890 likes | 1.96k Views
10 - 3. บทที่ 10 งบลงทุน. 1. ความสำคัญของงบลงทุน. 2. แนวความคิดทำให้เกิดโครงการลงทุน. 3. การจำแนกโครงการลงทุน. 4. การประเมินโครงการลงทุนคล้ายกับ การประเมินราคาหลักทรัพย์. 10 - 4. 5. วิธีการประเมินโครงการลงทุน - ระยะเวลาคืนทุน ( PB ) - ระยะเวลาคืนทุนโดยคิดเป็น
E N D
10 - 3 บทที่ 10 งบลงทุน 1. ความสำคัญของงบลงทุน 2. แนวความคิดทำให้เกิดโครงการลงทุน 3. การจำแนกโครงการลงทุน 4. การประเมินโครงการลงทุนคล้ายกับ การประเมินราคาหลักทรัพย์
10 - 4 5. วิธีการประเมินโครงการลงทุน - ระยะเวลาคืนทุน ( PB ) - ระยะเวลาคืนทุนโดยคิดเป็น มูลค่าปัจจุบัน ( DPB ) - มูลค่าปัจจุบันสุทธิ ( NPV ) - อัตราผลตอบแทนของโครงการ ( IRR )
10 - 5 6. การเปรียบเทียบวิธี NPV และวิธี IRR 7. วิธีอัตราผลตอบแทนของโครงการ ที่ปรับปรุงใหม่ ( MIRR ) 8. สรุปวิธีต่างๆในการประเมินโครงการลงทุน 9. การนำไปใช้ในแวดวงธุรกิจ 10. การตรวจสอบติดตามผล 11. การใช้เทคนิคของงบลงทุนเพื่อการ ตัดสินใจในด้านอื่น
10 - 6 1. ความสำคัญของงบลงทุน 1. การตัดสินใจจะมีผลต่อเนื่องในอนาคต หลายปี เข้าทำนองคำพังเพยโบราณ “ แต่งงานผิดคิดจนตัวตาย ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลาย ” 2. การตัดสินใจขึ้นอยู่กับการพยากรณ์ยอด ขายในระยะยาว
10 - 7 3. การตัดสินใจเรื่องงบลงทุนจะใช้เป็นตัวกำหนด ทิศทางในเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ผลของการ พยากรณ์ความต้องการสินทรัพย์ผิด ถ้าลงทุน มากเกินไปทำให้ต้องจ่ายเงินมาก มีค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายในการผลิตต่างๆ ตามมาอีกมาก ถ้าลงทุนน้อยเกินไปจะเกิดปัญหา 2 กรณี คือ - เครื่องจักรไม่เพียงพอผลิตสินค้าขาย - กำลังการผลิตไม่เพียงพอ ทำให้เสียส่วนแบ่งตลาด
10 - 8 4. ต้องใช้เวลาขยายหรือดำเนินงานตามโครงการ ถ้าบริษัทรอให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นก่อน แล้วจึงลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มขึ้นอาจจะช้าเกินไป ต้องตัดสินใจลงทุนล่วงหน้า โดยพยายามพยากรณ์ ยอดขายล่วงหน้าให้ถูกต้อง
10 - 9 2. แนวความคิดทำให้เกิดโครงการลงทุน การเติบโตของกิจการ ความสามารถในการแข่งขัน การคิดค้นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณภาพดีขึ้น การดำเนินงานที่ทำให้ต้นทุนลดลง
10 - 10 ถ้ากิจการมีผู้บริหารและพนักงานซึ่งมี วิสัยทัศน์และความสามารถ ประกอบกับการ ที่บริษัทมีระบบการจูงใจ โดยให้ผลตอบแทนที่ เหมาะสมแล้ว ก็จะเกิด แนวความคิดต่างๆ เกี่ยวกับ โครงการลงทุนได้มากมาย
10 - 11 3. การจำแนกโครงการลงทุน 1. โครงการใหม่ทดแทนโครงการเก่าที่หมดอายุ 2. โครงการใหม่ทดแทนโครงการเก่าเพื่อลดต้นทุน 3. โครงการขยายผลิตภัณฑ์เดิม 4. โครงการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ 5. โครงการเพื่อความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม 6. โครงการอื่น ๆ
10 - 12 4. “ การประเมินโครงการลงทุน ” คล้ายกับ “ การประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ ” การประเมินโครงการลงทุน การประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ กับ บทที่ 7 และบทที่ 8 บทที่ 10, 11 และ 12 มีขั้นตอนเหมือนกันทุกอย่าง จุดสำคัญ คือ การหาค่ามูลค่าปัจจุบัน
