1 / 17

ลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน

สำนักโครงการขนาดใหญ่ กรมชลประทาน. ลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน - ตารางเปรียบเทียบน้ำท่า-น้ำฝน ในกลุ่มลุ่มน้ำ ทรัพยากรดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน พื้นที่ทำการเกษตร. พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน การประเมินความต้องการน้ำ

Download Presentation

ลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำ ภูมิอากาศ ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สำนักโครงการขนาดใหญ่ กรมชลประทาน ลุ่มน้ำแม่กลอง • ที่ตั้ง • ลักษณะภูมิประเทศ • พื้นที่ลุ่มน้ำ • ภูมิอากาศ • ปริมาณน้ำท่า-น้ำฝน - ตารางเปรียบเทียบน้ำท่า-น้ำฝน ในกลุ่มลุ่มน้ำ • ทรัพยากรดิน • การใช้ประโยชน์ที่ดิน • พื้นที่ทำการเกษตร. • พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน • การประเมินความต้องการน้ำ • ปัญหาของลุ่มน้ำ • ด้านภัยแล้ง • แนวทางแก้ไข ส่วนอำนวยการและติดตามประเมินผล

  2. 14. ลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ตั้ง ลุ่มน้ำแม่กลองตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศไทย ทางฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด คือ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร อ่างทอง อยุธยา นนทบุรี ลักษณะลุ่มน้ำวางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ทิศเหนือติดกับลุ่มน้ำสะแกกรัง ทิศใต้ติดกับอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา และทิศตะวันตกติดกับลุ่มน้ำแม่กลอง รูปที่ 14-1 แสดงที่ตั้ง ลุ่มน้ำแม่กลอง

  3. ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะของลุ่มน้ำวางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ พื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ตอนบนของลุ่มน้ำเป็นที่เชิงเขาไม่สูงมากนัก ส่วนตอนกลางและตอนล่างเป็นที่ราบลุ่ม แม่น้ำท่าจีนแยกออกมาทางฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท ไหลผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และออกสู่อ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรสาคร รูปที่ 14-2 สภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง

  4. พื้นที่ลุ่มน้ำ ลุ่มน้ำแม่กลองมีพื้นที่ลุ่มน้ำรวมทั้งสิ้น 30,836 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งพื้นที่ลุ่มน้ำ เป็น 11 ลุ่มน้ำย่อย ตามตารางที่ 14-1และรูปที่ 14-3 แสดงลุ่มน้ำย่อย ตารางที่ 14-1 ขนาดของพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย 14.04 14.03 14.02 14.05 14.08 14.09 14.06 14.07 14.10 14.12 14.11 รูปที่ 14-3 แสดงลุ่มน้ำย่อย พื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง

  5. ภูมิอากาศ ข้อมูลภูมิอากาศที่สำคัญของลุ่มน้ำนี้ได้แสดงไว้แล้ว ตามตารางที่ 14-2 ซึ่งแต่ละรายการจะเป็นค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และค่าเฉลี่ยเป็นรายปี ตารางที่ 14-2 แสดงข้อมูลภูมิอากาศที่สำคัญ

  6. ปริมาณน้ำฝนลุ่มน้ำแม่กลองมีปริมาณฝนผันแปร ตั้งแต่ 900 มิลลิเมตร จนถึง 2,200 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณฝนเฉลี่ยประมาณ 1,333.8 มิลลิเมตร ลักษณะการผันแปรของปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ยได้แสดงไว้ ตามตารางที่ 14-3 และมีลักษณะการกระจายของปริมาณน้ำฝนของแต่ละลุ่มน้ำย่อย ตามรูปที่ 14-4 ตารางที่ 14-3 ปริมาณน้ำฝนและน้ำท่ารายเดือนเฉลี่ย รูปที่ 14-5 ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละลุ่มน้ำย่อย รูปที่ 14-4 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละลุ่มน้ำย่อย ปริมาณน้ำท่าลุ่มน้ำแม่กลองมีพื้นที่รับน้ำทั้งหมด 30,836 ตารางกิโลเมตร มีปริมาณน้ำท่ารายปีเฉลี่ยทั้งหมดประมาณ 15,129.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามตารางที่ 14-3 หรือมีปริมาณน้ำท่ารายปีเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่รับน้ำฝนประมาณ 15.56 ลิตร/วินาที/ตารางกิโลเมตร ตามรูปที่ 14-5 แสดงปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือนของแต่ละลุ่มน้ำย่อย

