1 / 30

บทที่ 1 แนวคิด ความสำคัญของงานวิจัย และจรรยาบรรณในการทำวิจัย

บทที่ 1 แนวคิด ความสำคัญของงานวิจัย และจรรยาบรรณในการทำวิจัย. วิชา ระเบียบวิธีวิจัยทางสาธารณสุข ผู้สอน : อาจารย์ กุลชญา ลอยหา และ อาจารย์ภัทรภร เจริญบุตร. คำอธิบายรายวิชา.

jude
Download Presentation

บทที่ 1 แนวคิด ความสำคัญของงานวิจัย และจรรยาบรรณในการทำวิจัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 1แนวคิด ความสำคัญของงานวิจัย และจรรยาบรรณในการทำวิจัย วิชา ระเบียบวิธีวิจัยทางสาธารณสุข ผู้สอน: อาจารย์กุลชญา ลอยหา และ อาจารย์ภัทรภร เจริญบุตร

  2. คำอธิบายรายวิชา • ระเบียบวิธีวิจัย ขอบเขตการวิจัยทางสาธารณสุข การวางแผนการวิจัย กระบวนการวิจัยทางสาธารณสุข การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโครงร่างการวิจัย การเขียนรายงานการวิจัย และการนำผลการวิจัยไปใช้ในงานสาธารณสุข

  3. แนวคิดรวบยอด • การวิจัย หมายถึง การศึกษา ค้นคว้า หาข้อเท็จจริง ในปัญหาที่ต้องการคำตอบ ภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการหาความรู้อย่างเป็นระบบด้วยวิธีเชื่อถือได้ • จรรยาบรรณนักวิจัย หมายถึง สิ่งที่นักวิจัยควรประพฤติในการดำเนินการวิจัยซึ่งประกอบด้วย การเคารพสิทธิของผู้ถูกวิจัย และความซื่อสัตย์ในการดำเนินการวิจัย

  4. ความหมายของคำว่า “วิจัย” (Research) • re·search/ˈrēˌsərCH/ • Noun: The systematic investigation into and study of materials and sources in order to establish facts and reach new conclusions. Verb: Investigate systematically. • Synonyms: noun.  investigation - exploration - search - study - inquiry • verb.  explore - investigate - search - study - inquire

  5. การวิจัย • คำว่า “การวิจัย” มีความหมายว่า RESEARCH • - ค.ศ. 1966 เวบสเตอร์ ให้ความหมายว่า 1) การสอบสวน หรือตรวจตราความรู้ในแขนงใดแขนงหนึ่งอย่างกว้างขวาง 2) การค้นหาความจริงอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหะ • - พ.ศ. 2524 ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน มีความหมายว่า 1) การสะสม และรวบรวม 2) การค้น การตรวจตรา การสอบสวน • เมื่อรวมทั้ง 2 ความหมายแล้ว หมายถึง การสอบสวน ตรวจตรา และการค้นหา

  6. นิยามเกี่ยวกับการวิจัย ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ • การวิจัย* หมายถึง การศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ หรือทดลองอย่างมีระบบ โดยอาศัย อุปกรณ์ หรือวิธีการ เพื่อให้พบข้อเท็จจริง หรือหลักการไปใช้ในการตั้งกฎ ทฤษฏี หรือแนวทางในการปฏิบัติ

  7. การวิจัย : เป็นการหาความรู้อย่างเป็นระบบด้วยวิธีเชื่อถือได้ ลักษณะของงานที่ถือว่าเป็นการวิจัย ควรจะประกอบด้วยขั้นตอนการดำเนินงานที่สำคัญ ๆ ดังนี้

  8. ใช่ หรือ ไม่ใช่งานวิจัย ??? • งานวิจัยล่าสุดเตือน.. ! ระวังภัย ได้มีการวิจัยและพบข้อมูลที่น่าตื่นตระหนก เกี่ยวกับข้าวที่เรากินอยู่ทุกวัน สมควรที่จะให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบโดยทั่วกัน...ดังนี้ • เยาวชนไทยร้อยละ 50 ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่กินข้าววันละ 3 มื้อ มีผลการเรียนรู้ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกึ่งกลางในชั้นเรียน • ข้าวเป็นพาหะนำสารอื่นๆที่อันตรายมากเข้าสู่ร่างกาย เช่น ขาหมู เนื้อย่าง แกงส้มไข่เจียว และอื่นๆ (หิววววววว) • - ประชาชนที่กินข้าวติดต่อกัน เป็นเวลานานๆ จะขาดความสามารถในการแยกแยะว่างานวิจัยชิ้นใด...น่าเชื่อถือ งานวิจัยชิ้นใด...ไร้สาระ หลอกหลวงประชาชน  Source: www.dek-d.com/board/view.php?id=1182516

