชุมนุมกันในละแวกบ้าน • การชุมนุมกันละแวกบ้านจึงไม่ใช่กลุ่มศรัทธา กลุ่มองค์กรพิเศษ แต่เป็นวัดย่อยของวัดของเรา • การชุมนุมกันละแวกบ้านเป็นประจำ จะมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเรา • ผู้รับศีลล้างบาปทุกคนเป็นสมาชิกของ BEC เหมือนเด็กที่เกิดมาในครอบครัว เราผูกพันกันร่วมสุข ร่วมทุกข์รับผิดชอบทุกอย่างในชุมชน

  11. 8. ความสัมพันธ์กันระหว่าง Becกับสภาภิบาลวัด • พระศาสนจักรพบความยากลำบากในการให้คำสอนที่ถูกต้อง ลึกซึ้งกับบรรดาสัตบุรุษ เป็นต้นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ของตนซึ่งเป็นผู้รับศีลล้างบาป • สภาภิบาลจึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำถึงบทบาทหน้าที่ของคริสตชน โดยอาศัยการชุมนุมกันใน BEC นี่เอง • สภาภิบาลช่วยให้สมาชิกในชุมชนรับใช้กันและกัน และสร้างสำนึกเรื่องพระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่เพียงสมาชิกสภาภิบาลเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น • ที่สุดสภาภิบาลมาจากผู้นำกลุ่ม Becs ต่างๆ เขารู้และเป็นตัวแทนกลุ่มละแวกบ้านที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ • ดังนี้เองสภาภิบาลจึงเป็นการแสดงออกถึงพระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเด่นชัดที่สุด

  12. 9. ความสำคัญของ Becและกลุ่มอื่นๆ • ในอดีต เมื่อคริสตชนคนหนึ่งอยากจะช่วยงานวัด ก็จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์กรหนึ่งในวัด • องค์กรต่างๆ ในวัดมีจิตตารมณ์ เฉพาะตามแต่ผู้ก่อตั้งกำหนด เป็นกระแสเรียกพิเศษที่ช่วยทำให้วัดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น • โดยพื้นฐานคริสตชนทุกคนเป็นสมาชิก BEC รวมทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกในองค์กรต่างๆ ด้วย • คริสตชนบางคนไม่สามารถเข้ากลุ่มองค์กรได้ แต่เขายังไม่ถูกตัดขาดจากชุมชน เนื่องจาก • แม้แต่คนที่รับศีลมหาสนิทไม่ได้ ด้วยเหตุใดก็ตามก็เป็นสมาชิก BEC • ใน BEC ทุกคนสามารถมีสิทธิ์และมีส่วนร่วมทำงานให้วัดได้ • BEC จึงเป็นตัวเชื่อมระหว่างวัด-ครอบครัว กับชุมชนในวัดนั้นๆ

  13. 9. ความสำคัญของ Becและกลุ่มอื่นๆ • ทุกคนที่รับศีลล้างบาปเป็นวิถีชุมชนวัด บางคนได้รับพระพรพิเศษจึงเข้าเป็นสมาชิกองค์กรพิเศษ • วิถีชุมชนวัดไม่ใช่องค์กรพิเศษ • วิถีชุมชนวัดแตกต่างจากชุมชนเข้มแข็งของภาครัฐ • วิถีชุมชนวัดเป็นจิตวิญญาณของคริสตชนทุกคนทั้งฆราวาสและพระสงฆ์นักบวช

  14. 10. ตัวอย่างหลักสูตรอบรมของ AsIPA หลักสูตรของ AsIPA มีไว้เพื่อความสะดวกในการฝึกอบรม ทั้งตัวผู้ให้การอบรมเอง และแก่ผู้ที่สนใจทั่วไปโดยแยกเป็นส่วนๆ ดังต่อไปนี้ หลักสูตร • ก (A) :การแบ่งปันพระวรสาร • ข (B) : ชุมชนคริสตชนย่อย • ค (C) : พระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่วม • ง (D) : การฝึกทีมงานอภิบาลของวัด

  15. 11. ลักษณะที่สำคัญของ BEC • ทุกคนที่รับศีลล้างบาปเป็นสมาชิกของ BEC • เป็นชุมชนที่มีพระคริสตเจ้า เป็นศูนย์กลางในการดำเนินชีวิตประจำวันผ่านทางพระวาจา และศีลศักดิ์สิทธิ์ • เป็นชุมชนที่มีความเป็นพี่น้องกัน และทุกคนมีส่วนร่วมเท่าเทียมกันตามหน้าที่ของตน • เป็นชุมชนที่สัมพันธ์แนบแน่นกับวัด

