1 / 79

การดูแลรักษาผู้ป่วย วัณโรคที่มีอาการแพ้ยา

การดูแลรักษาผู้ป่วย วัณโรคที่มีอาการแพ้ยา. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction - ADR). ผลเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ จากการใช้ยาในคน เพื่อการป้องกัน วินิจฉัย รักษา WHO 1972. แพ้ยา .. สำคัญขนาดไหน?. สาเหตุของการผิดนัดและขาดยา

ovidio
Download Presentation

การดูแลรักษาผู้ป่วย วัณโรคที่มีอาการแพ้ยา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคที่มีอาการแพ้ยาการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคที่มีอาการแพ้ยา

  2. อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(Adverse Drug Reaction - ADR) ผลเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ จากการใช้ยาในคน เพื่อการป้องกัน วินิจฉัย รักษา WHO 1972

  3. แพ้ยา .. สำคัญขนาดไหน? สาเหตุของการผิดนัดและขาดยา (การศึกษาในประเทศไทย 20 เรื่องระหว่างปีพ.ศ. 2507-2540) - มีธุระ/งานสังคม (1-80%) - ย้ายที่อยู่ (1-75%) - ไม่สนใจ (2-57%) - ไม่มีเงิน (3-43%) - ไม่สบาย แพ้ยา (2-38%) - รู้สึกดีขึ้น (3-30%) - เดินทางลำบาก (1-16%) - เข้าใจผิด (7-15%) - ลืม (2-12%) - ไม่พอใจ (2-7%)

  4. แพ้ยา .. ที่ไหน ? ทั่วไป - เพลีย หมดแรง ผิวหนัง - ผื่น คัน ระบบประสาท - ปวดหัว มึนงง ชา ตา - ตามัว, ตาเหลือง ทางเดินอาหาร - เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ข้อ - ตึง บวม ปวด

  5. แพ้ยา .. จริงไหม? ใช้ยาวัณโรคตัวไหน? เมื่อไหร่? ขนาดเท่าไหร่? มีอาการอย่างไร? เริ่มมีอาการเมื่อไหร่? เคยมีอาการแบบนี้หรือเปล่า? เมื่อไหร่? ใช้ยาอื่น? กินอะไรผิดปกติ? หยุดยา? อาการเป็นอย่างไร?

  6. แพ้ยา .. ตัวไหน? ผื่นคัน เพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ….. ตาเหลือง H R Z ตามัว E ปวดข้อ Z ชาปลายมือปลายเท้า H ชารอบปาก มึนงง เดินเซ S

  7. หยุดยาทั้งหมดทันทีซอง-ยาทั้งหมด .. ไปพบแพทย์

  8. Adverse drug reactions (ADRs) from antituberculosis drugs(anti-TBdrugs) Prevalence (all forms): 29 % – 74 % Reported symptoms: rash, jaundice, hepatitis, nausea, vomiting, arthralgia, malaise, visual acuity, peripheral neuropathy (กรรณิการ์ วิสุทธิวรรณ และคณะ, 2536; พรรณี หัสภาค และคณะ, 2536; อุไร พุ่มฤกษ์ และคณะ, 2539; เบญจวรรณ สายพันธ์และคณะ, 2543; วิศิษฎ์ อุดมพาณิชย์ และคณะ, 2546; วิลาวัณย์ ทองเรืองและคณะ 2009) 13

  9. Naranjo’s Algorithm(ใช่ ไม่ใช่ ไม่ทราบ -1 0 +1 +2) • Definite 9 • Probable 5-8 • Possible 1-4 • Doubtful 0

  10. Naranjo’s Algorithm • เคยมีสรุปหรือรายงานการปฏิกริยานี้มาแล้วหรือไม่ • อาการไม่พึงประสงค์นี้เกิดขึ้นภายหลังจากได้รับยาที่คิดว่าเป็นสาเหตุหรือไม่ • อาการไม่พึงประสงค์นี้ดีขึ้นเมื่อหยุดยาดังกล่าว หรือเมื่อให้ยาต้านที่จำเพาะเจาะจง (specific antagonist) หรือไม่ • อาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เมื่อเริ่มให้ยาใหม่หรือไม่ • ปฏิกริยาที่เกิดขึ้นสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น (นอกเหนือจากยา) ของผู้ป่วยได้หรือไม่

  11. Naranjo’s Algorithm • ปฏิกริยาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เมื่อให้ยาหลอกหรือไม่ • สามารถตรวจวัดปริมาณยาได้ในเลือด (หรือของเหลวอื่น) ในปริมาณความเข้มข้นที่เป็นพิษหรือไม่ • ปฏิกริยารุนแรงขึ้น เมื่อเพิ่มขนาดยาหรือลดความรุนแรงลงเมื่อลดขนาดยาหรือไม่ • ผู้ป่วยเคยมีปฏิกริยาที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันนี้มาก่อน ในการได้รับยาครั้งก่อน ๆ หรือไม่ • อาการไม่พึงประสงค์นี้ ได้รับการยืนยันโดยหลักฐานที่เป็นรูปธรรม (objective evidence)หรือไม่

