1 / 7

การเพิ่มกำลังการผลิตภายใต้สิทธิประโยชน์ BOI

N. S. P. เร่งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมล่วงเวลาของหน่วยงานศุลกากร. ข้อตกลงการค้าเสรีกรอบ ASEAN – JAPAN. การเพิ่มกำลังการผลิตภายใต้สิทธิประโยชน์ BOI. MD Says.

monet
Download Presentation

การเพิ่มกำลังการผลิตภายใต้สิทธิประโยชน์ BOI

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. N S P เร่งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมล่วงเวลาของหน่วยงานศุลกากร ข้อตกลงการค้าเสรีกรอบ ASEAN – JAPAN การเพิ่มกำลังการผลิตภายใต้สิทธิประโยชน์ BOI MD Says

  2. ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยเข้าขั้นวิกฤตเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือภาคเอกชนต่างก็ให้ความสำคัญกับกำไรหรือผลตอบแทนค่าล่วงเวลางานกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในกลุ่มธุรกิจที่มีการนำเข้า ส่งออก และธุรกิจตัวแทนออกของ ต้องทำงานให้สัมพันธ์กับการจำกัดของเวลา แต่ในบางครั้งการทำงานที่จะต้องทำให้อยู่ในวงจำกัดของเวลานั้นไม่สามารถทำได้ จึงเป็นเหตุให้เกิดการสานต่องานนอกเวลาทำการและยังก่อให้เกิดการค้างชำระค่าธรรมเนียมล่วงเวลาของแต่ละบริษัทตามมาอีกด้วย เมื่อต้นสัปดาห์นี้ทางกลุ่มบริษัท S.N.P. ได้รับแจ้งมาว่า ทางกรมศุลกากรมีนโยบายให้เร่งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมล่วงเวลากรณีตรวจสินค้าขาออกที่ขนส่งโดยคอนเทนเนอร์ทางเรือสำหรับใบขนสินค้าขาออกที่ติด RED LINE และมีการลากตู้คอนเทนเนอร์ผ่าน Sub Gate นอกเวลาราชการ ซึ่งปัจจุบันมีรายชื่อและรายละเอียดตามใบขนสินค้าขาออกปริมาณมากที่ยังคงค้างในระบบและไม่สามารถทำการรับบรรทุกให้เป็น STATUS 0409 ได้จึงทำให้ฝ่ายบริหารกรมศุลกากรประกาศแจ้งให้ผู้ประกอบการและตัวแทนที่ค้างชำระค่าธรรมเนียมล่วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่บริเวณชั้น 1 ฝบศ.1สบศ.2 สทก. ซึ่งจะกำหนดประกาศให้ทราบภายใน 7 วัน และให้รีบมาติดต่อเพื่อทำการชำระค่าธรรมเนียมล่วงเวลาให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทราบ หากไม่มาดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทางกรมฯ จะทำการงดรับปฏิบัติพิธีการศุลกากรสำหรับผู้ประกอบการที่ค้างชำระค่าธรรมเนียมล่วงเวลา ดังนั้นหากผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่แน่ใจหรือคาดว่าบริษัทจะค้างชำระ ท่านสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.customs.go.thหรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2269-3885ฝบศ.1สบศ.2 สทก. และถ้าท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการที่จะสอบถามกับทางเรา สามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลข 02 – 333-1199 ต่อ 111 หรือผ่านทาง www.logistics@snp.co.thได้ตลอดเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  3. ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นประเทศคู่ค้าที่มีความสำคัญในระดับสูงของประเทศไทยเลยทีเดียว การติดตามสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการที่มีตลาดหรือมีแผนที่จะเข้าไปทำการค้าในประเทศญี่ปุ่น ในปัจจุบันผู้ประกอบการไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในการลดหย่อนภาษีจากประเทศญี่ปุ่นได้อยู่ 2 สิทธิประโยชน์ด้วยกัน ได้แก่ การใช้สิทธิ์ GSP (ใช้ C/O Form A) และการใช้สิทธิตามข้อตกลง JTEPA (ใช้ C/O Form JTEPA) ซึ่งก็ปรากฏว่ายังมีผู้ประกอบการไทยอีกจำนวนมากที่ยังไม่ทราบหรือไม่ได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยของกรมการค้าต่างประเทศผ่านทางการสัมมนาเรื่อง “สิทธิพิเศษของสินค้าไทยในซากุระ”ไทยกำลังจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการเจรจา FTA กรอบใหม่ ASEAN – JAPAN เพิ่มขึ้น ที่อาจทำให้สินค้าไทยได้รับการลดหย่อนภาษีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการจะใช้สิทธิ FTA กรอบใหม่นั้น ต้องใช้ C/O Form AJ ในการไปลดหย่อนภาษีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีข้อดีตรงที่สินค้าจากประเทศไทยจะสามารถได้ถิ่นกำเนิดได้ง่ายขึ้นเพราะจะสามารถทำการสะสมแหล่งกำเนิด (Accumulation) สำหรับวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากภูมิภาค ASEAN และประเทศญี่ปุ่นได้ หากผู้ประกอบการท่านใดที่ประสงค์จะส่งออกสินค้าไปประเทศญี่ปุ่นและไม่แน่ใจว่าสินค้าของท่านควรใช้สิทธิประโยชน์ใด เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด กรุณาสอบถามเข้ามาได้ที่ export@snp.co.thหรือโทรศัพท์เข้ามาสอบถามได้ที่บริษัทเอส.เอ็น.พี ชิปปิ้ง กรุ๊ป จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 0-2333-1199 ต่อ 501 คุณพงษ์ศักดิ์ สุวรรณน้อย ได้ตลอดเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  4. S BOI หรือ Board of Investment คือหนึ่งในนโยบาย ที่ต้องการจะส่งเสริมและกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย นโยบายนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าเครื่องจักร หรือ วัตถุดิบเข้ามาทำการผลิตภายในประเทศเพื่อการส่งออก โดยผู้ประกอบการที่ได้ยื่นเรื่องเสนอโครงการการลงทุนให้กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแล้ว จะได้รับการลดหย่อนหรืองดเว้นภาษี ในการนำเข้าเครื่องจักรหรือวัตถุดิบเหล่านี้ ทั้งนี้ในการยื่นเสนอโครงการต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนนั้น จะต้องระบุไปด้วยว่า มีแผนการการลงทุนอย่างไร จะนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาเท่าไหร่ มีกำลังผลิตเท่าไหร่ต่อปี และนำเข้าวัตถุดิบเท่าไหร่ เป็นต้น สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีกรณีศึกษาเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการท่านหนึ่งที่เข้ามาขอรับคำปรึกษากับทางบริษัท โดยทางผู้ประกอบการรายนี้เป็นชาวต่างชาติ และได้ยื่นเรื่องเสนอโครงการให้กับทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเรียบร้อยแล้วว่ามีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,300 ตันต่อปี แต่เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของผู้ดำเนินการภายในบริษัทที่ถูกส่งมาจากต่างประเทศ ทำให้ภายหลังได้มาทราบจากทางบริษัทแม่ว่า มีความต้องการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมที่เคยยื่นขอไว้ครั้งแรก ที่ 2,300 ตันเป็น 8,000 ตันต่อปี N P ต่อหน้า 2

