1 / 44

บทที่ 3 ระบบสารสนเทศทางการผลิต

บทที่ 3 ระบบสารสนเทศทางการผลิต. ความหมาย,ระบบย่อยสารสนเทศที่ใช้ในฝ่ายผลิต ขอบข่ายของงานด้านการผลิต ความรู้เบื้องต้นด้านการผลิต ระบบการผลิต การจัดการด้านการผลิต กิจกรรมการจัดการด้านการผลิต( การวางแผนเพื่อผลิตสินค้า )

Download Presentation

บทที่ 3 ระบบสารสนเทศทางการผลิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 3 ระบบสารสนเทศทางการผลิต • ความหมาย,ระบบย่อยสารสนเทศที่ใช้ในฝ่ายผลิต • ขอบข่ายของงานด้านการผลิต • ความรู้เบื้องต้นด้านการผลิต • ระบบการผลิต • การจัดการด้านการผลิต • กิจกรรมการจัดการด้านการผลิต(การวางแผนเพื่อผลิตสินค้า) • การพัฒนาผลิตภัณฑ์, การวางแผนเพื่อผลิตสินค้า, การดำเนินการผลิต, การควบคุมการผลิต • ระบบสารสนเทศเพื่องานการผลิต • ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ • ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผนการผลิต • ระบบสารสนเทศเพื่อการดำเนินการและควบคุมการผลติ • เทคโนโลยีในระบบสารสนเทศเพื่องานการผลิต

  2. ระบบสารสนเทศการผลิต (Manufacturing Information Systems) • ระบบสารสนเทศการผลิตช่วยสนับสนุนงานในด้านการผลิตและการดำเนินงาน รวมไปถึงงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการวางแผนและการควบคุมขั้นตอนของการผลิตสินค้าและบริการ ดังนั้นหน้าที่ในการผลิตและการดำเนินงานจึงเกี่ยวข้องกับการจัดการของระบบและกระบวนการผลิต ระบบสารสนเทศใช้เพื่อการจัดการด้านการดำเนินงานและการติดต่อดำเนินงานเพื่อสนับสนุนหน่วยงาน ซึ่งจะต้องมีการวางแผน และควบคุมสินค้าคงคลัง การจัดซื้อ และการไหลเวียนของสินค้าและบริการ

  3. ระบบสารสนเทศการผลิต • เป็นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับ การวางแผน การควบคุม ติดตามการผลิตสินค้า การควบคุมคลังวัตถุดิบ ตารางการผลิต การควบคุมขบวนการผลิต การกำหนดราคา ต้นทุนสินค้า การตรวจสอบคุณภาพสินค้า  การจัดส่งและการกระจายสินค้า

  4. ระบบสารสนเทศการผลิต ระบบสารสนเทศที่ใช้ในฝ่ายผลิต เช่น          •ระบบบริหารการจัดซื้อ          •ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง          •ระบบการจัดการผลิต          •ระบบตรวจสอบคุณภาพ          •ระบบควบคุมการผลิต          •ระบบการออกแบบผลิตภัณฑ์           •ระบบ MRP (Manufacturing Resource Planning)

  5. ระบบสารสนเทศการผลิต • ขบวนการในการผลิตประกอบด้วยงานที่ขึ้น ต่อกันมากมาย โดยการนำระบบการวางแผนทรัพยากรของ องค์กรมาใช้ร่วมในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิตจะช่วยให้การทำงาน มีความยืดหยุ่นและมีการจัดหาทรัพยากรที่ต้องการใช้ได้ทันต่อความต้องการ โดยจุดประสงค์ของขบวนการผลิตก็คือการผลิตได้ตรงตามความพอใจหรือความต้องการ ของลูกค้านั่นเอง   ในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต ภาระของผู้บริหารในการดูแลควบคุมงานจะถูกลดลงไป, งานด้านเอกสารต่างๆ จะถูกปรับให้อยู่ในรูปของขบวนการออนไลน์และการติดต่อสื่อสารข้อมูลจะใช้งานผ่านระบบการ แลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแทน อีกทั้งในการวางแผนการใช้ทรัพยากรของ องค์กรเพื่อการผลิตจะใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายอินทราเน็ตในองค์กร เพื่อติดต่อกับหน่วยงานธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อปฏิบัติงานและงานควบคุมงานต่างๆ ทั้งแบบศูนย์กลางและแบบกระจายได้

