1.26k likes | 4.27k Views
IAS 39 การรับรู้และการวัดมูลค่าตราสารการเงิน. 2 5 กันยายน 2551. หัวข้อ. ตราสารการเงิน – การจัดประเภทและการวัดมูลค่า ตราสารอนุพันธ์และตราสารทางการเงินแบบผสม และการบัญชีเพื่อการป้องกันความเสี่ยง การประเมินการด้อยค่าของเงินให้กู้ยืมและการคำนวณ Effective Interest Rate. IAS 39.
E N D
IAS 39การรับรู้และการวัดมูลค่าตราสารการเงิน 25กันยายน 2551
หัวข้อ • ตราสารการเงิน – การจัดประเภทและการวัดมูลค่า • ตราสารอนุพันธ์และตราสารทางการเงินแบบผสม และการบัญชีเพื่อการป้องกันความเสี่ยง • การประเมินการด้อยค่าของเงินให้กู้ยืมและการคำนวณ Effective Interest Rate
IAS 39 • ขอบเขตของมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศฉบับที่ 39 “เรื่อง การรับรู้และการวัดมูลค่าตราสารการเงิน (IAS 39)”: • การรับรู้รายการและการตัดรายการออกจากบัญชี • การจัดประเภทรายการ • การวัดมูลค่า • การบัญชีเพื่อการป้องกันความเสี่ยง
IAS 39 การด้อยค่า การรับรู้รายการและ การตัดรายการอกจากบัญชี การวัดมูลค่า IAS 39 การบัญชีเพื่อการป้องกัน ความเสี่ยง อนุพันธ์แฝง
มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ไม่ครอบคลุมถึง:มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ไม่ครอบคลุมถึง: • ส่วนได้เสียในบริษัทย่อย (IAS 27), บริษัทร่วม(IAS 28) และกิจการร่วมค้า(IAS 31) • สิทธิและภาระผูกพันภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว (IAS 17) • สิทธิและภาระผูกพันของพนักงานภายใต้แผนสิทธิประโยชน์ของพนักงาน (IAS 19) • ตราสารการเงินที่ออกโดยกิจการซึ่งเข้าเงื่อนไขของตราสารทุนตามนิยามที่ระบุใน IAS 32 • สัญญาประกันภัย (IFRS 4) • สัญญาสำหรับผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นในการรวมกิจการ (IFRS 3) ในด้านผู้ซื้อกิจการ • สัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการรวมธุรกิจ ที่จะซื้อหรือขายกิจการในอนาคต (IFRS 3) • ภาระผูกพันที่จะให้สินเชื่อ (IAS 37) • รายการจ่ายชำระที่ใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ (IFRS 2)
ตราสารการเงิน (Financial instruments)
ตราสารการเงินคำจำกัดความตราสารการเงินคำจำกัดความ • สินทรัพย์ทางการเงิน • หนี้สินทางการเงิน หมายถึง สัญญาใด ๆ ที่ทำให้สินทรัพย์ทางการเงินของกิจการหนึ่ง และหนี้สินทางการเงินหรือตราสารทุนของอีกกิจการหนึ่งเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน แบ่งเป็น
ตราสารการเงินสินทรัพย์ทางการเงินตราสารการเงินสินทรัพย์ทางการเงิน หมายถึง สินทรัพย์ดังต่อไปนี้ • เงินสด • สิทธิตามสัญญาที่จะได้รับเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากกิจการอื่น • สิทธิตามสัญญาที่จะแลกเปลี่ยนเครื่องมือทางการเงินของกิจการกับเครื่องมือทางการเงินของกิจการอื่นภายใต้เงื่อนไขที่จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการ • ตราสารทุนของกิจการอื่น
ตราสารการเงินหนี้สินทางการเงินตราสารการเงินหนี้สินทางการเงิน หมายถึง สัญญาที่ทำให้กิจการเกิดภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ก) ส่งมอบเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นให้แก่กิจการอื่น ข) แลกเปลี่ยนเครื่องมือทางการเงินกับกิจการอื่นภายใต้เงื่อนไขที่อาจทำให้กิจการเสียประโยชน์
ตราสารการเงินตัวอย่างตราสารการเงินตัวอย่าง เงินลงทุน ลูกหนี้และ เงินให้สินเชื่อ รายการระหว่างธนาคารและตลาดทุน ตราสารอนุพันธ์ ตราสารทางการเงิน แบบผสม เงินฝากธนาคาร เงินกู้ยืม
สินค้าคงเหลือ สินทรัพย์ถาวร หุ้นทุนของกิจการ ตราสารการเงินตัวอย่าง
