สถานที่ท่องเที่ยวทางภาคอีสาน

1. สถานที่ท่องเที่ยวทางภาคอีสานสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคอีสาน

2. ลานหินงามจังหวัดชัยภูมิลานหินงามจังหวัดชัยภูมิ

3. จังหวัดชัยภูมิ หินก้อนน้อยใหญ่รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด เป็นประติมากรรมที่เกิดจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติ ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่กว่า 10ไร่ ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สายฝนและสายลมที่ได้ทำกัดเซาะเนื้อดินและหินอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการก่อรูปและเปลี่ยนรูปของเหล่าหินที่มีความสวยงามแปลกตาเหล่านี้ "ลานหินงาม" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติและสามารถเดินทางเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์สถานที่ตั้ง • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม, อำเภอเทพสถิต, การเดินทาง • ใช้ทางหลวงหมายเลข 205 จากนครราชสีมาขึ้นไปทางทิศเหนือ ขับตามถนนที่มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกประมาณ 110 กิโลเมตร เลี้ยวขวาสู่ทางหลวงหมายเลข 2354 และขับต่อไปอีก 20 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตามถนนนี้ไปอีก 14 กิโลเมตร ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม

4. จุดชมวิวหินช้างสีจังหวัดข่อนแก่นจุดชมวิวหินช้างสีจังหวัดข่อนแก่น

5. จังหวัดขอนแก่น • จุดชมวิวหินช้างสี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนสันเขาป่าโสกนกแต้ เหนือที่ทำการอุทยานแห่งชาติขึ้นไป เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามตระการตา ที่จุดชมวิวแห่งนี้ มีลานหินขนาดใหญ่ที่มีก้อนหินรูปคล้ายหัวกระโหลกตั้งโดดเด่นอยู่บนจุดสูงสุด จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้โดยรอบ จะเห็นวิวมุมกว้างของผืนป่าใหญ่อันเขียวขจีทางด้านทิศเหนือ ใต้ และตะวันออก ส่วนทางทิศตะวันตก จะเป็นทัศนียภาพของธรรมชาติอันงดงามและกว้างไกลของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่ไกลออกไป โดยมีเทือกเขาภูเวียงและภูเก้าที่สูงสง่าเป็นฉากหลัง ยามเช้าในฤดูหนาวที่สายหมอกล่องลอยไล่เลี่ยพื้นน้ำ ดูคล้ายกับลูกคลื่นในท้องทะเล ส่งผลให้จุดชมวิวหินช้างสีมีเสน่ห์และน่าหลงไหลสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น บริเวณนี้จึงเหมาะสำหรับการตั้งแคมป์ค้างแรมของผู้ที่ชื่นชอบและต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริเวณหินช้างสียังพบภาพเขียนเลขาคณิตอันเป็นร่องรอยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วย • สถานที่ตั้ง • อุทยานแห่งชาติน้ำพอง, อำเภอหนองเรือ, การเดินทาง • ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 จากตัวเมืองขอนแก่น จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตรที่ 30 และขับต่อไปอีก 19 กิโลเมตร ที่ทำการอุทยานแห่งชาติจะตั้งอยู่บนเขาทางด้านขวามือ รวมระยะทางโดยประมาณ 49 กิโลเมตร จุดชมวิวหินช้างสีตั้งอยู่ไม่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติมากนัก ใช้เวลาเดินเท้าลัดเลาะไปตามสันเขาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือจะขับรถอ้อมไปขึ้นทางด้านบ้านคำหญ้าแดง ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของอุทยานแห่งชาติก็ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยการเดินเท้าอีกประมาณ 10 กว่านาที