  7. ตารางเปรียบเทียบ ปริมาณน้ำฝน - ปริมาณน้ำท่า

  8. ทรัพยากรดิน พื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองสามารถจำแนกชนิดตามความเหมาะสมของการปลูกพืชออกได้ 4 ประเภท ซึ่งมีลักษณะการกระจายของกลุ่มดิน ตามรูปที่ 14-5 และแต่ละประเภทกลุ่มดินจะมีจำนวนพื้นที่ ตามตารางที่ 14-4 ตารางที่ 14-4 รูปที่ 14-6 การแบ่งกลุ่มดินจำแนกตามความเหมาะสมใช้ปลูกพืช

  9. การใช้ประโยชน์จากที่ดิน 1) พื้นที่ทำการเกษตร............. 22.62 % พืชไร่................................ 70.80 % ไม้ผล-ไม้ยืนต้น.................... 7.83 % ข้าว................................... 20.59 % พืชผัก............................... 0.78% รูปที่ 14-7 การทำเกษตร 2) ป่าไม้.............................. 68.84 % เขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่า........ 34.12 % อุทยานแห่งชาติ................... 23.84 % พื้นที่ป่าอนุรักษ์.................... 42.04 % รูปที่ 14-8 พื้นที่ป่าไม้และเพื่อการอนุรักษ์ 3) ที่อยู่อาศัย......................... 1.35 % 4) แหล่งน้ำ............................ 3.05 % 5) อื่นๆ.................................. 4.15 % รูปที่ 14-9 การใช้ประโยชน์จากที่ดิน

  10. พื้นที่การเกษตรในลุ่มน้ำแม่กลองมีพื้นที่ 6,974 ตารางกิโลเมตร และมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก 4,495.08 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 64.45 พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกข้าว 1,342.60 ตารางกิโลเมตร (29.87%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชผัก 29.31 ตารางกิโลเมตร ( 0.65%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชไร่ 2.,599.50 ตารางกิโลเมตร (57.83%) พื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกไม้ผล-ไม้ยืนต้น 523.67 ตารางกิโลเมตร(11.65%) พื้นที่การเกษตรที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก ส่วนใหญ่จะอยู่ทางตอน ล่างของพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยกระจายอยู่บริเวณสองฝั่งลำน้ำและหนาแน่นในบริเวณที่ราบลุ่มตอนล่างใกล้ปากแม่น้ำท่าจีน ซึ่งรวมแล้วประมาณร้อยละ 14.58 ของพื้นที่ทั้งลุ่มน้ำ การทำการเกษตรในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง ส่วนใหญ่จะปลูกบนพื้นที่ที่มีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว ยกเว้นการปลูกพืชไร่ที่มีการปลูกพืชบนพื้นที่ที่ไม่มีความเหมาะสมอยู่ รูปที่ 14-10 การใช้ประโยชน์ที่ดินหลักด้านการเกษตร

  11. พื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทานพื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาระบบชลประทาน พื้นที่ที่มีศักยภาพการพัฒนาระบบชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณที่ราบลุ่มตอนล่างของพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยมีพื้นที่ประมาณ 1,832 ตารางกิโลเมตร และคิดเป็นร้อยละ 40.76 ของพื้นที่การเกษตรที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก หรือร้อยละ 26.27 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด ตารางที่ 14-5 ตารางเปรียบเทียบพื้นที่การเกษตรกับพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับพัฒนาระบบชลประทาน

  12. การประเมินความต้องการน้ำการประเมินความต้องการน้ำ จากการศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้คาดคะเนอัตราการเจริญเติบโตของประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและนอกเขตเมือง รวมทั้งความต้องการน้ำสำหรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ช่วงปี 2542-2564 สรุปได้ตามรูปที่ 14-11 ชลประทาน ปริมาณน้ำ (ล้าน ลบ.ม.) รักษาระบบนิเวศ อุตสาหกรรม อุปโภค - บริโภค รูปที่ 14-11 สรุปแนวโน้มปริมาณความต้องการน้ำแต่ละประเภท

