1 / 88

ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์. อ.สมศรี เหรัญญะ. ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์. ร่างกาย ปัญญา เวลา คือต้นทุนที่ธรรมชาติให้มา จงรีบลงทุน

jena-benton
Download Presentation

ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ อ.สมศรี เหรัญญะ

  2. ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ • ร่างกาย ปัญญา เวลา คือต้นทุนที่ธรรมชาติให้มา จงรีบลงทุน • ร่างกายมนุษย์เหมือนเครื่องจักร ประกอบด้วยจักร 4 ทวาร 9 จักร 4 ได้แก่ อิริยาบถเคลื่อนไหว 4 ได้แก่ นั่ง นอน ยืน เดิน มีธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทวาร 9 ได้แก่ ตา 2 จมูก 2 หู 2 ปาก 1 ทวาร 1 และทวารหนัก 1 รวมเป็น 9 • มนุษย์ได้รับการฝึกฝนได้ จึงมีโอกาสที่จะถูก “ปั้นดิน ให้เป็นดาว” ได้ • ผู้มีความสามารถมาก ทำอะไรก็ย่อมทำได้ และทำเป็นผลดีได้เสมอ อ.สมศรี เหรัญญะ

  3. ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์(ต่อ) ความสำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์(ต่อ) • มนุษย์สามารถรับรู้ได้ ทางหน้าต่างความรู้ และประตูปัญญา • การเพิ่มสมรรถนะการทำงานของมนุษย์ อาทิ นักการ ภารโรง หรือใครๆ ก็ตาม ก็สามารถเป็น “มืออาชีพ” ได้ด้วยกันทั้งนั้น จะรู้อะไร ก็ขอให้รู้กระจ่างเพียงอย่างเดียว ก็สามารถที่จะเก่ง และเชี่ยวชาญถึงระดับมืออาชีพได้ • จงปฏิบัติตน ให้เป็นบุคคลที่มุ่งใฝ่รู้ ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้เพิ่มเติมให้แก่ตนเองอยู่ตลอดชีวิต แล้วจะมีแต่ความสุขความเจริญ อ.สมศรี เหรัญญะ

  4. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ • การศึกษาระดับปริญญาโท และเอก สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ต่างๆ อันเป็นการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา จำเป็นจะต้องทำการศึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ด้วย เพราะวิชานี้สำคัญยิ่ง เนื่องจากมนุษย์ที่เรานิยมเรียกกันว่า ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources)นั้น จัดว่าเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของทุกองค์การ ที่ถือกันว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในบรรดาทรัพยากร 4’m ด้วยกัน (ได้แก่ Man คน มนุษย์ Money เงินทอง ทรัพย์สิน Materials วัตถุดิบเพื่อการผลิต Machine/equipments วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ) อ.สมศรี เหรัญญะ

  5. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ • มนุษย์ นับเป็นทรัพยากรที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ยิ่งแก่ ยิ่งเก่า ยิ่งใช้มากๆ ก็ยิ่งมีทักษะสูง มีประสบการณ์มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่า แก่แบบกระดังงาลนไฟ ยิ่งลนก็ยิ่งหอม ซึ่งตรงกันข้ามกับทรัพยากรอื่น เช่น รถยนต์ ยิ่งใช้ไปยิ่งเสื่อมสภาพ และมีอัตราการเสื่อมสภาพที่ค่อนข้างสูงมาก จะเห็นได้ว่า บรรดาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เมื่อเก่า ก็แทบจะหมดสิ้นราคาลงไป เว้นไว้แต่บรรดาของที่หายากที่จะกลับมาราคาแพงมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยความมีเป็นจำนวนน้อย และหายากนั้น มนุษย์ที่แก่ไปด้วยความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ เป็นมนุษย์ที่แก่กล้าในเชิงวิชาการ จึงมีสภาพเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีอายุล่วงเลยวัยเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม

  6. วิสัยทัศน์ประเทศไทย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 • มุ่งพัฒนาสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน คนไทยมีคุณธรรม นำความรอบรู้ รู้เท่ากันโลก ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง สังคมสันติสุข เศรษฐกิจมีคุณภาพ เสถียรภาพและเป็นธรรม สิ่งแวดล้อมมีคุณภาพ และทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน อยู่ภายใต้ระบบบริหารจัดการประเทศที่มีธรรมาภิบาล ดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและอยู่ในประชาคมโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรี

