1 / 35

Chapter 3 สัญญาณและการสื่อสาร

Chapter 3 สัญญาณและการสื่อสาร. 1. Data and Signals. Data คือ ข้อมูลหรืออะไรต่างๆที่เข้ามาและมีความหมาย เช่น ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ เพลงในแผ่น CD Signals คือ รูปแบบสัญญาณไฟฟ้า หรือแม่เหล็กที่แทนข้อมูล เช่น สัญญาณเสียงของโทรศัพท์ สัญญาณแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Analog signals , Digital

Download Presentation

Chapter 3 สัญญาณและการสื่อสาร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Chapter 3สัญญาณและการสื่อสาร

  2. 1. Data and Signals • Data คือ ข้อมูลหรืออะไรต่างๆที่เข้ามาและมีความหมาย เช่น ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ เพลงในแผ่น CD • Signals คือ รูปแบบสัญญาณไฟฟ้า หรือแม่เหล็กที่แทนข้อมูล เช่น สัญญาณเสียงของโทรศัพท์ สัญญาณแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Analog signals , Digital signal

  3. การแปลงจาก Data to Signal

  4. สัญญาณแบบอะนาล็อก (Analog Data) • สัญญานไฟฟ้าในแบบต่อเนื่อง (continuous signal) • ลักษณะสัญญาณมีพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงความถี่ (frequency) ในแบบแกว่งขึ้นลง (oscillation) เช่น เดียวกับรูปแบบ sine wave • ตัวอย่างสัญญานอะนาล็อก เช่นที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์เครื่องเล่นเสียง เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงอย่างไมโครโฟน มีรูปของสัญญานเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่องในลักษณะ ขึ้น-ลงแบบ sine wave ตลอดช่วงหนึ่งของเวลา

  5. 1 cycle amplitude (volts) time (sec) frequency (hertz) = cycles per second ตัวอย่าง สัญญาณ sine , cosine wave

  6. อุปกรณ์แปลงข้อมูลเป็นสัญญาณ Analog

  7. ดิจิตอล (Digital Signal) • สร้างจากข้อมูลดิจิตอลด้วยการใช้สัญลักษณ์ เช่น(1 หรือ 0) ใช้การเปลี่ยนแปลงระดับสัญญาณทางไฟฟ้า • อัตราและความสามารถในการส่งผ่านช่องทางสื่อสาร(channel) วัดอยู่ในหน่วย บิท ต่อ วินาที (bit per second) เช่น โมเด็ม มีอัตราการส่งผ่านข้อมูล 56 Kbit / sec. (56 * 1000 bps) • ข้อมูล 0, 1 แทนที่ด้วย ระดับแรงไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหนึ่ง 0 ด้วย low voltage, 1 แทนด้วย high voltage • = 0101101

  8. คำศัพท์เกี่ยวกับดิจิตอล (Digital Terms) • Bit: มาจาก Binary Digit คือ เลขฐานสองหนึ่งตัว 1 คือค่า 1 ในระบบเลขฐานสิบ 10 คือค่า 2 ในระบบเลขฐานสิบ 10011001 คือค่า 153 ในระบบเลขฐานสิบ • Byte ประกอบด้วย 8 บิท

  9. จำนวนบิต และจำนวนค่าที่สามาถแทนได้

  10. การเทียบหน่วยข้อมูลดิจิตอลการเทียบหน่วยข้อมูลดิจิตอล • หน่วยข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เล็กที่สุด เรียกว่า บิต (bit) • ซึ่งเมื่อข้อมูลรวมกันถึงขนาด 8 บิต เราจะเรียกว่า 1 ไบต์ (Byte) • เมื่อข้อมูลรวมกันถึงขนาด 1024 ไบต์ เราจะเรียกว่า 1 กิโลไบต์ • (KiloByte-KB) • เมื่อข้อมูลรวมกันถึงขนาด 1024 กิโลไบต์ เราจะเรียกว่า 1 กิกะไบต์ • (GigaByte-GB) • เมื่อข้อมูลรวมกันถึงขนาด 1024 กิกะไบต์ เราจะเรียกว่า 1 เทราไบต์ • (TeraByte-TB) • และข้อมูลล่าสุดนี้ น้อยคนนักที่จะทราบ คือ เมื่อข้อมูลรวมกันมากถึง • ขนาด 1024 เทราไบต์ เราจะเรียกว่า 1 เอกซ์ตร้าไบต์ (ExtraByte-EB)

