1 / 34

ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย. 11 กันยายน 2549. วัฏจักรเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร และสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ. วัฏจักรอสังหาริมทรัพย์มักมีความผันผวนสูงกว่าวัฏจักรเศรษฐกิจ.

Download Presentation

ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย 11 กันยายน 2549

  2. วัฏจักรเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร และสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ วัฏจักรอสังหาริมทรัพย์มักมีความผันผวนสูงกว่าวัฏจักรเศรษฐกิจ Source: NESDB

  3. สินเชื่อที่อยู่อาศัย ก็มีทิศทางเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ และภาวะความต้องการที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกัน Source: NESDB, BOT

  4. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย : ปี 2549-2550

  5. ในช่วงที่ผ่านมา การใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนได้ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน แต่เงินบาทกลับแข็งค่า โดยเป็นผลจากการไหลเข้าของเงินทุน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในระบบเช่นกัน KResearch คาดว่า GDP ของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2549 อาจอยู่ที่ร้อยละ 3.0-3.5 ลดลงจากร้อยละ 5.5 ในช่วงครึ่งปีแรก สำหรับในปี 2550 คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากผลของฐาน (Base Effect) ในขณะที่เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 จากร้อยละ 4.0-4.5 ในปี 2549 โดยการเมืองจะยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจ ประเด็นสำคัญ

  6. แม้ว่าการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล น่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่สองของปี 2550 แต่คาดว่า กว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐจะมีความชัดเจนได้ก็คงจะเป็นในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้อัตราการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐสำหรับปี 2550 น่าจะติดลบ Y-o-Y เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับ Soft Landing ในปี 2550 ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งการส่งออกและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง โดยมีความเป็นไปได้ที่ทั้ง Fed และ ธปท. อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า โดยรวมแล้ว คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจน่าจะเห็นได้ชัดขึ้นในปี 2551 โดยน่าจะเห็นการขยายตัวในด้านการลงทุน ทั้งของภาครัฐและเอกชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ประเด็นสำคัญ

  7. อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ชะลอตัวลงในไตรมาสสอง 2549 โดยการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวอย่างชัดเจน Source: NESDB

  8. เศรษฐกิจไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2549 การลงทุนชะลอตัวลง

  9. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากราคาน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้ปรับลดระดับลงต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปีในเดือน ก.ค. 49 • ในช่วงครึ่งแรกของปี 49 ราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับขึ้นไปกว่า 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า • อัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม ได้ปรับเพิ่มขึ้นไปประมาณ 1.25% จากปลายปีก่อนหน้า Source: UTCC, CEIC database

  10. ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2549-2550

  11. สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ ปี 2549

  12. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงค่อนข้างมาก สะท้อนได้จากธุรกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้างที่อยู่อาศัย Source: NESDB

  13. ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ • ภาวะอุปสงค์ - กำลังซื้อ ภาวะรายได้และรายจ่ายของ ผู้บริโภค อัตราดอกเบี้ย ราคาที่อยู่อาศัย • ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค • นโยบายและมาตรการของภาครัฐ • ภาวะอุปทาน  ต้นทุนค่าก่อสร้าง  แหล่งเงินทุน  การแข่งขันของผู้ประกอบการ  นโยบายและกฎระเบียบของ ภาครัฐ

  14. การเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้า (%) ภาระรายจ่ายของผู้บริโภค: จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2547 พบว่ารายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่ารายจ่าย และคาดว่าภาวะดังกล่าวยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2548-2549 บาท อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) Source: NSO

  15. อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 2% ในช่วงระยะ 12 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ที่ 7.75-8.00% • ข้อมูลทางสถิติสะท้อนให้เห็นว่าในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น การเพิ่มขึ้นของยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีทิศทางชะลอลง • จากการวิเคราะห์ผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อความสามารถในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย พบว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทุกๆ 1% จะทำให้ความสามารถในการได้รับวงเงินสินเชื่อลดลงประมาณ 8%

  16. ยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบสถาบันการเงินยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบสถาบันการเงิน • ในไตรมาสสอง ปี 2549 ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของระบบสถาบันการเงิน ปรับตัวดีขึ้น โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้น 58.6 พันล้านบาท จากไตรมาสก่อน หลังจากที่ไตรมาสแรก สินเชื่อเพิ่มขึ้นเพียง 5.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายไตรมาสที่ช้าที่สุดในรอบ 4 ปี • ธนาคารพาณิชย์ครองส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 51 ของมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด Source: BOT

