1 / 75

การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้าย

พญ.อรวรรณ ตะเวทิพงศ์ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลราชบุรี. การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้าย. เกริ่นนำ. มะเร็ง พยากรณ์โรค อัตราตาย ระยะสุดท้าย เสียชีวิต. ความตายเป็นเรื่องที่แยกจากชีวิตโดยสิ้นเชิง มีทางยืดออกไปได้ด้วยการใช้วิทยาการทางการแพทย์

lazar
Download Presentation

การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้าย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พญ.อรวรรณ ตะเวทิพงศ์ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลราชบุรี การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้าย

  2. เกริ่นนำ มะเร็ง พยากรณ์โรค อัตราตาย ระยะสุดท้าย เสียชีวิต • ความตายเป็นเรื่องที่แยกจากชีวิตโดยสิ้นเชิง • มีทางยืดออกไปได้ด้วยการใช้วิทยาการทางการแพทย์ • โรงพยาบาลกลายเป็นสถานที่ “ตาย” • ภาพที่เกี่ยวกับความตายกลายเป็น “เรื่องร้าย” ที่ต้องปกปิด ปิดบัง หลบๆซ่อนๆ

  3. จำนวนคนไข้ที่เสียชีวิตในรพ.รัฐ (ภาพรวมทั้งประเทศและกทม.) ที่มา: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข

  4. จำนวนและอัตราประชากร 100,000 คนตามลำดับของกลุ่มสาเหตุการตาย 10 กลุ่มแรก (2548-2552)

  5. กิจกรรม “ความรัก” • คนที่เรารักมากที่สุดในชีวิต และ คำนิยามสั้นๆที่เราแทนตัวคนนั้น • คนที่รักเรามากที่สุดในชีวิต และ คำนิยามสั้นๆ • คนที่เราเป็นห่วงมากที่สุดในชีวิต และ คำนิยามสั้นๆ • คนที่เราไม่อยากให้เขาผิดหวังในตัวเรา และ คำนิยามสั้นๆ • คนหรือสิ่งที่เรานึกถึงแล้ว ทำให้มีพลังหรือกำลังใจมากที่สุด

  6. กิจกรรม “ถ้าเหลือเวลาอีกสามวัน”

  7. คนเรากลัว “ความตาย” จริงหรือ • มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ “มุ่งไปข้างหน้า (อนาคต)” • กลัวความพลัดพราก สูญเสีย บอกลา ทุกข์ทรมาน เจ็บปวด ควบคุมไม่ได้

  8. “ยิ่งรู้จักความตายมากเพียงใด ชีวิตที่เหลืออยู่จะสุขสงบมากขึ้น” พระไพศาล วิสาโล จากหนังสือ Healthy (สนพ. Open Book)

  9. ถ้าคนรู้จักของท่านเจ็บป่วยในระยะสุดท้าย และไม่มีทางรักษาแล้ว ท่านจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอะไรให้บ้าง (3 รางวัล)

  10. เป้าหมายในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป้าหมายในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย • ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายและไม่เจ็บ (keep the patient comfortable and free of pain) • เก็บความทรงจำดีๆของทุกคนไว้ อย่าให้ทรมาน (make the patient’s final days as good as possible for both patient and family, with as little suffering as possible) • การช่วยให้จากไปอย่างสงบ (help the patient die peacefully) • ครบถ้วนกระบวนการในครอบครัว (provide comfort to the family)

  11. การรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือโรคระยะสุดท้ายในยุคก่อนการรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือโรคระยะสุดท้ายในยุคก่อน ดูแลก่อนตาย รักษา “โรค” วินิจฉัยว่าเป็นโรค ใกล้ตาย ตาย ผู้ป่วย

  12. “พวกหมอมายืนกันรอบเตียงเลย แต่พูดอะไรกันไม่รู้ ฉันได้ยินแต่สามเดือน จะให้คิดยังไง”

  13. การรักษาแบบประคับประคองในปัจจุบันการรักษาแบบประคับประคองในปัจจุบัน รักษา “โรค” ดูแลประคับประคอง • เริ่มมีอาการผิดปกติ • Disease • Distress • Discomfort • Dysfunction ความโศกเศร้าของญาติ วินิจฉัย ใกล้ตาย ตาย ผู้ป่วย ครอบครัว ผู้ดูแล