  11. Periodic และ Aperiodic signal • Periodic signal คือสัญญาณมีลักษณะซ้ำเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งหรือเมื่อครบรอบเวลาหนึ่ง • Aperiodic signal คือสัญญาณที่ไม่มีรูปแบบซ้ำ เหมือนการ random สัญญาณ • ทั้งสัญญาณ analog และ digital สามารถเป็นทั้ง Periodic และ Aperiodic

  12. องค์ประกอบสัญญาณ Analog

  13. องค์ประกอบสัญญาณ Analogue • แอมปลิจูด (Amplitude): วัดจากค่าแรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็น (volt) • ความถี่ (Frequency): จำนวนของไซเคิลต่อวินาที มีหน่วยเป็น เฮิรตซ์ (Hz) • คาบ (Period): ระยะเวลาที่สัญญาณเปลี่ยนแปลงครบหนึ่งรอบมีหน่วยเป็น วินาที , T=1/f • เฟส (Phase): มุมองศาของสัญญาณเมื่อเวลาเปลี่ยนไป มีหน่วยเป็น องศา, เรเดียน

  14. Phase ของสัญญาณ

  15. ลองเปลี่ยนหน่วยเฟสสัญญาณลองเปลี่ยนหน่วยเฟสสัญญาณ • คลื่น sine ที่ 1 ส่วน 6 ของรอบคลื่นมีมุมกี่องศา,กี่ radian ตอบ = 360 x 1 / 6 = 60 องศา = 2¶x60 /360 rad

  16. Amplitude Change Frequency Change

  17. Phase Change

  18. Composite signal • คลื่น sine wave หนึ่งมีความถี่เดียว • คลื่นซับซ้อนประกอบด้วยหลายความถี่ • สัญญาณสามารถสร้างได้จากสัญญาณ wave แบบง่ายมารวมกัน เช่น sine wave • การแยกคลื่นเหล่านี้ออกมา โดยการใช้ Fourier Analysis

  19. Composite signal

  20. Time และ Frequency domain • ปกติเรามองสัญญาณใน time-domain • แต่เราสามารถ plot เป็น frequency-domain ได้

  21. Spectrum & Bandwidth • Spectrum คือ ช่วงความถี่ของคลื่น • Bandwidth คือ ค่าความแตกต่างระหว่างช่วงของความถี่สูงที่สุด ถึงช่วงความถี่ต่ำสุด BW = fmax – fmin

  22. สัญญาณหนึ่งประกอบด้วย sine wave ความถี่ 100 ,300 , 500 , 700 ,900 Hz จงหา bandwidth และวาด frequency spectrum ถ้าความสูงสัญญาณ = 10 V ตอบ

  23. ตัวอย่าง bandwidth,spectrum • เช่นเสียงคนมี bandwidth ในช่วง 300-3100 Hz เท่ากับ 2800 Hz • Electronic spectrum

  24. ปริมาณการส่งข้อมูลของช่องทางการสื่อสาร (Channel Capacity) • อัตราในการส่งข้อมูลของช่องทางการสื่อสาร อยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการสื่อสารต่างๆ • ปริมาณในการส่งข้อมูลขึ้นอยู่กับ • Data rate อัตราในการส่งข้อมูล มีหน่วยเป็น บิตต่อวินาที (bps) • Bandwidth ความกว้างของช่องทางในการส่งข้อมูล ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวส่งข้อมูล และตัวกลางในการส่งข้อมูล มีหน่วยเป็น Hertz • Noise คลื่นสัญญาณรบกวน • Error rate อัตราความผิดพลาดในการส่งข้อมูล

