470 likes | 1.76k Views
คณิตศาสตร์. (ค32101). ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง. เรื่อง การหารากที่สอง. สอนโดย ครูชนิดา ดวงแข. การหารากที่สอง โดยการตั้งหาร. วิธีการหารากที่สอง. 1. โดยการแยกตัวประกอบ นำจำนวนที่ต้องหารากที่สองมา แยกตัวประกอบ แล้วจัดให้อยู่ใน
E N D
คณิตศาสตร์ (ค32101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง เรื่อง การหารากที่สอง สอนโดย ครูชนิดา ดวงแข
การหารากที่สอง โดยการตั้งหาร
วิธีการหารากที่สอง 1. โดยการแยกตัวประกอบ นำจำนวนที่ต้องหารากที่สองมา แยกตัวประกอบ แล้วจัดให้อยู่ใน รูปของ a2
วิธีการหารากที่สอง 2. โดยการตั้งหาร มีหลักการ ทำดังนี้
ขั้นที่ 1 นำจำนวนที่ต้องการหารากที่สอง มาแบ่งออกเป็นชุด ชุดละ 2 ตัวโดย จำนวนเต็มเริ่มนับจากหลักหน่วย ไปทางซ้ายส่วนทศนิยมเริ่มนับจาก ตำแหน่งที่ 1 ไปทางขวา เช่น
หารากที่สองของจำนวนเต็มหารากที่สองของจำนวนเต็ม 961 9,61 2304 23,04 27889 2,78,89
สำหรับทศนิยม ให้แบ่งออกจาก จุดทศนิยม เช่น 5370.0418 53,70.04,18 152.7696 1,52.76,96
516.572 5,16.57,20 2079.364 20,79.36,40 23071.465 2,30,71.46,5
ขั้นที่ 2 นำจำนวนที่ต้องการรากที่สอง มา ตั้งหารยาว หาจำนวนเต็มบวกใดๆ ที่ ยกกำลังสองแล้วเท่ากับจำนวนชุดแรก หรือน้อยกว่าแต่เกือบเท่ากัน แล้วเขียน จำนวนนั้นใส่ไว้ที่ตำแหน่งตัวหารและ ผลลัพธ์ ดำเนินตามวิธีการหารยาว
ขั้นที่ 3 ยกจำนวนชุดต่อไปลงมาเป็นตัวตั้ง ชุดใหม่ต่อไป ถ้าตัวตั้งหมดหรือตัวตั้ง ถึงจุดทศนิยมให้ใส่จุดทศนิยมที่ผลลัพธ์ แล้วเติม 0 ที่ตัวตั้งชุดละ 2 ตัว หรือยก เลขหลังจุดทศนิยมคู่ต่อไปลงมา
ขั้นที่ 4 นำ 2 ไปคูณกับผลลัพธ์ แล้วนำผล มาใส่ไว้ที่ตำแหน่งตัวหารเป็นตัวหาร ตัวใหม่ จากนั้นหาจำนวนที่เหมือนกัน มาเติมใส่ที่ผลลัพธ์ และตัวหารตัวหลัง สุดแล้วดำเนินการตามวิธีหารยาวต่อไป
ขั้นที่ 5 ดำเนินตามหลักการขั้นที่ 3 และ ขั้นที่ 4 ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ จำนวนตามที่ต้องการ
ข้อควรระวัง ถ้านำจำนวนที่อยู่หลังจุดทศนิยม มาเป็นตัวตั้ง ต้องใส่จุดทศนิยมที่ ผลลัพธ์ทันที การหารต่อไปไม่ต้อง คำนึงจุดทศนิยมที่ผลลัพธ์
จำนวนที่ยกกำลังสองลงท้ายด้วยจำนวนที่ยกกำลังสองลงท้ายด้วย 1 มี 1 , 9 4 มี 2 , 8 5 มี 5 6 มี 4 , 6 9 มี 3 , 7
9,61 61 3×3 61×1 ตัวอย่างที่ 1 จงหารากที่สอง 961 วิธีทำ 3 1 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 3 3×2 9 6 1 61 รากที่สองของ 961 คือ 31 และ -31
14,44 5 3×3 68×8 ตัวอย่างที่ 2 จงหารากที่สอง 1,444 วิธีทำ 3 8 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 3 3×2 9 6 8 44 544 รากที่สองของ 1,444 คือ 38 และ -38
60,84 7×7 148×8 ตัวอย่างที่ 3 จงหารากที่สอง 6,084 วิธีทำ 7 8 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 7 7×2 49 14 8 11 84 1184 รากที่สองของ 6,084 คือ 78 และ -78
2,78,89 1 22 1×1 327×7 26×6 ตัวอย่างที่ 4 จงหารากที่สอง 27,889 วิธีทำ 1 6 7 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 1 1×2 1 2 6 78 156 16×2 32 7 89 2289
รากที่สองของ 27,889 คือ 167 และ -167
4,84 84 2×2 42×2 1. จงหารากที่สอง 484 วิธีทำ 2 2 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 2 2×2 4 4 2 84 รากที่สองของ 484 คือ 22 และ -22
7,29 2×2 47×7 2. จงหารากที่สอง 729 วิธีทำ 2 7 (แบ่งออกชุดละ2ตัว นับจากหลักหน่วย) 2 2×2 4 4 7 3 29 329 รากที่สองของ 729 คือ 27 และ -27
12,25 3 3. จงหารากที่สอง 1,225 วิธีทำ 3 5 3 9 6 5 25 325 รากที่สองของ 1,225 คือ 35 และ -35
18,49 2 4. จงหารากที่สอง 1,849 วิธีทำ 4 3 4 16 8 3 49 249 รากที่สองของ 1,849 คือ 43 และ -43
42,25 6 5. จงหารากที่สอง 4,225 วิธีทำ 6 5 6 36 12 5 25 625 รากที่สองของ 4,225 คือ 65 และ -65
32,49 7 6. จงหารากที่สอง 3,249 วิธีทำ 5 7 5 25 10 7 49 749 รากที่สองของ 3,249 คือ 57 และ -57