10 - 13 5. วิธีการประเมินโครงการลงทุน 5.1 ระยะเวลาคืนทุน ( Payback Period : PB ) 5.2 ระยะเวลาคืนทุนโดยคำนึงถึงมูลค่าปัจจุบัน ( Discounted Payback Period : DPB ) 5.3 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ ( Net Present Value : NPV )
10 - 14 5.4 อัตราผลตอบแทนของโครงการ ( Internal Rate of Return : IRR ) 5.5 อัตราผลตอบแทนของโครงการที่ ปรับปรุงใหม่ ( Modified Internal Rate of Return : MIRR )
10 - 15 5.1 ระยะเวลาคืนทุน ( PB ) วิธีนี้ประเมินว่าเมื่อลงทุนในโครงการแล้ว ใช้ระยะเวลานานเท่าไรจึงจะได้รับทุนคืน ตัวอย่าง โครงการ S และ โครงการ L ใช้เงินลงทุน เท่ากัน อายุโครงการ 4 ปี มีกระแสเงินสดสุทธิ ( หลังภาษี ) ดังนี้
10 - 16 ปี โครงการ S โครงการ L 0 - 1,000 - 1,000 1 500 100 2 400 300 3 300 400 4 100 600
10 - 17 โครงการ S 0 1 2 3 4 -1,000 500 400 300 100 โครงการ L 0 1 2 3 4 -1,000 100 300 400 600
10 - 18 กระแสเงินสดส่วนที่เหลือ กระแสเงินสดทั้งปี ระยะเวลา จำนวนปี คืนทุน ก่อนคืนทุน = + โครงการ S คืนทุน = 2 + ( 100 / 300 ) = 2. 33 ปี = 2 ปี 4 เดือน โครงการ L คืนทุน 3.33 ปี = 3 ปี 4 เดือน
10 - 19 เกณฑ์ในการตัดสินใจ กรณีเลือกโครงการเดียว : ถ้าเป็นโครงการที่ทดแทนกันได้ จะเลือก โครงการที่คืนทุนได้เร็วกว่า คือ โครงการ S กรณีเลือกได้ทุกโครงการ : ( เงินทุนไม่จำกัด ) เลือกโครงการที่ระยะเวลาคืนทุนน้อยกว่า เกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น กำหนดระยะเวลาคืน ทุนไม่เกิน 3 ปี จะเลือกโครงการ S ปฏิเสธ L
10 - 20 ประเภทของโครงการลงทุน 1. โครงการที่ทดแทนกันได้ ( mutually exclusive projects ) จะตัดสินใจเลือก ลงทุนเพียงโครงการเดียวที่คิดว่าดีที่สุด 2. โครงการที่เป็นอิสระต่อกัน ( independent projects ) จะตัดสินใจเลือกลงทุนได้ทุก โครงการที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
10 - 21 3. โครงการที่พึ่งพากัน ( dependent projects ) เลือก ก. ต้อง เลือก ข. ด้วย ไม่เลือก ข. ไม่เลือก ก.
10 - 22 ข้อดี 1. คำนวณง่าย ทราบว่าลงทุนแล้วจะ คืนทุนเมื่อไร โครงการที่คืนทุนเร็วจะมี สภาพคล่องมาก 2. ทราบความเสี่ยงของโครงการเบื้องต้น ยึดหลักความปลอดภัยของเงินลงทุน ( คืนทุนเร็วย่อมปลอดภัยกว่าคืนทุนช้า )
10 - 23 ข้อเสีย 1. ไม่คำนึงถึงมูลค่าของเงินตามเวลา การลงทุนจ่ายเงินปี 0 แต่ผล ประโยชน์จะทยอยตามมา 2. ไม่สนใจกระแสเงินสดที่เกิด ขึ้นหลังจากที่คืนทุนแล้ว
10 - 24 5.2 ระยะเวลาคืนทุนโดยคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน ( DPB ) วิธีนี้จะซื้อลดกระแสเงินสดใน อนาคตเป็นมูลค่าปัจจุบันด้วยต้นทุน ของเงินทุน ( WACC ) 10 % แล้วใช้วิธีการเดิมหาระยะเวลาคืนทุน
10 - 25 โครงการ S 0 1 2 3 4 กระแสเงินสดสุทธิ PV ของ NCF - 1,000 500 400 300 100 - 1,000 454.55 330.58 225.39 68.30 โครงการ L 0 1 2 3 4 - 1,000 100 300 400 600 - 1,000 90.91 247.93 300.52 409.81 กระแสเงินสดสุทธิ PV ของ NCF