  16. ประชุมกันในละแวกบ้าน แบ่งปันพระวาจา ร่วมทำกิจกรรมจากความเชื่อ รับใช้ผู้อื่น ผูกพันกับพระศาสนจักรสากล คุณลักษณะ 4 ประการของวิถีชุมชนคริสตชน การแบ่งปันพระวาจาเป็นเหมือนการบิปังและเหล้าองุ่น การแบ่งปันพระวาจาเป็นพื้นฐานและเป็นการทำให้ยั่งยืน BECs สามารถเป็นฐานในชีวิตจริง และตอบสนองร่วมกันในชีวิตจริงของชุมชนละแวกบ้าน ทุกชุมชนย่อยเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรสากล BECs ไม่ใช่เป็นเพียงกลุ่มกิจกรรม หรือเป็นกลุ่มแบ่งปันพระคัมภีร์ แต่ในชุมชนย่อยนี้การแบ่งปันพระวาจากับการปฏิบัติพระวาจาเป็นพื้นฐานที่สัมพันธ์อย่างแนบแน่น สู่ภาคปฏิบัติ

  17. 1. ชุมนุมกันในละแวกบ้าน • เป็นการชุมนุมของคนที่อยู่ในพื้นฐานเดียวกัน มีปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาส่วนรวมเดียวกัน • พวกเขาชุมนุมกันในบ้านของสมาชิก สับเปลี่ยนกันเพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าของชุมชนซึ่งมีพื้นฐานและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เป็น civilization of love

  18. 2. การแบ่งปันพระวาจา • พระวาจาของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการประชุม และดำเนินชีวิต • ใช้วิธี 7 steps และวิธีการอื่นๆ ในการแบ่งปันพระวาจา เช่น Lectio Divina, Group Response, Amos Programme • โดยการแบ่งปันพระวาจา สมาชิกได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระเจ้า เติบโตฝ่ายจิต และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนในฐานะคริสตชนที่แท้จริง

  19. 3. ร่วมกันทำกิจกรรมจากความเชื่อเพื่อรับใช้ผู้อื่น • ในขั้นที่ 6 ของการแบ่งปันพระวาจา จะมีคำถามว่า “เราจะทำกิจกรรมอะไรในสัปดาห์นี้” • เป็นการนำพระวาจาของพระมาปฏิบัติ ในฐานะที่เราเป็นสมาชิกในวัด ในละแวกบ้านที่เราอยู่ • เป็นกิจการที่เราร่วมงานกับพระในการเปลี่ยนแปลงสังคมที่เราอยู่ให้เป็นพระอาณาจักรของพระเจ้า

  20. 4. สัมพันธ์กับพระศาสนจักรเสมอ • ผ่านทางบูชามิสซา และพระวาจา ชุมชนย่อย ต่างก็สัมพันธ์กัน โดยเฉพาะในวัดของตน จึงเป็น Communion of communities • เป็นสายสัมพันธ์ทีมั่นคงระหว่าง ชุมชนวัด และพระศาสนจักรสากล ที่มีความเชื่อเดียวกัน รับศีลล้างบาปเดียวกัน • ไม่สามารถตัดขาดจากทางวัด ชุมชนพื้นฐานของตน

  21. ประชุมกันในละแวกบ้าน แบ่งปันพระวาจา ร่วมทำกิจกรรมจากความเชื่อ รับใช้ผู้อื่น ผูกพันกับพระศาสนจักรสากล คุณลักษณะ 4 ประการของวิถีชุมชนคริสตชน การแบ่งปันพระวาจาเป็นเหมือนการบิปังและเหล้าองุ่น การแบ่งปันพระวาจาเป็นพื้นฐานและเป็นการทำให้ยั่งยืน BECs สามารถเป็นฐานในชีวิตจริง และตอบสนองร่วมกันในชีวิตจริงของชุมชนละแวกบ้าน ทุกชุมชนย่อยเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรสากล BECs ไม่ใช่เป็นเพียงกลุ่มกิจกรรม หรือเป็นกลุ่มแบ่งปันพระคัมภีร์ แต่ในชุมชนย่อยนี้การแบ่งปันพระวาจากับการปฏิบัติพระวาจาเป็นพื้นฐานที่สัมพันธ์อย่างแนบแน่น

  22. ตอกย้ำเรื่องการเป็นชุมชนที่ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกระดับของพระศาสนจักรตอกย้ำเรื่องการเป็นชุมชนที่ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกระดับของพระศาสนจักร • Synod of Bishops was instituted. พระสันตะปาปา • Participatory structures in the Church. นครวาติกัน • from universal Church to the local church • From triumphant Church to Pilgrim Church • From One catholic Church to Many Christian Churches. คริสตศาสนสัมพันธ์ • From one and the Only True Religious to Plurality of Religions. ศาสนสัมพันธ์

  23. ขอขอบคุณทุกท่านที่ศึกษาเรียนรู้ร่วมกันขอขอบคุณทุกท่านที่ศึกษาเรียนรู้ร่วมกัน • ติดต่อสอบถาม ให้คำแนะนำที่ www.thaibec.com • หรือ คพ.ปิยะชาติ มะกรครรภ์ frchart@hotmail.com

More Related