  14. คำจำกัดความของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง โดย WHO “การดูแลเพื่อทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวที่กำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยที่คุกคามชีวิตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านกระบวนการป้องกันและบรรเทาความทุกข์ทรมานด้วยการค้นหา ประเมินและให้การรักษาภาวะเจ็บปวดของผู้ป่วย รวมไปถึงปัญหาด้านอื่นๆทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และ จิตวิญญาณ ตั้งแต่เริ่มต้น”

  15. หลักการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (4C) • Centered at patient and family (การดูแลผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง) • Comprehensive (ครอบคลุม) • Continuity (ต่อเนื่อง) • Coordinated (ประสานงาน)

  16. สิ่งที่ต้องประเมิน เพื่อการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย • ความเข้าใจของผู้ป่วยต่อ “โรค” ที่เป็น • ความเข้าใจของครอบครัวต่อโรคที่ผู้ป่วยเป็น • ระยะของโรค อาการที่ผู้ป่วยเป็น • ความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย และการเยียวยาอาการเหล่านั้น • สิ่งที่ปรารถนาที่จะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ (unfinished business) • ภาระที่ครอบครัวเผชิญ/ความลำบากของผู้ดูแล • การวางแผนล่วงหน้า: สถานที่ตาย, ผู้ดูแล, พินัยกรรมชีวิต, การดูแลแบบประคับประคองที่บ้าน

  17. ความเข้าใจของผู้ป่วยต่อโรคมะเร็งความเข้าใจของผู้ป่วยต่อโรคมะเร็ง • “จะเป็นอะไรก็ตายล่ะหมอ รู้ไปก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา”

  18. Kubler-Ross’s Stages of Dying Stage I :Shock & Denial “No, not me” Stage V :Acceptance “My time is very close now, and it’s alright” Stage II : Anger“Why me?” Stage III : Bargaining“Yes me, but..” Stage IV: Depression“Yes, me”

  19. New Stages of Dying Stage III. Last stage (Saying Goodbye) Stage I: Facing the threatD-A-B-D-A-etc. Stage II: Being Ill

  20. “ฟังอย่างมีสติ”

  21. ความเข้าใจของครอบครัวต่อโรคความเข้าใจของครอบครัวต่อโรค • ผู้ป่วยชาย อายุ 60 ปี อาชีพ กำนัน เป็นมะเร็งกล่องเสียงนาน 5 ปี • ได้รับการรักษาด้วยการตัดกล่องเสียง และฉายแสงจนครบ ใช้เวลารักษา 3 ปี ไม่เคยขาดนัด • 3 ปีก่อน แพทย์บอกว่า ไม่มีเซลล์มะเร็งแล้ว และนัดตรวจติดตามต่ออย่างน้อย 2 ปี

  22. Breaking bad news: SPIKES model • Setting - สถานที่ สภาพแวดล้อม ความเป็นส่วนตัว • Perception – ค้นหาว่า ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับโรคว่าอย่างไรบ้าง • Invitation – เกริ่นนำ เพื่อให้ผู้ป่วยเตรียมตัว • Knowledge - มีความรู้เกี่ยวกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น • Empathy – แสดงความเห็นใจผู้ป่วย • Summary – สรุปสิ่งที่พูดคุย

  23. ระยะของโรคและอาการของผู้ป่วยระยะของโรคและอาการของผู้ป่วย • “ทำไมหมอชอบไล่คนไข้กลับบ้าน กลับไปก็ต้องกลับมาอีก ผมจะให้น้องชายอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะตายล่ะ กลับไปบ้านทีไร ก็ต้องกลับมารพ.ทุกที”

  24. ความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยและการเยียวยาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยและการเยียวยา • ผู้ป่วยชาย อายุ 60 ปี อาชีพ ทำนา • เป็นมะเร็งกล่องเสียง ได้ทำการตัดกล่องเสียงไปแล้ว จึงพูดไม่ได้ • ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด มีผลข้างเคียง ทำให้หูหนวกทั้งสองข้าง • เวลาสื่อสารกับผู้ป่วยต้องใช้วิธีเขียน