  7. วิสัยทัศน์ประเทศไทย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 • ด้วยเหตุนี้ประเทศไทย จึงมีลักษณะคล้ายกับประเทศภูฎาน ที่มุ่งเน้นการมี GDH:Gross Domestic Happinessที่เรียกว่า ดัชนีความสุขของประเทศ มุ่งให้ประชาชนของประเทศมีความสุขในการดำรงชีวิต มากกว่าที่จะมุ่งเน้นแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อเพิ่ม GDHของประเทศ

  8. ประเทศภูฎาน • รัฐบาลให้ความสนใจอย่างมาก เกี่ยวกับทุกข์สุขของประชาชน เขาควบคุมดูแล มิให้มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากเกินไป ด้วยเกรงไปว่า หากมีคนต่างด้าว จำพวกนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวในประเทศของเขามากเกินไปแล้ว (จำกัดไว้ให้ไม่เกินวันละ 500 คนต่อวัน และแต่ละคนจะต้องเสียค่าอยู่ในประเทศของเขาวันละ 100 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,500 บาท) ไม่อยากให้วัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้าประเทศของเขามากนัก เขาต้องการรักษาเอกลักษณ์แห่งชาติของเขาเอาไว้ ว่าเป็นชาติรักสงบ พอเพียง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หากวัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้าไปโจมตีเขามากขึ้น ความเป็นชาติของเขาก็จะเลือนรางลงไป

  9. ประเทศไทย • ประเทศไทยเรา ไม่ใคร่ห่วงเรื่องนี้มากนัก ปรากฏว่า มีผู้อพยพหลบหนีเข้าเมือง แอบแฝงอาศัยอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก พลอยส่งผลให้ประชาชนคนไทยโดยทั่วไป ได้รับความลำบากเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ต้องแย่งกันทำมาหากินมากยิ่งขึ้น และเริ่มมีความสุขน้อยลง

  10. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ • การมีพื้นความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปรัชญาทรัพยากรมนุษย์ การบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์อย่างถูกต้องในเบื้องแรก จะเป็นการปูพื้นฐาน เป็นแนวทางที่ดีเยี่ยมในการนำพาผู้ที่ใฝ่ใจศึกษาด้านนี้ ให้พัฒนาตนเอง พัฒนาแนวความคิด พัฒนาวิธีการทำงานของตนไปสู่ “การเป็นทรัพยากรมนุษย์ผู้ทรงคุณค่าในองค์การ” การศึกษาวิชานี้ ได้ทำความรู้จัก สร้างความเข้าใจ ในศาสตร์แห่งการบริหารทรัพยากรมนุษย์นี้อย่างจริงจัง และหมั่นฝึกฝนทบทวน เพิ่มพูนทักษะ เพิ่มพูนประสบการณ์ ก็จะส่งผลให้ตนเองได้กลายเป็น “นักบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่าได้เช่นกัน”

  11. การออกแบบงานและการวิเคราะห์งานการออกแบบงานและการวิเคราะห์งาน • การวิเคราะห์งาน เป็นหน้าที่งานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ มุ่งกระทำเพื่อประโยชน์แห่งการบริหารบุคคล เช่น การคัดเลือกพนักงาน การประเมินค่างาน การกำหนดค่าจ้างแรงงานสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติงาน การฝึกอบรม ฯลฯ

  12. การบริหารทรัพยากรมนุษย์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ พ้นจากงาน ราชการ สรรหา พัฒนา รักษาไว้ ใช้ประโยชน์

  13. กระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคล การวางแผนกำลังคน การบรรจุแต่งตั้ง การทดลอง ปฏิบัติราชการ การบริหาร ทรัพยากรมนุษย์ การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือน การสรรหาและเลือกสรร การประเมินผลการปฏิบัติงาน การพัฒนาบุคคล คุณภาพชีวิต การเลื่อนตำแหน่ง การพ้นจากราชการ การเลื่อนขั้นเงินเดือน

  14. โครงสร้างตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในปัจจุบัน ... • ระบบจำแนกตำแหน่ง (Position Classification System) นำมาใช้ในการบริหารงานบุคคลแทนระบบชั้นยศเดิม ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 • จัดโครงสร้างของตำแหน่ง(Common Level) เป็น 11 ระดับ ระดับ 11 ปลัดกระทรวง / ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 10 อธิบดี / รองปลัดกระทรวง / ผู้เชี่ยวชาญ ระดับ 9 รองอธิบดี / ผอ.สำนัก / ผู้เชี่ยวชาญ ระดับ 8 ผอ.กอง หัวหน้ากลุ่มงาน ระดับ 7 หัวหน้าฝ่าย งาน ระดับ 3-5 หรือ 6 ระดับ 2-4 หรือ 5 ระดับปฏิบัติการ ระดับ 1-3 หรือ 4