ตราสารการเงินการจัดประเภทสินทรัพย์ทางการเงินตราสารการเงินการจัดประเภทสินทรัพย์ทางการเงิน • จัดประเภทสินทรัพย์ทางการเงินเป็น 4 ประเภท คือ • สินทรัพย์ทางการเงินที่แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVPL) • สินทรัพย์ทางการเงินเผื่อขาย (Available for sale) • สินทรัพย์ทางการเงินที่จะถือจนครบกำหนด (Held to maturity) • เงินให้สินเชื่อและลูกหนี้ (Loans and receivables)
สินทรัพย์ทางการเงินFVPLสินทรัพย์ทางการเงินFVPL • สินทรัพย์ทางการเงินประเภทเพื่อค้า • ถือโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายหรือทำกำไรในระยะเวลาอันสั้น • ตราสารอนุพันธ์ (ยกเว้นตราสารอนุพันธ์ที่ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง) • สินทรัพย์ทางการเงินที่กิจการกำหนดให้แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน
สินทรัพย์ทางการเงินHeld to maturity หมายถึง สินทรัพย์ทางการเงินที่มิใช่ตราสารอนุพันธ์ซึ่งมีการระบุหรือกำหนดการจ่ายชำระเงินและระบุวันครบกำหนดที่แน่นอน • กิจการมีความตั้งใจแน่วแน่และมีความสามารถเพียงพอที่จะถือไว้จนครบกำหนด
สินทรัพย์ทางการเงินLoans and receivables คือ สินทรัพย์ทางการเงินที่ • มิใช่ตราสารอนุพันธ์ • ระบุหรือกำหนดการจ่ายชำระเงินแน่นอน • ไม่มีราคาเสนอซื้อขายในตลาดซื้อขายคล่อง
สินทรัพย์ทางการเงินAvailable for sale สินทรัพย์ทางการเงินเผื่อขาย คือ สินทรัพย์ที่ไม่ได้จัดประเภทเป็น • สินทรัพย์ทางการเงินที่แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVPL) • สินทรัพย์ทางการเงินที่จะถือจนครบกำหนด (Held to maturity) • เงินให้สินเชื่อและลูกหนี้ (Loans and receivables)
หนี้สินทางการเงินการจัดประเภทหนี้สินทางการเงินการจัดประเภท จัดประเภทหนี้สินทางการเงินเป็น 2ประเภท คือ • หนี้สินทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรม (FVPL) • หนี้สินทางการเงินอื่น
การวัดมูลค่าตราสารการเงินการวัดมูลค่าตราสารการเงิน
การวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินการวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงิน * สินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่ได้แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุนจะรวมต้นทุนในการทำรายการ
การวัดมูลค่าหนี้สินทางการเงินการวัดมูลค่าหนี้สินทางการเงิน * หนี้สินทางการเงินที่ไม่ได้แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุนจะรวมต้นทุนในการทำรายการ
การวัดมูลค่า Fair value accounting Why fair value accounting ? Fair value accounting for financial instruments introduced by IAS 39. What is fair value ? “Fair value is the amount for which an asset could be exchanged, or a liability settled, between knowledgeable, willing parties in an arm’s length transaction.” “มูลค่ายุติธรรม หมายถึง จำนวนเงินที่สินทรัพย์จะมีการแลกเปลี่ยนหรือหนี้สินจะมีการจ่ายชำระระหว่างคู่สัญญาที่มีความรอบรู้และเต็มใจในการทำรายการทางการค้าปกติ”
การวัดมูลค่า Fair value accounting (ต่อ) • Intended objective is to provide more relevant information to the users of financial statements • Information at fair value is more relevant than information at historical cost • Information at fair value is also more subjective than information at historical cost
การวัดมูลค่า มูลค่ายุติธรรม - active market • ราคาที่เผยแพร่อยู่ในตลาดที่มีการซื้อขายคล่อง (published price quotation in an active market) ถือเป็นราคาหลักฐานที่ดีที่สุดของมูลค่ายุติธรรม และจะต้องนำมาใช้ในการวัดมูลค่า
