110 likes | 186 Views
N. S. P. MD SAYS “ ไทเกอร์ วูดส์ ”. “ เจบิก” จัดอันดับประเทศลงทุนไทยเลื่อนขึ้นที่ 4 รองเวียดนาม. อาฟต้าป่วนหนักเปิดเสรีไม่ตรงตามเป้า. ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัวเลขอัปยศ. รีวิวแนวโน้มค่าระวางเรือปี 53. กกร . ร่วมรัฐบางเรียกความเชื่อมั่นญี่ปุ่น. พาณิชย์เจอต้นตอน้ำตาลขาดแคลน.
E N D
N S P MD SAYS “ ไทเกอร์ วูดส์ ” “เจบิก” จัดอันดับประเทศลงทุนไทยเลื่อนขึ้นที่ 4 รองเวียดนาม อาฟต้าป่วนหนักเปิดเสรีไม่ตรงตามเป้า ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัวเลขอัปยศ รีวิวแนวโน้มค่าระวางเรือปี 53 กกร.ร่วมรัฐบางเรียกความเชื่อมั่นญี่ปุ่น พาณิชย์เจอต้นตอน้ำตาลขาดแคลน ดัชนีหุ้นนักลงทุนต่างชาติทะลัก ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 114 WWW.SNP.CO.TH
S S " ไทเกอร์ วูดส์ " หลายเดือนที่ผ่านมา ข่าวไทเกอร์ วูดส์ มีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากภรรยายอมรับได้เรื่องคงไม่บานปลาย แต่ภรรยากลับเดินออกจากชีวิตไปจนเป็นข่าวใหญ่และสังคมอเมริกันแสดงอาการเห็นใจ เป็นผลให้ไทเกอร์ วูดส์ ต้องประกาศระงับการแข่งขันกอล์ฟไว้ระยะหนึ่งเพื่อรักษาความรู้สึกของแฟนกอล์ฟเอาไว้ แต่ผลไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แจ้งว่ามีสปอนเซอร์ถอนตัวจากการสนับสนุนไทเกอร์ วูดส์ ไปแล้ว 3 ราย ประกอบด้วยธุรกิจของ “แอดเซนเจอร์ – เอที แอนด์ ที – และ เกเตอเรด” อันเป็นผลให้ไทเกอร์ วูดส์ ต้องสูญเสียรายได้ไปจำนวนหนึ่ง แถมกำลังจะมีสปอนเซอร์อื่นถอนตัวตาม สังคมตะวันตก เป็นสังคมที่น่ายกย่องประการหนึ่ง เมื่อใดที่ใครมีพฤติกรรมที่ประชาชนในสังคมไม่ยอมรับ ข่าวจะแพร่กระจายไปตามสื่ออย่างรวดเร็ว อันเกิดจากความเป็นอิสระของสื่อต่าง ๆ จากนั้นหากกระแสสังคมแสดงอาการปฏิเสธต่อเนื่อง กิจการและบุคคลที่เป็นผู้นำของสังคมนั้น ก็จะแสดงออกตาม เช่นการถอนสปอนเซอร์แบบของไทเกอร์ วูดส์ เป็นตัวอย่าง เป็นผลให้ผู้กระทำผิดจริยธรรม แม้ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ ต้องสูญเสียการยอมรับ สูญเสียรายได้ อันเป็นมาตรการลงโทษทางสังคม จนทำให้บุคคลที่ทำผิด ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสดงอาการขอโทษ กลับเนื้อกลับตัว และเริ่มต้นใหม่เพื่อให้สังคมยอมรับต่อไป แต่จะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการเริ่มต้นใหม่ของบุคคลผู้นั้น หรือไม่ก็ต้องหนีหายไปจากสังคมนั้นไปเลย N N P P ต่อหน้า 2
รูปแบบการปฏิเสธของสังคมดังกล่าว แม้กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกนานกว่าจะทำให้ผลของการปฏิเสธเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบุคคลผู้ทำผิดรู้สำนึกได้เร็วขึ้น แสดงอาการขอโทษ และกลับตัวใหม่ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องมาจากผลประโยชน์ที่กิจการหรือผู้นำทางสังคมของไทยได้รับจากผู้ทำผิดที่มีมากจนกิจการหรือผู้นำทางสังคมไม่กล้าเสี่ยงที่จะแสดงออกในเชิงปฏิเสธโดยทันที โดยมากมักรอให้เกิดความแน่ชัดก่อนว่าสังคมจะปฏิเสธจริงหรือไม่ แล้วค่อยแสดงออกตาม บางกิจการที่ได้ประโยชน์จากการสนับสนุนผู้ทำผิดยังคงยืนยันให้การสนับสนุนต่อไปก็มีโดยอ้างเหตุผลเพียงไม่ผิดในทางกฎหมาย หากเห็นว่ายังได้ประโยชน์คุ้มอยู่ จนทำให้ผลกระทบต่อผู้ทำผิดในทางสังคมบางกรณีเกิดขึ้นได้ช้า และบางกรณีไม่เกิดขึ้นเลย มาตรการการลงโทษทางสังคมแม้ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องแสดงออก แต่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในทุกสังคม หากเริ่มต้นจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำทางสังคม เป็นผู้มีอำนาจในการโน้มนำสังคม และเป็นผู้กล้าที่จะแสดงออกมาก่อน เมื่อใดที่มีกิจการใดแสดงตนในทางปฏิเสธออกมา ในทางที่ถูกต้องก่อน เมื่อนั้นก็ย่อมมีกิจการอื่นกล้าแสดงออกตาม อันเป็นการแสดงให้รู้ว่า กิจการนั้นแคร์ต่อความรู้สึกของสังคม จากนั้นระบบของสังคมของแต่ละสังคมก็จะพัฒนาตนเองขึ้น จนทำให้ผู้กำลังจะทำผิดมีจิตสำนึกมากขึ้น มีมโนธรรมมากขึ้น เมื่อจะทำการสิ่งใดก็จะไม่ยึดเพียงสัญชาตญาณของตนเพื่อให้ตนเองอยู่รอดเท่านั้น สังคมก็ย่อมเป็นสุขขึ้นอีกระดับหนึ่ง S N P ต่อหน้า 3
