240 likes | 598 Views
การค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในสมัยอยุธยา. การค้า สมัยอยุธยา. แบ่งออกเป็น 2 ระดับ การค้าภายใน การค้ากับต่างประเทศ. การค้าภายใน. ระบบไพร่ มี “การเกณฑ์แรงงาน” และ “ส่วย” แต่ โครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ ยังคง เป็น “ระบบเศรษฐกิจแบบพอยังชีพ”
E N D
การค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในสมัยอยุธยา
การค้า สมัยอยุธยา แบ่งออกเป็น 2 ระดับ • การค้าภายใน • การค้ากับต่างประเทศ
การค้าภายใน • ระบบไพร่ มี “การเกณฑ์แรงงาน” และ “ส่วย” • แต่ โครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ ยังคง เป็น “ระบบเศรษฐกิจแบบพอยังชีพ” • หมู่บ้าน หรือ ชุมชน – พึ่งตนเองได้ในระดับสูง • การค้าระหว่างหมู่บ้าน มีปริมาณไม่มาก • เป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น • ชาวจีน มักเป็น พ่อค้า (เพราะไม่ติดอยู่กับระบบไพร่ ทำให้เดินไปค้าขายต่างเมืองได้) • ศูนย์กลางการค้า หรือ ตลาด มักตั้งอยู่ริมแม่น้ำลำคลอง ใช้ “เรือ” เป็นพาหนะในการเดินทางค้าขาย
การค้ากับต่างประเทศ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง • สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ถึง สมัยสมเด็จพระบรมราชธิราชที่ 3– เป็นการค้าแบบโบราณยังไม่ติดต่อกับชาติตะวันตก • สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ถึง สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช – ชาติตะวันตกมีบทบาทในการค้าค่อนข้างมาก • สมัยสมเด็จพระเพทราชา เป็นต้นมา – ชาติตะวันตก ลดอิทธิพลทางการค้า ขณะที่ชาวจีนมีบทบาททางการค้ามากขึ้น
การค้ากับต่างประเทศ (ต่อ) • การค้าต่างประเทศของอยุธยา มีการค้ากับดินแดน 2 ส่วน • ส่วนแรก พ่อค้าที่มาจาก “มหาสมุทรอินเดีย” ได้แก่ พ่อค้าจากอินเดีย เปอร์เซีย และอาหรับ ทำการค้าแถบ เมืองท่าในพม่า มอญ ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของคาบสมุทรมลายูบริเวณช่องแคบมะละกา และเมืองท่าตอนเหนือของเกาะชวา (แคว้นบันตัม) • ส่วนที่สอง การค้าที่ทำการค้ากับจีนเป็นหลัก – การค้าที่เมืองท่าบางเมืองทางตอนเหนือของเกาะชวา (บัตตาเวีย) เมืองท่าทางฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายู เมืองท่าบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เลียบชายฝั่งทะเลไปจนถึงเมืองท่าของจามปาและญวน
การค้ากับต่างประเทศ (ต่อ) • การค้าทั้งสองส่วน ไม่ได้ แยกจากกัน แต่ อยุธยา เป็น “ศูนย์กลางแห่งหนึ่งในการช่วยส่งต่อสินค้าจากส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่ง” • อยุธยา เน้น การส่งสินค้าจากจีนไปยังมหาสมุทรอินเดีย • โดย อยุธยา มีความสำคัญ 2 ประการ • ศูนย์กลางของสินค้าประเภทของป่า • ศูนย์กลางแห่งหนึ่งของการค้าส่งผ่านระหว่างจีนกับมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งส่งสินค้าผ่านไปยังดินแดนตอนในของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • การค้าต่างประเทศ ผู้ประกอบการที่สำคัญ คือ กษัตริย์ ที่ทำการค้าผ่าน “พระคลังสินค้า” – นอกจากนี้ มี กลุ่มเจ้านายและขุนนาง ที่ทำการค้าอิงกับอำนาจการเมืองในระบบศักดินา
การค้ากับต่างประเทศ (ต่อ) • สินค้าออกที่สำคัญ ได้แก่ ไม้กฤษณา ไม้จันทร์ ไม้ซุง ไม้ฝาง ไม้กะลำพัก กำยาน แก่นคูณ ขี้ผึ้ง รง ครั่ง หวาย งาช้าง หนังกวาง นอแรด และรังนก นอกจากนี้ยังมี ข้าว พริกไทย เครื่องเทศ หมาก มะพร้าว ดีบุก ทองคำ เงิน ตะกั่ว เครื่องปั้นดินเผา และพลอยต่างๆ • สินค้าขาเข้า ได้แก่ ผ้าแพรต่างๆ เช่น แพรม้วน แพรดอก แพรโล่ ผ้าไหม ผ้าม้วย ผ้าลายทอง เครื่องถ้วยชาม เครื่องกระเบื้อง พัด น้ำหอม ฉากญี่ปุ่น ดาบ หอก เกราะ ปืน กระสุนปืน ทองแดง กำมะถัน และอาหารแห้งต่างๆ จากจีน
