1.39k likes | 5.64k Views
Gases. Chatuporn Sawatruksa Department of Chemistry Mahidolwittayanusorn School. แก๊ส ( Gas ). สมบัติของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กฎของบอยล์ , กฎของชาร์ลส์ , กฎของเกย์-ลูซแซก , กฎของอาโวกาโดร กฎรวมแก๊ส กฎของแก๊สสมบูรณ์แบบ การแพร่ผ่าน. สมบัติของแก๊ส.
E N D
Gases Chatuporn Sawatruksa Department of Chemistry Mahidolwittayanusorn School
แก๊ส (Gas) • สมบัติของแก๊ส • ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส • กฎของบอยล์ , กฎของชาร์ลส์ , กฎของเกย์-ลูซแซก, กฎของอาโวกาโดร • กฎรวมแก๊ส • กฎของแก๊สสมบูรณ์แบบ • การแพร่ผ่าน
สมบัติของแก๊ส • แก๊สมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของแก๊สน้อยมาก • รูปร่างเปลี่ยนแปลงตามขนาดและรูปร่างของภาชนะ • ความหนาแน่นต่ำกว่าของเหลว • สามารถบีบอัดได้ง่าย • ปริมาตรขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิ ความดันและ จำนวนโมล
ประเภทของแก๊ส • แก๊สในอุดมคติหรือแก๊สสมบูรณ์แบบ(Ideal gas) คือ แก๊สที่ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใดก็ตามจะมีพฤติกรรมและสมบัติเป็นไปตามกฎและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส • แก๊สจริง(Real gas) คือ แก๊สที่มีพฤติกรรมไม่เป็นไปตามกฎและทฤษฎีของแก๊สในสภาวะปกติ
ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส 1. แก๊สประกอบด้วยอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก จนถือว่าอนุภาคแก๊สไม่มีปริมาตรเมื่อเทียบกับขนาดภาชนะที่บรรจุ 2. โมเลกุลของแก๊สอยู่ห่างกัน ทำให้แรงดึงดูดและแรงผลักระหว่างโมเลกุลน้อยมาก จนถือได้ว่าไม่มีแรงกระทำต่อกัน 3. โมเลกุลของแก๊สเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในแนวเส้นตรง เป็นอิสระด้วยอัตราเร็วคงที่และไม่เป็นระเบียบจนกระทั่งชนกับโมเลกุลอื่นหรือชนกับผนังภาชนะจึงจะเปลี่ยนทิศทางและอัตราเร็ว
ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส 4. โมเลกุลของแก๊สที่ชนกันเองหรือชนกับผนังภาชนะ จะเกิดการถ่ายโอนพลังงานให้แก่กันได้แต่พลังงานรวมของระบบมีค่าคงที่ 5. ณ อุณหภูมิเดียวกัน โมเลกุลของแก๊สแต่ละโมเลกุลเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วไม่เท่ากัน แต่จะมีพลังงานจลน์เฉลี่ยเท่ากัน โดยที่ลังงานจลน์เฉลี่ยของแก๊สจะแปรผันตรงกับอุณหภูมิเคลวิน
ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง • อุณหภูมิ (T) • ความดัน (P) • ปริมาตร (V) • จำนวนโมล (n)
อุณหภูมิ ( T ) ๐C = 5/9(๐F – 32 ) ๐F = 9/5(๐C + 32 ) K = ๐C + 273.15 อุณหภูมิเคลวิล หรืออุณหภูมิสัมบูรณ์ เป็นหน่วยที่ใช้ในการคำนวณทางเคมี
ความดัน (P) ความดัน คือ แรงที่กระทำต่อพื้นที่ตั้งฉาก P = F/A หน่วยที่ใช้วัดความดัน คือ บรรยากาศ, มิลลิเมตรปรอท, นิวตันต่อตารางเมตร, ไดน์ต่อตารางเซนติเมตร, ปอนด์ต่อตารางนิ้ว, บาร์, ทอร์, ปาสคาล
หน่วยความดันบรรยากาศ • 1 atm = 760 mmHg = 760 torr = 1.01325 x 105 Pa = 101.325 kPa = 1.01325 x 105 N/m2 = 1.01325 x 106 dyne cm-2
ปริมาตร (V) เมื่อบรรจุก๊าซลงในภาชนะ โมเลกุลของก๊าซซึ่งมีการเคลื่อนที่อย่างอิสระจะกระจายทั่วทั้งภาชนะ ถ้ามีก๊าซผสมอยู่ในภาชนะเดียวกัน ถือว่าองค์ประกอบแต่ละชนิดมีปริมาตรเท่าภาชนะที่บรรจุนั้นด้วย เมื่ออุณหภูมิและความดันเปลี่ยน ปริมาตรของก๊าซจะเปลี่ยน
Boyles Law ความสัมพันธ์ระหว่างความดัน (P) และปริมาตร ( V ) “ ที่อุณหภูมิและมวลของแก๊สคงที่ ปริมาตรของแก๊สจะแปรผกผันกับความดัน ”
Boyles Law Ex1.ก๊าซชนิดหนึ่งมีปริมาตร 400 cm3ภายใต้ความดัน 0.8 atm ที่อุณหภูมิคงที่ ถ้าความดันเพิ่มขึ้นเป็น 76 cmHg ก๊าซจะมีปริมาตรกี่ลิตร
Boyles Law V1 = 400 cm3 V2 = ? P1 = 0.8 atm P2 = 76 cmHg = 1 atm n และ T คงที่ P1V1 = P2V2 V2 = P1V1/ P2 = ( 400 cm3 )( 0.8 atm) / ( 1 atm ) = 320 cm3 #
CharlessLaw ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ (T) และปริมาตร ( V ) “เมื่อมวลและความดันของแก๊สคงที่ ปริมาตรของก๊าซจะแปรผันตรงกับอุณหภูมิเคลวิน”
-273 0 CharlessLaw V แก๊สชนิดที่ 1 60 แก๊สชนิดที่ 2 50 40 แก๊สชนิดที่ 3 30 20 10 0 (0C) 0 273 (K)
CharlessLaw Ex1.แก๊สไนโตรเจนมีปริมาตร 800 cm3จะมีปริมาตรเพิ่มขึ้นเท่าใด ถ้าเพิ่มอุณหภูมิจาก 273 K เป็น 320 K โดยไม่เปลี่ยนแปลงความดัน
The combined gas law กฎรวมก๊าซ โดยการรวมกฎของบอลย์และชาร์ลเข้าด้วยกันเมื่อมวลของก๊าซคงที่ จากกฎของบอยล์ V 1/P (เมื่อมวลและอุณหภูมิคงที่) จากกฎของชาร์ล V T (เมื่อมวลและความดันคงที่) ถ้ารวมกฎของบอยล์และกฎของชาร์ล จะได้ความสัมพันธ์ดังนี้ V T/P V = k3T/P โดย k3เป็นค่าคงที่ PV = k3T (เมื่อมวลคงที่) PV/T = k3 P1V1 = P2V2 = P3V3 = … = PnVn = k3(เมื่อมวลคงที่) T1 T2 T3 Tn
The combined gas law เมื่อปริมาณของก๊าซคงที่ ( n คงที่ )