สังคมบางแห่งที่มีจริยธรรมเจริญมากพอ เพียงรู้ว่า บุคคลที่มาติดต่อทางธุรกิจเคยเณรคุณเจ้านายเดิมอย่างไม่มีเหตุผล หรือเคยคลุกคลีกับเรื่องผิดกฎหมายมาก่อน ก็จะแสดงอาการปฏิเสธ แสดงอาการไม่ยอมรับ จนทำให้ผู้ที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ ของตน ต้องเป็นผู้เริ่มธุรกิจอย่างสง่างามเท่านั้น จึงจะได้รับการยอมรับ ได้รับการโอบอุ้ม และได้รับความเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย ซึ่งก็รวมไปถึงบุคคลที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการเมืองด้วยเช่นกัน สังคมไทยจะเดินหน้าไปสู่จุดใด หากท่านผู้ประกอบการติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นจากสังคมที่เจริญแล้วทั่วโลก ผมว่าสังคมไทยก็กำลังเดินไปในทิศทางนั้นครับ เพราะสังคมไทยกำลังพัฒนาไปในทางที่เจริญขึ้น เพียงแต่ว่าการเดินทางของเราอาจช้าไปหน่อย เนื่องจากระบบผลประโยชน์ที่ซับซ้อนอยู่มากจนแยกลำบาก เว้นแต่ว่าท่านผู้ประกอบการจะเล็งเห็นภาระหน้าที่ในการเป็นผู้นำทางสังคมมากขึ้น เมื่อนั้นการเดินหน้าทางสังคมของไทยก็จะรวดเร็วขึ้น สูงขึ้น ตามแบบที่ไทเกอร์ วูดส์ และผู้ที่กำลังจะทำผิดแบบไทเกอร์ วูดส์ กำลังเผชิญอยู่ครับ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
“เจบิก” จัดอันดับประเทศลงทุนไทยเลื่อนขึ้นที่ 4 รองเวียดนาม S นายซูสุมุ อุชิตะ เศรษฐกรอาวุโสและหัวหน้าสำนักงานกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) ประจำประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการญี่ปุ่น ประจำปี 255 พบว่า ผู้ประกอบการญี่ปุ่นจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศที่เป็นรากฐานการผลิตที่สำคัญ รองจากประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งถือว่าได้รับการเลื่อนขึ้น 1 อันดับ จากที่ประเทศไทยได้รับอันดับที่ 5 เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น เนื่องจากศักยภาพตลาดในประเทศ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญ โดยผลสำรวจยังระบุว่าประเด็นทางการเมือง การแข่งขันที่รุนแรงภายในประเทศ ขาดแคลนบุคคลากรระดับผู้บริหาร และปัญหามาบตาพุด เป็นปัจจัยที่นักลงทุนมีความกังวลต่อเนื่อง นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลสำรวจของเจบิก ครั้งนี้ ไม่ได้รวมผลกระทบจากกรณีมาบตาพุด เพราะสำรวจในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนปี 2552 ก่อนเกิดปัญหามาบตาพุด ส่วนอันดับความน่าสนใจลงทุนในไทย จะถูกปรับลดลงจากกรณีปัญหามาบตาพุดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และมีความชัดเจนมากแค่ไหน ซึ่งปัจจัยการเมืองนั้น นักลงทุนญี่ปุ่นมีความกังวลมากขึ้นตั้งแต่ 4 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ไดวา ในวันที่ 11-12 มี.ค. โดยจะถือโอกาสนี้ไปชี้แจงนักลงทุนพร้อมกันกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ด้วย N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