  15. แนวคิด • จำแนกตำแหน่งตามความชำนาญเฉพาะทาง (Specialization) • กำหนดระดับตำแหน่งตามความยากและคุณภาพของงาน • กำหนดจำนวนตำแหน่งตามปริมาณงาน

  16. ตำแหน่ง หมายถึง กลุ่มงานหรือกลุ่มหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่คล้ายคลึงเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ที่มอบหมายให้ บุคคลใดบุคคลหนึ่งปฏิบัติ

  17. หน้าที่ ความรับผิดชอบ ตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะ สำหรับตำแหน่ง ค่าตอบแทน

  18. ตำแหน่งในราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งในราชการพลเรือนสามัญ 1. ตำแหน่งประเภททั่วไป - ตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานระดับต้น - ตำแหน่งซึ่งมีลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์เฉพาะตัว - ตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ 2. ตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ และเชี่ยวชาญเฉพาะ 3. ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และระดับกลาง

  19. มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง สายงาน ชื่อและระดับของตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ลักษณะงาน วันที่ ก.พ. กำหนด

  20. คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง • คุณวุฒิ • ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง • ประสบการณ์ในการปฏิบัติราชการ • คุณสมบัติอื่นๆ ( กำหนดเฉพาะบางตำแหน่ง )

  21. นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 3 ได้รับปริญญาตรี หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางคอมพิวเตอร์ หรือทางอื่นที่ ก.พ.กำหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับ ตำแหน่งนี้ได้

  22. นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 4 1.มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ 3 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 3 หรือที่ ก.พ.เทียบเท่ามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ปีโดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานวิทยาการ- คอมพิวเตอร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี 2.ได้รับปริญญาโท หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางคอมพิวเตอร์ หรือ ทางอื่นที่ ก.พ.กำหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้ได้

  23. การสรรหาและเลือกสรร • การสรรหา (Recruitment) หมายถึง กระบวนการในการหาบุคคลที่มีความสามารถ ความพร้อม และมีทัศนคติที่ดี ให้เข้ามาสมัครในหน่วยงาน • การเลือกสรร (Selection) หมายถึง การพิจารณาบุคคลที่ทำการสรรหาไว้ เพื่อคัดเลือกให้ได้บุคคลที่เหมาะสมที่สุดมาปฏิบัติงาน

  24. การเลือกสรร • การเลือกสรร (Selection) ในระบบราชการไทย มี 2 วิธี • 1. การสอบแข่งขัน เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันได้ทุกคน โดยจะบรรจุเรียงตามลำดับที่ที่สอบได้ โดย • ก.พ. จะเป็นผู้จัดสอบภาค ความรู้ความสามารถทั่วไป เป็นการสอบรวม • สำหรับการสอบภาควิชาเฉพาะ ก.พ. ได้มอบอำนาจให้แต่ละส่วนราชการไปดำเนินการเอง

  25. การเลือกสรร • การเลือกสรร (Selection) ในระบบราชการไทย มี 2 วิธี • 2. การคัดเลือก การคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการโดยไม่ผ่านการสอบแข่งขันนั้นอาจแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ • ในกรณีที่มีเหตุพิเศษ • ในกรณีที่บรรจุและแต่งตั้งในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ

  26. การบรรจุ แต่งตั้ง

  27. การบรรจุ คือ การสั่งให้บุคคลเข้ารับราชการ มีฐานะเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ

  28. การแต่งตั้ง คือ การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญดำรงตำแหน่ง โดยให้มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ และรับเงินเดือนในตำแหน่งนั้น

  29. การแต่งตั้ง 5 กรณี เลื่อนตำแหน่ง แต่งตั้งผู้ได้รับบรรจุ โอน ย้าย แต่งตั้งผู้ขาดคุณสมบัติเฉพาะฯกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม หรือ ตำแหน่งอื่นที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะฯตรง

  30. การบรรจุ บรรจุผู้ไม่เคยรับราชการ บรรจุข้าราชการประเภทอื่น บรรจุผู้เคยรับราชการมาก่อน

  31. บรรจุผู้ไม่เคยรับราชการบรรจุผู้ไม่เคยรับราชการ • การบรรจุผู้สอบแข่งขันได้ • การบรรจุผู้ได้รับคัดเลือก • ผู้ได้รับทุนรัฐบาล • ผู้สำเร็จการศึกษาในวิชาชีพที่ขาดแคลนที่ ก.พ. กำหนด • ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่ ก.พ. อนุมัติให้ส่วนราชการ จัดให้มีการศึกษาขึ้นเพื่อเข้ารับราชการในส่วนราชการนั้น • กรณีอื่นที่ ก.พ. กำหนด • การบรรจุผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ

  32. บรรจุข้าราชการประเภทอื่นบรรจุข้าราชการประเภทอื่น • การรับโอนพนักงานเทศบาล หรือข้าราชการตามกฎหมายอื่น มาบรรจุ

  33. บรรจุผู้เคยรับราชการมาก่อนบรรจุผู้เคยรับราชการมาก่อน • การบรรจุข้าราชการผู้ไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ • การบรรจุผู้ออกไปปฏิบัติงานใดๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ • การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกลับเข้ารับราชการ • การบรรจุผู้เคยเป็นพนักงานเทศบาล หรือข้าราชการตามกฎหมายอื่นกลับเข้ารับราชการ

  34. การบรรจุผู้สอบแข่งขันได้การบรรจุผู้สอบแข่งขันได้ • ถึงลำดับที่ที่เรียกบรรจุ • บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ยังไม่ยกเลิก • ไม่ถูกยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ • มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะฯ • บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ • ให้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ • ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ

  35. การยกเลิกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้การยกเลิกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ • บัญชีผู้สอบแข่งขันได้มีอายุครบ 2 ปี • ขึ้นบัญชีสอบในตำแหน่งนั้นบัญชีใหม่ บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 1. ........................................................................ 2. ........................................................................ 3. ........................................................................ 4. ........................................................................5. ........................................................................ 6. ........................................................................ 7. ........................................................................ 8. ........................................................................ 9. ........................................................................ 10. .....................................................................

  36. ผู้สอบแข่งขันได้ถูกยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ถูกยกเลิกการขึ้นบัญชี • ไม่มารายงานตัวตามกำหนด • มารายงานตัวแต่ขอสละสิทธิรับการบรรจุ • มารายงานตัวแต่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติราชการได้ • ตามกำหนด • ขอโอนแต่ส่วนราชการไม่รับโอน • ได้รับการบรรจุในตำแหน่งอื่นในการสอบครั้งเดียว • กันไปแล้ว

  37. อัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิ ปวช. อันดับ ท.1 ขั้น 5,530 บาท ปวท. อันดับ ท.2 ขั้น 6,220 บาท ปวส. อันดับ ท.2 ขั้น 6,820 บาท ป.ตรี 4 ปี อันดับ ท.3 ขั้น 7,630 บาท ป.โท ทั่วไป อันดับ ท.4 ขั้น 9,320 บาท ป.เอก อันดับ ท.5 ขั้น 12,600 บาท

  38. อยู่ในกรณีที่ ก.พ. อนุมัติให้คัดเลือกบรรจุ • มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะฯ • บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่คัดเลือกได้ • ให้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ • ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ การบรรจุผู้ได้รับคัดเลือก

  39. ก.พ.รับรอง ความรู้แน่น ความสามารถสูง 1 การบรรจุผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ 1) ส่วนราชการที่จะขอ • มีความจำเป็นอย่างยิ่ง • มีตำแหน่งอยู่แล้ว (ระดับ 6 ขึ้นไป) 2) บุคคลที่จะบรรจุ • มีความรู้ ความสามารถเหมาะสม • ไม่เคยรับราชการมาก่อน 3) ใหั อ.ก.พ.กระทรวงเห็นชอบ แล้วขออนุมัติ ก.พ.

  40. การบรรจุผู้ออกไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการการบรรจุผู้ออกไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ • ออกจากราชการ 1) สงวนตำแหน่งระดับเดียวกันไว้ 2) ไม่ออกไปเพราะสาเหตุอื่น • กลับเข้ารับราชการ 1) ยื่นคำขอภายใน 180 วัน นับแต่วันพ้นราชการทหาร 2) ไม่ทำความเสียหายหรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงระหว่าง รับราชการทหาร 3) ไม่ขาดคุณสมบัติทั่วไป ตาม ม.30 4) บรรจุกลับในระดับเดิมที่สงวนไว้และให้ได้รับเงินเดือนตามที่ ก.พ. กำหนด 5) ถ้าออกระหว่างทดลองฯ ให้ทดลองฯต่อ