  6. ระบบสารสนเทศการผลิต • แสดงภาพรวมของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต

  7. ส่วนที่นำเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิตส่วนที่นำเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต • ส่วนที่นำเข้าจะได้จากกการปฏิบัติงานซึ่งเกี่ยวกับการไหลเวียนและการแปลงวัตถุดิบภายในองค์กร แหล่ง สารสนเทศที่สำคัญอาจมาจากภายนอกองค์กรก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะมาจากภายใน เช่น • 1. แผนเชิงกลยุทธ์และนโยบายของบริษัท ซึ่งจะเป็นส่วนที่กำหนดทิศทางของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต เช่นเอกสารเกี่ยวกับการวางแผนระยะยาวที่กล่าวถึงเรื่องคุณภาพ, การผลิต, และเป้าหมายและข้อจำกัดในการให้บริการ รวมถึงนโยบายในการเปิดโรงงานใหม่หรือการปิดโรงงานเก่าลงและเรื่องของความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้, ข้อจำกัดของจำนวนพนักงานที่มี, การเปลี่ยนนโยบายการเก็บสินค้าคงคลัง และโปรแกรมการควบคุมคุณภาพใหม่ที่ต้องการใช้ เหล่านี้จัดเป็นสารสนเทศที่นำเข้าสู่ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต

  8. ส่วนที่นำเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิตส่วนที่นำเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต • 2. ระบบประมวลผลรายการ ได้แก่ข้อมูลที่ได้จากระบบประมวลผลรายการด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อในการผลิต ได้แก่ การประมวลผลการสั่งซื้อ, ข้อมูลสินค้าคงคลัง, ข้อมูลการรับและการตรวจสอบวัตถุดิบที่เข้ามาในขบวนการผลิต, ข้อมูลบุคลากร, และข้อมูลขบวนการผลิต3. แหล่งข้อมูลภายนอก ได้แก่ ข้อมูลขบวนการในการผลิตใหม่ๆ ซึ่งอาจมาจากบริษัท, วารสาร และสิ่งพิมพ์อื่นๆ หรือได้จาก เครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือข้อมูลเกี่ยวกับสภาพวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้สามารถคาดเดาในเรื่องของแรงงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับวัตถุดิบได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลภายนอกอื่นๆ อีก เช่น องค์กรผู้เชี่ยวชาญต่างๆ, สมาคมทางธุรกิจ ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งขัน ทั้งในด้านขบวนการผลิตและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่น่าสนใจได้

  9. ระบบย่อยและผลที่ได้จากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิตระบบย่อยและผลที่ได้จากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต •  ระบบย่อยและผลลัพธ์ที่ได้จากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต ได้แก่ การตรวจสอบและควบคุมการไหลเวียนของวัตถุดิบ, สินค้า และบริการต่างๆภายในองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่เริ่มขบวนการนำวัตถุดิบมาผ่านขั้นตอนการผลิตจนกระทั่งเสร็จเป็นสินค้าและบริการที่จะส่งไปยังลูกค้า โดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ระบบย่อยและผลลัพธ์ที่ได้จากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต ได้แก่

  10. ระบบย่อย • 1. การออกแบบและการปฏิบัติเชิงวิศวกรรม (Design and Engineering)ได้แก่การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยสามารถใช้ระบบการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (Computer-Aided Design : CAD) ซึ่งเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ โดยผู้ใช้สามารถออกแบบและแก้ไข ตัวแบบได้เองบนจอภาพ • 2. การจัดตารางการผลิต (Production Planning)เพื่อจัดการรายละเอียดแผนงานการผลิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่ทำงานในด้านนี้เข้ามาช่วย ซึ่งในซอฟต์แวร์นี้อาจมีคุณสมบัติในการทำนายและพิจารณาหาความต้องการของสินค้าและบริการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ทำให้สามารถวางแผนเพื่อกำหนดการผลิตให้ได้ตรงตามความต้องการ

