90 likes | 332 Views
ฟา โรห์ ตุตันคาเมน และคำสาปที่ร่ำลือ. สมาชิกในกลุ่ม. นายธนพัฒน์ โยวะ นายพงค์ธร ไพคำนาม นายอัศวิน นามเสริฐ นายณัฏฐพร สินทร นายภูริเดช ภูชาดึก. ปริศนาคำสาปและสาเหตุการตายของตุตันคามุน.
E N D
ฟาโรห์ตุตันคาเมน และคำสาปที่ร่ำลือ
สมาชิกในกลุ่ม นายธนพัฒน์ โยวะ นายพงค์ธร ไพคำนาม นายอัศวิน นามเสริฐ นายณัฏฐพร สินทร นายภูริเดช ภูชาดึก
ปริศนาคำสาปและสาเหตุการตายของตุตันคามุนปริศนาคำสาปและสาเหตุการตายของตุตันคามุน • ปริศนาคำสาปและสาเหตุการตายของตุตันคามุนตุตันคามุน ฟาโรห์อียิปต์ผู้โด่งดังเมื่อสิ้นพระชนม์มาแล้วกว่าสามพันปี พระองค์เป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ แห่งการค้นพบทางโบราณคดีในโลกปัจจุบัน สุสานอันเต็มไปด้วยเครื่องทองของมีค่าอลังการ มลังเมลืองของพระองค์ ในหุบผากษัตริย์ นั้น เป็นแรงบันดาลใจสูงสุดของการขุดค้นทางโบราณคดี ทั้งเป็นตัวจุดประกายความหลงใหลใฝ่ฝันในอารยธรรมอียิปต์ โบราณแก่คนทั้งโลก ตุตันคามุนเป็นฟาโรห์ในราชวงศ์ที่ 18 ยุคราชธานีใหม่ของอียิปต์ ครองบัลลังก์ ประมาณระหว่างปีที่ 1336-1327 ก่อน ค.ศ. เข้าใจว่าพระองค์เป็นโอรสของอเคนาเตน ฟาโรห์ผู้ปฏิวัติศาสนาจากการนับถือเทพหลายองค์ โดยมี อามุน-เร เป็นเทพสูงสุดนั้น มานับถือเทพองค์เดียวคืออาเตน ผู้มีสัญลักษณ์ เป็นวงกลมดวงอาทิตย์ที่มีรัศมีเป็นสายยาว ตุตันคามุนมิใช่โอรสที่เกิดจากเนเฟอร์ติตี ราชินีโฉมงามของอเคนาเตน เพราะราชินีผู้นี้ ดูจะมีแต่พระธิดาเท่านั้น พระมารดาของตุตันคามุนเป็นมเหสีรองที่ชื่อ คียา พระนามเดิมของตุตันคามุนคือ ตุตันคาเตน (แปลว่า รูปอันมีชีวิตแห่งเทพอาเตน) เนื่องจากประสูติในสมัยที่พระบิดา หันมานับถือเทพอาเตนแล้ว
ในวัยเยาว์ ตุตันคามุนทรงใช้ชีวิตที่เมืองอเคตาเตน (เทล เออลอมาร์นา ปัจจุบัน) เมืองหลวงใหม่ที่พระบิดาสร้างอุทิศแด่ เทพองค์ใหม่ ตุตันคาเตนขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ ยังทรงพระเยาว์มาก คือในราว 9-10 ชันษา และต่อมาก็อภิเษกกับอังเคเซนปาอาเตน พระเชษฐภคินีร่วมพระบิดา ผู้เป็นพระธิดาของเนเฟอร์ติตี ไม่นานนักตุตันคาเตนก็ทรงย้ายเมืองหลวง กลับมายังเมมฟิส เมืองหลวงดั้งเดิม เปลี่ยนศาสนากลับมานับถือเทพอามุน-เร และเทพอื่นๆ ดังเดิม รวมทั้งเปลี่ยนพระนามของพระองค์เองและของพระมเหสีเป็น ตุตันคามุน และอังเคเซนปาอามุนตามลำดับเพื่อยืนยันการนับถือเทพอามุน ตุตันคามุนครองราชย์เพียงไม่กี่ปี ก็สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 19-20 ชันษา พระศพถูกทำเป็นมัมมี่แล้วเก็บไว้ในสุสาน ณ หุบผากษัตริย์พร้อมข้าวของที่พระองค์ จะนำไปใช้ได้ในโลกหลังความตาย และของสักการะบูชาอื่นๆที่แล้วล้วนไปด้วยทองคำ รวมแล้วกว่า 3,000 ชิ้น
ในต้นทศวรรษ 1900 อันเป็นยุคที่มีการขุดค้นทางโบราณคดีมากที่สุดในอียิปต์ แต่เมื่อมีการค้นพบสุสานในหุบผากษัตริย์ของหลายๆ บุคคลที่อยู่ในยุคเดียวกัน มีโถคาโนปิค (โถบรรจุอวัยวะภายในที่นำออกมาระหว่างการทำศพเป็นมัมมี่) ของพระนางคียา พระมารดาของตุตันคามุน แท่นบูชาของราชินีติยี และของอื่นๆ ที่จารึกพระนามของอเมนโฮเทปที่ 3 บ้าง สเมนกาเรบ้าง ทั้งมีถ้วยเคลือบสีใบหนึ่งที่จารึกพระนามตุตันคามุน และนั่นก็คือครั้งแรกที่นักโบราณคดีรู้จักฟาโรห์พระนามนี้อย่างไรก็ตาม ต่อๆมาก็มีผู้พบโบราณ วัตถุที่เกี่ยวข้องกับตุตันคามุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น แผ่นทองจารึกพระนามที่แผ่นหนึ่งมีภาพตุตันคามุนกำลังทรงธนู ซึ่งเออร์เนสท์ แฮโรลด์โจนส์ พบในห้องห้องหนึ่งที่ตัดลึกเข้าไปในหน้าผาแห่งหนึ่งในปี 1908เอเอฟพี-เทคโนโลยีทัน สมัยช่วยไขปัญหาคาใจของผู้คนในวงการประวัติศาสตร์และผู้สนใจเรื่องราวชวน พิศวงของอาณาจักรไอยคุปต์โบราณ เมื่อผลการตรวจสอบโดยใช้แคทสแกนชี้ว่า ยุวกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรอียิปต์เมื่อ 3,000 ปีก่อน น่าจะสิ้นพระชนม์เพราะ "ขาหัก" มากกว่าจะถูกปลงพระชนม์ด้วยธนูอย่างที่เชื่อกัน