6. หาดทรายทองศรีโคตรบูรจังหวัดนครพนมหาดทรายทองศรีโคตรบูรจังหวัดนครพนม

7. จังหวัดนครพนม หาดทรายทองศรีโคตรบูร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ Unseen Thailand ที่นักท่องเที่ยวยุคใหม่ไม่ควรพลาด ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่รายล้อมไปด้วยผืนแผ่นดิน ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่หนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของที่นี่กลับเป็นหาดทรายอันงดงาม โดยหาดทรายทองศรีโคตรบูร เป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง โดยหาดทรายจะปรากฎให้เห็นในฤดูแล้งเท่านั้น ซึ่งตรงกับประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม บริเวณหาดทรายจะยื่นยาวออกไปไกลจนถึงกลางแม่น้ำโขง โดยหาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการแขวงคำม่วนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยว เล่นน้ำ และพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ โดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า คุณจะได้ชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา และช่วงเวลาที่งดงามที่สุดนี้ มีให้คุณได้เพลิดเพลินไปจนถึงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าเลยทีเดียวสถานที่ตั้ง • อำเภอเมืองการเดินทาง • จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ไปยังจังหวัดขอนแก่น จากนั้นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 209, 213, และ 22 ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ และสกลนคร จนเข้าสู่จังหวัดนครพนม

8. น้ำตกเหวนรกจังหวัดนครราชสีมาน้ำตกเหวนรกจังหวัดนครราชสีมา

9. จังหวัดนครราชสีมา น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานฝั่งจังหวัดนครนายก น้ำตกที่นี่มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นสูงสุดมีความสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงและเร็วมากสถานที่ตั้ง • อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อำเภอปากช่อง,จังหวัดนครราชสีมาการเดินทาง • ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จากตัวเมืองสระบุรี และมุ่งไปยังจังหวัดนครราชสีมาที่หลักกิโลเมตรที่ 144 ระยะทางรวมประมาณ 37.7 กิโลเมตร กลับรถที่ถนนเลนที่อยู่ขวาที่สุด แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ และเลี้ยวซ้าย ขับตรงไปต่อจนถึงสำนักงานขายตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติที่ทางเข้าอุทยานฯ

10. ทะเลสาบหนองหานจังหวัดสกลนครทะเลสาบหนองหานจังหวัดสกลนคร

11. จังหวัดสกลนคร ทะเลสาบหนองหาน เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากบึงบอระเพ็ด ทะเลสาบหนองหานครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 123 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งรับน้ำตกของลำห้วย และลำธารต่างๆ ในบริเวณ ทั้งยังเป็นต้นน้ำของลำน้ำก่ำซึ่งไหลลงสู่ลำน้ำโขงที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก การปศุสัตว์ และการประมง ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนหนองหาน ปัจจุบันเป็นที่พักพิงและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและนกน้ำจำนวนมากระดับน้ำในทะเลสาบลึกประมาณ 3-8 เมตร ในบริเวณมีเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 20 เกาะ เช่น เกาะดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด บนเกาะมีวัดร้าง และพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งอยู่ บางเกาะได้สร้างศาลาพักร้อน เช่น เกาะแก้ว เกาะดอนสะคาม และเกาะดอนสะทุง เป็นต้น ซึ่งในเวลากลางวันสาหร่ายที่อยู่ใต้พื้นน้ำ เมื่อแดดส่องลงในน้ำจะเห็นสาหร่ายเป็นสีทองส่องประกายสวยงาม นอกจากนั้นที่ริมทะเลสาบหนองหานยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า "สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์" หรือ "สวนพังทอง" ที่ตกแต่งด้วยพืชพรรณนานาชนิดสถานที่ตั้ง • อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร การเดินทาง • ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ไปทางจังหวัดสระบุรี ผ่านทางจังหวัดนครราชสีมา และอำเภอบ้านไผ่ของจังหวัดขอนแก่น ตรงไปยังบ้านท่าพระ จากนั้นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม และกาฬสินธุ์ แล้วไปตามทางหลวงหมายเลข 213 ไปจนถึงจังหวัดสกลนคร

12. สามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานีสามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานี

13. จังหวัดอุบลราชธานี สามพันโบก เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง มีขนาดต่างๆ มากกว่า 3,000 แอ่ง ชาวบ้านเรียกที่แห่งนี้ว่า "สามพันโบก" โดยคำว่า "โบก" มาจากคำในภาษาลาวที่แปลว่า "แอ่งน้ำ" นั่นเอง สามพันโบกเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำโขง จึงทำให้เกิดเป็นแอ่งเล็กแอ่งน้อยรูปร่างลักษณะต่างๆ ที่สวยงามแปลกตา จะปรากฎให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอดแก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำคล้ายภูเขากลางแม่น้ำโขง จนชาวบ้านขนานนามที่นี่ว่า แกรนด์ แคนยอนน้ำโขง เวลาที่เหมาะในการไปเยี่ยมชมคือตั้งแต่ประมาณเดือนมกราคม ไปถึงเดือนพฤษภาคม บรรยากาศช่วงยามเย็นจะสวยงามมาก ทัศนียภาพดูงดงามมีเสน่ห์ ลึกลับ น่าหลงใหลเหมาะสำหรับเก็บภาพที่ระลึกแห่งความประทับใจ และหลังจากช่วงฤดูแล้งหมดไป จะมีน้ำหลากมาท่วม และโบกเหล่านั้นก็จะจมหายไปอยู่ใต้แม่น้ำสถานที่ตั้ง • อำเภอโพธิ์ไทร,จังหวัดอุบลราชธานี การเดินทาง • จากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2050 มุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านอำเภอตระการพืชผล ไปจนถึงอำเภอโพธิ์ไทร รวมระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร และเดินทางต่อไปยังบ้านสองคอนเข้าไปในหมู่บ้านอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

14. ภูฝอยลมจังหวัดอุดรธานีภูฝอยลมจังหวัดอุดรธานี

15. จังหวัดอุดรธานี • ภูฝอยลม ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพานน้อย สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี ชื่อของภูฝอยลมมาจากไลเคนชนิดหนึ่ง คือ "ฝอยลม" ซึ่งส่วนใหญ่จะพบตามกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนี้ แต่ปัจจุบันพบได้น้อยลง เนื่องจากป่าถูกบุกรุกทำลายจนมีสภาพเสื่อมโทรม ปัจจุบันมีการจัดตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ และให้เป็นที่ทัศนศึกษาของประชาชน ภายในภูฝอยลมมี "สวนรวมพรรณไม้ป่า 60 พรรษา มหาราชินี" ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ป่าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับศึกษาธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดอุดรธานี นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีอุทยานโลกล้านปี ที่มีหุ่นจำลองไดโนเสาร์และพิพิธภัณฑ์แสดงซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ และมีเส้นทางเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติของป่าไม้ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรังสลับป่าทุ่งหญ้า ตลอดจนน้ำตกเล็กๆ และถ้ำต่างๆสถานที่ตั้ง • อำเภอหนองแสง,จังหวัดอุดรธานีการเดินทาง • ใช้เส้นทางขอนแก่น - อุดรธานี เมื่อผ่านอำเภอโนนสะอาดมาแล้ว จะพบทางแยกซ้ายที่บ้านห้วยเกิ้งไปภูฝอยลม รถยนต์สามารถขึ้นถึงบนภูได้โดยสะดวก โดยภูฝอยลมแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 35 กิโลเมตร

16. ที่มา http://www.sawadee.co.th/isan/natural.html

17. สมาชิกในกลุ่ม 1.นางพรนภา พนาวันต์ เลขที่33 2.นางสาวมุกดา ก้านจันทร์ เลขที่34 3.นางสาวนิดติยา ทรงสีเอี่ยม เลขที่29 4.นายศรันย์ ผ่องใส เลขที่22 5.นายอนุมัติ ญานะธรรม เลขที่37 6.นายพยุงศักดิ์ จันทร์เพชร เลขที่39 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/5