510 likes | 812 Views
Energy transformation. การเปลี่ยนรูปพลังงานและการหมุนเวียนสารเคมีในระบบนิเวศ. Chloroplast และ mitochondria เป็น organelles ที่เปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่ง ใน Chloroplast เกิดกระบวนการ photosynthesis ซึ่งพลังงานแสงถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสะสมในคาร์โบไฮเดรต
E N D
การเปลี่ยนรูปพลังงานและการหมุนเวียนสารเคมีในระบบนิเวศการเปลี่ยนรูปพลังงานและการหมุนเวียนสารเคมีในระบบนิเวศ • Chloroplast และ mitochondria เป็น organelles ที่เปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่ง • ในChloroplast เกิดกระบวนการ photosynthesis ซึ่งพลังงานแสงถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสะสมในคาร์โบไฮเดรต • ที่ mitochondria เกิดกระบวนการ cellular respiration พลังงานที่เก็บไว้ในคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานในรูป ATP ซึ่งสิ่งมีชีวิตจะนำไปใช้ในเซลล์ต่อไป • มีพลังงานบางส่วนสูญเสียไปกับความร้อน
ATP (Adenosine triphosphate) เป็นสารเคมีที่มีพลังงานสูงพร้อมที่จะแตกตัวปล่อยให้พลังงานออกมาใช้ที่ใดที่หนึ่งได้
เมื่อ ~Pสลายภายในเซลล์ พลังงานบางส่วนจะสูญเสียไปในรูปของความร้อน และบางส่วนถูกนำไปใช้ทำงาน และเมื่อ ATPถ่ายทอด ~Pให้กับโมเลกุลของสารอื่น โมเลกุลของสารนั้นจะได้พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้เกิดปฏิกิริยากับโมเลกุลอื่นต่อไป ดังนั้นพลังงานจาก ATPสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ได้
ATPเมื่อถูกใช้แล้วสามารถสร้างกลับมาใหม่ได้ATPเมื่อถูกใช้แล้วสามารถสร้างกลับมาใหม่ได้
พลังงานในรูปATP ถูกนำไปใช้ทำงานต่างๆภายในเซลล์
ATP สร้างขึ้นอย่างไร • เรียกกระบวนการสร้างATP ว่าPhosphorylation มีวิธีการสร้างหลายแบบ • Oxidative phosphorylation • Substrate phosphorylation • Photophosphorylation
Oxidative phosphorylation การสร้างATP จากการถ่ายทอดe-ผ่านสารนำe-เช่นNADH, FADH2ในe- transport chain ที่mitochondria และมีO2เป็นตัวรับe-ตัวสุดท้าย
Substrate phosphorylation ATP ถูกสร้างโดยการถ่ายทอด~P จากสารที่มีพันธะเคมีพลังงานสูงกว่ามายังADP โดยตรง โดยมีenzyme กระตุ้น
Photophosphorylation แสงทำให้e-จากน้ำ ถูกถ่ายทอดไปตามe- transport chain ใน chloroplast ได้พลังงานในรูปATP
E1 E2 E3 E4 A B C D E Metabolic pathway กระบวนการmetabolism เป็นผลของปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์ เริ่มต้นจาก ในแต่ละขั้นตอนจะอาศัยenzymes เป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยา
Enzymeช่วยเร่งให้เกิดปฏิกิริยาโดยตัวเองไม่เปลี่ยนแปลงเป็นสารอื่น • เร่งปฏิกิริยาเฉพาะ • การทำงานต้องการoptimum factors
อัตราการเร่งปฏิกิริยาเคมีโดยenzyme ขึ้นกับ • Temperture • pH • Inhibition (noncompetitive inhibition, Competitive inhibition)
Environmental factors affecting enzyme activity Temperature
Inhibiton of enzyme activity A substrate can normally bind to the active site of an enzyme Competitive inhibitor Noncompetitive inhibitor