อาฟต้าป่วนหนักเปิดเสรีไม่ตรงตามเป้าอาฟต้าป่วนหนักเปิดเสรีไม่ตรงตามเป้า นายอลงกรณ์ พลงบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะเป็นหัวหน้าคณะของไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 16 วันที่ 27-28 ก.พ.53 นี้ ที่มาเลเซีย โดยประเด็นหนึ่งที่จะหารือคือ การเจรจาความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ACIA) ที่หลายประเทศสมาชิกเสนอบัญชีสงวนในการเปิดเสรีรวมแล้วกว่า 130 สาขา ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคการเกษตร เพราะเป็นภาคที่อ่อนไหว และยังไม่มีความพร้อมให้ประเทศอื่นเข้ามาลงทุน ถือเป็นภาระหนักของอาเซียนที่จะต้องเจรจาให้ได้ข้อยุติ สำหรับไทย ได้เสนอบัญชีสงวนเพิ่มเติมไปยังสมาชิกอาเซียนแล้ว ได้แก่ การเปิดเสรีการลงทุนในกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำป่าไม้จากป่าปลูกและการเพาะหรือปรับปรุงพันธุ์พืช จากเดิมที่ไทยกำหนดให้ทั้ง 3 สาขาต้องเปิดเสรีตามกรอบการลงทุนอาเซียนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 แต่คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้มีมติให้ชะลอการเปิดเสรีออกไปก่อน และ ครม.ก็ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว “เราได้ยื่นบัญชีสงวนทั้ง 3 สาขาไปยังอาเซียนอื่น และได้รับการยอมรับแล้ว แต่ของประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการยอมรับ ทำให้การเปิดเสรีการลงทุนอาเซียนไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ไทยจะลงนามในสัตยาบันความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) จากที่ก่อนหน้านี้ไทยไม่ยอมให้สัตยาบัน เพราะไม่สามารถเจรจากับฟิลิปปินส์ให้ชดเชยความเสียหายกับไทย กรณีชะลอลดภาษีนำเข้าข้าว แต่หลังจากได้ข้อยุติไทยยอมลงนาม โดยฟิลิปปินส์เปิดตลาดข้าวให้ 367,000 ตัน ภาษี 0% กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัวเลขอัปยศ S ธปท.สรุปเม็ดเงินลงทุนเอกชนจากต่างชาติ ณ สิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากภาคเอกชนต่างประเทศที่ไม่ใช่ธนาคาร ณ สิ้นปี 2552 เป็นยอดไหลออกสุทธิ 6,862 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะเห็นว่ามีเงินลงทุนต่างประเทศของปี 2552 น้อยกว่าปี 2551 สูงถึง 13,879 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะเห็นว่ามีเงินลงทุนต่างประเทศของปี 2552 น้อยกว่า 2551 สูงถึง 13,879 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 458,007 ล้านบาท (33 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) และหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์พบว่ามีเงินไหลเข้ามาน้อยลง 202.26% อันเป็นผลมาจากความไม่เชื่อมั่นในการลงทุน จากปัญหาการเมืองและนโยบายการลงทุนของรัฐบาล ทั้งนี้ เมื่อแยกประเภทการเข้ามาลงทุนของเงินทุนต่างชาติ พบว่า เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิของปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นยอดไหลเข้าสุทธิ 5,518 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่น้อยลง 2,056 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 67,848 ล้านบาท หรือน้อยลง 27.15% เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่มียอดการไหลเข้า 7,574 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้านเงินลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิในปี 2552 ติดลบ 8,548 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิเป็นบวก 53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พบว่า นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในหลักทรัพย์ในไทยน้อยลงถึง 8,601 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 283,833 ล้านบาท N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