  11. ระบบย่อย • 3. การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) ได้แก่การใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสั่งซื้อ, การทำนาย, การผลิตเอกสารและรายงานร้านค้า, การพิจารณาหาค่าใช้จ่ายในการผลิต, การวิเคราะห์งบประมาณค่าใช้จ่ายที่วางไว้เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายจริง, และการพัฒนาตารางการผลิต, บอกความต้องการทรัพยากรในการผลิตและวางแผนการผลิตได้อย่างอัตโนมัติ โดยปกติแล้วซอฟต์แวร์ต่างๆเหล่านี้จะมีสูตรในการคำนวณเพื่อหาจำนวนวัตถุดิบและช่วงเวลาที่จะต้องสั่งซื้อได้ วิธีการหาว่าต้องสั่งสินค้ามาไว้ในคลังปริมาณเท่าใดเรียกว่าวิธีการกาปริมาณหารสั่งซื้อมางเศรษฐกิจ (Economic Order Quantity : EOQ) โดยปริมาณที่หาได้นี้จะต้องทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุดด้วย ส่วนการหาว่าต้องสั่งสินค้ามาไว้ในคลังเมื่อใดจะใช้วิธีการหาจุดสั่งซื้อเพิ่ม Reorder Point : ROP) ซึ่งแสดงถึงค่าระดับปริมาณสินค้าคงคลังที่วิกฤติ

  12. ระบบย่อย • 4. การวางแผนการใช้ทรัพยากรการผลิต(Manufacturing Resource Planning : MRPII) ได้แก่ระบบที่ใช้การวางแผนเครือข่ายเพื่อให้บุคคลต่างๆ สามารถดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการและผลผลิตแก่ลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่เสียค่าใช้จ่ายและมีสินค้าหรือวัตถุดิบในคลังสินค้าในปริมาณต่ำ โดยมีการทำนายความต้องการของลูกค้า, การควบคุมสินค้าคงคลัง, การวางแผนการผลิต, การแสดง รายการวัตถุดิบที่ต้องใช้, การวางแผนการสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่ต้องใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ จะถูกส่งไปให้แก่ลูกค้าได้ในเวลาที่ต้องการ

  13. ระบบย่อย •  5. การควบคุมสินค้าและการผลิตที่ทันเวลา (Just-in-Time Inventory and Manufacturing) การเก็บสินค้าและวัตถุดิบในคลังสินค้าเป็นจำนวนมากทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง และอาจเกิดการเสียหายได้ ดังนั้นวัตถุประสงค์หนึ่งของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิตก็คือ การควบคุมสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด โดยไม่กระทบกับความต้องการในการนำสินค้าหรือวัตถุดิบนั้นไปใช้ในการผลิต วิธีที่นิยมใช้ได้แก่วิธีการควบคุมคลังสินค้าแบบทันเวลา (Just-in-Time : JIT Inventory Approach)ซึ่งสินค้าและวัตถุดิบจะถูกส่งไปให้ในช่วงเวลาก่อนที่จะสินค้าหรือวัตถุดิบนั้นไปใช้ในการผลิต ทำให้ไม่ต้องเก็บไว้ในคลังสินค้าเป็นช่วงเวลานานๆ

  14. ระบบย่อย • 6. การควบคุมขบวนการผลิต ในการควบคุมการผลิตมีเทคโนโลยีที่สนับสนุนมากมาย เช่น การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (Computer-Aided Manufacturing : CAM) เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยการด้านการผลิต เช่น การตรวจสอบและติดตาม ได้แก่การควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในการผลิตต่างๆ การตรวจสอบค่าและข้อกำหนดในการผลิตต่างๆ เช่น อุณหภูมิที่ใช้ ค่าความดันอากาศฯลฯ หรือใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการกำหนดรหัสสินค้า การจัดลำดับในขบวนการผลิต เป็นต้น

