360 likes | 487 Views
หน่วยที่ 5 กลยุทธ์ในการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. เนื้อหา. ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร จุดเริ่มต้น และเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจ บนอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
E N D
หน่วยที่ 5กลยุทธ์ในการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เนื้อหา • ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร • จุดเริ่มต้น และเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต • เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย • การดำเนินธุรกิจโดยใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ • การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์ • องค์กรภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์
ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร • พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีองค์ประกอบและมีผู้มีส่วนร่วมที่คล้ายกับตลาดทั่วไป เพียงแต่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นการรวบรวมเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลกับเทคโนโลยีการสื่อสารและขั้นตอนต่างๆ ในการค้าไว้ด้วยกัน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถทำให้ตลาดมีความใกล้เคียงกับตลาดแบบสมบูรณ์ (Perfect Market) เพราะผู้ซื้อผู้ขายสามารถเปรียบเทียบและตรวจเช็คข้อมูลของกันและกันได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างเต็มที่ทั้งในด้านราคา คุณภาพ และบริการ ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า
จุดเริ่มต้น และเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต • พิจารณาความพร้อมของบริษัท พิจารณาว่าจะพัฒนาเว็บไซต์มาเพื่อวัตถุประสงค์ใด เช่นเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท ประชาสัมพันธ์สินค้า หรือว่าเพื่อมุ่งขายสินค้าโดยตรง ซึ่งแต่ละวัตถุประสงค์ก็จะมีองค์ประกอบภายในเว็บไซต์ต่างๆกัน ทำให้ต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานโดยละเอียด เพื่อให้มีแผนการทำงานที่แน่นอน • เลือกสินค้าที่จะจำหน่าย ควรศึกษาถึงความเป็นไปได้ของสินค้าที่จะจำหน่าย ดูสภาพตลาดว่ามีสินค้าประเภทเดียวกันนี้ในท้องตลาดมากน้อยเพียงใด แล้วนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับสินค้าของเรา เพื่อศึกษาหาความเป็นไปได้ในการเจาะตลาดนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ยากเท่านั้นอาจเป็นสินค้าที่มีจำหน่ายอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มช่องทางจำหน่าย สินค้าที่จะจัดจำหน่าย ราคาต้องไม่สูงเกิน ไป และสามารถจัดส่งได้สะดวก สินค้าที่จำหน่ายผ่านอินเทอร์เน็ตจะแบ่งได้เป็นสองรูปแบบคือ สินค้าที่จับต้องได้ (Physical Goods) คือสินค้า ทั่วๆไป และสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (Digital Goods) เช่นเพลง ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการบริการ (Services)
จุดเริ่มต้น และเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต • พัฒนาเว็บไซต์จะทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ เป็นที่แน่นอนว่าสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ เว็บไซต์ การพัฒนาเว็บไซต์ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้ • กำหนดโครงสร้างของเว็บไซต์ว่าจะมีอะไรบ้าง เช่น Homepage, Company Profile, Product and Service, FAQ, Contact เป็นต้น • กำหนดรูปแบบของเว็บไซต์และเว็บเพจว่าภาพโดยรวมเป็นอย่างไร เรียบง่ายแต่รวดเร็ว หรือมีลูกเล่นมากแต่แสดงผลช้า • กำหนดวิธีการอธิบายลักษณะสินค้า และบริการให้สมบูรณ์ • กำหนดราคาสินค้า (บาทและดอลลาร์สหรัฐฯ) ราคารวมค่าขนส่ง/ประกันภัย/ภาษี • ลงรายละเอียดของร้านค้าที่ลูกค้าจะติดต่อได้ • กำหนดและระบุนโยบายการคืนสินค้า ถ้าไม่มีนโยบายการคืนสินค้าร้านค้าต้องแจ้งลูกค้าทราบ