  13. ปัญหาของลุ่มน้ำ ด้านอุทกภัย สภาพการเกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำนี้ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ∶- 1) อุทกภัยที่เกิดในบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนและลำน้ำสาขาต่างๆ เกิดจากการที่มีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากจากต้นน้ำลงมามาก จนลำน้ำสายหลักไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ประกอบกับมีสิ่งกีดขวางจากเส้นทางคมนาคมขวางทางน้ำ และมีอาคารระบายน้ำไม่เพียงพอ พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ได้แก่ อำเภอบ้านโป่ง และอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี 2) อุทกภัยที่เกิดบริเวณที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มและแม่น้ำสายหลักตื้นเขิน มีความสามารถในการระบายน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ได้แก่ บริเวณอำเภอสวนผึ้ง อำเภอจอมบึง อำเภอวัดเพลิง อำเภอโพธาราม อำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อำเภออัมพวา อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม

  14. ด้านภัยแล้ง ปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำนี้เกิดจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกิดความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร จากข้อมูล กชช.2ค. ปี 2542 ลุ่มน้ำแม่กลองมีจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด 1,746 หมู่บ้าน พบว่าเป็นหมู่บ้านที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งจำนวน 1,060 หมู่บ้าน (ร้อยละ 60.71) โดยแยกเป็นหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 336 หมู่บ้าน (ร้อยละ 19.34) และเป็นหมู่บ้านที่ขาดแคลนทั้งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 724 หมู่บ้าน (ร้อยละ 4147) หมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดราชบุรีถึง 464 หมู่บ้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 43.77 ของหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั้งหมด หมู่บ้านที่มีน้ำอุปโภค-บริโภค แต่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร หมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รูปที่ 14-11 แสดงลักษณะการกระจายตัวของหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง

  15. แนวทางการแก้ไข ปัญหาการเกิดอุทกภัย และภัยแล้งในลุ่มน้ำแม่กลอง มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นๆ คือการผันแปรของปริมาณน้ำฝน ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในช่วงที่ฝนทิ้งช่วง ในทางกลับกันเมื่อมีฝนตกหนักก็ทำให้เกิดน้ำไหลหลากท่วมพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงมีแนวทางแก้ไขในภาพรวมโดยสรุปดังนี้. 1) การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดและขนาดเล็กในพื้นที่ตอนบนของลำน้ำสาขาที่สำคัญ ได้แก่ ลำภาชี และแม่น้ำแม่กลอง เพื่อเก็บกักและชะลอปริมาณน้ำหลากในช่วงที่ฝนตกหนัก และปล่อยน้ำที่เก็บกักลงทางด้านท้ายน้ำในช่วงฤดูแล้งเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้พื้นที่สองฝั่งลำน้ำ 2) การก่อสร้างระบบส่งน้ำและกระจายน้ำในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งและอยู่ไม่ห่างจากลำน้ำสายหลักมากนัก โดยอาจดำเนินการในลักษณะก่อสร้างฝาย/ประตูระบายน้ำ พร้อมระบบคลองส่งน้ำ/ระบบสูบน้ำและส่งน้ำด้วยท่อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง 3) การขุดลอกลำน้ำสายหลักในช่วงที่ตื้นเขินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ 4) การปรับปรุงฝาย ประตูระบายน้ำ สะพาน ท่อลอดถนน และอาคารอื่น ๆ ที่กีดขวางทางน้ำและเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำให้มีความสามารถในการระบายน้ำที่พอเพียงและเหมาะสมกับสภาพทางน้ำ 5) ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขตตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบให้เป็นไปตามผังเมืองที่วางไว้และควบคุมการรุกล้ำแนวคลองและลำน้ำสาธารณะ 6) ส่งเสริมการขุดสระน้ำประจำไร่นา ขุดบ่อน้ำตื้น/บ่อบาดาล ก่อสร้างถังเก็บน้ำ สำหรับพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำตามสภาพความเหมาะสมของพื้นที่

More Related