  15. ระบบย่อย • 7. การนำคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยในการผลิต (Computer-Integrated Manufacturing : CIM) ได้แก่การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆในขบวนการผลิตเข้าด้วยกันเป็นระบบที่มี ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมขั้นตอนการผลิตทั้งหมด เช่น การประมวลผลการสั่งซื้อ, การออกแบบผลิตภัณฑ์, การผลิต การควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพ และการขนส่งเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธภาพในด้านการทำงานส่วนต่างๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน โดยอาจนำระบบการผลิตแบบคล่องตัว (Flexible Manufacturing System : FMS)เข้ามาใช้ร่วมด้วย ทำให้สามารถเปลี่ยนการผลิตสินค้าอย่างหนึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  16. ระบบย่อย •  8. การควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control and Testing) ได้แก่ ขบวนการในการในการควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ผลิตออกมาตรงตามที่ลูกค้า ต้องการ โดยใช้ซอฟต์แวร์ในการควบคุมคุณภาพ ต่างๆ ผลลัพธ์ที่ได้จากระบบการควบคุมคุณภาพ ได้แก่รายงาน ค่าใช้จ่ายที่ลดลงและยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยสารสนเทศที่ได้จากระบบนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับ อุปกรณ์การผลิตและรายงานควบคุมคุณภาพยังใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อีกด้วย

  17. Unit 3 BA2604 : Business Information System A. ขอบข่ายงานการผลิต 1. ความรู้เบื้องต้นการผลิต 1.1 ระบบการผลิตประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วน คือ ปัจจัยการผลิต (Input)คือ ส่วนของทรัพยากรที่ประกอบไปด้วย เงินทุน แรงงาน เครื่องจักร ที่ดิน วัตถุดิบ และความรู้ความสามารถในด้านการจัดการ การบวนการแปลงสภาพ (Conversion Process)คือ ประกอบด้วยวิธี ในการผลิตสินค้า วิธีการจัดลำดับการผลิต การวางแผน การจัดสรรกำลังคนเพื่อการผลิต และอื่นๆ ผลผลิต (Output)คือ สินค้าที่ต้องการในปริมาณและคุณภาพที่กำหนดและในเวลาที่ต้องการ ตลอดจนต้นทุนที่กำหนด และปริสิทธิภาพระบบการผลิตที่สูง ส่วนป้อนกลับ (Feedback)คือ ส่วนที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของกระบวนการ เพื่อให้การทำงานของระบบการผลิตบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนนี้จะทำหน้าที่ประเมินผลผลิต เช่น ปริมาณและคุณภาพของสินค้าที่ผลิตได้ นำมาเปรียบเทียบกับแผนที่วางไว้ ผลกระทบจากภายนอกที่เปลี่ยนแปลงโดยคาดหมายไม่ได้ (Random Fluctuation)เช่น สภาพการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ อุบัติเหตุและภัยธรรมชาติ การขัดข้องเสียหายของเครื่องจักร เป็นต้น

  18. Unit 3 BA2604 : Business Information System

  19. Unit 3 BA2604 : Business Information System ตัวอย่างของระบบผลผลิตสินค้าทางการเกษตร

  20. Unit 3 BA2604 : Business Information System 1.2 การจัดการด้านการผลิต มี 5 ขั้นตอน การวางแผนเป็นการตัดสินใจกำหนดวัตถุประสงค์ และเป้าหมาย เช่น กำหนดว่าจะทำอะไร อย่างไร ที่ไหน และเมื่อไร การจัดองค์กรเป็นการกำหนดโครงสร้างและบทบาทตลอดจนความสัมพันธ์ของหน่วยงาน เช่น การกำหนดผู้รับผิดชอบในงานและตำแห่นงงาน การจัดคนเข้าทำงานเป็นจัดคนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในตำแหน่งงาน รวมถึงสวัสดิการ เช่น การวางแผนความต้องการกำลังคน การสั่งการเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดวิธีและแนวทางเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมมือ ร่วมใจกันทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรซึ่งได้แก่ การจูงใจและสร้างภาวะความเป็นผู้นำ การติดต่อสื่อสารและการใช้อำนาจตามหน้าที่ เป็นต้น การควบคุมเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการติดตาม การประเมินและการดำเนินการ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับแผนงานที่วางไว้ กำหนดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอาจทำโดยปรับโครงสร้างของหน่วยงานปรับปัจจัยการผลิต หรือปรับแผนงานที่วางไว้แต่เดิม

  21. Unit 3 BA2604 : Business Information System 2. กิจกรรมการจัดการด้านการผลิต

  22. Unit 3 BA2604 : Business Information System • 2. กิจกรรมการจัดการด้านการผลิต(ต่อ) • 1.   การพัฒนาผลิตภัณฑ์คือการวางแผนสินค้าต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาแนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอออกสู่ตลาด • 2.   การวางแผนเพื่อผลิตสินค้า • 2.1  การวางแผนระบบการผลิตและแปลงสภาพ • การวางแผนกำลังการผลิต (Capacity Planning) • การวางแผนเลือกที่ตั้งโรงงาน (Plant Location Planning) • การวางแผนกระบวนการผลิต (Process Planning) • การวางแผนผังโรงงาน (Plant Payout Planning) • การวางแผนจัดองค์กร (Organization Planning) • การวางแผนผลิตภัณฑ์ (Product Planning)

  23. Unit 3 BA2604 : Business Information System • 2.2  การวางแผนการใช้ระบบการผลิตและแปลงสภาพ • การพยากรณ์การผลิต (Product Forecasting) •  การวางแผนการผลิตรวม (Aggregate Planning) •  การจัดลำดับการผลิต (Job Scheduling) •  การวางแผนและจัดลำดับโครงการ (Project Planning and Scheduling) •  การวางแผนบุคลากร (Personnel Planning) • 3.   การดำเนินการผลิต • 3.1 การสั่งการด้านการผลิต (Operation Directing) • 3.2 การมอบหมายงานด้านการผลิต (Job Assignment) • 3.3 การสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) • 3.4 การกำหนดมาตรฐานการผลิต (Operations Standard) • 3.5 การปรับปรุงการผลิต (Job Improvement)

  24. Unit 3 BA2604 : Business Information System • 4.   การควบคุมการผลิต • 4.1  การควบคุมคุณภาพ (Quality Control) • 4.2  การควบคุมปริมาณ (Quantity Control) • 4.3  การควบคุมสินค้าคงเหลือ (Inventory Control) • 4.4  การควบคุมต้นทุน (Cost Control) • 4.5  การวัดงาน (Work Measurement) • 4.6  การบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต (Machine Maintenance) • 4.7  การควบคุมสภาพแวดล้อมการผลิต (Environmental Control)

  25. 1. ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2. ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผนการผลิต 3. ระบบสารสนเทศเพื่อการดำเนินการและควบคุมการผลิต B. ระบบสารสนเทศเพื่องานการผลิต

  26. Unit 3 BA2604 : Business Information System • ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ • สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ • 1. รายละเอียดลักษณะของผลิตภัณฑ์ • 2. ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่กำหนดวิธีการผลิต • 3. วิธการผลิตที่นำไปสู่การกำหนดระบบการผลิต • การพัฒนาผลิตภัณฑ์มีขั้นตอนสำคัญ 7 ขั้นตอน คือ • 1. การศึกษาความเป็นได้ทางเศรษฐศาสตร์และเทคนิค • 2. การออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบ • 3. การทดสอบสมรรถนะผลิตภัณฑ์ต้นแบบ • 4. การประเมินความเป็นไปได้ทางการตรวจและทางเศรษฐศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ ต้นแบบ • 5. การออกแบบระบบการผลิต • 6. การประเมินผลทางการตลาด สมรรถนะผลิตภัณฑ์ ทดสอบกระบวนการผลิต • 7. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของกระบวนการผลิต

  27. Unit 3 BA2604 : Business Information System ข้อมูลนำเข้าและสารสนเทศที่ได้จากระบบสารสนเทศด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ • ข้อมูลนำเข้า • ความต้องการของลูกค้า • ผลจากการวิจัยและพัฒนา • สภาพการแข่งขันทางการตลาด • เทคโนโลยีการผลิตที่มีในอุตสาหกรรม • ราคาสินค้าของคู่แข่ง • วัตถุดิบที่มีในอุตสาหกรรม • ฯลฯ • สารสนเทศที่ได้ • รูปแบบผลิตภัณฑ์ • ราคาจำหน่าย • ปริมาณการผลิต • กรรมวิธีการผลิต • เครื่องจักรที่เลือกใช้ • วัตถุดิบที่เลือกใช้ • แผนผังกระบวนการผลิต • ฯลฯ

  28. 2. ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผนการผลิต จำแนกได้เป็น แผนระยะยาว ได้แก่ แผนผลิตรวม แผนระยะปานกลาง ได้แก่ แผนความต้องการวัสดุ แผนระยะสั้น ได้แก่ แผนการผลิตในระดับปฏิบัติการ

  29. Unit 3 BA2604 : Business Information System แผนการผลิตระยะยาว • ข้อมูลนำเข้า • แผนธุรกิจ • ค่าพยากรณ์ทางการตลาด • กำลังการผลิตที่มีอยู่ • แผนการบำรุงรักษาเครื่องจักร • นโยบายการจ้างงาน • นโยบายการจัดเก็บสินค้าคงเหลือ • ฯลฯ • สารสนเทศที่ได้ • แผนการผลิต • แผนกำลังคน • แผนการใช้เครื่องจักร • แผนการจ้างทำภายนอก • แผนเตรียมการด้านวัตถุดิบ และสินค้าคงเหลือ • ประมาณการต้นทุนการผลิต • ฯลฯ

  30. Unit 3 BA2604 : Business Information System แผนการผลิตระยะปานกลาง • สารสนเทศที่ได้ • แผนแม่บทเพื่อการผลิต • แผนความต้องการวัสดุ • แผนความต้องการกำลังผลิต • แผนการทำงานล่วงเวลา • แผนการจ้างทำภายนอก • แผนการจัดเก็บสินค้าคงเหลือ • ประมาณการต้นทุนการผลิต • ฯลฯ • ข้อมูลนำเข้า • คำสั่งซื้อจากลูกค้า • ค่าพยากรณ์การขาย • จำนวนวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือที่มีอยู่ • เงื่อนไขการสั่งซื้อและผลิต • กำลังการผลิตของหน่วยผลิต • ลำดับขั้นตอนการผลิต • ฯลฯ

  31. Unit 3 BA2604 : Business Information System แผนการผลิตระยะสั้น • สารสนเทศที่ได้ • แผนผลิตในระดับปฏิบัติการ • แผนลำดับการผลิต • แผนการมอบหมายงาน • แผนการจัดส่งงานให้ลูกค้า • แผนเร่งรัดงาน • ฯลฯ • ข้อมูลนำเข้า • สมรรถนะของเครื่องจักร • ความพร้อมของเครื่องจักร • ความพร้อมของพนักงาน • จำนวนวันทำงานที่มีอยู่ • ความพร้อมของวัตถุดิบ • ลำดับขั้นตอนการผลิต • กำหนดวันส่งงาน • ฯลฯ

  32. Unit 3 BA2604 : Business Information System 3. ระบบสารสนเทศเพื่อการดำเนินการและควบคุมการผลิต • สารสนเทศที่ได้ • รายงานผลผลิต • รายงานคุณภาพ • รายงานต้นทุนการผลิต • รายงานด้านเวลา • รายงานด้านความปลอดภัย • รายงานด้านการหยุดงานของเครื่องจักร • รายงานเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ • ฯลฯ • ข้อมูลนำเข้า • แผนการมอบหมายงานให้แก่พนักงานและเครื่องจัก • จำนวนผลิตที่ได้จากแต่ละหน่วยผลิต • จำนวนของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต • ชั่วโมงทำงานของเครื่องจักร • จำนวนครั้งและชั่งโมงขัดข้องของเครื่องจักร • ต้นทุนค่าแรงมาตรฐาน • จำนวนสินค้าคงคลังเหลือที่มีอยู่ในคลังและ สายการผลิต • ปริมาณการเบิกจ่ายวัสดุเพื่อการผลิต • จำนวนอุบัติเหตุและความรุนแรง • ฯลฯ