จุดเริ่มต้น และเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต • การรับและบริหารการสั่งซื้อ • ระบบการสั่งซื้อ (Ordering System) • ระบบการชำระเงิน (Payment System) วิธีที่สะดวกที่สุดคือการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต • ยืนยันคำสั่งซื้อ • บรรจุสินค้าเพื่อทำการจัดส่ง • วิธีการส่งต้องรวดเร็วและสะดวก โดยเสนอทางเลือกให้ลูกค้าด้วย • ดำเนินการทางด้านภาษีให้ถูกต้อง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเริ่มต้นทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือเมื่อคุณสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีศักยภาพและความพร้อมเพียงพอ อย่าลังเลรีรอ ถึงแม้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ใหม่ ยังต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับตัวของสังคมอีกเป็นเวลานานกว่าจะทำให้นวัตกรรมนี้แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นจนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับด้านอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ในช่วงแรกที่เข้าสู่ระบบนี้ก็ยังประสบปัญหาและเสียเวลาในการปรับกระบวนการทำงานและวัฒนธรรมในองค์กรเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเข้าสู่ระบบนี้ได้เร็วเท่าไหร่ย่อมหมายถึงว่าเวลาและโอกาสที่จะใช้ในการเรียนรู้และปรับตัวก็มีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ทั่วโลกพร้อม คุณก็จะพร้อมแล้วเช่นกัน • อีกประการหนึ่งคือ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วทำให้การกระจายข่าวบนชุมชนอินเทอร์เน็ตทำได้รวดเร็ว ซึ่งย่อมเป็นผลดีแก่ผู้บุกเบิกหรือริเริ่มอะไรใหม่ๆ เพราะจะได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของชื่อเสียงและภาพพจน์ของบริษัท
เงินลงทุนเบื้องต้น • ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ประการ เช่น ขนาดและความซับซ้อนของเว็บไซต์ แผนการตลาดและประชาสัมพันธ์ เป็นต้น แต่ถ้าพูดถึงงบประมาณหลักๆ ที่จำเป็นต้องมีไว้ในกรณีที่ต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง คืองบประมาณสำหรับคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ค่าจ้างในการทำเว็บไซต์ ค่าดูแลรักษาเว็บไซต์ และ ค่าโฆษณา เป็นต้น โดยรวมแล้วอยู่ประมาณหลักแสนถึงล้านบาท อย่างไรก็ดีสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย ไม่เพียงพอสำหรับวิธีนี้ ทางเลือกอื่นก็มี เช่น การสร้างเว็บไซต์บน Free Homepage หรือ การเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในไซเบอร์มอลล์ (Cyber Mall) ซึ่ง สองแบบหลังนี้ใช้เงินทุนน้อยกว่า เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของ ค่าซอฟต์แวร์ ค่าจ้างแรงงาน หรือ ค่าดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ • อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ข้อดีของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก็คือ เงินลงทุนที่ใช้นั้นน้อยกว่าที่ใช้สำหรับการมีร้านหรือธุรกิจแบบกายภาพเป็นอย่างมาก
เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • เกณฑ์การเลือกเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับธุรกิจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือ ขนาดของธุรกิจ ถ้าตั้งใจทำเว็บไซต์ขนาดใหญ่หลายสิบหน้า มีลูกค้าเยี่ยมชมซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง จำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ขั้นสูงที่มีประสิทธิภาพและราคาสูงกว่าซอฟต์แวร์สำหรับเว็บไซต์ที่มีอยู่ งบประมาณเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งงบประมาณน้อยย่อมมีทางเลือกที่จำกัดกว่า • การประเมินจากประเภทของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็สามารถช่วยในการตัดสินใจได้ ถ้าเว็บไซต์เป็นแบบ B2C ซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างจากสำหรับ B2B เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับ B2C จะต้องมีในส่วน ของภาษีการค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าขนส่ง เป็นต้น แต่ในส่วนของ B2B ตรงนี้อาจไม่จำเป็น เพราะสามารถทำได้ใน Extranet • ทั้งนี้และทั้งนั้น ขอให้คำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก ช่วงเริ่มต้นนี้ไม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยที่สุด ขึ้นอยู่กับความจำเป็นจริงๆ มากกว่า ขอให้ตอบสนองคุณลักษณะพื้นฐานต่างๆ ที่ต้องการใช้ได้ทั้งหมดก็พอ เทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เลือกที่ใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ แล้วเลือกที่จะอัพเกรดในภายหลัง เมื่อถึงเวลา
เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • เมื่อได้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การติดตั้งระบบ โดยอาจเลือกที่จะทำด้วยตัวเองหรือจะจ้างบริษัทภายนอกมาดำเนินงานให้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต่อองค์กรของคุณ • หากต้องการสร้างระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นจากทีมงานภายในบริษัทเอง บริษัทจำเป็นต้องจ้างวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถสูง ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือ ความยืดหยุ่นของระบบมีสูง และสามารถพัฒนาระบบให้เข้ากับธุรกิจได้ดีกว่าและสามารถปรับเปลี่ยนระบบได้ตามความต้องการ จุดอ่อนของวิธีนี้ก็คือ ความจำเป็นที่ต้องจ้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูงในด้านเทคโนโลยีไว้ภายในบริษัท ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายสูง และอาจมีปัญหาเรื่องการรักษาบุคลากรเอาไว้อีกด้วย เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก แต่หากว่าบริษัทของคุณมีขนาดใหญ่พอสมควรและพิจารณาแล้วว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญของบริษัท ทางเลือกนี้ก็น่าจะจำเป็น
เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • อีกวิธีหนึ่งคือ การมอบหมายให้บริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านนี้รับผิดชอบ (Outsource) ข้อดีของวิธีนี้อยู่ตรงที่ช่วยลดปัญหาเรื่องการบริหารบุคลากรและอาจมีต้นทุนต่ำกว่าในกรณีที่ไม่มีการไม่แก้ไขหรือปรับปรุงระบบบ่อยเกินไปนัก ส่วนข้อเสีย ก็คือ การสื่อสารกับบริษัทภายนอกมักทำได้ไม่เต็มที่เท่ากับการสื่อสารกับบุคลากรภายใน ซึ่งอาจทำให้ระบบที่ได้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างเต็มที่ • ประการสุดท้ายเรื่องของความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ ถ้าหากคุณไม่ได้คิดจะสร้างทุกอย่างขึ้นมาจากสองมือของคุณเองแล้ว ความรู้พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้า คอร์สเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซับซ้อนเพิ่มเติม ณ เวลานี้แต่ละบริษัทต่างให้ความสำคัญกับความง่ายและสะดวกสบายในการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับต้นๆอยู่แล้ว
มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย • เมื่อผู้ผลิต ผู้ขาย และลูกค้า เข้ามาอยู่ในระบบการติดต่อที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลกภายในเสี้ยววินาที ก่อให้เกิดการซื้อขายอย่างคล่องตัว ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย • เนื่องจากพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำธุรกิจในปัจจุบัน สำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในไทย ติดอันดับ 30 ของโลก อันดับที่ 1 คือ สหรัฐฯ,2 เยอรมณี และ 3 ญี่ปุ่น ในปี 2553 มูลค่าการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในไทยมีมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 668,000 ล้านบาท คนไทยนิยมซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตร้อยละ 40 • เว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กของไทยที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค 5 อันดับ (สำรวจ ต.ค. 2552) ได้แก่ • 1.www.pramool.com • 2. www.welovesshopping.com • 3. www.tarad.com • 4. www.pantipmarket.com • 5. www.thaionlinemarket.com
มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย • กลุ่มธุรกิจที่มีการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยว โดยคิดเป็นร้อยละ 26 รองลงมาคือ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 15 และธุรกิจเครื่องนุ่งห่มตามมาเป็นอันดับที่ 3 ที่ร้อยละ 8
การดำเนินธุรกิจโดยใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การดำเนินธุรกิจโดยใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยขั้นตอนทางธุรกิจต่างๆ ดังนี้ • การโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า/บริการ ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าผ่านสื่อต่างๆ • การสั่งซื้อ เมื่อลูกค้าพอใจในสินค้า/บริการ จะทำการสั่งซื้อสินค้า/บริการดังกล่าว • การชำระเงินค่าสินค้า/บริการนั้นๆ ซึ่งจะต้องทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัย • การจัดส่งสินค้า/บริการ โดยผู้ประกอบการต้องจัดส่งสินค้า/บริการให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว และตรงเวลา • แต่ถ้าเจาะลึกลงไปในรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานของธุรกิจเฉพาะอย่าง จะพบว่ามีการดำเนินงานที่มีลักษณะเฉพาะตัวออกไป เช่น ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ที่จะต้องมี Customer Relationship, Customer Service ที่จะต้องเก็บประวัติของลูกค้า และพยายามรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ โดยการเชิญชวนลูกค้าเหล่านั้นให้กลับมายังโรงแรม เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าของการให้บริการ และเป็นการสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้า
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 1. การประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของตัวเองวิธีการใช้เว็บไซต์ของตนเองในการทำประชาสัมพันธ์ บางวิธีก็มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผู้เข้าชมใช้เวลาบนเว็บไซต์นานขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ในยี่ห้อสินค้า แต่บางวิธีก็เพื่อทำให้ผู้เข้าชมกลับมาที่เว็บไซต์อีก 1.1 การลงทะเบียนวัตถุประสงค์ของการลงทะเบียนก็เพื่อเก็บรวบรวม ชื่อ นามสกุล e-Mail และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆของผู้เข้าชมเว็บไซต์ไว้โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น กรอกแบบสอบถามสั้นๆ สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร และ ตอบปัญหาชิงรางวัล เป็นต้น การลงทะเบียนนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดสำหรับการประชาสัมพันธ์แบบนี้ เพราะข้อมูลที่คุณได้มานั้น โดยเฉพาะ e-Mail ทำให้คุณสามารถสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ เช่น การ e-Mail กลับไปหาเพื่อแจ้งรายการสินค้าใหม่ หรือ เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ที่น่าสนใจมานำเสนอ 1.2 การแจกฟรีสินค้า หรือ คูปองส่วนลดการแจกฟรีสินค้าบางอย่างหรือคูปองส่วนลดก็เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่ผู้เข้าชมต้องเสียเวลาลงทะเบียน ตอบแบบสอบถาม หรือแม้กระทั่งเพียงแค่เสียเวลาเข้ามาชมเว็บไซต์