10 - 26 โครงการ ระยะเวลาคืนทุน S 2 + ( 214 / 225 ) = 2. 95 ปี L 3 + ( 360 / 410 ) = 3. 88 ปี การตัดสินใจ เลือกโครงการ S เหมือนเดิม
10 - 27 5.3 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ ( NPV ) การประเมินโครงการวิธีนี้จะคิดมูลค่าปัจจุบัน ของกระแสเงินสดรับและจ่ายเปรียบเทียบกัน NPV = PV กระแสเงินสดรับ - PV กระแสเงินสดจ่าย = CF1 CF2 CFn CF0 + + + …… + ( 1 + k )1 ( 1 + k )2 ( 1 + k )n n t = 0 ( 1 + k )n = CFt
10 - 28 CF0 = เงินลงทุนเริ่มแรก CFt = กระแสเงินสดสุทธิปี t k = ต้นทุนของเงินทุนของโครงการ
10 - 29 โครงการ S 0 1 2 3 4 กระแสเงินสด - 1,000 500 400 300 100 454.55 330.58 225.39 68.30 78.82 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ
10 - 30 NPVS = - 1,000 + 500 + 400 + 300 + 100 ( 1.10 )1 ( 1.10)2 ( 1.10 )3 ( 1.10)4 = - 1,000 + 500 ( 0. 91 ) + 400 ( 0. 83 ) + 300 ( 0. 75 ) + 100 ( 0. 68 ) = 78. 82 บาท
10 - 31 โครงการ L - 1,000 100 300 400 600 10 CFi CFi CFi CFi i NPV EXE CFi มูลค่าปัจจุบันสุทธิ = 49. 18 บาท
10 - 32 เกณฑ์ในการตัดสินใจ NPV = 0 หมายความว่า อัตราผลตอบแทน ของโครงการเท่ากับต้นทุนของ เงินทุนพอดี คือ 10 % NPV = + หมายความว่า ลงทุนแล้วมีผลกำไร หรือ โครงการนั้นทำให้มูลค่าของกิจการเพิ่มขึ้น
10 - 33 1. ถ้าเป็นโครงการที่ทดแทนกันได้ จะเลือกโครงการที่ให้ NPV สูงกว่า ตามตัวอย่างคือ โครงการ S 2. ถ้าโครงการต่างเป็นอิสระกัน ( เงินทุนไม่จำกัด ) จะเลือกโครงการ ที่ให้ NPV เป็นบวก คือ ลงทุนได้ทั้ง โครงการ S และโครงการ L
10 - 34 5.4 อัตราผลตอบแทนของโครงการ ( IRR ) การประเมินโครงการวิธีนี้จะหาอัตรา ส่วนลด ( discount rate ) ที่ทำให้ผลรวม มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคต เท่ากับเงินลงทุนเริ่มแรก ( คือ อัตราส่วนลดที่ NPV เท่ากับ 0 )
10 - 35 CF1 CF2 CFn CF0 = + + ………… + ( 1 + IRR )1 ( 1 + IRR )2 ( 1 + IRR )n โครงการ S 500 400 300 100 1,000 = + + + ( 1 + IRR )1 ( 1 + IRR )2 ( 1 + IRR )3 ( 1 + IRR )4
10 - 36 โครงการ S 0 1 2 3 4 IRR CF - 1,000 500 400 300 100 1,000 ผลรวม PV CF1-4 IRR S = 14.5 % 0 NPV
10 - 37 วิธีที่ง่ายที่สุดใช้ Financial Calculator - 1,000 500 400 300 100 CFj CFj CFj CFj IRR EXE CFj IRR S = 14.5 % IRR = 11. 8 % โครงการ L
10 - 38 เกณฑ์ในการตัดสินใจ 1. IRR ของโครงการ คือ อัตราผลตอบแทน ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการนั้น 2. โครงการที่ให้ IRR = ต้นทุนของเงินทุน โครงการนั้นให้อัตราผลตอบแทน เท่ากับต้นทุนของเงินทุนด้วย
10 - 39 3. โครงการที่ให้ IRR > ต้นทุนของเงินทุน โครงการ นั้นให้อัตราผลตอบแทนมากกว่าต้นทุนของเงินทุน 4. จะเลือกโครงการที่ให้ IRR > ต้นทุนของเงินทุน ปฏิเสธโครงการที่ให้ IRR < ต้นทุนของเงินทุน 5. กรณีที่เป็นโครงการที่ทดแทนกันได้ จะเลือกลงทุน โครงการที่ให้ IRR สูงกว่า กรณีโครงการ S และโครงการ L : รับโครงการ S
10 - 40 6. เปรียบเทียบวิธี NPV และวิธี IRR 1. NPV Profiles คือ กราฟแสดงความสัมพันธ์ ระหว่าง NPV ของโครงการกับ ต้นทุนของเงินทุนของกิจการ ( ซึ่งใช้เป็นอัตราส่วนลด ในการคำนวณ NPV )