Cofactor : Helpers of enzymes • enzymes หลายชนิดต้องการcofactor ที่ไม่ใช่โปรตีนช่วยในการทำงาน ตัวอย่างเช่นions ได้แก่Mg ++, K+, Ca ++ • cofactors อื่นๆ เช่นorganic molecules เมื่อรวมกับenzymes แล้วจะเป็นเหมือนcarrier สำหรับchemical group หรือe- • Coenzymes หลายชนิดมีขนาดใหญ่ ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ นอกจากการกินvitamine เข้าไป ซึ่งvitamine หลายชนิด เช่นniacin, thamin (vit B1), riboflavin, folate และbiotin เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของcoenzymes ตัวอย่างเช่นNAD+, NADP+, FAD
NAD+ • พบในเซลล์ • ทำงานร่วมกับenzyme โดยเป็นตัวรับe-ในปฏิกิริยาoxidation-reduction H Dehydrogenase R C R’ + NAD+ R C R’’ + NADH + H+ OH O Reduction Oxidation NAD+ = oxidized coenzyme NADH = reduced coenzyme
Cellular respiration รวมหมายถึง 2 กระบวนการ คือ Aerobic cellular respiration Fermentation
Organic compounds (food) + Oxygen CO2 + H2O + energy Aerobic cellular respiration เป็นกระบวนการย่อยสารอาหาร เพื่อให้ได้ ATP และมี O2เป็นตัวรับ e-ตัวสุดท้าย
6C6H12O6 + 6O2 6CO2 + 6H2O + energy แต่โดยทั่วไป cellular respiration จะอธิบายถึง Oxidation ของ glucose
Fermentation • เป็นกระบวนการย่อยสารอาหาร เพื่อให้ได้ATP โดยมีorganic compounds เป็นตัวรับe- • เป็นanaerobic process • เป็นการย่อยสลายglucose เพียงบางส่วน ผลได้lactate (animal cell) หรือCO2 + alcohol (yeast) • ได้ 2 ATP
Aerobic cellular respiration ประกอบด้วย • Glycolysis • Krebs cycle • Electron transport chain (ETC) and oxidative phosphorylation
เมื่อร่างกายของเราเกิดการเผาผลาญglucose ในเซลล์แล้วได้product ร่างกายทำอย่างไร • คนเราหายในO2 เข้าไปในปอดและรับประทานอาหารglucose ซึ่งO2และglucose เข้าไปในกระแสเลือดแล้วเข้าไปในเซลล์ • Glycolysis เกิดขึ้นที่cytoplasm ได้pyruvate • Pyruvate เข้าไปในmitochondriaและถูกเผาผลาญต่อไปจนได้CO2 + H2O + พลังงานในรูปATP • CO2 ,H2O และATP แพร่ออกจากmitochondria ไปยังcytoplasm • ATP ถูกนำไปใช้ประโยชน์ภายในเซลล์ CO2แพร่ออกจากเซลล์เข้าไปในกระแสเลือดและหายใจออกไปส่วนH2O จะถูกนำไปใช้ในเซลล์
2 Pyruvate 2 Acetyl CoA + 2NADH 2C2O ออกจากเซลล์ โปรตีนที่อยู่ที่ผิวของmitochondriaจะขนส่ง pyruvateเข้าไปในmitochondria Net:
ใน 2 Krebs cycle / 1 Glucose 2 Acetyl CoA 4CO2 + 6NADH2 +2 FADH2 + 2 ATP (substrate level phosphorylation) e- transport chain
The pathway of electron transport • ETC ประกอบด้วยelectron carrier molecules (ตัวรับe-)ที่อยู่ในinner mitochondrial membrane • ตัวรับe-จะรับเฉพาะe- • H+จะถูกปล่อยออกมาและถูกส่งออกไปที่intermembrane space
½ O2 + 2e- + 2H+ H20 • O2 จะเป็นตัวรับe-ตัวสุดท้ายแล้วรวมกับH+กลายเป็นH2O • สรุปว่า • ETC ไม่ทำให้สร้างATP โดยตรงแต่ทำให้เกิดH+ gradient ที่ผนังด้านในของmitochondria ซึ่งทำให้สะสมพลังงานมากพอที่จะทำให้เกิดphosphorylation