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 1.3 “Call-to-Action” Wordsเป็นข้อความที่จูงใจให้ผู้เข้าชมเกิดการปฏิบัติต่อเว็บไซต์ เช่น “เพียงแค่คลิ้กเดียว หน้านี้ก็กลายเป็นโฮมเพจของคุณแล้ว”, “โทรหาเรา เดี๋ยวนี้สิคะ” หรือ “ลงทะเบียนกับเราสิคะ ของที่ระลึกรอคุณอยู่” เป็นประเภทของข้อความที่เป็นที่นิยมอย่างมากบนเว็บไซต์ต่างๆ 1.4 กิจกรรมพิเศษคือ การทำให้ผู้เข้าชมกลับมาที่เว็บไซต์อีกครั้งโดยใช้กิจกรรมพิเศษเป็นตัวดึงดูด เช่น การพูดคุยแบบออนไลน์กับดารา นักร้อง การถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตผ่านเว็บไซต์ หรือ การลดราคาสินค้าประจำปี เป็นต้น 1.5 เว็บบอร์ด (Web Board)เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ เว็บบอร์ดมีขึ้นเพื่อเป็นที่แสดงความคิดเห็นในหัวข้อเรื่องต่างๆที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเว็บไซต์จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมตั้งกระทู้ใหม่หรือแสดงความคิดเห็นในกระทู้เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งทุกข้อความจะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ทันทีหลังจากที่ถูกพิมพ์เสร็จ วิธีนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้เข้าชมกลับมายังเว็บไซต์อีกในภายหลัง เพื่อดูว่ามีความคิดเห็นใดเกิดขึ้นบ้างกับกระทู้ของตน หรือมีกระทู้ใหม่ใดบ้างที่น่าสนใจ
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2.การประชาสัมพันธ์บน World Wide Webมีมากมายทั้งแบบฟรีและแบบที่ต้องเสียเงิน แต่วิธีที่สำคัญๆ มีดังต่อไปนี้ 2.1การโฆษณาโดยใช้แบนเนอร์ 2.2การแลกเปลี่ยนลิงค์ (Link) หรือแบนเนอร์ กับเว็บไซต์อื่นๆเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งอีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น การแลกปลี่ยนลิงค์คือการตกลงกับเว็บไซต์หนึ่งว่าต่างฝ่ายต่างจะนำลิงค์ของอีกฝ่ายหนึ่งไปไว้บนเว็บไซต์ของตน ลิงค์ที่ใช้อาจเป็นได้ทั้งตัวอักษร โลโก้ หรือ แม้กระทั่งแบนเนอร์ (ซึ่งมักเรียกว่าแลกเปลี่ยนแบนเนอร์แทน) โดยมากแล้วเว็บไซต์ที่จะยอมแลกเปลี่ยนลิงค์กันมักเป็นเว็บไซต์ที่มี ขนาด ชื่อเสียง ประเภทเนื้อหา และกลุ่มเป้าหมาย ที่เหมือนกัน อย่างไรในบางกรณี การแลกเปลี่ยนลิงค์กับเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงกว่ามาก อาจจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายบ้าง
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2.3 การจดทะเบียนกับ Search Engine Search Engine คือเครื่องจักรที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล โดยใช้ดัชนีตัวแทน (Indexing Agents) ที่รู้จักกันดีในชื่อของ Spiders, Robots, Crawlers, หรือ Wanderers ที่สามารถค้นหาเว็บไซต์ที่มีคำที่ค้นหา (Keyword) ปรากฏอยู่ รวมทั้งลิงค์และหน้าต่างๆที่เกี่ยวกับเว็บไซต์นั้นไว้ได้ ข้อมูลที่ได้จาก Search Engine จึงมีความละเอียด • จริงๆ แล้วมีมากมายหลายวิธี ที่จะทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและดึงดูดความสนใจของผู้ชมโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่วิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้แก่ การขึ้นทะเบียนเว็บไซต์กับ Search Engine ซึ่งทำได้ไม่ยาก เพียงไปยังแต่ละ Search Engine เช่น Google, Excite, Yahoo!, หรือ Altavistaแล้วกรอกแบบฟอร์มขอขึ้นทะเบียนเว็บไซต์ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย นอกจากนี้ยังสามารถจดทะเบียนผ่าน http://www.registerit.com ที่มีชื่อเสียงในการให้บริการด้านนี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 3.