  33. Unit 3 BA2604 : Business Information System C .เทคโนโลยีระบบสารสนเทศของงานการผลิต • 1. เทคโนโลยีการผลิต จำแนกได้เป็น 3 ประเภท • 1.   เทคโนโลยีประเภทใช้แรงงาน (Manual Technology) • 2.   เทคโนโลยีประเภทใช้เครื่องจักร (Mechanized Technology) • 3.   เทคโนโลยีประเภทอัตโนมัติ (Automated Technology) • 3.1 หุ่นยนต์อุตสาหกรรม • 3.2 ระบบอัตโนมัติตายตัว • 3.3 เครื่องจักรเอ็นซี • 3.4 ระบบคอมพิวเตอร์ออกแบบและระบบคอมพิวเตอร์ช่วยการผลิต • 3.5 ระบบการผลิตยืดหยุ่นหรือระบบเอฟเอ็มเอส • 3.6 ระบบคอมพิวเตอร์รวมการผลิต

  34. Unit 3 BA2604 : Business Information System วิวัฒนาการและองค์ประกอบของเทคโนโลยีการผลิต

  35. Unit 3 BA2604 : Business Information System 2. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ ใช้ช่วยได้ใน 3 ด้านด้วยกัน คือ 1. การออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย 2. การทดสอบแบบจะลองโดยอาศัยคอมพิวเตอร์ 3. การเขียนแบบอัตโนมัติ

  36. Unit 3 BA2604 : Business Information System ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) คือ เป็นสาขาวิทยาการความรู้ ซึ่งพยายามจะทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถในการศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อช่วยในการแก้ ปัญหา ในการตัดสินใจนั้นจำเป็นจะต้องอาศัยเหตุผลอันได้จากการเรียนรู้โดยการเลียนแบบวิธีการของมนุษย์ในการแก้ไขปัญหา สามารถแบ่งได้เป็น 6 ด้าน คือ 1. ระบบผู้เชี่ยวชาญ 4. การควบคุมหุ่นยนต์ 2. งานพัฒนาซอฟต์แวร์ 5. การเข้าใจในคำพูด 3. การประมวลผลโดยภาษธรรมชาติ 6. ความสามารถในการเห็นของคอมพิวเตอร์

  37. คอมพิวเตอร์ช่วยการผลิตแบบบูรณาการ (Computer-integrated Manufacturing : CIM)

  38. เป้าหมายโดยรวมของ CIM และระบบสารสนเทศโรงงาน คือ การสร้างกระบวนการทำงานของโรงงานให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว โดยการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ดังนั้น ระบบ CIM จึงสนับสนุนแนวคิดเรื่องระบบการผลิตที่มีความยืดหยุ่น การผลิตที่มีความคล่องตัว และการจัดการคุณภาพโดยรวม (Total Quality Management)

  39. ระบบสารสนเทศช่วยให้บริษัททำงานได้ง่าย เป็นอัตโนมัติ และผสมผสานงานที่ต้องการในการผลิตผลิตภัณฑ์ทุกชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ถูกใช้เพื่อช่วยให้วิศวกรออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้นโดยใช้ทั้งคอมพิวเตอร์ช่วยในงานวิศวกรรม (Computer-aided Engineering : CAE) และคอมพิวเตอร์ช่วยงานออกแบบ (Computer-aided Design : CAD) พวกเขายังใช้ช่วยในการวางแผนประเภทของวัตถุดิบที่ต้องการในกระบวนการผลิต ที่เรียกว่า การวางแผนความต้องการด้านวัตถุดิบ (Material Requirements Planning - MRP) และการผสมผสาน MRP เข้ากับตารางการผลิต (Production Scheduling) และการจัดการด้านคนงาน (Shop Floor Operations) ซึ่งรู้จักกันในชื่อ การวางแผนทรัพยากรด้านการผลิต (Manufacturing Resource Planning)

  40. คอมพิวเตอร์ช่วยงานด้านการผลิต (Computer-aided Manufacturing-CAM) เป็นระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยในขั้นตอนการผลิต ระบบนี้สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยการตรวจตราและควบคุมกระบวนการผลิตในโรงงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ช่วยบริหารงานด้านการผลิต (Manufacturing Execution Systems - MES) หรือการควบคุมทางกายภาพโดยตรง ( การควบคุมการดำเนินงาน) เครื่องจักร ( ควบคุมเครื่องจักร) เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพการทำงานเหมือนคน ( หุ่นยนต์)