  25. Case IV

  26. นิยามของคำว่า Pain (เจ็บ/ปวด) • “ความรู้สึกไม่สบายใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยอันเนื่องมาจากการทำลายของเนื้อเยื่อ หรือ ผลจากการทำลายของเนื้อเยื่อ”

  27. ความเจ็บปวดคือ Fifth Vital Sign • เชื่อว่าผู้ป่วยปวดจริง ***** • ความปวดเป็นความเจ็บป่วยที่ต้องรักษา • ประเมินองค์ประกอบของความเจ็บปวด ณ เวลานั้น • เริ่มรักษาเร็วที่สุด อย่าให้ผู้ป่วยทนไปก่อน • ใช้หลายวิธีร่วมกันในการรักษาความเจ็บปวด • ใช้ยาระงับปวดและยาร่วม ตามหลักเกณฑ์ของ WHO pain ladder (1990) • ดูแลผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา

  28. “Total Pain” Concept ร่างกาย 1. ความเจ็บปวดของอวัยวะ - Somatic (Superficial, Deep) - Visceral 2. ความเจ็บปวดจากระบบประสาท 3. ความเจ็บปวดผสม อารมณ์ นิสัยดั้งเดิม ประสบการณ์ ครอบครัว สิ่งแวดล้อม บริการสาธารณสุข

  29. Total pain concept (PAIN)

  30. วิธีการประเมินความเจ็บปวด (1 รางวัล)

  31. Adequate pain control • WHO Pain ladder

  32. แนวทางการรักษาอาการปวดแนวทางการรักษาอาการปวด ความรุนแรงของความปวด ระดับ 1-3 ระดับ 4-6 ระดับ 7-10 • ถ้าผู้ป่วยไม่เคยได้รับยาแก้ปวด ให้เริ่มจาก Paracetamol หรือ NSAIDs • ถ้าผู้ป่วยได้ยาอยู่แล้ว ให้ปรับขนาดยา • ถ้าผู้ป่วยเคยได้ opioid ให้ปรับขนาดยา • ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติ • ประเมินภาวะทางจิตใจ • ถ้าผู้ป่วยได้ยาอยู่แล้ว ให้ปรับขนาดยา • เริ่มยา weak opioid • ให้ยาระบาย และ ยาแก้อาเจียน • ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติ • ประเมินภาวะทางจิตใจ • ปรับชนิดและการบริหารยา opioid • ให้ยาระบาย และ ยาแก้อาเจียน • ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติ • ประเมินภาวะทางจิตใจ ประเมินซ้ำใน 24-72 ชม. ประเมินซ้ำใน 24-48 ชม. ประเมินซ้ำใน 24 ชม.

  33. Weak Opioid ที่รพ.ชุมชนมีใช้ • Tramol (50 mg) มีฤทธิ์อ่อนกว่า morphine 10 เท่า • เริ่มต้นให้ได้ที่ 50 mg และเพิ่มขึ้นได้จนถึง 400 mg/day โดยแบ่งเป็น q 6 hr. • ให้ร่วมกับ NSAIDs (ถ้าไม่มีข้อห้ามใช้) ได้ • ถ้าผู้ป่วยยังปวดอยู่ ให้เปลี่ยนเป็น Strong opioid

  34. Strong opioid ที่รพ.ชุมชน(อาจจะ)มี • Morphine ชนิด immediate release หรือ slow release, Fentanyl • เลือกวิธีการบริหารยาที่ง่ายที่สุด เริ่มจาก oral เสมอ ถ้าผู้ป่วยกินได้ ถ้ากินไม่ได้ ให้แบบ subcutaneous และ rectal suppository • ไม่ให้ Pethidine แก่ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังจากมะเร็งหรือโรคอื่นๆที่ต้องการยาต่อเนื่อง เพราะการออกฤทธิ์สั้น และมีผลข้างเคียงทางระบบประสาทจากการใช้ยาสูงกว่า Morphine

  35. การบริหาร Morphine ในผู้ป่วยที่ไม่เคยได้ยามาก่อน • เริ่มต้นจาก Morphine short acting 5-10 mg oral q 4 hr. • หลักการให้ยาควรเป็น around the clock + breakthrough pain • ให้ยาป้องกันคลื่นไส้อาเจียน เช่น Haloperidol 0.5 – 1 mg หรือ Plasil 5 mg. oral ก่อนให้ MO ครึ่งชั่วโมง • Senokot 2-4 tab oral hs

