800 likes | 2.04k Views
Vibration Project Presentation. Vibration of Pump. P ump vibration problem. Misalignment. Misalignment ( การเยื้องศูนย์ ). แกนหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งต่อเข้ากับเพลาของเครื่องจักรกลหมุนจะต้องเชื่อมต่อกันเป็นแนวตรง และได้ระดับต่อกัน เรียกว่า “ Alignment”
E N D
Vibration Project Presentation Vibration of Pump
Misalignment (การเยื้องศูนย์) • แกนหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งต่อเข้ากับเพลาของเครื่องจักรกลหมุนจะต้องเชื่อมต่อกันเป็นแนวตรง และได้ระดับต่อกัน เรียกว่า “Alignment” • หากทั้ง 2 ส่วนเกิดการเยื้องศูนย์ หรือที่เรียกว่า Misalignment ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทั้งระบบได้
ประเภทของ Misalignment • ปลายเพลาเคลื่อนในแนวแกน • (End float) • การบิดตัวรอบแกนเพลา • (Torsional flex) • การเยื้องศูนย์เชิงมุม (Angular Misalignment) • การเยื้องศูนย์แนวขนาน (Parallel Alignment)
สาเหตุการเกิด • การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือการสะสมของความคลาดเคลื่อนในระหว่างการประกอบชอ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน • การสึกหรอของตลับลูกปืน • การขยายตัวหรือหดตัว อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ • การโก่งงอของเพลา • แรงกระแทก • ความสั่นสะเทือน
ผลกระทบ • ทําให้อายุการใช้งานส้ันเกินควร • เกิดการเสียกําลังโดยสูญเปล่า • เครื่องจักรทํางานหนักมากเกินไป • เครื่องจักรมักชำรุดง่าย • กินไฟฟ้า
การป้องกัน การเยื้องศูนย์ ยากต่อการสังเกต เพราะหน่วยวัดค่าเยื้องศูนย์อยู่ในระดับ10-1 ถึง10-3 มิลลิเมตร ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า • ใช้โปรแกรม Preventive maintenance หรือ Condition based maintenance ซึ่งได้บรรจุรายการตรวจวัดการเยื้องศูนย์ไว้ด้วย ทั้งนี้ รายละเอียดและระยะห่างของการตรวจวัดแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับลักษณะของการงาน ประเภทเครื่องจักร และชั่วโมงการทำงาน • การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม และการติดตั้งที่ถูกต้อง สามารถช่วยยืดระยะเวลาในการเกิดการเยื้องศูนย์ได้อีกด้วย
Laser Alignment เครื่องมือการหาระนาบเพลา • Jack Lambleyเห็นว่าการแก้ไขAlignment แบบเดิมนั้นยุ่งยากเขาจึงทดลอง Laser Alignment ซึ่งเขามองว่าแม่นยำกว่าถึง 10 เท่า • คำนวณหาค่าใช้จ่าย แล้วพบว่าค่าลงทุนนั้นคุ้ม • ความต้องการโดยปกติ: 27 kW/pump* 8760 hrs/ปี *$0.1/kWh*1,000 pumps*0.01 = $236,520/ ปี ด้วย1,000 pumps ที่ใช้ Laser ประหยัดเงิน = $.25ล้าน/ปี
คือ ปรากฏการณ์การเกิดโพรงไอ เป็นปรากฏการณ์ในการเปลี่ยนสถานะของน้ำจากของเหลวเป็นไอเนื่องมาจากเมื่อน้ำไหลผ่านส่วนต่างๆของปั้ม