ซาไฮ ฮาวาสส์ (ZahiHawass) ผู้อำนวยการสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ (Egypt's Supreme Council of Antiquities) ผู้นำการศึกษาเผยว่า ฟาโรห์ ตุตันคาเมนน่าจะสิ้นพระชนม์จากบาดแผลที่ติดเชื้อ โดยผลการตรวจพระศพมัมมี่อายุ 3,300 ปีโดยใช้คอมพิวเตอร์แบบแคทสแกนชี้ว่า พระองค์น่าจะกระดูกหักไม่นานก่อนสิ้นพระชนม์แม้คณะทำงานจะมีความเห็นขัดแย้งกันบ้างในรายละเอียดที่ได้จากการตรวจ สอบ สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันก็คือตุตันคาเมนไม่ได้สิ้นพระชนม์เพราะถูกปลงพระชนม์ ตามที่เชื่อกันมานาน
“ตุ ตันคาเมน” หรือ "ตุตันคามุน" (Tutankhamun/Tutankhamen) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียง 10 ชันษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าขึ้นครองราชย์ใช้พระนามว่า “ตุตันคาเตน” อันหมายถึงเทพอาเตน หรือสุริยเทพอวตารลงมาทั้งนี้ พระราชบิดาของพระองค์คือ “เอเมนโฮเทปที่ 4” ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “อาเคนาเตน” ด้วยความศรัทธาใน “เทพอาเตน” เป็นอย่างมาก โดยยัดเยียดและปฏิรูปศาสนาอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งแต่เดิมนั้นประชากรอียิปต์นับถือพระเจ้าหลายองค์ (พหุเทวนิยม) โดยมีเหล่านักบวช เป็นผู้ดูแลทำพิธีในวิหารต่างๆ
แต่สิ่งที่ร่ำลือกันมากกว่าสิ่งใดสำหรับสุสานฟาโรห์หนุ่มองค์นี้คือ คำสาป ที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของตุตันคาเมน “มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์”ข้อความที่ขลังและเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์นี้ ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป และนับแต่สุสานถูกเปิดผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คนและนับจากนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรหากแต่เมื่อครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตัน คาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา เริ่มจากลอร์ดคาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสียชีวิตจากการป่วยหนักด้วยโรคมาลาเรีย หลังจากเริ่มขุดค้นสุสาน ตุตันคาเมนเพียง 6 เดือน และภายหังจากมีการเปิดหีบศพขงตุตันคาเมนให้ คนทั้งโลกได้ยลโฉม เพือนร่วมงานที่มีสวนในการขุดสุสานประมาณ 20 คนก็มีอาการไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุและค่อยๆ ตายลงอย่างลึกลับ ยกเว้นนายคาร์เตอร์ที่ยังใช้ชีวิตต่อมาอีกหลายสิบปีก่อนถึงแก่กรรมอย่างสงบ หรือนานคาร์เตอร์จะมีลางสังหรณ์อะไรบสฃางอย่าง จึงรีบนำเอาฟาโรห์ตุตันคาเมนกลับมาอยู่ในสุสานเหมือนเดิม มีคำร่ำลือในหมู่นักท่องเที่ยวว่า เวลาไปเที่ยวสุสานกษัตย์เหล่านี้ อย่าแอบไปเก็บอะไรออกมาจากสุสานเป็นอันขาด มิฉะนั้น บางสิ่งบางอย่างจะข้ามน่ำข้ามทะเลมาตามทวงอย่างลึกลับ ... ตอนแรกที่ได้อ่านเรื่องของฟาโรห์ตุตันคาเมน รู้สึกขนลุก!