10 - 41 NPV โครงการ S และ L กับต้นทุนของเงินทุน NPV Project L, s Net Present Value Profile 400 300 Project S, s Net Present Value Profile Crossover Rate = 7.2% 200 100 IRRS = 14.5 % 0 Cost of Capital ( % ) 5 7.2 10 15 -100 IRRL = 11.8 %
10 - 42 IRR คือ อัตราส่วนลดที่ทำให้ NPV ของ โครงการมีค่าเท่ากับศูนย์ ตามรูป ดังนั้น จุดที่เส้น NPV Profile ตัดกับแกนนอน คือ IRR ของโครงการนั่นเอง
10 - 43 2. การจัดอันดับ NPV จะขึ้นอยู่กับ ต้นทุนของเงินทุน จากรูป อัตราส่วนลด 5 % NPVS < NPVL อัตราส่วนลด 7.2 % NPVS = NPVL== > Crossover Rate อัตราส่วนลด 10 % NPVS > NPVL
10 - 44 สรุปข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น (1) ถ้าอัตราส่วนลดสูงกว่า crossover rate เช่น 10 % ไม่ว่าจะใช้วิธี NPV หรือ IRR ก็จะเลือกโครงการ S ทั้งคู่ (2) ถ้าอัตราส่วนลดต่ำกว่า crossover rate เช่น 5 % วิธี NPV จะเลือกโครงการ L ( NPVS < NPVL ) แต่วิธี IRR จะเลือกโครงการ S เหมือนเดิม (IRRS > IRRL เสมอไม่ว่าอัตราส่วนลดจะเป็นเท่าใด)
10 - 45 (3) วิธี NPV นั้น การตัดสินใจ เลือกโครงการอาจเปลี่ยน แปลงได้ขึ้นอยู่กับอัตราส่วน ลด แต่วิธี IRR การตัดสินใจ ไม่เปลี่ยนแปลง
10 - 46 3. โครงการที่เป็นอิสระต่อกัน ( Independent Projects ) วิธี NPV และ IRR ตัดสินใจไม่ขัดแย้งกัน
10 - 47 1. รับโครงการได้ทั้ง S และ L ถ้าต้นทุนของ เงินทุนต่ำกว่า IRR ( NPV เป็นบวกทั้ง 2 โครงการ ) 2. ถ้าต้นทุนของเงินทุนสูงกว่า IRR จะปฏิเสธทั้งโครงการ S และ L
10 - 48 4. โครงการที่ทดแทนกันได้ ( Mutually Exclusive Projects ) 1. เมื่ออัตราส่วนลดสูงกว่า crossover rate เช่น 10 % ไม่ว่าจะใช้วิธี NPV หรือ IRR ก็จะเลือกโครงการ S ทั้งคู่
10 - 49 2. ถ้าอัตราส่วนลดต่ำกว่า Crossover Rate เช่น 5 % วิธี NPV จะเลือกโครงการ L ( NPVL> NPVS ) แต่วิธี IRR จะเลือก โครงการ S เหมือนเดิม ( IRRS > IRRL เสมอ ไม่ว่าอัตราส่วนลดจะเป็นเท่าใด ) L
10 - 50 3. กรณีดังกล่าวใช้ NPV ดีกว่า เพราะทราบว่า เลือกแล้วผู้ถือหุ้นมั่งคั่งอย่างไร วิธี NPV นั้น การตัดสินใจเลือกโครงการอาจเปลี่ยน แปลงได้ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนลด แต่วิธี IRR การตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลง
10 - 51 การเปรียบเทียบวิธี NPV และ IRR ข้อสมมติต่างกัน 1. วิธี NPV สมมติว่าเงินสดที่โครงการได้รับมาใน ปีแรกๆจะนำไปลงทุนต่อจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ โดยได้รับผลตอบแทนเท่ากับต้นทุนของเงินทุน 2. วิธี IRR สมมติว่าเงินสดที่โครงการได้รับมาใน ปีแรกๆจะนำไปลงทุนต่อจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ โดยได้รับผลตอบแทนเท่ากับอัตรา IRR
10 - 52 สรุป ข้อสมมติ NPV เหมาะสมกว่า 1. กรณีโครงการที่เป็นอิสระกัน ไม่ว่า จะใช้วิธี NPV หรือวิธี IRR จะมีผล ต่อการตัดสินใจเหมือนกัน 2. กรณีเป็นโครงการที่ทดแทนกันได้ ขนาดและ ระยะเวลาของกระแสเงินสดโครงการต่างกัน ควรใช้วิธี NPV ในการประเมินโครงการ