  17. สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ทั้งระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ทั้งระบบ • สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ปล่อยใหม่โดยรวมทั้งระบบในไตรมาสแรก ปี 2549 มีมูลค่า 60.12 พันล้านบาท เป็นระดับที่ต่ำกว่าในไตรมาสสี่ ปี 2548 • การชะลอตัวของสินเชื่อเป็นทิศทางเดียวกันกับมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัย ที่เติบโตชะลอลงตามภาวะอุปสงค์ และราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยที่เปิดขายที่มีระดับราคาต่ำลง Source: REIC, KResearch Estimates

  18. ราคาที่อยู่อาศัย • ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย รายงานโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ขจัดผลของความแตกต่างของคุณสมบัติที่อยู่อาศัย) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามต้นทุนค่าก่อสร้างและราคาที่ดินที่สูงขึ้น • อย่างไรก็ดี ที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมีราคาเฉลี่ยที่ต่ำลง เนื่องจากผู้ประกอบการปรับตัวหันมาผลิตที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง (ประมาณ 1- 3 ล้านบาท) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด Source: BOT

  19. แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2549 ที่อยู่อาศัยจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยจัดสรรอาจมีจำนวนที่อยู่อยู่อาศัยใหม่ลดลง ขณะที่ที่อยู่อาศัยสร้างเองและคอนโดมิเนียมอาจมีอัตราการขยายตัวที่ชะลอลงกว่าปีก่อน Source: BOT, KResearch Estimates

  20. สรุปทิศทางแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2549 • ความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตชะลอลง โดยผู้บริโภคเผชิญแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลงลง แต่อัตราดอกเบี้ยอาจคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี • ผู้ประกอบการเผชิญภาวะต้นทุนการดำเนินโครงการ เช่น ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่ง ราคาพลังงาน รวมไปถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรหดแคบลง • การประกาศใช้กฎหมายผังเมืองฉบับใหม่ และระเบียบในการควบคุมผลกระทบสิ่งแวดล้อม คงจะส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องจัดสรรพื้นที่เว้นว่างให้เป็นไปตามข้อกำหนด ขณะที่ที่ดินบางพื้นที่อาจมีข้อจำกัดต่อความคุ้มทุนในการนำมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

  21. แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ ปี 2550

  22. ระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง น่าจะเป็นผลดีต่ออำนาจซื้อของภาคครัวเรือน นโยบายอัตราดอกเบี้ยไทยมีโอกาสที่จะผ่อนคลายลง ตามแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินเชื่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นอกจากนี้ ปัจจัยความเชื่อมั่นยังขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก และเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

  23. ในปี 2550 คาดว่าแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและน้ำมันเชื้อเพลิง อาจเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง ตามการชะลอตัวของอุปสงค์จากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐ และจีน สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะช่วยลดแรงกดดันในด้านภาระรายจ่ายของครัวเรือน รวมทั้งต้นทุนของภาคธุรกิจซึ่งจะมีผลต่อราคาที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกอาจเกิดขึ้นได้จากความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมือง แนวโน้มระดับราคาสินค้า

  24. อัตราเงินเฟ้อ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ในกรณีที่ไม่มีปัจจัยนอกเหนือความคาดหมาย ขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 2550

  25. แนวโน้มระดับราคาสินค้า อาจจะชะลอลง ถ้าระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเคลื่อนไหวมีค่าเฉลี่ยประมาณ 70-75 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลในปี 2550 การเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้า (%)

  26. แนวโน้มการอ่อนตัวของอัตราเงินเฟ้อในประเทศ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ตลอดจนการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ จะทำให้ทางการไทยมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงิน แต่คาดว่า ธปท. คงจะรอดูสถานการณ์ในช่วง Q1/2550 ก่อนพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยธนาคารไทย คาดว่าจะลดลงในปี 2550 สอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. และการชะลอตัวของสินเชื่อ ก่อนที่จะขยับขึ้นอีกภายหลังจากที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