ปัจจัยการเกิดคาวิเทชั่นปัจจัยการเกิดคาวิเทชั่น • อุณหภูมิของของไหล • ความแตกต่างของแรงดันทางรับกับทางจ่าย • ค่าNPSHA >NPSHR
ค่าสมรรถภาพของเครื่องสูบค่าสมรรถภาพของเครื่องสูบ • ค่าที่แสดงถึงการสูญเสียแรงดันที่เกิดขึ้นภายในเครื่องสูบ ถ้าแรงดันที่นำเข้าไปมีค่าต่ำเกินกว่าแรงดันการระเหยเป็นไอ จะทำให้เกิดโพรงอากาศในของเหลวขึ้นในเครื่องสูบ ทำให้มีเสียงดังซึ่งก็คือการเกิดคาวิเทชั่นและทำให้เครื่องหยุดทำงานในเครื่องสูบทุกเครื่องจะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถภาพการดูดของเครื่องสูบที่ต้องการ(NPSHR)
ค่าสมรรถภาพของเครื่องสูบค่าสมรรถภาพของเครื่องสูบ
แนวทางการแก้ไข • ค่า NPSHR น้อย • หลีกเลี่ยงสิ่งที่ขวางทางเดินของของไหลเข้าทางท่อดูด • ท่อทางดูดควรมีความยาวกว่า 6 เมตร • ตรวจสอบการรั่วซึมทางท่อดูด • ตรวจสอบความหนืดของของไหล
เมื่อมีความไม่สมมาตร (unbalance) ในระบบและมีการหมุนจะทำให้ระบบเกิดการสั่นได้ ซึ่งสามารถอธิบายได้จาก จะเห็นว่าระบบมีการสั่นที่ ωd = ωn(1 - Ϛ2) 1/2
ประเภทของ unbalance Static Unbalance – เกิดจากการที่ Inertia Axis เลื่อนออกไปจาก Rotating Axis โดยที่ยังมีลักษณะขนานกันซึ่งอาจเกิดจากการที่จุด C.G. เยื้องออกไปจากจุดศูนย์กลาง
การตรวจสอบ static unbalance สามารถทำได้โดยการนำ shaft ที่หมุนไปวางบน support จะพบว่าด้านที่หนักกว่าจะหมุนลงด้านล่าง
การแก้ไข สามารถทำได้โดยการเพิ่มมวลเข้าไปในฝั่งตรงข้ามกับที่มี unbalanced mass โดยจะต้องมีขนาดเท่ากัน หรืออาจใช้วิธีนำวัสดุบริเวณที่มี unbalanced mass ออกเพื่อให้เกิดความสมมาตร
Dynamic Unbalance – คือการที่ระบบมีระนาบ ที่เกิด unbalance มากกว่า 1 ระนาบ ซึ่งอาจมีขนาดและมุมเท่ากันหรือต่างกันก็ได้ ซึ่งจะทำให้ inertia axis ไม่อยู่ในแนว rotating axis และมีแรงคู่ควบไม่สมดุล โดยจะเกิดขึ้นได้เมื่อส่วนที่มีการหมุน (rotating part) มีความยาวในแนวแกนเมื่อเทียบกับเส้นผ่านศูนย์กลาง
การแก้ไขปัญหา dynamic unbalance สามารถทำได้ด้วยการเพิ่มน้ำหนักให้เกิดแรงคู่ควบในขนาดเท่ากันและทิศทางตรงกันข้ามหรืออาจใช้วิธีลดวัสดุลงเพื่อไม่ให้เกิดแรงคู่ควบ หากต้องการใช้งานเครื่องมือที่หมุนด้วยความเร็วรอบต่ำการแก้ไข static unbalance อย่างเดียวก็สามารถทำให้ใช้งานได้ตามปกติ แต่หากต้องการใช้งานที่ความเร็วรอบสูงจะมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไข dynamic unbalance ด้วยมิฉะนั้นจะทำให้เกิดการสั่นอย่างรุนแรงได้
Balancing Machine Balancing machine เป็นเครื่องที่ช่วยตรวจสอบสถานที่และขนาดของ unbalanced mass บนชิ้นส่วนหมุน เครื่องมือนี้จะหมุนชิ้นส่วนหมุนบนชุดสปริงและแบริ่ง unbalance จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนหมุนจากนั้น Balancing machine จะวัดขนาดและมุมแล้วจึงคำนวณตำแหน่งและขนาดของ unbalanceออกมา