  41. ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยบริหารงานด้านการผลิต ทำหน้าที่ในการดูแลระบบสารสนเทศสำหรับการบริหารงานในการผลิต ระบบนี้ทำการตรวจตรา ติดตาม และควบคุม 5 องค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการผลิตอันได้แก่ วัตถุดิบ เครื่องมือ บุคลากร การดำเนินงานตามขั้นตอนที่วางไว้ และ การกำหนดคุณลักษณะให้ตรงกับที่ต้องการ รวมทั้ง อำนวยความสะดวกในการผลิต MES ยังรวมไปถึงตารางการทำงานของคนงานและการควบคุม การควบคุมเครื่องจักร การควบคุมหุ่นยนต์ และ ระบบการควบคุมกระบวนการทำงาน ระบบการผลิตแบบนี้จะทำการตรวจตรา รายงาน และจัดระเบียบให้กับสถานภาพและการดำเนินงานขององค์ประกอบต่างๆในการผลิต เพื่อช่วยให้บริษัทได้รับกระบวนการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและคุณภาพสูง

  42. ผลตอบแทนที่ได้รับจากระบบคอมพิวเตอร์ในการผลิตแบบบูรณาการ (Computer-integrated Manufacturing System) สามารถให้ผลตอบแทนในการผลิตของบริษัทดังนี้ • ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการผลิตซึ่งทำให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงตรงกับความเปลี่ยนแปลงทางการตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว • นอกจากนี้ CIM ยังได้รับผลที่ดีจากระบบการทำงานที่ความสะดวกและเป็นระบบอัตโนมัติ การวางแผนตารางการผลิตที่ดีกว่า และ เกิดความสมดุลของปริมาณการผลิตกับประสิทธิภาพในการผลิต สิ่งเหล่านี้ได้ปรับปรุงการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตและเพิ่มผลผลิตมากกว่าเดิม และการควบคุมคุณภาพที่ดีกว่ามาจากการตรวจตรา • ผลสะท้อนกลับ และการควบคุมการดำเนินการของโรงงาน เครื่องจักร และหุ่นยนต์ให้เป็นเป็นประโยชน์ • การลดต้นทุนในการผลิตสินค้าคงคลังและความคล่องตัวผ่านการทำงานที่ง่ายขึ้น นโยบายสินค้าคงคลังแบบทันเวลา (Just-in-time) • และการวางแผนที่ดีกว่าและการควบคุมการผลิต และทำให้สินค้าเสร็จตามต้องการ • ความพอใจของลูกค้าได้ถูกปรับปรุงด้วยการผลิตอย่างรวดเร็วตามที่ลูกค้าสั่ง ลดสถานการณ์สินค้าขาดได้อย่างเห็นผล และผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงตรงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

  43. เครือข่ายความร่วมมือในการผลิต (Collaborative Manufacturing Network) • การควบคุมการดำเนินงาน (Process Control) • การควบคุมเครื่องจักรกล (Machine Control) • หุ่นยนต์ (Robotics)

  44. คอมพิวเตอร์ช่วยงานด้านวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering - CAE) วิศวกรด้านการผลิตใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยงานด้านวิศวกรรม CAE สร้างแบบจำลองเพื่อการทดสอบ การวิเคราะห์ และการประเมินต้นแบบของการออกแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งพวกเขาได้พัฒนาขึ้น โดยการใช้วิธีการด้านคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการออกแบบ (Computer Aided Design - CAD) ช่วยวิเคราะห์และออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงกระบวนการผลิตในโรงงาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น CAD Package ช่วยในงานวาดภาพของวิศวกรและช่วยให้เกิดภาพกราฟิก 3 มิติซึ่งสามารถทำให้หมุนไปรอบๆ เพื่อที่จะมองวัตถุได้ทั้ง 3 ด้าน สามารถมองในระยะใกล้ เพื่อมองส่วนประกอบเฉพาะส่วนและสามารถแสดงการเคลื่อนไหวเหมือนกับการทำงานกับของจริง การออกแบบนี้สามารถแปลงไปสู่แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของผลงานที่ได้ทำสำเร็จแล้ว

More Related