  5. หน้า 2 แต่ทางผู้ประกอบการเข้าใจผิด คิดว่าจะต้องทำโครงการยื่นเรื่องใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการจัดทำเอกสารใหม่และยังต้องติดต่อขอเอกสารและข้อมูลจากทางต่างประเทศใหม่ ซึ่งจะเป็นการเสียเวลามาก ทางเราจึงได้ปรึกษากับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และได้คำตอบว่า ไม่จำเป็นต้องดำเนินการยื่นโครงการใหม่ทั้งหมด เพียงแต่ยื่นเรื่องเพื่อขอขยายปริมาณนำเข้าเครื่องจักร และกำลังการผลิต ให้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเท่านั้น ซึ่งจะลดขั้นตอนในการดำเนินการ และช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย จากกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นแล้ว ผู้ประกอบการจึงควรมีการวางแผนโครงการให้ดีเสียก่อน ว่ามีเป้าหมายในการผลิตเท่าไหร่ ต้องการนำเข้าเครื่องจักร และ วัตถุดิบเป็นปริมาณเท่าไหร่ มิเช่นนั้นแล้วอาจจะส่งผลกับการทำงานของสายการผลิตได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดี หากมีความต้องการที่จะเพิ่มเติมกำลังการผลิตจากเดิมที่เสนอโครงการไปแล้วก็สามารถทำได้ หากผู้ประกอบการท่านใดประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่กล่าวไปข้างต้น สามารถติดต่อสอบถาม หรือ ขอคำแนะนำได้ผ่าน เวปไซด์ www.boi.go.thหรือ ติดต่อสอบถาม คุณ สายฝน โชว์สุภาพ ที่ 02-333-1199 ต่อ 105 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  6. S การตรวจค้นโรงงานของศุลกากร ในอดีตกรมศุลกากรใช้วิธีการประเมิน เเละสุ่มตรวจผู้ประกอบการขณะนำเข้า หรือ ส่งออกสินค้า โดยมีการสอบถามรายละเอียด ข้อมูล รวมไปถึงเอกสารเพิ่มเติมจนทำให้เกิดความล่าช้าขึ้น เเต่ในปัจจุบัน ศุลกากรได้เปลี่ยนระบบการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้ผู้ประกอบการ จึงอนุญาตให้ผู้ประกอบการตรวจปล่อยสินค้าไปก่อน เเล้วจึงมีการตรวจสอบราคาในภายหลัง โดยจะมีหน่วยงาน หน่วยงานหนึ่งจากกรมศุลกากรมาทำการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งจะเรียกว่า การ Post- Audit อันมีผลให้ผู้นำเข้า – ส่งออกส่วนมากได้รับหนังสือเเจ้งเตือนให้ส่งหนังสือ เอกสาร หรือหลักฐานเพิ่มเติม         นอกจากนี้ สำนักตรวจสอบอากร ของกรมศุลกากรที่มีหน้าที่ตรวจค้นโรงงานที่ได้ปล่อยสินค้าไปเเล้วเพื่อขอตรวจสอบเอกสาร โดยการเข้าตรวจค้นโรงงานของผู้ประกอบการนั้นบางครั้งจะมีการส่งหนังสือเเจ้งล่วงหน้า เเต่ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จะขอเข้าพบโดยมิได้นัดหมายเลย ซึ่งทั้งสองกรณีต่างก็สร้างความตื่นตกใจให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก อีกทั้งมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ถูกยึดเอกสาร เเละในภายหลังก็ตกเป็นจำเลยทั้งๆที่ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน N P ต่อหน้า 2

  7. หน้า 2 ด้วยตระหนักดีถึงความวุ่นวายดังกล่าว ผู้ประกอบการจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้ง ก่อนการเข้าตรวจค้น ในขณะการเข้าตรวจค้น เเละภายหลังการเข้าตรวจค้นว่าสมควรปฏิบัติไปในทิศทางใด ดังนั้น บริษัทฯจึงได้เรียนเชิญ หัวหน้าเจ้าพนักงาน สำนักตรวจสอบอากร จากกรมศุลกากรมาให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการทั้งทางด้านวิธีปฏิบัติ เเละข้อกฎหมายที่ควรรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกท่านสามารถเตรียมตัวให้พร้อมได้ล่วงหน้า ซึ่งความคืบหน้าเรื่องการจัดสัมมนาในหัวข้อนี้ ทางบริษัทฯจะแจ้งข้อมูลให้ท่านทราบในคราวต่อไป สิทธิชัย ชวรางกูร                                                                                    กรรมการผู้จัดการ                                                                                       26/03/09 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

More Related