  36. การบริหาร Morphine ในผู้ป่วยที่ไม่เคยได้ยามาก่อน • ประเมินความเจ็บปวด (pain score) ภายใน 24 ชม. • ปรับขนาดยาจนกว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการปวด (หลักการเพิ่มขนาด เริ่มจาก 5, 10, 15, 20, 30, 45, 60, 75, 90, 100, 120, 180 oral q 4 hr.) • ถ้าผู้ป่วยมีอาการระหว่าง 4-6 ชม. ให้ยาลด Breakthrough pain ได้ในขนาด 5% - 15% ของขนาดที่ได้ทั้งวัน • ถ้าผู้ป่วยต้องการ Breakthrough dose มากกว่า 2 ครั้งต่อวัน ต้องปรับขนาดยา around the clock ใหม่ • คำนวณขนาดยาที่ควบคุมอาการได้ทั้งวัน และเปลี่ยนเป็นแบบ sustain release แบ่งให้ทุก 8-12 ชม.แทน

  37. การบริหาร Morphine ในผู้ป่วยที่ไม่เคยได้ยามาก่อน • ถ้าผู้ป่วยต้องการ Breakthrough dose มากกว่า 2 ครั้งต่อวัน ต้องปรับขนาดยา around the clock ใหม่ • คำนวณขนาดยาที่ควบคุมอาการได้ทั้งวัน และเปลี่ยนเป็นแบบ sustain release แบ่งให้ทุก 8-12 ชม.แทน

  38. การใช้ Fentanyl แทน oral Morphine • สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานไม่ได้ • ให้เริ่มต้นได้ที่ 25 mcg/hr ในผู้ป่วยที่ได้รับ oral morphine < 120 mg/day • ออกฤทธิ์นาน 48-72 ชม. • http://www.globalrph.com/fent.cgi

  39. ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับ Morphine ในผู้ป่วยมะเร็ง • กดการหายใจ (ยกเว้นในผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพของปอด) • ทำให้ง่วงซึมตลอดเวลา • ทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น • ติดยา (addiction) VS พึ่งยา (dependent)

  40. ยาเสริมอื่นๆ • NSAIDs ทั้งแบบดั้งเดิมและ COX II - inhibitor • Tricyclic antidepressant (10,25, 50, 75 mg) • Gabapentin • Corticosteroid

  41. การรักษาอื่นๆนอกจากการให้ยาบรรเทาอาการปวดการรักษาอื่นๆนอกจากการให้ยาบรรเทาอาการปวด • รังสีรักษา • เคมีบำบัด • กายภาพบำบัด • จิตบำบัด • ครอบครัวบำบัด

  42. สิ่งที่ผู้ป่วยอยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ • ผู้ป่วยชาย อายุ 37 ปี ทำงานบริษัทสุราชื่อดังแห่งหนึ่ง เวลาที่บริษัทไปเป็นสปอนเซอร์นักกีฬาที่ไปต่างประเทศ ผู้ป่วยจะเป็นคนที่ไปโบกธงชาติ เชียร์นักกีฬา • ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย แม้จะผ่าตัดและทำ TOCE ไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล มะเร็งแพร่กระจายไปทั่วแล้ว • ผู้ป่วยมีลูกสาวอายุ 7 ปี 1 คน ซึ่งไม่เคยมีโอกาสมาเยี่ยมพ่อเลย เพราะทางบ้านไม่อยากให้เห็นผู้ป่วยในสภาพทรุดโทรม • ผู้ป่วยมี last wish คือ การได้พบหน้าลูกสาวก่อนจากไป

  43. ภาระที่ครอบครัวเผชิญ • “อยากให้เขาไปสบาย ไม่ต้องทรมาน” • “อาก็มาถามหนูว่า ทำไมไม่ให้น้ำเกลือ ทำไมไม่ฉีดยา”

  44. ภาระที่คนในครอบครัวต้องเผชิญภาระที่คนในครอบครัวต้องเผชิญ “หมอ ฉันกลับบ้านไม่ได้หรอก กลับไปก็ลำบากคนอื่น”

  45. การวางแผนล่วงหน้า • “อยากให้เขาไปตายที่บ้าน แต่เขาคงไม่ยอมกลับ”

More Related