รีวิวแนวโน้มค่าระวางเรือปี 53 S หลังจากผ่านช่วงปีใหม่มาได้สองเดือนแล้ว ผู้ประกอบการบางรายอาจได้สัมผัสกับค่าระวางเรือของช่วงปี 2553 มากันบ้างแล้ว แต่สำหรับหัวข้อข่าว SNP News สัปดาห์นี้จะขอยกหัวข้อข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องค่าระวางเรือมาเล่าให้ฟังกัน ในข่าวของหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจได้มีการสัมภาษณ์ถึงแนวโน้มของค่าระวางเรือที่จะกลายเป็นช่วงขาขึ้นของบริษัทสายเรือ เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศแถบยุโรปและอเมริกาที่ได้มีการฟื้นตัวขึ้น ทำให้มีความต้องการที่จะใช้ค่าระวางที่จะส่งออกไปยังประเทศกลุ่มตะวันตกมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องระวางเรือขาดแคลน แต่อย่างไรก็ดี ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในขณะนี้อาจจะจะเป็นเพียงความต้องการระยะสั้นที่เกิดขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจตกต่ำทำให้การนำสินค้าเข้าไปทดแทนในคลังมีมากขึ้น ซึ่งในระยะยาวก็ต้องดูต่อไปว่าปริมาณการสั่งซื้จะกลับมาเท่าเดิมหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นไปถึงไตรมาสที่สี่ แต่ที่ค่าระวางที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นกลุ่มยุโรป เนื่องด้วยค่าระวางที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องด้วยการดึงระวางเรือออกในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อจีนซึ่งเป็นท่าต้นทางมีสินค้าส่งออกมาก ผู้ส่งออกจีนยอมให้ ค่าระวางเรือสูง เจ้าของเรือจึงให้พื้นที่ระวางเรือกับสินค้าจีนมาก เมื่อเรือมาถึงไทยจึงเหลือระวางเรือน้อยและมีการเรียกเก็บค่าระวางเรือใน อัตราสูงขึ้น N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
กกร.ร่วมรัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นญี่ปุ่นกกร.ร่วมรัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นญี่ปุ่น S นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า วันที่ 2 มี.ค.นี้ กกร.จะหารือถึงประเด็นที่สมาชิก กกร.ได้รับเชิญจากรัฐบาลให้ร่วมคณะไปโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นการลงทุนที่ญี่ปุ่นช่วงวันที่ 11-13 มี.ค.นี้ โดยเบื้องต้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและ ส.อ.ท. จะเน้นให้สมาชิกชี้แจงกับนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อยืนยันว่าไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุน แม้จะมีปัญหาการเมืองและปัญหามาบตาพุด แต่มั่นใจว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ส่วนกรณีมีเหตุวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ในระยะสั้น คงทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนกรุงเทพฯชะลอบ้าง เพราะคงไม่มีใครอยากเดินทางในจุดเสี่ยง ภาคเอกชนกังวลว่าหากเหตุการณ์ยังไม่จบลงในเวลาอันใกล้ จะกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องไปยังสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเดือน มี.ค.นี้ หากไม่มีเหตุรุนแรงจนถึงขั้นปิดสนามบินและท่าเรือ ไม่น่าสร้างปัญหาให้ภาคอุตสาหกรรม โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นมาก มีคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น บางสินค้าออเดอร์ยาวเป็นปีแล้ว ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มดีขึ้น N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