  12. Anti-Tuberculosis Drugs induced Hepatotoxicity

  13. ADRs from anti-TB drugs Hepatitis 13.9 %, พบเป็นอันดับ 1 Marra, F et al., Int J Tuberc Lung Dis., 2007; 11(8):868-875. 20

  14. ADRs from anti-TB drugs ตับอักเสบ 9.2 %, พบเป็นอันดับ 2 วิลาวัณย์ ทองเรือง และคณะ, Thai Pharmaceutical and Health Science Journal., 2009; 4(1):7-12. 21

  15. การศึกษาในต่างประเทศ Meta- analysis 1966-1988 Steele MA,Burk RF, DesPrez RM, Chest., 1991; 99:465-71 22

  16. การศึกษาในต่างประเทศ 23

  17. การศึกษาในต่างประเทศ 2.3 % - 19.8 % 24

  18. การศึกษาในประเทศไทย 1.8 % - 9.2 % 25

  19. Patterns of Hepatotoxicity Navarro V and Senior JR, N Engl J Med., 2006; 354:731-739. Andrade RJ et al., World J Gastroenterol., 2007; 13(3):329-340. Chang CY and Schiano TD, Aliment Pharmacol Ther., 2007; 25:1135-1151. แบ่งตาม liver chemistry tests ได้เป็น 3 รูปแบบ คือ • hepatocellular injury • cholestatic injury • mixed hepatic injury 26

  20. Hepatocellular Injury isoniazid, rifampicin,pyrazinamide Clinical symptoms : malaise, abdominal pain, jaundice Biochemical parameters : มีการเพิ่มขึ้นของเอนไซม์alanine aminotransferase (ALT) นำมาก่อน และมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของเอนไซม์alkaline phosphatase (ALP) 28

  21. Cholestatic Injury rifampicin Clinical symptom : jaundice, pruritus Biochemical parameter : มีการเพิ่มขึ้นของระดับของเอนไซม์ ALP แต่ระดับของเอนไซม์ ALT เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือไม่เพิ่มขึ้นเลย 29

  22. Mixed Hepatic Injury isoniazid, rifampicin,pyrazinamide Biochemical parameter : เพิ่มขึ้นของระดับ ALP และ ALT 30

  23. Isoniazid 31 Tostmann A et al., J. Gastro and Hepatology., 2007; 23:192-202.

  24. Rifampicin Capelle et al., Gut., 1972; 13:366-371. 32

  25. Rifampicin Increase risk hepatotoxicity Yew WW and Leung CC, Respirology. 2006 ; 11(6):699-707 33

  26. Pyrazinamide The mechanism of pyrazinamide induced hepatotoxicity is unknown 34

  27. ภาวะแทรกซ้อนต่อตับจากยาต้านวัณโรคนิธิพัฒน์ เจียรกุล, สุพจน์ พงศ์ประสบชัยวารสารวัณโรคและโรคทรวงอก 2540;18(1):47-52 • ในระยะแรกที่มีการเอายานี้มาใช้โดยในขนาดสูงคือ 40 – 50 มก/กก.วัน มีอุบัติการณ์ของภาวะแทรกซ้อนต่อตับได้สูง • หลังจากที่มีการนำยานี้กลับมาใช้ใหม่ ใน short course regimen ในขนาดที่ใช้คือ 20– 30 มก/กก./วัน พบว่าอุบัติการณ์ไม่สูงมาก

  28. Risk factors of anti-TB drug induced hepatotoxicity 40

  29. Age Old age (> 60 yrs) 41

  30. Sex Female 42

  31. Malnutrition body mass index, serum albumin 43

  32. Acetylator status Slow acetylator genotype 44

  33. Abnormal Baseline Liver Enzymes 45

  34. Pre-existent liver disease Hepatitis B virus and Hepatitis C virus 46

  35. Alcohol abuse or Chronic Alcoholism 47

  36. HIV infection 48

  37. การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบ unmatched case - control • เพื่อหาอัตราและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดพิษต่อตับในผู้ป่วยในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่ใช้ยาต้านวัณโรค 3 ชนิด คือ isoniazid, rifampicin และ/หรือ pyrazinamide • เก็บข้อมูลย้อนหลัง จากแฟ้มประวัติผู้ป่วย ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี พ.ศ.2541-2543 • ผู้ป่วย 664 ราย จากผู้ป่วยในวัณโรค 1,062 ราย ที่เข้าเกณฑ์คัดเลือกผู้ป่วย

  38. เกิดพิษต่อตับจากยาต้านวัณโรค 61 ราย (ร้อยละ 9.2) • ชาย 42 ราย (68.9%) หญิง 19 ราย (31.1%) • อายุเฉลี่ยของ ผู้ที่เกิดพิษต่อตับ 48.3 (±20.7) ปี • ระยะเวลาในการเริ่มเกิดพิษต่อตับ 20.92 (±18.51) วัน • ค่าการทำงานของตับกลับเป็นปกติหลังหยุดยาภายใน 18.7 (±14.1) วัน

More Related