  25. การคำนวณ Channel Capacity • ในหน่วย bps กรณีไม่มีสัญญาณรบกวน (Noise) หาโดยใช้สูตร Nyquist • ให้ B คือ bandwidth, M คือระดับสัญญาณต่อ element

  26. กรณีไม่มีสัญญาณรบกวน • Noise ทำให้ความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูลลดลง • Signal-to-noise ratio อธิบายระดับของการรบกวน • S=กำลังส่งสัญญาณ (watts) , N=กำลัง noise (watts) • SNR วัดเท่าของกำลังสัญญาณส่งกับกำลัง noise SNR สูงสัญญาณคุณภาพดี SNR ต่ำสัญญาณคุณภาพไม่ดี • Data rate สูงสุดถ้ามี noise หาจากสูตร shannon

  27. Example: สายโทรศัพท์มี Bandwidth 3000 HZ (300 Hz to 3300 Hz), SNR = 3162 (35 dB) สายนี้มีอัตรการส่ง ข้อมูลเท่าไร? = 3000 log2 (3163) = 3000 * 11.62 = 34,860 bps

  28. ความผิดเพี้ยนในการสื่อสารข้อมูล เกิดจาก • Attenuation พลังงานของสัญญาณลดลง เมื่อระยะทางเพิ่มมากขึ้น (Amplitude ลดลง) แก้ไขโดยใช้ Amplifier • Distortion สัญญาณเปลี่ยนรูปร่าง หรือรูปแบบไปเนื่องจาก ความเร็วในการเดินทางของแต่ละความถี่ต่างกัน • Noise สัญญาณรบกวน • Impedence Mismatch เกิดจากอุปกรณ์ทำงานไม่สมบูรณ์ ผิดพลาดที่จุดปลาย cable เกิดเนื่องจากสัญญาณสะท้อนกลับมารบกวนสัญญาณที่ส่ง ต้องใช้ echo canceller ช่วย

  29. Attenuation กำลังการสูญเสียในหน่วย dB เมื่อส่งสัญญาณกำลัง Pin w. และผู้รับได้รับสัญญาณ Pout w. หาได้จาก

  30. Distortion

  31. ประเภทของสัญญาณรบกวน • Thermal: “white noise” สัญญาณรบกวนที่เกิดจากอุปกรณ์เป็นแหล่งกำเนิดความร้อนมีลักษณะการแผ่กระจายคลื่นความร้อนรบกวน ในแบบคงที่ยากต่อการป้องกัน • Induced Noise สัญญาณรบกวนเกิดจากการอุปกรณ์ที่สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ • Crosstalk สัญญาณคลอสทอกส์ เกิดจากการส่งสัญญาณไปในสายส่งที่อยู่ใกล้ชิดกัน • Impulse noise สัญญาณเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับแรงดันกระแสไฟฟ้าอย่างกระทันหัน เช่น ฟ้าผ่า, อุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้า • Intermodulational สัญญาณความถี่ข้างเคียงมารบกวนเช่น สถานีวิทยุข้างเคียง

  32. Line Noise • แม้ว่าไม่มีสัญญาณใดๆถูกส่งแต่สายส่งก็จะมีสัญญาณรบกวน noise เกิดขึ้นมีลักษณะไม่แน่นอน เป็น line noise level • ถ้ามีสัญญาณส่งสัญญาณจะรวมกับ noise

  33. Propagation และ Transmission velocity • Propagation delay (Tp) เวลาสัญญาณเดินทางถึงเป้าหมาย • Transmission delay (Tx) เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูลไปในสายส่งข้อมูล • เวลาในการส่งทั้งหมด = Tp + Tx • Round trip (a) = Tp / Tx

  34. จบบท

More Related