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ (การติดต่อกับต่างประเทศ) ความสัมพันธ์กับอาณาจักรใกล้เคียง • ทิศเหนือ- อาณาจักรล้านนา– ล้านนา สลับกับการตกเป็น “ประเทศราช” ของอยุธยาและพม่า (จนกระทั่งสมัยพระเจ้าบุเรงนอง) • ทิศตะวันออก- อาณาจักรขอม (เขมร) – ทำสงครามกันตลอดเวลา ส่วนใหญ่ อยุธยา เป็นฝ่ายไปรุกขอม (ซึ่งเสียเปรียบอยุธยาทั้งด้านกำลังคนและเศรษฐกิจ) • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ–อาณาจักรล้านช้าง– เป็นไมตรีต่อกัน • ทิศใต้–หัวเมืองมลายู– เป็น “ประเทศราช” อยู่ไกลจากราชธานีมาก และมัก “แข็งเมือง” บ่อยๆ อยุธยาส่งกองทัพไปปราบปรามบ่อยครั้ง • ทิศตะวันตก– อาณาจักรพม่าและมอญ– สงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ และผลประโยชน์ในภูมิภาค – สงครามเกิดขึ้น 24 ครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเลความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเล • จีน – มีความสัมพันธ์ทั้งทางการทูตและการค้า • ตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่งทูตคณะทูตไปจีน ถึง 89 ครั้ง ขณะที่ จีนส่งคณะทูตมาอยุธยา 18 ครั้ง • ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอยุธยากับจีน อยู่ภายใต้ “การค้าในระบบบรรณาการ” ที่ต้องผ่านคณะทูต • กษัตริย์อยุธยา พอใจในกำไรที่ได้จากการค้ากับจีน ในระบบบรรณาการ เพราะสินค้าจีนสามารถขายได้ราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น อยุธยายังพอใจในคุณภาพและคุณค่าของสินค้าจีนที่ได้รับเป็นของขวัญจากจักรพรรดิจีน
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเล (ต่อ) • จีน (ต่อ) - จากรายการสิ่งของที่เป็นบรรณาการไปจีน มีถึง 44 ประเภท มากกว่าชาติอื่นที่ติดต่อกับจีน ส่วนใหญ่เป็น ของป่าและสัตว์ป่า • เมื่อจีนใช้ “ระบบหนังสือเดินทาง” – อยุธยา เป็นชาติแรกที่ได้รับพระราชทานหนังสือเดินทาง • อยุธยา ให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่จีน เช่น อัตราภาษีขาเข้า ที่พ่อค้าจีนจ่ายเพียง 12 ชัก 2 (พ่อค้าชาติอื่น จ่าย 9 ชัก 2) • ญี่ปุ่น– มีหลักฐาน พ.ศ. 1941 มีเรือสินค้าจากอยุธยาเดินทางมาค้าขายที่หมู่เกาะริวกิว (สินค้า – หนังสัตว์ สุรา ไม้จันทร์ น้ำตาล) ต่อมา พ.ศ. 2135 มีเรือญี่ปุ่นมาค้าขายกับอยุธยา ที่ นครศรีธรรมราชและปัตตานี • มีการส่งทูตมาเจริญสัมพันธไมตรี ขอเปิดการค้ากับอยุธยา ใน พ.ศ. 2149
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเล (ต่อ) • ญี่ปุ่น (ต่อ)- อยุธยา (สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ) ส่งราชทูตอัญเชิญพระราชสาส์นไปยังญี่ปุ่น • ชาวญี่ปุ่นเข้ามาตั้งหลักแหล่งทำการค้าในอยุธยาตามเมืองท่าสำคัญๆ • ชาวญี่ปุ่นเข้ามาประกอบการค้า และเข้ารับราชการสมัครเป็น “กองทหารอาสาญี่ปุ่น” เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอยุธยา ชาติตะวันตก– โปรตุเกส ฮอลันดา อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส • โปรตุเกส– ส่งทูตเข้ามาเจริญพระราชไมตรี เป็นการติดต่อทางการค้า มีการทำสนธิสัญญาระหว่างกัน (โปรตุเกสได้ยึดมะละกา ถือว่าเป็นเมืองขึ้นของอยุธยา) – ทั้งโปรตุเกสและอยุธยาสามารถค้าขายและตั้งบ้านเรือนภายในเมืองท่าฝ่ายตรงข้ามได้
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเล (ต่อ) • ฮอลันดา– ภายใต้บริษัทดัตช์อินเดียตะวันออก เข้ามาครั้งแรกสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมาตั้งสถานีการค้าที่ปัตตานี (พ.ศ. 2146) • สิทธิพิเศษทางการค้า เช่น สามารถค้าขายในอยุธยาได้เสรี และในเมืองนครศรีธรรมราชโดยไม่ต้องเสียภาษีอากร (เสียแต่จังกอบและฤชา) ทำสนธิสัญญา พ.ศ. 2160 ผูกขาดการซื้อหนังกวางและหนังสัตว์อื่นๆ (ยกเลิกในสมัยพระเจ้าปราสาททอง และในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฮอลันดายังคงได้สิทธิผูกขาดการค้าหนังสัตว์ต่อ) • อังกฤษ – ภายใต้บริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ได้ส่งทูตเข้ามาสมัยพระเจ้าทรงธรรม และได้เข้ามาตั้งสถานีการค้า แต่ขัดแย้งกับฮอลันดา และเข้ามาอีกครั้ง สมัยพระนารายณ์ ได้รับสิทธิผูกขาดซื้อดีบุกที่ไชยา ชุมพร พัทลุง
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับดินแดนโพ้นทะเล (ต่อ) • อังกฤษ (ต่อ) - เหตุการณ์การรบที่เมืองมะริด พ.ศ. 2230 ระหว่างอยุธยากับอังกฤษ การค้าลดลง • ฝรั่งเศส– มีจุดประสงค์ในการเผยแพร่คริสต์ศาสนา • สมัยสมเด็จพระนารายณ์ - สังฆราชแห่งเบริตและคณะ ได้แวะพักที่อยุธยา ระหว่างเดินทางไปญวนและจีน และถวายพระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 • สมเด็จพระนารายณ์ยอมให้มีการเผยแพร่ศาสนา และทรงแต่งตั้งราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส สำเร็จ ในปี พ.ศ. 2227 • ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศส เป็นไปด้วยดีเฉพาะในสมัยของพระนารายณ์