1 / 10

ชื่อเรื่องวิจัย

ชื่อเรื่องวิจัย การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้สื่อคลิปวีดีโอเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก สำหรับนักศึกษาสาขางานยานยนต์ ชื่อผู้วิจัย สถาพร คุณยศยิ่ง หน่วยงาน วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

Download Presentation

ชื่อเรื่องวิจัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ชื่อเรื่องวิจัย การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้สื่อคลิปวีดีโอเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก สำหรับนักศึกษาสาขางานยานยนต์ ชื่อผู้วิจัย สถาพร คุณยศยิ่ง หน่วยงานวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่

  2. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ปัจจุบันเป็นยุคของข้อมูลข่าวสารและการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารโดยอาศัยรูปแบบและวิธีการต่างๆกัน ดังนั้นการเรียนการสอนเพื่อก่อเกิดความรู้ที่มีความแม่นยำและรวดเร็วมีความทันสมัย การเรียนการสอนที่ต้องอาศัยเนื้อหาในการทำการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และยังต้องอาศัยการเห็นภาพ หรือเสียง ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในรายละเอียดและเนื้อหาที่ได้เรียนอยู่ ซึ่งในวิชากลศาสตร์ของไหล เป็นวิชาที่ว่าด้วยการนำรายละเอียดของความดันของของไหลมาทำการศึกษา เพื่อจะทำการวิเคราะห์ค่าต่างๆที่เกิดขึ้นในการนำไปใช้งาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นการเรียนการสอน นอกจากจะศึกษาเนื้อหาจากเอกสารเรียน นักศึกษายังเข้าใจโครงสร้างเพื่อให้เกิดกระบวนการคิดเพื่อให้นำมาใช้ จึงต้องมีการสร้างสื่อภาพและเสียงเพื่อให้นักศึกษาเห็นจากของจริงและเกิดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องและตรงจุด จากการสอนวิชากลศาสตร์ของไหล ตามแผนการสอนในหน่วย เรื่อง ของไหลสถิตเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก พบว่านักศึกษาต้องเห็นภาพการเกิดลักษณะความลึกที่เกิดความดัน ก่อนถึงจะมีความเข้าใจในการทำการหาค่าความลึกของของไหลในแต่ลักษณะ ซึ่งผู้สอนต้องมีการอธิบายเป็นลักษณะของเนื้อหาประกอบการวาดภาพ

  3. ดังนั้นในการสอนวิชากลศาสตร์ของไหล ตามแผนการสอนในหน่วย เรื่อง ของไหลสถิตเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก จึงแบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 ห้อง โดยการนำการใช้อุปกรณ์ฉายภาพ(โปรเจคเตอร์) พร้อมรูปและวีดีโอการทำงานของเรื่องความดันของไหลสถิต มาให้นักศึกษาได้ชมและศึกษาการทำงานจากวีดีโอ และอีกห้องใช้การสอนตามแผนการสอนที่กำหนดซึ่งเป็นการอธิบายเป็นลักษณะของเนื้อหาประกอบการวาดภาพ ผู้วิจัยมีความเห็นว่าการใช้สื่อการสอนวีดีโอในรายวิชากลศาสตร์ของไหล ตามแผนการสอนในหน่วยที่ เรื่อง ของไหลสถิตเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก ซึ่งเป็นเทคนิคหนึ่งของการเรียน จะช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ต่อการเรียนงานและทำให้เกิดความเข้าใจจากการเห็นอุปกรณ์การทำงานของจริง รู้จักตำแหน่งของความดันของของไหลเพื่อนำไปใช้ในการหาค่าตามเนื้อหา และสร้างทักษะในกระบวนการคิดได้อย่างถูกต้อง

  4. วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สื่อคลิปวีดีโอในการเรียนการสอนรายวิชา วิชากลศาสตร์ของไหล ตามแผนการสอนในหน่วย เรื่อง ของไหลสถิตเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปวส.1 สาขางานยานยนต์ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่