Vibration Measurement หน่วยที่ใช้ในการวัดการสั่นสะเทือนจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ • การวัดระยะทางของการสั่นสะเทือน (Displacement) • ส่วนมากจะใช้กับการเคลื่อนที่ที่มีความเร็วรอบต่ำ ๆ ที่ไม่เกิน 1200 รอบ/นาทีหรือ 20Hz • การวัดความเร็ว (Velocity) • ในการวัดความเร็วเรามักจะวัดแบบ RMS เป็นการวัดการสั่นสะเทือนที่มีความถี่ระหว่าง 20Hz -1,000Hz • การวัดอัตราเร่ง (Acceleration) • ในการวัดการสั่นสะเทือนที่ความถี่สูงคือตั้งแต่ 10,000 Hz ขึ้นไป
วิธีการและรายละเอียดในการวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรวิธีการและรายละเอียดในการวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร (Vibration measurement Method) การวัดการสั่นสะเทือนใน 3 แนววัด จุดวัดในแนวแกน (Axial, A) - ความไม่สมดุล - การแกว่งของเพลา 2. จุดวัดในแนวรัศมี (Radius) ที่เป็นแนวนอน (Horizontal, H) - การหลุดหลวมของอุปกรณ์จับยึดและการยึดฐาน - การสึกหรอของแบริ่ง และ บูซรองรับการหมุน 3. จุดวัดในแนวรัศมี (Radius) ที่เป็นแนวตั้ง (Vertical, V) - เพลาคดงอของเพลา - การไม่ได้ศูนย์ระหว่างข้อต่อหรือคัปปริ้ง
เครื่องวัดการสั่นสะเทือน (Vibration monitoring) • การวัดแบบ Proximity monitoring • อุปกรณ์ในการวัดเพื่อตรวจสอบค่าสั่นสะเทือนรวม(Overall) ตลอดเวลา • บ่งบอกถึงระดับความปลอดภัยของเครื่องจักรตามค่ามาตรฐาน ISO 2372 และ มาตรฐาน ISO10816
ค่ามาตรฐานและเกณฑ์ในการพิจารณาค่าการสั่นสะเทือน (Standard and Judgment)
การวัดแบบ Seismic monitoring • อุปกรณ์วัดการสั่นสะเทือนสามารถตรวจสอบได้ 2 ลักษณะ • 1. Overall วัดความสั่นสะเทือนโดยรวมตามการเปลี่ยนแปลงเวลานั้นๆ • 2. Spectrum แสดงการวัดระดับการสั่นสะเทือนและความถี่ โดยความถี่ และ ระดับที่เกิดขึ้นสามารถนำมาวิเคราะห์สาเหตุความผิดปกติที่เกิดขึ้น
การวิเคราะห์ Vibration Spectrum Unbalance Bent Shaft Pump and Motor Misalignment (Angular)
การวิเคราะห์ Vibration Spectrum Pump and Motor Misalignment (Parallel) Blade pass or Vane pass ไม่เหมาะสม Flow turbulence Cavitation
ตัวอย่างการคำนวณ • A pipe carrying steam through a section of a factory vibrates violently when the driving pump hits a speed of 232 rpm. In an attempt to design an absorber, a trial 1 kg absorber tuned to 232 rpm was attached. By changing the pump speed, it was found that the pipe-absorber system has a resonance at 198 rpm. Redesign the absorber so that the natural frequencies are less than 160 rpm and more than 320 rpm.
เดิม Absorber 1 kg ,= = 1 1 kg 2 dof=198 rpm =0.7284 แทนใน -[1+(1-)]+1=0 …(1) -[1+(1-)]+1=0 ==10 kg
ต้องการ 160 rpm, 320 rpm คิดที่ 160 rpm = 0.4756 1 แทนค่าในสมการ (1) จะได้ คิดที่ 320 rpm = 1.9025 1 แทนค่าในสมการ (1) จะได้ เราต้องการช่วงการทำงาน 160 rpm, 320 rpm ดังนั้นเราจึงเลือก = 5.782 kg =rad/s = = =3412.9 N/m