The combined gas law Ex1. ก๊าซไนโตรเจนมีปริมาตร 10.0 dm3 ที่ความดัน 1.0atm อุณหภูมิ 0๐C ถ้าปริมาตรและความดันของแก๊สนี้เปลี่ยนเป็น 11.5dm3 และ 900 mmHg ตามลำดับ จงหาอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปในหน่วยองศาเซลเซียส
Gay-LussacLaw ความสัมพันธ์ระหว่างความดัน (P) และอุณหภูมิ ( T ) “ที่ปริมาตรคงที่ ความดันของแก๊สจะแปรผันโดยตรงกับอุณหภูมิเคลวิน”
Gay-LussacLaw Ex1.แก๊สจำนวนหนึ่งอยู่ในภาชนะเหล็ก มีความดัน 760 torr ที่ 25๐C จงหาความดันของแก๊สในภาชนะเหล็ก ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 50๐C
Avogadros Law ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณ (n) และปริมาตร ( V ) “ ที่อุณหภูมิและความดันเดียวกัน แก๊สที่มีปริมาตรเท่ากันจะมีจำนวนโมเลกุลเท่ากัน ”
Avogadros Law Ex1. แก๊ส N2 2 L จะทำปฏิกิริยากับแก๊ส H2เท่าใดที่ 25 ๐C และ 760 torr และจะเกิดแอมโมเนียเท่าใด
The ideal gas law If the proportionality constant is called "R", then we have: PV = nRT or
Values for the gas constant R Value Units 0.08206 L atm/mol K 1.987 cal/mol K 8.314 J/mol K 8.314 m3 Pa/mol K 62 L torr/mol K The ideal gas law PV = nRT
The ideal gas law Ex1. ก๊าซ A 0.2 โมล มีปริมาตร 800 cm3จะมีความดันเป็นกี่ atm ถ้าลดอุณหภูมิลงจนเหลือเท่ากับอุณหภูมิของจุดเยือกแข็งของน้ำที่ความดันปกติ Ex2. จงหาปริมาตรของก๊าซในบอลลูนที่มีฮีเลียม 4 โมล ความดัน 748 mmHg และอุณหภูมิ 30 ๐C EX3. ถ้าดูดเอาก๊าซออกจากขวดใบหนึ่ง จนเหลือความดันเพียง 10-6mmHg ที่ 27 ๐C จะมีก๊าซเหลืออยู่กี่โมเลกุลต่อปริมาตร 1 cm3
The ideal gas law Ex4. แก๊สสมบูรณ์แบบชนิดหนึ่ง 0.533 กรัม มีปริมาตร 0.25 ลิตร ที่ความดัน 0.80 atm และอุณหภูมิ 25 ๐C จงคำนวณน้ำหนักโมเลกุลของก๊าซนี้ Ex5. ในการเตรียมแก๊สไฮโดรเจนจากสังกะสีกับกรดซัลฟิวริก ปรากฏว่าได้แก๊ส 0.5 ลิตร ที่ 293 K และ 770 mmHg จงหาว่าจะต้องใช้สังกะสีอย่างน้อยที่สุดกี่กรัม Ex6. แก๊สชนิดหนึ่งหนัก 0.118 กรัม มีปริมาตร 250 cm3ที่อุณหภูมิ 25๐C และความดัน 550 torr จงหาน้ำหนักโมเลกุลของแก๊สนี้
Dalton s law of partial pressure “ถ้าแก๊สตั้งแต่ 2 ชนิดหรือมากกว่าสองชนิดที่ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกัน บรรจุในภาชนะเดียวกัน ความดันของแก๊สแต่ละชนิดในแก๊สผสม เรียกว่า ความดันย่อย ( partial pressure ) * ความดันรวมของแก๊สผสมจะเท่ากับผลบวกของความดันย่อยของแก๊สแต่ละชนิด” PTotal= P1 + P2 + P3 + ...