  41. การบรรจุผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรี กลับเข้ารับราชการ • ออกจากราชการ 1) คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ออกไปปฏิบัติงานใด ๆ 2) ให้นับเวลาระหว่างนั้นสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญ 3) ให้สงวนตำแหน่งในระดับเดียวกันไว้ • กลับเข้ารับราชการ 1) ขอบรรจุกลับภายในกำหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ไม่เกิน 4 ปี 2) ยื่นคำขอภายใน 30 วันก่อนวันสิ้นสุดเวลา 3) ดำรงตำแหน่งระดับเดิมที่สงวนไว้ 4) รับเงินเดือนตามที่ ก.พ. กำหนด

  42. การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ • ไม่ออกในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ • มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะฯ • บรรจุตำแหน่งระดับควบ ต้องไม่มีผู้สอบแข่งขันได้ขึ้นบัญชี • รอการบรรจุ • ตำแหน่งนอกระดับควบ ต้องไม่มีผู้สอบคัดเลือกขึ้นบัญชีอยู่ • ถ้ามีบัญชีสอบค้างอยู่ แต่มีเหตุผลความจำเป็น ให้เสนอ • อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณา (เว้นแต่กรณีลาออกไปสมัคร ส.ส. ฯลฯ บรรจุกลับได้) • แต่งตั้งในระดับและให้ได้รับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม • ไม่ต้องทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ

  43. ฝ่ายบรรจุ แต่งตั้งฯ การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการตามกฎหมายอื่น กลับเข้ารับราชการ • ขออนุมัติ ก.พ. (เฉพาะทหาร ตำรวจ อัยการ ตุลาการ) นอกจากนั้น ก.พ. มอบให้ส่วนราชการดำเนินการได้เอง • มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะฯ • ไม่ออกจากราชการระหว่างทดลองฯ • ถ้ามีบัญชีสอบแข่งขัน หรือบัญชีสอบคัดเลือก จะบรรจุกลับ • ไม่ได้ ( เว้นแต่กรณีลาออกไปสมัคร ส.ส. ฯลฯ )

  44. การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ • ทดลองฯ เป็นเวลา 6 เดือน • ขณะทดลองฯ ย้ายหรือโอนได้ แต่ถ้าย้ายหรือโอน • ในสายงานใหม่ต้องเริ่มต้นทดลองฯใหม่ • ประเมินผลการทดลองฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ • ที่ ก.พ. กำหนด ( ว 5/2530 ) • รายงานการทดลองฯ มี 2 กรณี • - ให้อยู่ • - ให้ออก

  45. การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ • ให้อยู่ รายงานเมื่อทดลองฯ ครบ 6 เดือน • ( ส่ง ก.พ.เฉพาะแบบหมายเลข 2 ) • ให้ออก ถ้าเห็นว่าเป็นผู้ไม่มีความรู้ หรือไม่มีความสามารถ หรือความประพฤติไม่ดี สั่งให้ออกจากราชการได้ • โดยไม่ต้องรอให้ครบ 6 เดือน

  46. การย้าย หมายถึง การสั่งให้ข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งหนึ่ง ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอื่นในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม ในกรมเดียวกัน โดยอาจเป็นการย้ายในสายงานเดิม หรือต่างสายงาน ก็ได้

  47. หลักเกณฑ์การย้าย • มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะย้าย • มีตำแหน่งระดับเดียวกันว่าง • ย้ายไปเฉพาะบุคคลเท่านั้น เลขที่ประจำตำแหน่งยังอยู่ที่เดิม • สั่งให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิมในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง • กรณีย้ายไปดำรงตำแหน่งต่ำกว่าเดิมต้องเป็นความสมัครใจของเจ้าตัว และให้ได้รับเงินเดือนในขั้นที่เทียบได้ตรงกัน • อยู่ในหลักเกณฑ์อื่นที่ ก.พ. กำหนด

  48. การเลื่อนตำแหน่ง หมายถึง การสั่งข้าราชการให้มีอำนาจหน้าที่ และรับผิดชอบในตำแหน่งระดับสูงกว่าเดิม ซึ่งเป็นตำแหน่งในสายงานเดิม หรือต่างสายงาน ก็ได้

  49. หลักเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งหลักเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่ง • มีตำแหน่งระดับสูงที่จะใช้เลื่อนได้ • มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะเลื่อน • วิธีการเลื่อนถูกต้องตามที่ ก.พ.กำหนด • ขณะเลื่อนได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ • ให้ได้รับเงินเดือนตามกฎ ก.พ.

  50. วิธีการเลื่อนตำแหน่ง • เลื่อนจากผู้สอบแข่งขันได้ • เลื่อนจากผู้สอบคัดเลือกได้ • เลื่อนจากผู้ได้รับการคัดเลือก

More Related