ATP synthaseเป็นprotein cmplex ทำหน้าที่สังเคราะห์ATP ซึ่งจะทำงานได้โดยการไหลผ่านของH+ • การสร้างATP แบบนี้เรียกว่าChemiosmotic ATP synthesis
Review: how each molecules of glucose yields many ATP molecules during cellular respiration
Glycolysis Pyruvate Lactate (animal) CO2 + alcohol (yeast) Fermentation (Backup ATP production) หรืออาจจะได้product อื่นๆขึ้นอยู่กับenzyme ในสิ่งมีชีวิตนั้น
ผลของfermentation จะได้ 2ATP • NADH ที่ได้จากfermantation จะถูกเปลี่ยนเป็นNAD+ เพื่อใช้ในglycolysis ได้
Pyruvate as a key junction in catabolism ผลของGlycolysis คือpyruvate ซึ่งจะถูกเผาผลาญต่อไปด้วยfermentation หรือaerobic cellular respiration แล้วแต่ว่าจะอยู่ในภาวะที่มีO2หรือไม่สำหรับเซลล์ที่สามารถเกิดกระบวนการหายใจได้ทั้ง 2 แบบ
ถึงแม้ว่าfermantation จะได้พลังงานน้อยแต่ก็สำคัญเพราะว่าทำให้ได้ATP อย่างรวดเร็วในร่างกายของเราmuscle cell จะเกิดfermentation มากในขณะที่ร่างกายทำงานหนักในระยะเวลาสั้นเช่นวิ่งfermentation เป็นกระบวนการให้เกิดATP และlactate ในmuscle cell ในตอนแรกเมื่อมีจำนวนมากขึ้นทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าเนื่องจากมีสภาพเป็นกรดมากเมื่อหยุดวิ่งร่างกายหายใจแรงเป็นการนำเอาO2มาใช้เพิ่มมากขึ้นlactate จะถูกส่งไปที่ตับและถูกเปลี่ยนเป็นpyruvate • ในเซลล์ของยีสถ้ามีglucose จำนวนมากยีสจะหายใจแบบanaerobicได้เป็นalcohol เมื่อมีalcohol เพิ่มจำนวนมากขึ้นจะทำให้ยีสตายได้ • จากการที่ค้นพบกระบวนการfermentation จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย
The catabolism of various food molecules ร่างกายของเราได้พลังงานส่วนใหญ่จากfats, proteins, disaccharides และpolysaccharides ที่กินเข้าไปโมเลกุลเหล่านี้ถูกย่อยให้เป็นโมเลกุลที่เล็กลงด้วยenzymes ซึ่งสามารถจะเข้าไปในกระบวนการglycolysis หรือKrebs cycle ได้
The control of cellular respiration • กลไกที่ควบคุมกระบวนการย่อยสารอาหารให้ได้พลังงานหรือการสังเคราะห์ในร่างกายส่วนใหญ่เป็นfeedback inhibition • กระบวนการGlycolysis และKrebs cycle ควบคุมโดยPhosphofructokinase
ปริมาณATP, ADP และAMP มีผลต่อการทำงานของPhosphofructokinase • ADP, AMP เป็นallosteric activators ถ้ามีมากจะเร่งการทำงานของenzyme ให้มากมีผลให้Glycolysis และKrebs cycle เกิดมากขึ้นดังนั้นATP จะมีปริมาณมากขึ้น • Citrate และATP เป็นallosteric inhibitors ถ้ามีมากenzyme ตัวนี้จะทำงานน้อยดังนั้นglycolysis เกิดน้อยacetyl Co A จะมีปริมาณน้อยด้วย
Photosynthesis • แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน • Light reactions • Calvin cycle
Light reactions: • เกิดขึ้นที่thylakoid membranes • เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนพลังงานแสงไปเป็นพลังงานเคมีของATP และNADPH • ให้O2 ออกมาสู่บรรยากาศ
Calvin cycle reactions: • เกิดขึ้นที่stroma • เป็นกระบวนการที่ใช้CO2 สร้างเป็นsugur โดยใช้พลังงานที่ได้จากLight reaction (ATP, NADPH) • ให้ADP, Pi, NADP+กลับไปใช้ในlight reaction