  27. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย:อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯและไทย อาจจะปรับตัวลดลงในปี 2550

  28. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ (4 รายใหญ่): อาจจะปรับตัวลดลงในปี 2550 ก่อนที่จะค่อยๆปรับขึ้นในปี 2551

  29. ความต้องการที่อยู่อาศัยอาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นนับจากครึ่งหลังปี 2550 เมื่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย และปัจจัยความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น ดัชนีรายได้ที่ปรับผลของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย จากการวิเคราะห์รายได้ที่ปรับผลของภาระรายจ่ายและผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ชี้ว่า กำลังซื้อเพื่อที่อยู่อาศัยอาจปรับตัวดีขึ้นบ้างในปี 2550 ภายใต้สมมติฐานที่อัตราเงินเฟ้ออ่อนตัวลง และอัตราดอกเบี้ยมีเสถียรภาพขึ้น

  30. แนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจมีอัตราการขยายตัวชะลอลงตลอดช่วงครึ่งหลังปี 2549 และต่ำสุด ณ สิ้นไตรมาสสอง ปี 2550 ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นนับจากครึ่งหลังของปี การขยายตัวของยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยรวมทั้งระบบ • โดยปกติ สินเชื่อที่อยู่อาศัยมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับอัตราการเติบโตของมูลค่าจีดีพี ณ ราคาปีปัจจุบัน(Nominal GDP) • ค่าตัวทวีคูณจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อเศรษฐกิจเติบโตได้เต็มศักยภาพ

  31. สรุปแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ ปี 2550 • ในช่วงครึ่งหลัง ปี 2550 ถ้าหากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวดีขึ้น รายได้ของผู้บริโภคมีการเติบโตสูงกว่าภาระรายจ่าย ก็น่าจะส่งผลให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยปรับตัวดีขึ้น • แต่การเติบโตของตลาดอาจเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป อยู่บนพื้นฐานของอำนาจซื้อที่แท้จริง โดยคงจะไม่มีปัจจัยเสริม เช่น มาตรการของรัฐ หรืออัตราดอกเบี้ยต่ำ เข้ามากระตุ้น เช่นที่ผ่านมา • ตลาดที่อยู่อาศัย เซ็กเมนต์ที่น่าจะเป็นฐานใหญ่ของตลาด ได้แก่ ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวราคา 2-5 ล้านบาท • อย่างไรก็ตาม บ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่งซึ่งมีเสถียรภาพทางรายได้ และกำลังซื้อถูกกระทบจากปัจจัยลบด้านอัตราดอกเบี้ยหรือราคาน้ำมันน้อย

  32. สรุปแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ ปี 2550 • ทำเลที่ตั้งของโครงการยังคงเป็นจุดขายที่สำคัญ โดยเฉพาะในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น การประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางคงเป็นปัจจัยพิจารณาที่สำคัญของผู้ซื้อ • โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ โดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และระบบโลจิส ติกส์ น่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากการเปิดทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ • ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ศูนย์การค้าคงจะเห็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าใหม่ ส่วนพื้นที่สำนักงานยังมีอุปทานใหม่เกิดขึ้นน้อย ทำให้อัตราค่าเช่ายังมีทิศทางที่ดี • ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีเป้าหมายลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ เช่น อพาร์ทเมนต์ เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ และนิคมอุตสาหกรรม อาจได้รับผลกระทบ จากการที่นักลงทุนยังรอความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมือง

  33. แนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย • อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจ โดยอาจลงไปสู่จุดต่ำสุดในช่วงไตรมาสสอง ปี 2550 และเริ่มฟื้นตัวในครึ่งหลัง ปี 2550 และเร่งตัวอย่างชัดเจนมากขึ้นในปี 2551 • นอกจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจแล้ว การขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขึ้นอยู่กับกลยุทธการตลาดของแต่ละธนาคาร เช่น การร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ หรือการขยายฐานกลุ่มลูกค้า โดยดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพเข้ามาใช้สินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัย • ในระยะยาว ธุรกิจน่าจะต้องมีการพัฒนากลไกที่จะสนับสนุนโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำคงที่ระยะยาว โดยพัฒนาระบบเช่น ตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย Securitization และการประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในมีความเข้มแข็งมากขึ้น

More Related