Daltons law of partial pressure 1. ใช้สมการของแก๊สสมบูรณ์แบบ PV = nRT 2. ใช้สมการ 3. ใช้กฎของบอยล์ P1V1 = P2V2 4. ใช้กฎรวมแก๊ส P1V1 = P2V2 n1T1n2T2
Dalton s law of partial pressure Ex1. ถ้านำแก๊ส N2 200 cm3ที่ 25 ๐C ความดัน 250torr มาผสมกับแก๊ส O2350 cm3ที่ 25 ๐C ความดัน 300 torr ในภาชนะที่มีความจุ 300 cm3จงหาความดันรวมหลังการผสมที่ 25 ๐C Ex2. ถ้าบรรจุ N2 2 กรัม, H2 0.40 กรัม, และ O2 9.0 กรัม ในภาชนะที่มีความจุ 1 ลิตร ที่ 25 ๐C จงหาความดันรวมของแก๊สในภาชนะนี้ Ex3.จงคำนวณหาความดันรวมในภาชนะ 10 L ที่มีแก๊สผสม H2 2.5 x 10-3 mol He 1.0 x 10-3 mol และ Ne 3.0 x 10-4 mol ที่ 25 ๐C
Dalton s law of partial pressure Ex4. แก๊ส O2 0.52 กรัม, CO2 2.42 กรัม บรรจุอยู่ในภาชนะซึ่งมีความดัน 3.5 atm ที่ 25 ๐C จงหาความดันย่อยของแก๊สในภาชนะนี้ Ex5. เตรียมแก๊สชนิดหนึ่งโดยให้แก๊สที่เตรียมได้นี้เข้าแทนที่น้ำในขวดที่มีความจุ 135 ml ที่ 25 ๐C และ 745 mmHg ถ้าแก๊สนี้หนัก 0.15 g จงหาน้ำหนักโมเลกุลของแก๊สนี้
Molecular Effusion and Diffusion • การแพร่ของแก๊ส ( Diffusion of gases ) เป็นการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของแก๊สตั้งแต่ 2 ชนิด ขึ้นไป จากที่มีความดันสูงไปสู่ส่วนที่มีความดันต่ำ โดยที่โมเลกุลของแก๊สแต่ละชนิดสามารถสอดแทรกผสมกลมกลืนกัน หรืออาจชนกันระหว่างโมเลกุลของแก๊สที่เคลื่อนที่ผ่านนั้นได้ • การแพร่ผ่านของแก๊ส ( Effusion of gases ) หมายถึงกระบวนการที่แก๊สเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความดันสูงไปสู่ส่วนที่มีความดันต่ำ ผ่านรูที่เล็กมากๆ โดยโมเลกุลไม่ชนกันเอง (ideal flow)
Graham's Law of Effusion • Graham's law: “ภายใต้อุณหภูมิและความดันเดียวกัน อัตราการแพร่ผ่านของแก๊สจะเป็นสัดส่วนผกผันกับรากที่สองของมวลโมเลกุลของแก๊ส”
เปรียบเทียบการแพร่ผ่านหรือการแพร่ของแก๊สชนิดที่ 1 และ 2 ภายใต้สภาวะเดียวกันจะได้ เนื่องจากมวลโมเลกุลของแก๊สแปรผันตรงกับความหนาแน่น จะได้
Graham's Law of Effusion Ex.1 จงเปรียบเทียบอัตราการแพร่ผ่านของแก๊ส H2และ O2 กำหนดความหนาแน่นของ H2 = 0.0899 g/L และ O2 = 1.43 g/L Ex.2 C2F4แพร่ผ่านช่องเล็ก ๆ ด้วยอัตรา 4.6 x 10-6 mol/hr ถ้าแก๊สชนิดหนึ่งแพร่ผ่านช่องเล็ก ๆ นี้ที่สภาวะเดียวกันด้วยอัตรา 6.5 x 10-6 mol/hr จงหาน้ำหนักโมเลกุลของแก๊สชนิดนี้
การทดลอง การแพร่ของแก๊ส
Behavior of Real gas แก๊สสมบูรณ์แบบ 1 mol จะมีอัตราส่วน PV/RT = 1 เสมอ
Behavior of Real gas ดังนั้นแก๊สจริงจะมีพฤติกรรมเป็นแก๊สสมบูรณ์แบบเมื่อ“ความดันต่ำมากและอุณหภูมิสูงมาก” สมการกฎของแก๊สสมบูรณ์ PV = nRT สมการแวนเดอร์วาลส์ (P + an2 )(V - nb) = nRT V2 a และ b คือ ค่าคงที่แวนเดอร์วาลส์
Behavior of Real gas • Ex1. จงคำนวณความดันของแก๊ส CO2 18.617 mol ซึ่งมีปริมาตร 10 L ที่ 100 ๐C โดยใช้ • กฎแก๊สสมบูรณ์แบบ • สมการแวนเดอร์วาลล์ • กำหนดค่า a และ b ของแก๊ส CO2 = 3.59 atm L2 mol-2และ 0.0427 L mol-1ตามลำดับ
เทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานะของสารเทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานะของสาร
การทำน้ำแข็งแห้ง http://www.dryiceproduction.com/en/images/img9.jpg