การวัดมูลค่ามูลค่ายุติธรรม - inactive markets • หากไม่มีราคาเสนอซื้อ (bid price) หรือราคาเสนอขาย (offer price) ที่เป็นปัจจุบัน - ราคาล่าสุดที่มีการซื้อขายถือเป็นหลักฐานที่ดีของมูลค่ายุติธรรม • หากตลาดสำหรับตราสารทางการเงินไม่ใช่ตลาดซื้อขายคล่อง - กำหนดมูลค่ายุติธรรมโดยใช้เทคนิคการประเมิน (valuation technique) เช่น • ราคาล่าสุดที่มีการซื้อ/ขายระหว่างบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน • มูลค่ายุติธรรมของตราสารอื่นที่มีลักษณะเหมือนกับตราสารที่กิจการต้องการหามูลค่า • วิธีการคิดลดกระแสเงินสด (Discounted cash flow analysis) • วิธีการหามูลค่า Option(Option Pricing Model) • Valuation technique ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายระหว่างผู้เล่นในตลาดดังกล่าว ซึ่งได้มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็น technique ที่ใช้ราคาที่เชื่อถือได้โดยมีการซื้อ/ขายกันจริงในอนาคต
การวัดมูลค่ามูลค่ายุติธรรม - inactive markets (ต่อ) • เทคนิคการประเมินมูลค่าต้อง: • รวมปัจจัยทั้งหมดที่ผู้เล่นในตลาดจะพิจารณาในการกำหนดราคาและ • สอดคล้องกับวิธีการทางเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับว่าเหมาะสมในการใช้กำหนดราคาตราสารทางการเงิน
การวัดมูลค่า มูลค่ายุติธรรม - ปัจจัยประกอบการใช้Valuation technique • IAS 39 ไม่ได้กำหนดเทคนิคการประเมินมูลค่าเป็นการเฉพาะ • ใช้กันทั่วไปโดยผู้เล่นในตลาด • ใช้ข้อมูลจากตลาดให้มากที่สุดและใช้ข้อมูลของตนเองให้น้อยที่สุด • รวมปัจจัยทั้งหมดที่ผู้เล่นในตลาดจะใช้ในการกำหนดราคา • เป็นเทคนิคที่คาดการณ์ได้ว่าจะกำหนดราคาได้เป็นจริง • มีการทดสอบความถูกต้องเป็นประจำ
การเปลี่ยนแปลงการจัดประเภทการเปลี่ยนแปลงการจัดประเภท • ต้องไม่เปลี่ยนการจัดประเภทตราสารทางการเงินเข้าหรือออกจากประเภทที่แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVPL) • โอนเปลี่ยนประเภทจาก AFS เป็น HTM • ณ วันที่เปลี่ยนประเภทการจัดรายการใหม่ต้องมีการวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินนั้นด้วยมูลค่ายุติธรรม และใช้มูลค่าดังกล่าวเป็นราคาทุนตัดจำหน่ายใหม่ ในกรณีที่สินทรัพย์ทางการเงินนั้นมีวันครบกำหนดแน่นอน กำไรหรือขาดทุนจะต้องถูกตัดจำหน่ายไปยังงบกำไรขาดทุนตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ โดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
การเปลี่ยนแปลงการจัดประเภท (ต่อ) • โอนเปลี่ยนประเภทจาก HTM เป็น AFS • วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรม โดยส่วนต่างระหว่างมูลค่าที่แสดงในบัญชีและมูลค่ายุติธรรมให้รับรู้ในส่วนของผู้ถือหุ้นจนกว่าจะขายสินทรัพย์นั้นออกไป สำหรับรายการด้อยค่าและกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนให้รับรู้ในงบกำไรขาดทุนทันทีที่เกิดรายการ • ถ้ากิจการขายหรือโอนเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็น held to maturity ก่อนครบกำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรตามที่มาตรฐานกำหนดไว้ ห้ามกิจการจัดสินทรัพย์ทางการเงินเป็นประเภท held to maturity สำหรับงวดปีบัญชีปัจจุบันและอีก 2 งวดปีบัญชีถัดไป
การด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงินการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน
การพิจารณาการด้อยค่า • สินทรัพย์ทางการเงินจะด้อยค่าเมื่อ: • มีหลักฐานที่ชัดเจนของการด้อยค่า • มูลค่าตามบัญชี > มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคต • ต้องประเมินว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนในการด้อยค่าหรือไม่ทุกวันที่ในงบดุล • รับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในงบกำไรขาดทุน • ไม่มีค่าเผื่อทั่วไป (General provision)
การด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงินประเภทเผื่อขายการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงินประเภทเผื่อขาย • หลักฐานที่บ่งชี้ถึงการด้อยค่าของตราสารทุน • มูลค่ายุติธรรมของตราสารทุนนั้นลดลงจนมีมูลค่าต่ำกว่าราคาทุนอย่างมีสาระ สำคัญหรืออย่างต่อเนื่อง • ถ้ามีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของตราสารทุนต้องบันทึก - ไม่ใช้แนวคิดเรื่อง “ temporary ” • ไม่อนุญาตให้มีการกลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของตราสารทุนที่ถูกจัดประเภทเป็นเผื่อขาย ซึ่งได้รับรู้ไปยังงบกำไรขาดทุนแล้ว • สามารถโอนกลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของตราสารหนี้ได้เมื่อจำนวนที่คาดว่าจะได้รับคืนเพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกี่ยวข้องโดยมีหลักฐานอย่างแน่ชัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังที่ได้รับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าแล้ว
ปัญหาที่พบในทางปฏิบัติ – การด้อยค่าของตราสารประเภท AFS • การแยกความแตกต่างระหว่างการด้อยค่ากับผลของการลดลงของราคาตลาด • การลดลงของราคาตลาดจนต่ำกว่าราคาทุนไม่เป็นข้อสรุปว่ามีการด้อยค่าเกิดขึ้น • ควรพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น ผลการดำเนินงานลดลง กระแสเงินสด สินทรัพย์สุทธิ อันดับความน่าเชื่อถือของกิจการที่ไปลงทุน เทียบกับวันแรกที่ได้สินทรัพย์ ประกอบการพิจารณาด้อยค่า • พิจารณาช่วงระยะเวลาที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาทุน
ปัญหาที่พบในทางปฏิบัติ – การด้อยค่าของตราสารประเภท AFS(ต่อ) • พิจารณาสาเหตุที่ทำให้มูลค่าของตราสารหนี้ประเภท AFS ลดลง • อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น - ไม่ใช่ข้อบ่งชี้การด้อยค่า • ปัญหาด้านเครดิต(ความน่าเชื่อถือหรือสถานะของกิจการลดลง) - เป็น ข้อบ่งชี้การด้อยค่า • ต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาข้อบ่งชี้การด้อยค่า เช่นราคาของ ตราสารทุนที่ลดลงอย่างเป็นสาระสำคัญหรืออย่างต่อเนื่อง ไม่มีข้อกำหนด ที่ชัดเจนไว้ในมาตรฐาน
การตัดรายการตราสารทางการเงินออกจากบัญชี (Derecognition)
การตัดรายการสินทรัพย์ทางการเงินออกจากบัญชี (Derecognitionof financial assets) ตัดรายการสินทรัพย์เมื่อกิจการสูญเสียการควบคุมของสิทธิตามสัญญา สูญเสียการควบคุม • ตัดสินทรัพย์จากงบดุล • รับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการขายในงบกำไรขาดทุน ยังคงมีการควบคุม • บันทึกรายการเป็นเงินกู้ยืมโดยมีหลักประกัน
ยังคงมีการควบคุม การขายสินทรัพย์โดยจะได้รับผลตอบแทนทั้งหมดที่เหลือด้วย สิทธิในการซื้อสินทรัพย์กลับคืน ยกเว้นซื้อกลับคืนในมูลค่ายุติธรรม กิจการยังคงมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีสาระสำคัญในสินทรัพย์อยู่
การตัดรายการสินทรัพย์ทางการเงินออกจากบัญชี (ต่อ) รวมบริษัทย่อยทั้งหมด (รวม SPE) พิจารณาว่าการตัดรายการนั้นนำมาใช้กับบางส่วนของสินทรัพย์หรือ กับสินทรัพย์ทั้งจำนวน ขั้นตอนการพิจารณาตัดหรือคงรายการสินทรัพย์
การตัดรายการสินทรัพย์ทางการเงินออกจากบัญชี (ต่อ) ใช่ ตัดรายการสินทรัพย์ สิทธิที่จะได้รับกระแสเงินสดของสินทรัพย์นั้นหมดไปหรือไม่ ไม่ใช่ กิจการโอนสิทธิการรับกระแสเงินสดจากสินทรัพย์นั้นหรือไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ คงสินทรัพย์ต่อไป กิจการมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายกระแสเงินสดนั้นให้กับผู้รับตามข้อตกลงหรือไม่ ใช่ ใช่ ใช่ ตัดรายการสินทรัพย์ กิจการโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีสาระสำคัญในสินทรัพย์แล้วหรือไม่ ไม่ใช่ ใช่ คงสินทรัพย์ต่อไป กิจการยังคงมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีสาระสำคัญในสินทรัพย์อยู่หรือไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ตัดรายการสินทรัพย์ กิจการยังมีอำนาจในการควบคุมสินทรัพย์อยู่หรือไม่ ใช่ คงสินทรัพย์สำหรับส่วนที่กิจการมีความเกี่ยวเนื่องต่อไป
