420 likes | 1.74k Views
CHAPTER 6. Process Selection and Facility Layout. Line Balancing is the process of assigning tasks to workstations in such a way that the workstations have approximately equal time requirements. Design Product Layouts: Line Balancing. Objective of line balancing.
E N D
CHAPTER 6 Process Selection and Facility Layout
Line Balancing is the process of assigning tasks to workstations in such a way that the workstations have approximately equal time requirements. Design Product Layouts: Line Balancing
Parameters in line balancing • Operating time, OT คือ เวลาทำงาน • Desired output, D คือ จำนวนผลผลิตที่ต้องการ • Cycle time, CT คือ เวลาทำงานต่อผลผลิต 1 ชิ้น • Workstation process time, Tiคือ เวลาที่ใช้ในการทำงานแต่ละขั้นตอน • Total process time, Tpคือ เวลารวมจากการทำงานทั้งกระบวนการ • Minimum number of workstation, nคือ จำนวนสถานีงานที่น้อยที่สุดที่ต้องจัดสำหรับกระบวนการ
Parameters in line balancing • Idle time, d คือ เวลาที่สูญเสียไป • Efficiency, E คือ ประสิทธิภาพของระบบ ***ดังนั้นในการคำนวณประสิทธิภาพจึงคิดเปรียบเทียบจากเวลารวมของสถานีที่ใช้เวลาการทำงานสูงสุด
Steps of line balancing Identify the work (job/task). Break down the work into elemental tasks or steps. List the various elements along with their precedence relationship or logical relationships and the time required. Sketch the precedence diagram. Determine thecycle time. Divide the total time by cycle time to get the number of work stations required. Assign task to stations or group the elements. Total time of all the elements in a group does not exceed cycle time.
Methods of line balancing for assembly line วิธีกฎเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งสูงสุด (Largest candidate rule) วิธีของกิลบริดจ์และเวสเตอร์ (Kilbridge and Wester method) วิธีการใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนดตำแหน่ง (Ranked positional weight method, RPW)
Methods of line balancing for assembly line วิธีกฎเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งสูงสุด (Largest candidate rule) วิธีของกิลบริดจ์และเวสเตอร์ (Kilbridge and Wester method) วิธีการใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนดตำแหน่ง (Ranked positional weight method, RPW)
Largest candidate rule ตัวอย่าง
Largest candidate rule 1. เขียน precedence diagram
Largest candidate rule 2. หาค่า CT, และ n CT = OT/D = (50)(40)(60) นาที / 120,000 ชิ้น = 1 นาที Ti = 4 นาที n= 4/1 = 4 สถานี ดังนั้นต้องแบ่งการทำงานออกเป็นอย่างต่ำ 4 สถานี
Largest candidate rule 3. จัดงานลงสถานีโดยยึดหลักการเลือกงานที่ใช้เวลามากก่อน *** เวลารวมแต่ละสถานีการทำงานต้องไม่มากกว่า Cycle time (CT) (1 นาที สำหรับกรณีนี้)
Largest candidate rule 4. พิจารณาเวลาที่สูญเสียไป (idle time) และประสิทธิภาพของสายงาน (efficiency, E) idle time - 0.19 0.02 0.41 0.38 Efficiency, E = 100 – 20 = 80%
Methods of line balancing for assembly line วิธีกฎเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งสูงสุด (Largest candidate rule) วิธีของกิลบริดจ์และเวสเตอร์ (Kilbridge and Wester method) วิธีการใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนดตำแหน่ง (Ranked positional weight method, RPW)
Kilbridge and Wester method ตัวอย่าง
Kilbridge and Wester method จัดผังงานให้อยู่ในรูปแบบ column ตามลำดับของงาน
Kilbridge and Wester method 2. จัดงานลงสถานีโดยเลือกงานที่อยู่ใน column เดียวกันมาทำก่อน *** เวลารวมแต่ละสถานีการทำงานต้องไม่มากกว่า Cycle time (CT) (1 นาที สำหรับกรณีนี้)
Kilbridge and Wester method 3. พิจารณาเวลาที่สูญเสียไป (idle time) และประสิทธิภาพของสายงาน (efficiency, E) idle time - 0.19 0.08 0.35 0.38 Efficiency, E = 100 – 20 = 80%
Methods of line balancing for assembly line วิธีกฎเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งสูงสุด (Largest candidate rule) วิธีของกิลบริดจ์และเวสเตอร์ (Kilbridge and Wester method) วิธีการใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนดตำแหน่ง (Ranked positional weight method, RPW)
Ranked positional weight (RPW) method 1. กำหนดให้ค่าน้ำหนักของแต่ละงานโดยรวมเวลาของงานนั้นเข้ากับเวลาของงานที่ตามหลังทั้งหมด Example: งานที่ 1 มีงานตามหลัง คือ 34 6 7 8 9 10 11 12 ดังนั้น RWP = 3.30 งานที่ 11 มีงานตามหลัง คือ 12 ดังนั้น RWP = 0.12+0.5 = 0.62
Ranked positional weight (RPW) method 2. เรียงลำดับงานตาม RWP จากมากไปหาน้อย
Ranked positional weight (RPW) method 3. จัดงานลงสถานีโดยดูผลรวมของเวลาไม่ให้เกิน cycle time idle time 0.1 0.09 0.08 0.35 0.38 Efficiency, E = 100 – 13= 87% ในกรณีนี้ RPW ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า 2 วิธีแรก
Example ในสายการประกอบสินค้าชนิดหนึ่งต้องการประกอบสินค้า 40 ชิ้นต่อวัน โดยเวลาทำงานคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน จงหา Cycle time, จำนวนสถานีการประกอบอย่างต่ำที่ควรมี
CT = cycle time = Production time available per day = (8)(60)= 12 min n = 66 = 5.5 or 6 stations E = (12)(6) 40 12 Example • Units required per day
Example ในสายการประกอบสินค้าชนิดหนึ่งต้องการประกอบสินค้า 40 ชิ้นต่อวัน โดยเวลาทำงานคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน 2. จงจัดส่วนของงานลงสถานีโดยใช้ Largest candidate rule และคำนวณประสิทธิภาพของสายการประกอบ
Example CT = 12 นาที n = 6 สถานี
Example CT = 12 นาที n = 6 สถานี Efficiency, E = 100 – 8.3= 91.7%