  5. เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล1. สื่อวีดีโอช่วยสอน เรื่อง การเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน(Pre-test) และแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) ที่มีต่อการใช้สื่อคลิปวีดีโฮช่วยสอนเรื่อง การเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก3. แบบสอบถามความคิดเห็นต่อการใช้สื่อคลิปวีดีโอช่วยสอน เรื่อง การเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก

  6. การรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้นำรูปแบบการดำเนินการดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการกำหนดขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลดังนี้ 1.เตรียมกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 1 สาขางานยานยนต์ ห้อง (ชย.4501-ชย.4502) จำนวน 44 คน ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา กลศาสตร์ของไหล ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2556 2.ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) 3.หลังจากนั้นดำเนินการกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สื่อวีดีโอช่วยสอน 4.นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) 5.เก็บรวบรวมข้อมูลของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์ทางสถิติ 6.เก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนด้วยสื่อวีดีโอช่วยสอน และนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ทางสถิติ

  7. สถิติที่ใช้ในการวิจัยสถิติที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าคะแนนเฉลี่ย (Mean, X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation SD) และระดับความคิดเห็น 5 ระดับ ผู้วิจัยได้กำหนดการแปลระดับความคิดเห็นนักศึกษาต่อการใช้สื่อวีดีโอช่วยสอน จากคะแนนเฉลี่ยเป็น 5 ระดับ ดังนี้ • 1.00-1.49 หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับควรปรับปรุง • 1.50-2.49 หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับพอใช้ • 2.50-3.49 หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับปานกลาง • 3.50-4.49 หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับดี • 4.50-5.00 หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับดีมาก

  8. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิเคราะห์หาความแตกต่างทางสถิติ ของการทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และการทดสอบหลัง เรียน (Post-test) เรื่อง การเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึก โดยอาศัยการแจกแจงของค่า T-Test แบบ Dependent คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 สาขางานยานยนต์ วิทยาลัยเทคโนโลยี โปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ** ค่า t มีนัยสำคัญ ที่ระดับ .01 (ค่าวิกฤตของ t ที่ระดับ .01, df44= 2.70)จากตาราง แสดงให้เห็นว่าค่า t ที่ได้จากการคำนวณ ( t = 6.5 ) มีค่ามากกว่าค่า t จากตารางวิกฤต ( t = 2.70 ) และเป็นกรณีหางเดียว นั่นคือคะแนนของนักศึกษาที่ได้จากการทำแบบทดสอบหลังเรียนมีค่ามากกว่าแบบทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ .01 สรุปได้ว่า สื่อคลิปวีดีโอช่วยสอนวิชากลศาสตร์ของไหลเรื่องการเปลี่ยนแปลงความดันตามระดับความลึกสำหรับรายวิชา กลศาสตร์ของไหล ทำให้นักศึกษามีความก้าวหน้าในการเรียนที่เพิ่มขึ้นจริงมีความเชื่อมั่น 99เปอร์เซ็นต์

  9. สรุปผลการวิจัย 1.สื่อคลิปวีดีโอ จะมีลักษณะของการนำเสนอในรูปแบบสื่อมัลติมีเดีย แสดงทั้งภาพเคลื่อนไหว เสียง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ ทำให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน สอดแทรกสาระความรู้ เข้าใจง่าย ทำให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้ใฝ่เรียน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมที่จะเรียนในเนื้อหาอื่นๆ 2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่าคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนของนักศึกษาทั้ง 44 คนโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5.5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 27.5 ส่วนคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนของนักศึกษาโดยเฉลี่ยเท่ากับ 14.6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 73 สำหรับคะแนนความก้าวหน้า พบว่า นักศึกษามีคะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยมีคะเฉลี่ยเท่ากับ 9.1 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 45.5 แสดงว่าสื่อวีดีโอช่วยสอนนี้ สามารถทำให้นักศึกษามีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 3. การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้สื่อวีดีโอช่วยสอน ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 สาขางานยานยนต์ วิทยาลัยเทคโนโลยี โปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ พบว่า ความคิดเห็นในด้านเนื้อหา โดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.30 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.64 ด้านภาพเคลื่อนไหวโดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.15 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.65 และด้านการนำเสนอสื่อวีดีโอช่วยสอน โดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.20 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.60

  10. จบการนำเสนอ

More Related