70 likes | 231 Views
สรุปสถานการณ์การระบาดเพลี้ยแป้ง. ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม 2554. รายงานสถานการณ์การระบาด 46 จังหวัด. พบพื้นที่การระบาด 11 จังหวัด รวม 14,740 ไร่
E N D
สรุปสถานการณ์การระบาดเพลี้ยแป้งสรุปสถานการณ์การระบาดเพลี้ยแป้ง ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม 2554
รายงานสถานการณ์การระบาด 46 จังหวัด พบพื้นที่การระบาด 11จังหวัดรวม14,740 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.14 ของพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังยืนต้นทั้งประเทศ (10,414,051ไร่)โดยมีพื้นที่ระบาดเพิ่มขึ้น 1,007ไร่หรือร้อยละ 7.33 เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ระบาดสัปดาห์ที่ผ่านมา(13,733ไร่) จังหวัดที่พบการระบาด คงที่ได้แก่ พิษณุโลก สระบุรี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และสกลนคร จังหวัดที่พบการระบาด เพิ่มขึ้นได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และสุพรรณบุรี พื้นที่ระบาดจำแนกตามอายุ มันปะหลัง 1 – 4 เดือน 7,649 ไร่ มากว่า 4 – 8 เดือน 6,293 ไร่ มากกว่า 8 เดือน 798 ไร่ จังหวัดที่พบการระบาด ลดลงได้แก่ ขอนแก่น กาญจนบุรี และมหาสารคาม
ปัจจัยที่มีผลทำให้การระบาดเพิ่มขึ้นปัจจัยที่มีผลทำให้การระบาดเพิ่มขึ้น ในบางพื้นที่มีการปลูกมันสำปะหลังใหม่ แต่เกษตรกรไม่ได้ทำการแช่ท่อนพันธุ์ มันสำปะหลังด้วยสารเคมีก่อนปลูก
ปัจจัยที่มีผลทำให้การระบาดลดลงปัจจัยที่มีผลทำให้การระบาดลดลง 1. ผลจากการปล่อยแมลงช้างปีกใสและแตนเบียน Anagyrus lopeziอย่างต่อเนื่องและศัตรูธรรมชาติทั้งสองชนิด สามารถทำลายเพลี้ยแป้งจึงทำให้ปริมาณเพลี้ยแป้งลดลง 2. ในพื้นที่ที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศความชื้นสูง เป็นสภาพไม่เหมาะกับการขยายพันธุ์และการแพร่กระจายของเพลี้ยแป้ง ทำให้พื้นที่การระบาดของเพลี้ยแป้งลดลง
การคาดการณ์ • เนื่องจากสภาพอากาศ สัปดาห์ที่ผ่านมาและอีก ๗ วันข้างหน้า ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง มันสำปะหลังแตกยอดใหม่เจริญเติบโตได้ดี และปริมาณของเพลี้ยแป้งสีชมพูลดลง เป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแต่ให้เกษตรกรมีการเฝ้าระวังต่อไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับเพลี้ยแป้งสีเขียวและเพลี้ยแป้งแจ๊คเบียส อาจมีปริมาณเพิ่มขึ้น ส่วนในพื้นที่แห้งแล้ง ฝนไม่ตก การระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูจะยังคงมีอยู่ ดังนั้นขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังการระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีการระบาด และดำเนินการควบคุมทันทีเมื่อพบเพลี้ยแป้ง ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา 1. การปล่อยแตนเบียนของหน่วยงานราชการและเอกชน จากวันที่ 1 ก.พ. 53 – 24 ส.ค. 54 รวมปล่อยทั้งหมด 6,009,234 คู่ ควบคุมพื้นที่ระบาด 120,184.68 ไร่ กรมส่งเสริมการเกษตร3,512,702คู่สถาบันพัฒนามันสำปะหลัง 1,334,300คู่ กรมวิชาการเกษตร 396,385คู่โรงแป้งมันฯ 10 บริษัท 765,847คู่ 2. การปล่อยแมลงช้างปีกใส ของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมการปล่อยสะสมถึง วันที่24 ส.ค. 2554 จำนวน2,670,921ตัว ควบคุมพื้นที่ระบาด 26,709.21ไร่ ผลการปล่อย จากการติดตามประเมินผลในพื้นที่หลังการปล่อย 1 เดือน พบปริมาณเพลี้ยแป้งในพื้นที่ปล่อยลดลงและพบปริมาณไข่แมลงช้างปีกใสในธรรมชาติเพิ่มขึ้น
แนวทางการควบคุมการระบาดเพลี้ยแป้งแนวทางการควบคุมการระบาดเพลี้ยแป้ง แผนการเฝ้าระวัง - ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนสำรวจติดตามติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1 ครั้งจากแปลงติดตามสถานการณ์ แผนการเตือนภัย - เมื่อสำรวจพบเพลี้ยฯมีแนวโน้มการระบาดให้ประกาศเตือนภัยทางหอกระจายข่าวและวิทยุท้องถิ่น เพื่อให้เกษตรกรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แนวทางการควบคุมเพลี้ยแป้งด้วยวิธีผสมผสาน (1) หลีกเลี่ยงช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสมกับการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง โดยแนะนำให้ปลูกมันสำปะหลังช่วงต้นฤดูฝน ไม่ควรปลูกในช่วงปลายฝน เพราะต้นมันสำปะหลังที่ปลูกใหม่อายุ 1 -4 เดือน หากมีสภาพอากาศแห้งแล้งจะอ่อนแอและถูกเข้าทำลายได้ง่าย (2) กรณีแปลงที่มีการระบาดรุนแรง ไถเก็บซากพืชไปเผาทำลาย และพักดินตัดวงจรการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังโดยการปลูกพืชอื่นทดแทน (3) ใช้พันธุ์จากแหล่งเชื่อถือได้ ไม่มีเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังติดกับมาท่อนพันธุ์ (4) ไถตากดินหรือไถระเบิดดินดาน ตากทิ้งไว้อย่างน้อย 14 วัน (5) แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีก่อนปลูก (6) สำรวจเพลี้ยแป้งทุกสัปดาห์ (7) หากพบเพลี้ยแป้งต้องรีบกำจัดและแจ้งเจ้าหน้าที่(8) ควบคุมเพลี้ยแป้งโดยการปล่อยแมลงช้างปีกใสและแตนเบียน