200 likes | 455 Views
หลักสูตรอบรม การวัดประสิทธิภาพและผลิตภาพของการผลิตสินค้าเกษตร. ผศ. ดร. ศุภวัจน์ รุ่งสุริยะวิบูลย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. Lecture 5: ขอบเขตเนื้อหา. การเพิ่มผลผลิต และการเติบโตการเพิ่มผลผลิต การวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนี
E N D
หลักสูตรอบรมการวัดประสิทธิภาพและผลิตภาพของการผลิตสินค้าเกษตรหลักสูตรอบรมการวัดประสิทธิภาพและผลิตภาพของการผลิตสินค้าเกษตร ผศ. ดร. ศุภวัจน์ รุ่งสุริยะวิบูลย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Lecture 5: ขอบเขตเนื้อหา • การเพิ่มผลผลิต และการเติบโตการเพิ่มผลผลิต • การวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนี • ตัวเลขดัชนี Laspeyres, Paasche, Fisher, Tornqvist • การแยกค่าการเพิ่มผลผลิตด้วยวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม
การวัดการเพิ่มผลผลิต • การเพิ่มผลผลิต (productivity) = ปริมาณผลผลิต (outputs) ปริมาณปัจจัยการผลิต (inputs) • ถ้ากระบวนการผลิตประกอบไปด้วยผลผลิตและปัจจัยการผลิตจำนวนมากกว่าหนึ่งชนิด การเพิ่มผลผลิตที่วัดได้ หมายถึง การเพิ่มผลผลิตของปัจจัยการผลิตรวม (total factor productivity, TFP)
การเติบโตการเพิ่มผลผลิตของปัจจัยการผลิตรวมการเติบโตการเพิ่มผลผลิตของปัจจัยการผลิตรวม • ถ้ากระบวนการผลิตประกอบไปด้วยผลผลิตและปัจจัยการผลิตจำนวนหนึ่งชนิด การเติบโตการเพิ่มผลผลิตของปัจจัยการผลิตรวม (total factor productivity growth, TFPgrowth) ระหว่างช่วงเวลาที่ 1 และ 2 คือ • ตัวอย่าง สัปดาห์ที่ 1 นาย ก ทำความสะอาดหน้าต่าง 10 บาน ภายใน 8 ชม สัปดาห์ที่ 2 นาย ก ทำความสะอาดหน้าต่าง 20 บาน ภายใน 12 ชม TFP เพิ่มขึ้น = 1.66-1.25 = 0.41 TFP growth เพิ่มขึ้นเท่ากับ 33%
การวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนีการวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนี • ในระยะเริ่มต้น การเพิ่มผลผลิตวัดโดยการใช้วิธี ตัวเลขดัชนี (index number) TFP index = Output index Input index • ตัวเลขดัชนีที่นิยมใช้ได้แก่ 1. Laspeyres 2. Paasche 3. Fisher 4. Tornqvist • ตัวเลขดัชนีทั้ง 4 แตกต่างกันตรงการให้คำนิยามเกี่ยวกับค่าน้ำหนักที่กำหนด และระยะเวลาที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณ • กำหนดผลผลิตจำนวน N ชนิด และระยะเวลาที่ใช้ คือ s และ t pis และ qis คือ ราคาและปริมาณสินค้าของผลผลิตที่ i ณ เวลา s pit และ qit คือ ราคาและปริมาณสินค้าของผลผลิตที่ i ณ เวลา t
ตัวเลขดัชนีราคา Laspeyres • กำหนดระยะเวลา s เป็นฐานในการคำนวณหาค่าน้ำหนัก • ตัวเลขดัชนีราคา Laspeyres หาได้จากความสัมพันธ์ • ตัวอย่าง
ตัวเลขดัชนีราคา Paasche • กำหนดระยะเวลา t เป็นฐานในการคำนวณหาค่าน้ำหนัก • ตัวเลขดัชนีราคา Paasche หาได้จากความสัมพันธ์ • ตัวอย่าง
ตัวเลขดัชนีราคา Fisher • ตัวเลขดัชนีราคา Fisherหาได้จากความสัมพันธ์ • จากตัวอย่างที่ผ่านมา
ตัวเลขดัชนีราคา Tornqvist • ตัวเลขดัชนีราคา Tornqvistหาได้จากความสัมพันธ์ • จากตัวอย่างที่ผ่านมา
ตัวเลขดัชนีปริมาณผลผลิตตัวเลขดัชนีปริมาณผลผลิต • ตัวเลขดัชนีปริมาณผลผลิตทั้ง 4 หาได้จากความสัมพันธ์