พาณิชย์เจอต้นตอน้ำตาลขาดแคลนพาณิชย์เจอต้นตอน้ำตาลขาดแคลน S พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกำกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยถึงการตรวจสอบเส้นทางการใช้น้ำตาลทรายว่า เตรียมขอหมายศาลออกตรวจสอบสต๊อกโรงงานและผู้ส่งออกน้ำตาลเร็ว ๆ นี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้รับรายงานจากสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทรายว่า นางสาววัลย์สิกา สุทธิประเสริฐอาชีพรับจ้างทำสวนในจังหวัดราชบุรี ถูกแอบอ้างชื่อเป็นผู้สั่งซื้อน้ำตาลทรายตั้งแต่เดือน พ.ย.52-ก.พ.53 รวมกว่า 2,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังพบเบาะแสความผิดปกติลักษณะเดียวกันในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานครอีก 8-9 ราย น.ส.ชุติมา บุณยประภัสร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวระหว่างการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดว่า ได้เสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เรียกประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อออกประกาศควบคุมการครอบครองน้ำตาลไม่เกิน 10,000 กก.และหากขนย้ายน้ำตาลเกิน 10 ตัน ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในเพื่อแก้ปัญหาน้ำตาลตึงตัวในหลายพื้นที่ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกปัญหาน้ำตาลขาดแคลนและราคาสูง เพื่อนำข้อมูลมาขยายผลในการตามจับกุมต่อไป โดยจะดูตั้งแต่ต้นทางที่น้ำตาลทรายออกมาจากโรงงานผลิตสู่ร้านค้าส่ง ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ว่ามีปัญหาที่จุดใดจนกระทบให้น้ำตาลขาดช่วง N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ดัชนีหุ้นนักลงทุนต่างชาติทะลักดัชนีหุ้นนักลงทุนต่างชาติทะลัก S ดัชนีหุ้นวันที่ 2 มี.ค.53 ปิดที่ 733.19 จุด เพิ่มขึ้น 11.82 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 24,953.89 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,395 ล้านบาท หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย ADVANCE ปิดที่ 84.25 บาท ลดลง 3.75 บาท, PTT ปิดที่ 241 บาท เพิ่มขึ้น 9 บาท BANDPU ปิดที่ 566 บาท เพิ่มขึ้น 16 บาท ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน มองแนวโน้มตลาดว่าดัชนีน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องการเมืองภายในประเทศ แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองรวมทั้งการชุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 12-14 มี.ค. ซึ่งการเมืองเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน แนะกลยุทธ์การลงทุนให้ “ถือ” โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 725-730 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 740 จุด ฝ่ายวิจัยกลยุทธ์การลงทุน บล.เคจีไอ ประเมินว่าเริ่มมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนในประเทศกล้าที่จะเข้ามาเสี่ยงลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้นก่อนที่จะมีการชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งอาจเป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นคาดว่าดัชนียังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง แต่ไม่แรงมากนักหลังดีดขึ้นมาแรงแล้ว ทั้งนี้ ยังต้องประเมินทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศด้วยแนะกลยุทธ์การลงทุน ให้น้ำหนักการซื้อเพิ่มในหุ้นนลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากความคืบหน้ามาบตาพุด ทั้ง PTT, PTTAR และ PTTEP รวมทั้งหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าปันผลดี เช่น SPALI และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 725 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 735 จุด N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก