1 / 39

บทที่ 5 ระบบคอมพิวเตอร์และการส่งต่อข้อมูล

บทที่ 5 ระบบคอมพิวเตอร์และการส่งต่อข้อมูล. ประวัติการส่งถ่ายข้อมูล (ยุคเทคโนโลยี). โทรศัพท์ - ปี ค.ศ. 1876 (พ.ศ. 2416 ) อเล็ก ซาน เดอร์ แก รแฮม เบลล์ ( Alexander Graham Bell) ได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้นใช้งานเป็นครั้งแรก

Download Presentation

บทที่ 5 ระบบคอมพิวเตอร์และการส่งต่อข้อมูล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 5 ระบบคอมพิวเตอร์และการส่งต่อข้อมูล

  2. ประวัติการส่งถ่ายข้อมูล (ยุคเทคโนโลยี) โทรศัพท์ - ปี ค.ศ. 1876 (พ.ศ. 2416) อเล็กซานเดอร์ แกรแฮมเบลล์ (Alexander Graham Bell) ได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้นใช้งานเป็นครั้งแรก - ประเทศไทยเริ่มใช้งานโทรศัพท์ในปี พ.ศ.2424 ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ และได้มีการจัดตั้งกรมโทรเลขขึ้นในปี พ.ศ. 2426 ให้บริการไปรษณีย์และโทรศัพท์ โทรเลข - เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2412 รัฐบาลสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้อนุมัติให้ชาวอังกฤษ 2 นาย จัดตั้งบริษัทก่อสร้างและบำรุงรักษาทางโทรเลขภายในราชอาณาจักรตามคำเสนอขอแต่การดำเนินงานของบุคคลทั้งสองล้มเหลว ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2418 รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการเอง โดยมอบหมายให้กรมกลาโหม สร้างทางสายโทรเลขสายแรก จากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำ (จังหวัดสมุทรปราการ) และวางสายเคเบิลโทรเลขได้น้ำต่อออกไปถึงกระโจมไฟ นอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทางยาว 45 กิโลเมตรเพื่อทางราชการใช้ส่งข่าวเกี่ยวกับการผ่านเข้าออกของเรือกลไฟ

  3. การส่งข้อมูลยุคโครงข่ายคอมพิวเตอร์การส่งข้อมูลยุคโครงข่ายคอมพิวเตอร์ Modem : เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์  ให้สามารถส่งสัญญาณผ่านสายโทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบ digital แต่โทรศัพท์เป็นแบบ Analog)

  4. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ข่ายงาน (Network) : การติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง ซึ่งมาหลายโครงสร้างในการวางรูปแบบแม่ข่าย (Network Topology) เช่น แบบ Ring, Bus, Star ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งานและค่าการวางระบบ

  5. Star Network

  6. Star Network เป็นรูปแบบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบหนึ่ง ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ กับเครื่องปลายทาง (terminal) จะสื่อสารติดต่อกัน โดยผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งซึ่งเป็นศูนย์กลางเรียกว่า เครื่องบริการ (Host Computer)

  7. Star Network ข้อดี - ง่ายในการติดตั้งและจัดการเพราะมีโฮสต์อยู่ที่จุดเดียว - จุดใช้งาน 1 จุดต่อกับสายส่งข้อมูล 1 เส้น เมื่อเกิดการเสียหายของ จุดใดในเครือข่าย จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานจุดอื่น - การควบคุมการส่งข้อมูลทำได้ง่าย ข้อเสีย - อาจต้องใช้สายส่งข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - การเพิ่มจุดใหม่เข้าไปในระบบ หากอยู่ไกลกันมาก ต้องเดินสายจากโฮสต์ เพิ่มขึ้น - หากโฮสต์เกิดการเสียหาย ก็จะไม่สามารถใช้งานเครือข่ายได้

  8. Ring Network

  9. Ring Network เป็นการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันในลักษณะวงแหวน (Ring Network) การรับส่งข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียว “โทเค็น” (Token)

  10. Ring Network ข้อดี 1. สายส่งข้อมูลมีความยาวขนาดพอดี การรับส่งข้อมูลน่าเชื่อถือ 2. เหมาะกับการใช้สายเคเบิลใยแก้วนำแสง เนื่องจากจะช่วยให้ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ข้อมูลในวงแหวนจะเดินทางเดียว ข้อเสีย 1. การส่งข้อมูลวิ่งรอบวงแหวนจะต้องผ่านทุกๆ จุดที่อยู่ในวงแหวน ถ้าจุดใดเสียก็ไม่สามารถติดต่อกันได้ 2. ยากต่อการเพิ่มเติมจุดใช้งานใหม่ 3. การตรวจสอบข้อผิดพลาดอาจต้องทดสอบระหว่างจุดกับจุดถัดไป ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก และข้อมูลอาจจะถูกอ่านได้ตามจุดต่างๆ

  11. Bus Network

  12. Bus Network เป็นการเชื่อมต่อเครื่องในพื้นที่เดียวกันโดยใช้สายสัญญาณต่อเชื่อม เรียกว่า “บัส” โดยสัญญาณจะถูกกระจายไปตลอดทั้งเส้นทาง

  13. Bus Network ข้อดี 1. มีการส่งข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา 2. มีโครงสร้างที่ง่ายและน่าเชื่อถือ 3. การเพิ่มจุดบริการเข้าไปในเครือข่ายใหม่สามารถทำได้ง่าย ข้อเสีย 1. หาข้อผิดพลาดทำได้ยาก 2. สายส่งมีปัญหาเครือข่ายไม่สามารถทำงานได้ 3. เกิดการชนกันของข้อมูล

  14. ระบบเครือข่ายแบบลูกผสมระบบเครือข่ายแบบลูกผสม เป็นการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายในลักษณะการผสมผสานที่มีจำนวนมากกว่า 1 แบบเข้าด้วยกัน

  15. LAN (Local Area Network)

  16. LAN (Local Area Network) เป็นการเชื่อมต่อในระยะทางใกล้ๆ ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด สามารถรองรับเครื่องคอมฯ ไม่จำกัด สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้ โดยผ่านสายส่งข้อมูลชนิดต่างๆ เช่น สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair) สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) สายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) สื่อสารแบบไร้สาย (Wireless Communication)

  17. MAN (Metropolitan Area Network)

  18. MAN (Metropolitan Area Network) เป็นการเชื่อมต่อในระยะทางไม่ห่างไกลมากนัก แต่ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ส่วนใหญ่มักนิยมใช้กันในหน่วยงานที่มีสาขา (Branches)

  19. WAN (Wide Area Network)

  20. WAN (Wide Area Network) เป็นการเชื่อมต่อในระยะทางที่ห่างกันมากๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เชื่อมต่อของระบบเครือข่าย LAN ตั้งแต่ 2 วงขึ้นไป ทำให้เกิดการขยายวงกว้างออกไปในระดับจังหวัด ประเทศ หรืออาจข้ามทวีปเลยก็ได้

  21. Wi-Fi (wireless fidelity )Wireless Network

  22. Wi-Fi (wireless fidelity )Wireless Network เป็นเทคโนโลยีที่ได้ค้นคิดและพัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้แก้ปัญหาข้อจำกัดในการติดตั้งและการเดินสายส่งข้อมูล เหมาะสำหรับใช้งานภายในสำนักงานที่ต้องการความทันสมัย และมีพื้นที่บริเวณโล่งกว้าง มีการส่งผ่านความถี่ย่าน 2.4 GHz ด้วยอุปกรณ์ควบคุมย่านความถี่ (Spread Spectrum) ที่เรียกว่าไวร์เลสเราเตอร์ (Wireless Router) การทำงานเหมือนเครือข่าย LAN ต่างกันตรงที่ไม่ต้องใช้สาย ใช้ Code : IEEE 802.11

  23. Wi-Fi (wireless fidelity )Wireless Network

  24. Internet

  25. Internet เป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่อย่างไร้ขอบเขต ใช้โปรโตคอล (Protocol) เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันเหมือนเส้นใยแมงมุม หรือที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า “เวิลด์ไวด์เว็บ” (World Wide Web : WWW)

  26. การประยุกต์ใช้งานอินเตอร์เน็ต(Internet Application Area) อินทราเน็ต (Intranet) เป็นระบบเครือข่ายสารสนเทศเฉพาะกิจหรือส่วนบุคคล ที่ได้นำเทคโนโลยีด้านอินเตอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและทำงานร่วมกันเฉพาะภายในองค์กรหรือหน่วยงานเท่านั้น เอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet) เป็นเครือข่ายสารสนเทศที่เกิดจากการผนวกรวมการเชื่อต่อเครือข่ายอินทราเน็ตตั้งแต่ 2 วงขึ้นไปเข้าด้วยกันโดยอาศัยการทำงาน TCP/IP ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

  27. Online Communication Services Video Text : เรียกดูข้อมูลต่างๆของหน่วยงานเช่น เรียกขอข้อมูลเกี่ยวกับการรับเมนูอาหารในภัตตาคาร Communications: การโต้ตอบสนทนาต่างๆ Data Base : การเข้าถึงฐานข้อมูลต่างๆ

  28. E-mail E-Mail คือ จดหมายอิเลคทรอนิกส์ ที่ใช้รับส่งกันโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์บางแห่งใช้เฉพาะภายใน บางแห่งใช้เฉพาะภายนอกองค์กร (สำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ internet) การใช้งานก็เหมือนกับเราพิมพ์ข้อความในโปรแกรม word จากนั้นก็คลิกคำสั่ง เพื่อส่งออกไป โดยจะมีชื่อของผู้รับ ซึ่งเราเรียกว่า Email Address เป็นหลักในการรับส่ง

  29. กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ ( BBS )(Bulletin Board Services (System)) เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่รันซอฟต์แวร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้หลาย ๆ คน ใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมเทอร์มินัลติดต่อเข้าไปในระบบ ผ่านทางโมเด็มและสายโทรศัพท์ เช่น ระบบส่งข้อความระหว่างผู้ใช้ (คล้าย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน แต่รับส่งได้เฉพาะภายในระบบเครือข่ายสมาชิกเท่านั้น) ห้องสนทนา บริการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ และกระดานแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เป็นต้น ในประเทศญี่ปุ่น คำว่า BBS อาจจะใช้เรียก “กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์” บนอินเทอร์เน็ต แต่สำหรับเมืองไทยแล้ว นิยมเรียกกระดานข่าวเหล่านี้ว่า “เว็บบอร์ด” มากกว่า

  30. Modem โมเด็มรุ่นแรกๆที่ใช้รับส่งข้อมูล จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นความถี่เสียง แล้วส่งไปตามสายเท่านั้น ไม่มีการหมุนโทรศัพท์อัตโนมัติอย่างโมเด็มปัจจุบัน โมเด็มแบบที่ไม่มีการต่อเข้ากับสายโทรศัพท์โดยตรงนี้เรียกว่าโมเด็มแบบ Acoustic Coupler มีรูปร่างรองรับกับหูฟังของโทรศัพท์แบบมาตรฐาน เมื่อคอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลไปยังผู้รับ Acoustic Coupler จะเปลี่ยนข้อมูลเป็นเสียง แล้วส่งออกทางลำโพง หูฟังของเครื่องโทรศัพท์จะรับเสียงนี้ส่งไปปลายทางอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเครื่องโทรศัพท์ส่งสัญญาณเสียงให้ Acoustic Coupler เครื่องจะรับเสียงผ่านไมโครโฟน และเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิตอลให้คอมพิวเตอร์ต่อไป ข้อดีของ Acoustic Coupler คือ ไม่ต่อกับสายโทรศัพท์โดยตรงก็ได้ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ทุกที่  เช่น โทรศัพท์สาธารณะ โทรศัพท์ในห้องพักของโรงแรม เป็นต้น ซึ่งที่ต่างๆเหล่านี้บางครั้งไม่สามารถใช้สายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็มโดยตรงได้

  31. Acoustic Coupler Modem

  32. Direct Connect Modem Modem รุ่นนี้สามารถใช้งานโดยเอาสายโทรศัพท์ต่อเข้ากับตัว Modem เพื่อใช้งานได้เลย มีทั้งแบบภายในและภายนอก Internal Modem External Modem

  33. Modem ความเร็วสูง   1.ISDN (Integrated Services Digital Network) เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อเครือข่ายโทรศัพท์แบบดิจิทัล ซึ่งจะมาแทนที่ระบบโทรศัพท์แบบอนาล็อก โดยสามารถให้ความเร็วได้ตั้งแต่ 57.6Kbps ถึง 128Kbps และให้บริการหลากหลาย เช่น สามารถให้บริการโทรศัพท์ โทรสาร บริการรับส่งข้อมูล และการประชุมทางไกล ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดของ ISDN ก็คือ ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะทำงานตามมาตรฐานของโมเด็มทั่วไปที่ต่อเข้ากับเครื่องพีซีโดยผ่านพอร์ตอนุกรม รวมทั้งสามารถใช้กับซอฟต์แวร์สื่อสารที่เป็นมาตรฐานเหมือนกับโมเด็มปกติ ซึ่งบางครั้งอาจะเรียกว่า ISDN terminal adapters หรือ โมเด็มแบบ ISDN

  34. Modem ความเร็วสูง 2.ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีในการทำให้สามารถใช้สายโทรศัพท์แบบอนาล็อก ในปัจจุบันส่งผ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูง โดยมีความเร็วตั้งแต่ 256 Kbps ถึง 16 Mbps สำหรับการดาวน์โหลด (download) และความเร็ว 128 Kbps ถึง 8 Mbps สำหรับการอัปโหลด (upload) ในการเชื่อมต่อนั้นต้องมีอุปกรณ์ ADSL ทั้งที่บ้านผู้ใช้ และที่ชุมสายโทรศัพท์

  35. Modem ความเร็วสูง 3.Cable Modems เป็นการส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายที่เรียกว่า Hybrid Fiber Coaxial Netwok หรือ HFC ซึ่งเป็นโครงข่ายที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของตัวนำสัญญาณ 2 ชนิด คือ เคเบิลใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) และ สายโคแอคเชียล (Coaxial Cable)

  36. Multiplexer เป็นการรวมสัญญาณเพื่อลดปัญหาสายการเชื่อมงานไม่เพียงพอ ดังภาพ Pc1 CAT Pc2 BAT CATBATRATHAT CAT,BAT,RAT,HAT MUX DE-MUX Pc3 RAT HAT Pc4

  37. การเชื่อมต่อข้อมูล Upload ส่งข้อมูลออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ เครือข่าย Download รับข้อมูลจากระบบเครือข่ายเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์

  38. Front-End Processor เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของ Mainframe computer คือจะทำการประมวลผลเบื้องต้นก่อนที่จะส่งข้อมูลไปยัง Mainframe Computer

  39. การเลือกระบบใช้งาน 1. ความปลอดภัย 2. ความน่าเชื่อถือได้ 3. ค่าใช้จ่าย 4. ชนิดการใช้งาน

More Related