การตัดรายการสินทรัพย์ทางการเงินออกจากบัญชี (ต่อ) คงสินทรัพย์สำหรับส่วนที่กิจการมีความเกี่ยวข้องต่อไป • ถ้าผู้โอนยังมีการควบคุมอยู่ให้รับรู้สินทรัพย์เท่ากับขอบเขตของความเกี่ยวพันที่ต่อเนื่อง เช่น • จำนวนของการค้ำประกันหรือจำนวนยอดคงเหลือที่ต่ำกว่า
การตัดรายการหนี้สินทางการเงินออกจากบัญชี (Derecognitionof financial liabilities) ตัดรายการหนี้สินทางการเงินเมื่อหนี้สินสิ้นสุดลง (ข้อผูกพันสิ้นสุดยกเลิก หรือหมดอายุ) • เมื่อจ่ายเงินหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น หรือ • เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
ตราสารอนุพันธ์คำจำกัดความตราสารอนุพันธ์คำจำกัดความ ตราสารอนุพันธ์ หมายถึง ตราสารการเงินที่มีลักษณะทุกข้อต่อไปนี้ • มูลค่าจะเปลี่ยนแปลงตามการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรที่ระบุไว้ในสัญญา เช่น อัตราดอกเบี้ย ราคาหลักทรัพย์ ราคาโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีราคา • ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินลงทุนสุทธิเมื่อเริ่มแรกหรือ จ่ายเงินด้วยจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัญญาประเภทอื่น • การรับหรือจ่ายชำระเงิน จะกระทำในอนาคต ตัวอย่างของตราสารอนุพันธ์ เช่น • Forward • Swap • Option
ตราสารอนุพันธ์Examples that show the underlying and notional amount
ตราสารอนุพันธ์การบันทึกบัญชีตราสารอนุพันธ์การบันทึกบัญชี • แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมและรับรู้ส่วนเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมเข้างบกำไรขาดทุน (FVPL) ยกเว้น กรณีใช้การบัญชีเพื่อการป้องกันความเสี่ยง การรับรู้เมื่อเริ่มแรก (Initial measurement) • โดยทั่วไปมูลค่ายุติธรรม ณ วันเริ่มแรกของตราสารอนุพันธ์จะเท่ากับศูนย์ • สำหรับ option มูลค่ายุติธรรม ณ วันเริ่มแรกจะเท่ากับจำนวนเงินที่จ่ายซื้อหรือที่ได้รับชำระจากการทำสัญญา option
ตราสารอนุพันธ์การบันทึกบัญชี และวัดมูลค่าในภายหลัง (Subsequent Measurement) • วัดมูลค่าโดยใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ในงบดุล • บันทึกการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมในงบกำไรขาดทุนทุกกรณี เว้นแต่มีการใช้การบัญชีเพื่อการป้องกันความเสี่ยง
ตราสารทางการเงินแบบผสม(Hybrid or combined instruments)
ตราสารทางการเงินแบบผสมคำจำกัดความตราสารทางการเงินแบบผสมคำจำกัดความ องค์ประกอบของตราสารทางการเงินแบบผสม ประกอบด้วย ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) และสัญญาหลัก (Host contract) ซึ่งผลตอบแทนบางส่วนหรือทั้งหมดของกระแสเงินสดตามสัญญาหลักจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของตัวแปรที่อ้างอิงในตราสารอนุพันธ์ อนุพันธ์แฝง (Embedded Derivative) ตราสารแบบผสม (Hybrid Instrument) สัญญาหลัก (Host)
ตราสารทางการเงินแบบผสมตัวอย่างของสัญญาหลักตราสารทางการเงินแบบผสมตัวอย่างของสัญญาหลัก • สินทรัพย์ทางการเงิน • เงินลงทุน • เงินให้สินเชื่อ • หนี้สินทางการเงิน • เงินฝาก • ตราสารหนี้ • ตราสารทุน • หุ้นทุน
ตราสารทางการเงินแบบผสมรายการที่ไม่จัดเป็นอนุพันธ์แฝงตราสารทางการเงินแบบผสมรายการที่ไม่จัดเป็นอนุพันธ์แฝง • ตราสารอนุพันธ์ที่สามารถแยกได้อย่างเป็นอิสระจากตราสารการเงินนั้น • ตราสารอนุพันธ์ที่มีคู่สัญญาเป็นคนละฝ่ายกับคู่สัญญาของตราสารการเงินนั้น • ตราสารอนุพันธ์ที่แฝงในตราสารอนุพันธ์อื่น โดยปกติอนุพันธ์แฝงมักจะซ่อนอยู่ในสัญญาหลักและยากที่จะระบุได้