  9. ตัวอย่างงานวิจัย (คิดได้ไง) • สาขาสาธารณสุข : มานูเอลบาร์ไบโต, ชาร์ลส์แมธิวส์ และลาร์รี เทย์เลอร์ พวกเขาพบว่า พวกจุลชีพในห้องแล็บต่างปีนป่ายเข้าไปซุกซ่อนตามหนวดของนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นนักวิทย์ที่ไว้หนวดระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ด้วยREFERENCE: "Microbiological Laboratory Hazard of Bearded Men," Manuel S. Barbeito, Charles T. Mathews, and Larry A. Taylor, Applied Microbiology, vol. 15, no. 4, July 1967, pp. 899-906.

  10. REFERENCE: "Microbiological Laboratory Hazard of Bearded Men," Manuel S. Barbeito, Charles T. Mathews, and Larry A. Taylor, Applied Microbiology, vol. 15, no. 4, July 1967, pp. 899-906.

  11. งานวิจัยคิดได้ไง • สาขาการแพทย์ : ไซมอน รีตเวล์ด และ อิลยา ฟาน บีสต์ ที่สังเกตอาการของผู้ป่วยหอบหืดที่เล่นรถไฟเหาะตีลังกาREFERENCE: "Rollercoaster Asthma: When Positive Emotional Stress Interferes with Dyspnea Perception," Simon Rietveld and Ilja van Beest, Behaviour Research and Therapy, vol. 4 5, 2006, pp. 977-87.

  12. The 2010 Ig Nobel Prizes • ก่อนสัปดาห์ประกาศผลโนเบล อันเป็นรางวัลเกียรติยศระดับโลกแห่งวงวิชาการ จะต้องมี "อิกโนเบล" ออกมาตัดหน้าสร้างสีสันก่อนเสมอ โดย "อิกโนเบลประจำปี 2010" (the 2010 Ig Nobel Prizes) จัดขึ้นไปแล้ว ณ แซนเดอร์สเธียเตอร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา        * การมอบรางวัลครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 20 แล้ว โดยมีงานวิจัยที่ได้รับการเสนอชื่อถึง 7,000 ชิ้น แต่สุดท้ายคัดเหลือเพียงแค่ 10 สาขาเท่านั้น ซึ่งมอบให้นักวิจัยอาชีพ และที่ไม่ใช่นักวิจัย แต่บังเอิญสร้างองค์ความรู้อันแสนน่ารักให้แก่ชาวโลก * แม้ว่างานวิจัยเหล่านี้จะฟังดูขำๆ เพี้ยนๆ แต่รายงานการค้นพบหรือพิสูจน์ต่างๆ ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนวิธีวิจัย และมีการตีพิมพ์จริงตามวารสารวิทยาศาสตร์ • ข้อมูลจาก เว็บบล็อก OKnation เรื่อง "อิกโนเบล 2010" งานวิจัยคิดได้ไง Posted by ติวเตอร์ออนไลน์ เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 2 มิถุนายน 2555

  13. ประโยชน์และความสำคัญของการวิจัยประโยชน์และความสำคัญของการวิจัย • สร้างและทดสอบทฤษฏี • การวิจัยทำให้ได้ความรู้ใหม่เพื่อสร้างทฤษฎีใหม่หรือเพื่อเป็นการตรวจสอบยืนยันทฤษฎีเดิมที่มีอยู่แล้ว 2. ประโยชน์ทางการนำไปใช้ในการแก้ปัญหา • การวิจัยช่วยค้นหาสาเหตุของปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด • สามารถนำความรู้ที่ได้ไป ใช้ในการแก้ปัญหาในองค์กรหรือสังคมต่าง ๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมยุติธรรม

  14. 3. ประโยชน์ทางการพัฒนา • การวิจัยช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆทั้งที่เป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ • รูปแบบ วิธีการต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานหรือการทำกิจกรรมใด ๆ 4. ประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย • การวิจัยนำมาซึ่งข้อมูลพื้นฐานที่เชื่อถือได้สามารถนำไปใช้สำหรับการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติต่างๆได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงขององค์กรและสังคม

  15. 5 ประโยชน์ในการประเมินผลงาน/โครงการ • กระบวนการวิจัยช่วยให้ได้ข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจผลสำเร็จของการปฏิบัติงาน ได้ทราบถึงจุดเด่น จุดด้อย ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ปัญหาเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือเพื่อตัดสินคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ

  16. จรรยาบรรณนักวิจัย • นักวิจัย (Researcher) หมายถึง ผู้ที่ดำเนินการค้นคว้าหาความรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อตอบประเด็นที่สงสัย โดย มีระเบียบวิธีอันเป็นที่ยอมรับในแต่ละศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวคิด มโนทัศน์ และวิธีการที่ใช้ ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล • จรรยาบรรณ (Code of Conduct) หมายถึง หลักความประพฤติอันเหมาะสมแสดงถึงคุณธรรมและจริยธรรมใน การประกอบอาชีพ ที่กลุ่มบุคคลแต่ละสาขาชีพประมวลขึ้นไว้เป็นหลัก เพื่อให้สมาชิกในสาขาวิชาชีพนั้นๆ ยึดถือปฏิบัติ เพื่อรักษาชื่อเสียงและส่งเสริมเกียรติคุณของสาขาวิชาชีพของตน

  17. จรรยาบรรณนักวิจัย (ต่อ) • จรรยาบรรณนักวิจัย หมายถึง หลักเกณฑ์ควรประพฤติปฏิบัติของนักวิจัยทั่วไป เพื่อให้การ ดำเนินงานวิจัยตั้งอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรมและหลักวิชาการที่เหมาะสม ตลอดจนประกันมาตรฐาน ของการศึกษาค้นคว้าให้เป็นไปอย่างสามศักดิศรีและเกียรติภูมิของนักวิจัย

  18. จรรยาบรรณนักวิจัย : แนวทางปฏิบัติ ข้อ 1 นักวิจัยต้องซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ • นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้ในงานวิจัย ต้องซื่อตรงต่อการแสวงหาทุน วิจัยและมีความเป็นธรรมเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ได้จากการวิจัย

  19. ข้อ 2 นักวิจัยต้องตระหนักถึงพันธกรณีในการทำวิจัย ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับหน่วยงานที่สนับสนุน การวิจัยและต่อหน่วยงานที่ตนสังกัด • นักวิจัยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีและข้อตกลงการวิจัยที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน อุทิศ เวลาทำงานวิจัยให้ได้ผลดีที่สุดและเป็นไปตามกำหนดเวลา มีความรับผิดชอบไม่ละทิ้งงานระหว่างดำเนินการ

  20. ข้อ 3 นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย • นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัยอย่างเพียงพอและมีความรู้ความชำนาญหรือ มีประสบการณ์ เกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่ทำวิจัย เพื่อนำไปสู่งานวิจัยที่มีคุณภาพ และเพื่อป้องกันปัญหาการ วิเคราะห์ การตีความ หรือการสรุปที่ผิดพลาด อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่องานวิจัย

  21. ข้อ 4 นักวิจัยต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย ไม่ว่าเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต • นักวิจัยต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และเที่ยงตรงในการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคน สัตว์ พืช ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึกและปณิธานที่จะอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

  22. ข้อ 5 นักวิจัยต้องเคารพศักดิศรี และสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย • นักวิจัยต้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการจนละเลย และขาดความเคารพในศักดิศรีของเพื่อน ์มนุษย์ต้องถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะอธิบายจุดมุ่งหมายของการวิจัยแก่บุคคลที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยไม่ หลอกลวงหรือบีบบังคับ และไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

  23. ข้อ 6 นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด โดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย • นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด ต้องตระหนักว่า อคติส่วนตนหรือความลำเอียงทางวิชาการ อาจ ส่งผลให้มีการบิดเบือนข้อมูลและข้อค้นพบทางวิชาการ อันเป็นเหตุให้เกิดผลเสียหายต่องานวิจัย

