120 likes | 317 Views
วิจัยเรื่อง :. ผลการใช้กิจกรรมแผนผังความคิด วิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแม่ปั๋ง อำเภอ พร้าว จังหวัดเชียงใหม่. จัดทำโดย : นางสาว อนัญญา นิว รัตน์ 542132040. สถานการณ์ ที่มาและความสำคัญ. โจทย์วิจัย. วัตถุประสงค์. วัตถุประสงค์. การวิจัย.
E N D
วิจัยเรื่อง: ผลการใช้กิจกรรมแผนผังความคิด วิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ จัดทำโดย : นางสาวอนัญญานิวรัตน์ 542132040
สถานการณ์ ที่มาและความสำคัญ โจทย์วิจัย วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ การวิจัย ผลที่คาดว่าจะได้รับ จัดทำโดย : นางสาวอนัญญานิวรัตน์ 542132040
สถานการณ์ ที่มาและความสำคัญ เนื่องจากโรงเรียนบ้านแม่ปั๋งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสจึงทำให้มีนักเรียนย้ายเข้าย้ายออกมากและก็มีนักเรียนบางส่วนเป็นไทยใหญ่และชนเผ่าที่ย้ายไปย้ายมาจนอายุถึงเกณฑ์ที่จะเลื่อนชั้น ทำให้เวลาเรียนไม่ต่อเนื่องและยังขาดความเข้าใจ ซึ่งนักเรียนที่ผู้วิจัยสอนอยู่นี้มีปัญหาในเรื่องการเรียนประวัติศาสตร์นี้มาก ซึ่งในปัจจุบันเป็นโลกแห่งเทคโนโลยีครูผู้สอนจึงนำการ์ตูนอเมนิชั้นมาส่งเสริมเรื่องการเรียนประวัติศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนสนใจเนื่องจากวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาที่มีเนื้อหามากและต้องใช้ความจำ แต่การที่ครูนำสื่อประเภทนี้มาสอนบ่อยๆ นักเรียนก็เกิดความเบื่อหน่ายร่วมทั้งในการเรียนก็จะไม่สามารถ
จดบันทึก การทำแบบฝึกหัด การทำการบ้านรวมทั้งการจัดทำรายงาน ไม่สามารถทำได้และนักเรียนจะมีพฤติกรรมการเรียนที่ไม่ดีคือจะตั้งใจดู และเรียนในตอนต้นชั่วโมง จะคุยและเล่นกันเสียงดังในเวลาที่ดู ไม่มีความ กระตือรือร้นในการเรียนและเมื่อครูได้สอบถามหรือใช้คำถามกระตุ้นให้ นักเรียนคิดเกี่ยวกับเรื่องที่นักเรียนดูก็มักจะตอบคำถามได้ไม่ตรงกับเนื้อหา ที่เรียน ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 60 มีผลการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์อยู่ ในระดับต่ำ(สมุดบันทึกผลการเรียน,2554 :4)เพราะนักเรียนไม่มีส่วน ร่วมและฝึกการแสดงความคิดเห็นไม่สามารถต่อความคิดที่ต่อยอดขึ้น ไปอีกได้ซึ่งนักเรียนจะได้ความรู้จากการดูอย่างเดียวและเวลาครูอธิบาย เพิ่ม ท้ายชั่วโมงนักเรียนมักจะไม่สนใจเรียนแล้วเพราะนักเรียนในปัจจุบัน สมาธิจะสั้นและสนในสิ่งที่เรียนไม่มากถ้าเน้นวิชาการมากเกินไปก็จะ เกิดความเบื่อหน่ายและจะไม่เข้าเรียนในคาบต่อไป
ดั้งนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะทำวิจัยเกี่ยวกับการสอนวิชาประวัติศาสตร์ดั้งนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะทำวิจัยเกี่ยวกับการสอนวิชาประวัติศาสตร์ โดยสร้างสื่อการสอนในรูปแบบของแผนผังความคิดที่ง่ายต่อการเรียนและผู้เรียนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดต่างๆและยังสามารถต่อยอดความคิดของนักเรียนได้มากยิ่งขึ้นซึ่งการทำแผนผังความคิดมีความหลากหลายไม่น่าเบื่อทั้งยังสามารถแต่งแต้มหรือวาดภาพเพิ่มเติมเนื้อหาเพื่อสร้างความจำและง่ายแก่การอธิปรายของนักเรียนที่ไม่สามารถเขียนเป็นตัวหนังสือได้ เพราะวิชาประวัติศาสตร์และการเข้าใจในสังคมการดำเนินชีวิตตามแบบวัฒนธรรมของคนไทยซึ่งประวัติศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต หรือ
อาจจะกล่าวได้ว่า ประวัติศาสตร์เป็นวิชาอดีตก็ว่าได้ แต่ การที่เราจะศึกษาประวัติศาสตร์นั้น เราจำเป็นต้องมีวิธีการ หรือหลักการ กฎเกณฑ์หลายๆอย่างมาประกอบการศึกษา เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง และข้อมูลที่นำมาอ้างอิงนั้นจะต้องเป็นข้อมูลที่เป็นจริง และสามารถพิสูจน์ได้ มิใช่เป็นเพียงการจินตนาการนึกคิดเอาตามความรู้สึกของเราเอง เสมือนกับนิยายที่เราจะนึกวาดฝันจินตนาการเอาอย่างไรก็ได้ และ ข้อมูลที่นำมาใช้ในการอ้างอิงนั้น ท่านเรียกว่า หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการศึกษาประวัติศาสตร์ นั้นมีแต่ประโยชน์เพราะเราทุกคนไม่มีคนไหนเลยที่ไม่อยากรู้เรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดในอดีต ไม่ว่าจะเป็นอดีตของตนเอง อดีตของบรรพบุรุษ อดีต ของถิ่นอาศัยของเรา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราปรารถนา ใคร่รู้แทบทั้งสิ้น เพราะอดีต
สามารถบ่งบอกสถานะภาพหรือความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันได้ ผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ ก็จะทำให้เป็นผู้ที่เข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตเป็นอย่างดี กว่าคนที่ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เสียอีก ดั้งนั้นประวัติศาสตร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคนคนในปัจจุบันและนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต
โจทย์วิจัย • คำถามหลัก • แผนผังความคิดสามารถช่วยให้นักเรียนชั้นประถมศึกษา ชั้นปีที่ 4 สร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้หรือไมอย่างไร
โจทย์วิจัย • คำถามรอง 1.นักเรียนจะมีความเข้าใจในวิชาประวัติศาสตร์มากน้อยเพียงใด 2.พฤติกรรมของนักเรียนในการเรียนวิชาประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงหรือไม่
วัตถุประสงค์การวิจัย 1.เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ • 1.เพิ่มทักษะการเรียนให้นักเรียน • 2.มีความเข้าใจและสื่อความหมายที่ถูกต้องในการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ • 3.สร้างการเรียนรู้รูปแบบใหม่ให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ปั๋ง
อ้างอิง จาก http://www.eduzones.com/school-5-2-30926.html ดู คาร์, อี.เอช. (2531). ประวัติศาสตร์คืออะไร. แปลโดย ชาติชาย พณานานนท์. (พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์). หน้า 22.