การประชาสัมพันธ์ในที่อื่นๆบนอินเทอร์เน็ต3.1 Newsgroupคือแหล่งชุมนุมของผู้ที่สนใจในเรื่องราวเดียวกันบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยการฝากข้อความ หรือสอบถามข้อมูลกันได้ การฝากข้อความใน Newsgroup นี้เปิดโอกาสให้คุณได้ทิ้งลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้ง URL ของเว็บไซต์ของคุณไว้ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์วิธีหนึ่ง หัวข้อเรื่องต่างๆ ใน Newsgroup มีอยู่มากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ บันเทิง เรียกได้ว่าคลอบคลุมเกือบทุกเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้คน 3.2 Mailing Listsเป็นการรวบรวมชื่อและ e-Mail ของผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันเข้าด้วยกัน สามารถเป็นหนึ่งในรายชื่อนั้นได้โดยการส่ง e-Mail ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บรายชื่อนี้ไว้ หลังจากนั้นก็สามารถเริ่มแลกเปลี่ยนข้อความทาง e-Mail กับคนอื่นๆในรายชื่อนั้นได้
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 4.การประชาสัมพันธ์ที่ไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ตวิธีนี้ก็คือการประชาสัมพันธ์บนสื่อทั่วๆ ไปนั่นเอง เช่น การโฆษณาบนโทรทัศน์ วิทยุ หรือ ป้ายโฆษณากลางแจ้ง ซึ่งวิธีดังกล่าวต้องใช้เงินสูง ดังนั้นการแจกสินค้าพรีเมี่ยมพวกเครื่องเขียน เช่น ปากกาที่มีชื่อเว็บไซต์ของคุณอยู่ หรือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น แผ่นรองเม้าส์ ที่มีรูปโลโก้เว็บไซต์ของคุณอยู่ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • วิธีการโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตที่เป็นที่นิยมมากที่สุดวิธีหนึ่งได้แก่ การโฆษณาผ่านแบนเนอร์ (แถบโฆษณาบนเว็บไซต์) บน เว็บพอร์ทัลหลักๆ เช่น Yahoo!, Excite, และ Mwebเป็นต้น เพราะเว็บไซต์ประเภทนี้มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ดังนั้นโอกาสของแบนเนอร์ที่จะเข้าถึงลูกค้าก็มีสูง • บางบริษัทพบว่าการโฆษณาบนเว็บ Portal ใหญ่ๆ สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จริงแต่คนเหล่านั้นอาจไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการก็ได้ ในทางตรงกันข้ามการโฆษณาบนเว็บไซต์ที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนตรงกับเป้าหมายของสินค้าน่าจะได้ผลดีกว่า เช่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันฉบับใหม่อาจจะลงโฆษณาบน Qthai.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสารด้านธุรกิจและการเงินของไทยมากกว่าจะไปลงโฆษณาบน Mweb.co.thหรือว่า ซอฟต์แวร์สร้างกราฟิกเวอร์ชันใหม่ล่าสุด อาจจะลงโฆษณาบน Webmaster.or.thแทนที่จะไปลงโฆษณาใน Thairath.com การลงโฆษณาแบบนี้แน่นอนว่าเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และยังเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ตรงกว่าด้วย
การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์การประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ใช้สำหรับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ • เมื่อความนิยมเช่นนี้เกิดขึ้นมากเรื่อยๆ เว็บพอร์ทัลต่างๆ จึงต้องหากลยุทย์ใหม่มานำเสนอ โดยเสนอการลงโฆษณาแบบใหม่ที่ขึ้นอยู่กับคำที่ผู้ชมต้องการค้นหา (Keyword) เช่น ถ้าผู้ชมคนหนึ่งใน Sanook.com ค้นหาคำว่า “อาหารไทย” ในหน้าที่แสดงผลลัพธ์ จะมีภาพโฆษณาของร้านอาหารต่างๆ ปรากฏขึ้นมาด้วย วิธีนี้จะช่วยทำให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น
กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ 1. สำรวจตัวเอง เพื่อค้นหาจุดอ่อน/จุดแข็งของสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ • เป้าหมาย • สินค้าและบริการ • ต้นทุน • บุคลากร • เทคโนโลยี
กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ 2. สำรวจตลาด เพื่อทราบความต้องการของตลาด • กลุ่มเป้าหมาย • ความต้องการของตลาดด้านสินค้า/บริการ • ราคา • พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. สำรวจคู่แข่ง เพื่อสร้างความแตกต่าง • สินค้า/บริการ • ราคา • กลุ่มเป้าหมาย
กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์กระบวนการในการจัดทำร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ 4. สำรวจศักยภาพทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันในด้านต่างๆ ต่อไปนี้ • ระบบสั่งซื้อ • ระบบโต้ตอบอัตโนมัติ • ระบบส่งเสริมการขาย • ระบบชำระเงิน • ระบบหลังร้าน • ระบบรักษาความปลอดภัย
การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์ หลักในการพิจารณาว่าสินค้าใดเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถทำการตลาดได้ง่าย และสร้างรายได้ได้ดี มีดังนี้ • สนองความต้องการกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง อย่างแรกเราต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะทำให้เราประสบความาสำเร็จอย่างรวดเร็ว ต้องมีอำนาจซื้อ (มีเงิน) จากนั้นดูความต้องการสินค้าที่เขายังขาดอยู่ และเมื่อรู้ตัวสินค้านั้น ก็ต้องทราบความต้องการใช้งานที่แท้จริงเป็นอย่างไร เป็นความต้องการถาวรหรือไม่ หรือว่าเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ต้องการซื้อในราคาเท่าใด หากซื้อจะไปซื้อที่ช่องทางใด และมีปัจจัยในการซื้อสินค้าที่ว่านี้อย่างไร • ต้องจัดหาได้โดยง่าย เราสามารถผลิตหรือสร้างสรรค์เองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพิงโรงงานผลิต เพราะจะทำให้เสียเวลารอคอยควบคุมต้นทุนไม่ได้ ฉะนั้นควรขายสินค้าที่เป็นต้นฉบับ แล้วสามารถให้ลูกค้า Copy จากต้นฉบับนี้ได้เองโดยอัตโนมัติเป็นดีที่สุด • ไม่ต้องจัดส่ง คือขายเสร็จแล้วไม่ควรจะต้องเสียเวลาบรรจุหีบห่อ เพราะการส่งมอบด้วยวิธีปกติจะทำให้สินค้ามีโอกาสเสียหาย หรือล่าช้าได้ อาจทำให้ลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้า ทางที่ดีการจัดส่งควรอยู่ในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หนังสือพิมพ์ เพลง เป็นต้น
การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์ • ขายตัวเองได้โดยอัตโนมัติ สามารถสร้างระบบการขายแลกเปลี่ยนอัตโนมัติ คือเชื่อมต่อกับระบบตะกร้า ระบบรับชำระเงินเรียลไทม์หรือออนไลน์ เมื่อบัตรเครดิตอนุมัติผ่านแล้ว ก็ให้ผู้ซื้อเข้าไปรับสินค้า/บริการนั้นๆ ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระแก่เจ้าของเว็บอีก เช่น ลูกค้าเข้าไปดาวน์โหลดได้ • ผู้ซื้อสามารถจัดการเองได้ เลือกคุณลักษณะหรือบริการปลีกย่อยได้เอง เมื่อลูกค้าเลือกจนเป็นที่พอใจแล้ว ระบบสามารถคิดราคายืดหยุ่นให้โดยอัตโนมัติ • ราคาเหมาะสม ซื้อ-ขายคล่อง ราคาของสินค้า/บริการควรจะอยู่ในระดับที่ซื้อ-ขายคล่อง และมีหลายระดับราคาให้เลือก มักอยู่ในช่วงตั้งแต่ 10-200 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาระดับนี้จะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกกล้าที่จะเสี่ยง และเมื่อได้รับสินค้า/บริการในทันทีก็จะมั่นใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการมีระดับราคาต่ำๆ ไว้ให้เป็นตัวเลือกนั้นถือว่าสำคัญมาก เพราะลูกค้าบางรายจะทดลองซื้อสินค้าที่ถูกที่สุดในร้านก่อนเพื่อทดสอบคุณภาพการให้บริการก่อน • จับกลุ่มเป้าหมายได้กว้าง ไม่ควรจำกัดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เพราะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีอยู่ทั่วโลก ดังนั้นเว็บไซต์ของเราควรทำเป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าจะให้ดีควรจัดทำเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศกลุ่มเป้าหมายไว้ด้วย
การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์ • หาได้ยากในท้องตลาดทั่วไป ไม่เช่นนั้นจะขายได้ลำบาก พยายามคิดริเริ่มสินค้าใหม่ๆ ที่ตลาดต้องหาออกมา ต้องขยันปรับปรุงเพื่อให้แตกต่างกับที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดตลอดเวลา เป็นการดึงลูกค้าให้เป็นลูกค้าประจำและเพิ่มคุณค่าของสินค้า • ขายได้ต่อเนื่อง หรือต้องซื้อเป็นประจำ ควรเป็นระบบเช่า เพราะจะสร้างกระแสเงินสดที่ต่อเนื่อง และหมุนเวียนตลอดเวลา หรือเป็นสินค้าประเภทที่มีวันหมดอายุ หรือใช้แล้วหมดไปทำให้ต้องมาต่ออายุ หรือสมัครเป็นสมาชิกประจำ หรือทำให้สินค้านั้นตกรุ่นบ่อยๆ • จัดระบบการขายแบบ Multi-Level Marketing (MLM) ได้ ควรเป็นสินค้า/บริการที่มีคนใช้เป็นจำนวนมาก เข้าใจง่าย แพร่หลาย และมีส่วนต่างของกำไรมาก พอที่จะจัดแบ่งให้แต่ละลำดับชั้นของตัวแทนขายที่ต้องจัดสรรค่าคอมมิชชั่นลงไปเป็นทอดๆ
การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์การเลือกสินค้าให้เหมาะสมสำหรับการค้าออนไลน์ • คู่แข่งเลียนแบบได้ยาก สินค้าที่ว่านี้ต้องมีคุณลักษณะพิเศษ ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อท่านนำออกขายได้ไม่นาน คู่แข่งก็อาจจะลอกเลียนแบบและทำออกมาขายแข่ง ซึ่งกลายเป็นว่าเราคิดสินค้าขึ้นมาแต่คนอื่นได้กำไรแทน • สามารถเชื่อมต่อกับระบบบริหารหลังร้านได้โดยง่าย คือสามารถติดต่อระบบฐานข้อมูลเพื่อบริหารด้านการเงิน บัญชี การบริการหลังการขาย การออกใบเสร็จรับเงิน การคิดคอมมิชชั่น(ถ้ามี) การสะสมแต้ม หรือการปรับปรุงข้อมูลต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ โดยที่ทำงานเพียงจุดเดียวก็สามารถให้ระบบดำเนินการต่อจนจบกระบวนการ • สร้างระบบให้ลูกค้าช่วยกันอัพเดทข้อมูลหรือระบบไปให้ด้วยในตัว เช่น Amazon.com ที่ให้ลูกค้าช่วยขายหนังสือโดยการวิจารณ์และให้ประเมินคุณภาพของหนังสือ
องค์กรภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์ • กระทรวงวิทยาศาสตร์ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) http://www.nectec.or.thศูนย์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ECRC) http://www.ecommerce.or.th • กระทรวงอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมการส่งออก (http://www.depthai.go.th) และเว็บไซต์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง http://www.wethai.com, http://www.thaiexponet.com, http://www.thailandexport.com, http://www.thaixport.com • กระทรวงพาณิชย์กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ http://www.thaiecommerce.net • กระทรวงการคลังธนาคารแห่งประเทศไทย http://www.bot.or.th
องค์กรภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์ • บริษัท สยามเว็บ จำกัด – http://www.siamweb.com • บริษัท ดิจิทัล อินเทอร์เน็ต แฟกทอรี่ จำกัด – http://www.digitalinternetfactory.com • บริษัท เว็บสตูดิโอวัน โซลูชั่นจำกัด – http://www.webstudio-1.com • บริษัท สยามอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยี จำกัด – http://www.siam-e-Commerce.com • บริษัท เน็ต เรดดี้ จำกัด – http://www.netready.co.th • อาร์เคเดียน อินเทอร์เน็ต กรุ๊ป – http://www.arcadian.net ฯลฯ