  24. ข้อ 7 นักวิจัยพึงนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ • นักวิจัยพึงเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสังคมไม่ขยายผลข้อค้นพบจนเกิดความ เป็นจริง และไม่ใช้ผลงานวิจัยไปในทางมิชอบ

  25. ข้อ 8 นักวิจัยพึงเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น • นักวิจัยพึงมีใจกว้าง พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลและขั้นตอนการวิจัยยอมรับฟังความคิดเห็นและ เหตุผลทางวิชาการของผู้อื่น และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขงานวิจัยของตนให้ถูกต้อง

  26. ข้อ 9 นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ • นักวิจัยมีจิตสำนึกที่จะอุทิศกำลังสติปัญญาในการทำวิจัย เพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อความ เจริญและประโยชน์สุขของสังคมและมวลมนุษยชาติ

  27. MMR การโกงครั้งใหญ่ในวงการวิจัย •   เป็นเรื่องราวของการทำ investigative journalism จับทุจริตของหมอที่เป็นนักวิจัยต้มตุ๋นคนทั่วโลก   คือ Andrew Wakefieldที่รายงานว่า MMR (Mump, Measles, Rubella) vaccine ทำให้เกิดผลข้างเคียง คือเกี่ยวข้องกับการเกิด autism และลำไส้อักเสบ   • คนที่เป็นผู้ทำวิจัยแบบ investigative journalism จับการโกงทางวิชาการโดยการยกเมฆ กุข้อมูลขึ้นมาเอง คือ Brian Deer • ผลของการทุจริตนี้ก่อความเสียหายแก่โลกมาก   และ Andrew Wakefield ก็ได้รับโทษรุนแรงมาก   คือหมดอนาคตการเป็นหมอและนักวิจัย 

  28. “การวิจัยจะรุ่งเรืองมิได้ ถ้าสังคมไทยไม่ให้คุณค่าและเคารพต่อความคิดริเริ่ม ต้องไม่มีการล่วงละเมิด ลอกเลียน หรืออ้างว่าเป็นของตน” • สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

  29. Assignment 1 • ให้นักศึกษาอ่านเรื่องราวของ Andrew Wakefieldที่รายงานว่า MMR (Mump, Measles, Rubella) vaccine ทำให้เกิดผลข้างเคียง คือเกี่ยวข้องกับการเกิด autism และลำไส้อักเสบ จากเว็บไซต์ http://www.oknation.net/blog/mor-maew/2012/05/28/entry-1 เรื่อง ทฤษฎีสมคบคิด : เมื่อวัคซีนทำให้เด็กเป็นออทิสติก -=Byหมอแมว=- วันจันทร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2555 • หลังจากอ่านให้เขียนวิเคราะห์เกี่ยวกับจรรยาบรรณนักวิจัย จากเรื่องราวของอดีตนายแพทย์แอนดริว เวคฟีลด์

  30. ข้อมูลอ้างอิง 1. สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการกลุ่มภารกิจ ด้านการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติคู่มือการเขียนรายงานการวิจัย http://www.riclib.nrct.go.th/link/info/researchwrite.pdf . Accessed date: 20 พ.ค.2555 2.พิสณุ ฟองศรี. การเขียนรายงานการวิจัยและวิทยานิพนธ์ ข้อบกพร่องที่สำคัญ: แนวทางปรับปรุง. ศูนย์การเรียนรู้ทางการวิจัย. เข้าถึงได้จากเว็บไซต์ http://rlc.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=572 . วันที่สืบค้น: 20 พ.ค.2555 3.มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา. คู่มือปฏิบัติงานวิจัยเบื้องต้นสำหรับการทำวิจัย. เข้าถึงได้จากเว็บไซต์ http://www.nrru.ac.th/rdi/km/wp-content/uploads/2011/08/sim3.pdf วันที่สืบค้น: 20 พ.ค.2555 4. เรณาพงษ.เรืองพันธุ์ และประสิทธิ์ พงษ์เรืองพันธุ์. การวิจัยทางการพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 3). 2549.

More Related