ตัวเลขดัชนีปริมาณผลผลิตตัวเลขดัชนีปริมาณผลผลิต • จากตัวอย่างที่ผ่านมา
ตัวอย่างการวัด TFP growth • จากตัวอย่างที่ผ่านมา • หา TFP growth โดยใช้ตัวเลขดัชนี Tornqvist ระหว่างช่วงเวลาที่ 1 และ 2 • TFP growth ลดลง 9.3% ระหว่างช่วงเวลาที่ 1 และ 2
การวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนีการวัดการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีตัวเลขดัชนี • ข้อดี 1. สามารถทำการคำนวณได้ง่าย โดยใช้ข้อมูลของราคาและปริมาณการผลิตที่เกิดขึ้นจริงในการคำนวณ 2. ต้องการข้อมูลทางด้านการผลิตอย่างน้อยเพียง 2 จุดเท่านั้นในการคำนวณ • ข้อเสีย ไม่สามารถหาองค์ประกอบต่างๆที่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มผลผลิต • ต่อมาได้พัฒนาวิธีที่เรียกว่า การวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม (stochastic frontier analysis) ซึ่งเป็นการกำหนดฟังก์ชันที่นำมาใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีการผลิตสำหรับกระบวนการผลิต • โดยอาศัยเทคนิคการหาค่าเหมาะสม (non-parametric technique) และเทคนิคการประเมินค่าตัวแปร (parametric technique)
การแยกค่าการเติบโตการเพิ่มผลผลิตการแยกค่าการเติบโตการเพิ่มผลผลิต • พิจารณากระบวนการผลิตที่ประกอบไปด้วยเชตของผลผลิต M ชนิดและปัจจัยการผลิต K ชนิด ภายใต้สมมติฐานที่ว่าระยะที่ผลได้ต่อขนาดลดลง • หน่วยผลิตทำการผลิต (xt,yt) ที่เวลา t และผลิต (xt+1,yt+1) ที่เวลา t+1 • เทคโนโลยีการผลิตที่เวลา t ถูกแทนด้วย Stและที่เวลา t+1 ถูกแทนด้วย St+1
การแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่มการแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม • พิจารณากระบวนการผลิตที่ประกอบไปด้วยผลผลิต 1 ชนิดและปัจจัยการผลิต K ชนิด ฟังก์ชันเส้นพรมแดนการผลิตที่มีรูปแบบ Translog สามารถแสดงได้ดังนี้ โดยที่ ynt, xntคือ ผลผลิตและปัจจัยการผลิตของหน่วยผลิตที่ n ที่เวลา t
การแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่มการแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม • การเพิ่มผลผลิตประกอบไปด้วยองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้ • ภายหลังจากที่ตัวแปรต่างๆที่อยู่ในเส้นพรมแดนการผลิตถูกประเมิน องค์ประกอบต่างๆของการเพิ่มผลผลิตสามารถคำนวณได้ดังนี้
การแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่มการแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม • พิจารณากระบวนการผลิตที่ประกอบไปด้วยผลผลิต M ชนิดและปัจจัยการผลิต K ชนิด ฟังก์ชันระยะทางปัจจัยการผลิตที่มีรูปแบบ Translog สามารถแสดงได้ดังนี้ • จากคุณสมบัติการเป็นฟังก์ชันเอกพันธ์ลำดับที่ 1 ในปัจจัยการผลิต จะได้ • ฟังก์ชันระยะทางผลผลิตสามารถเขียนใหม่ได้เป็น
การแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่มการแยกค่าการเพิ่มผลผลิตวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม • กำหนด -dnti = vnt-unt ทำให้สามารถประเมินค่าตัวแปรต่างๆโดยวิธีวิเคราะห์เส้นพรมแดนเชิงเฟ้นสุ่ม • ภายหลังจากที่ตัวแปรต่างๆที่อยู่ในเส้นพรมแดนการผลิตถูกประเมิน องค์ประกอบต่างๆของการเพิ่มผลผลิตสามารถคำนวณได้ดังนี้