180 likes | 339 Views
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการบลูมของแมงกะพรุน. ปวันรัตน์ บัวโรย 50040214. คำนำ.
E N D
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการบลูมของแมงกะพรุนปัจจัยที่ทำให้เกิดการบลูมของแมงกะพรุน ปวันรัตน์ บัวโรย 50040214
คำนำ แมงกะพรุน เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจัดอยู่ในไฟลัมCnidaria ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่าKnideแปลว่าทำให้ระคายเคืองและAruaแปลว่าเกี่ยวข้องกับสัตว์ในไฟลัมนี้จะมีลักษณะพิเศษอยู่คือมีถุงด้ายพิษ(nematocyst)ซึ่งเมื่อสัมผัสโดนเเล้วเข็มพิษจะพุ่งออกมาจากถุง ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในบริเวณที่โดนเข็มพิษได้ ในธรรมชาติตามปกติจะสามารถพบเเมงกระพรุนได้ทั่วไป ทั้งในเขตน้ำตื้นหรือแม้กระทั่งในน้ำจืด ส่วนใหญ่เเล้วเรามักจะพบแมงกะพรุนได้มากในบริเวณที่มีแหล่งอาหารของมัน
การบลูมของแมงกระพรุน คือปริมาณของแมงกะพรุนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้เพิ่มขึ้นในปริมาณมากและ อาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมหลายปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น อุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตามฤดูกาล การจับปลาเกิน กำลังผลิตปรากฏการณ์ยูโทรฟิคเคชั่น (Shiga nova,1998;Arai, 2001;Parsons and Lalli,2002; Purcell 2005;Attrill et al.,2007 ) องค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้ปริมาณอาหาร และสภาพแวดล้อมในระบบนิเวศน์เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตและการสืบพันธ์ของแมงกะพรุนมากขึ้น
ในระยะเวลาประมาณสิบปีที่ผ่านมาได้เกิดปรากฎการณ์บลูมของแมงกะพรุนในบริเวณต่างๆทั่วโลกและมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจาก - อุณหภูมิที่สูงขึ้น - สภาพภูมิอากาศตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง - ปรากฏการณ์ Eutrophication - การจับสัตว์น้ำในปริมาณที่มากเกินขีดจำกัด จากสาเหตุทั้งหมดจะทำให้เกิดสภาพที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของแมงกะพรุน การเกิดการบลูมของแมงกะพรุนนั้นส่งผลเสียต่อ การประกอบอาชีพทางประมงเเละเศรษฐกิจ และสิ่งที่สำคัญคือการบลูมของแมงกะพรุนสามารถนำไปใช้เป็นตัวชี้วัดปริมาณมลพิษและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศน์ในทะเลในปัจจุบันได้
อุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตามฤดูกาล จากการศึกษาวงจรชีวิตของแมงกะพรุนที่อาศัยอยู่ในเขตอบอุ่นพบว่าแมงกะพรุนนั้นมีวงจรชีวิตที่ซับซ้อน จะพบแมงกะพรุนได้มากในฤดูร้อน จากนั้น แมงกะพรุนในระยะที่เป็นเมดูซ่าจะลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และจะหายไปในช่วงฤดูหนาว แต่โพลิปของมันจะสามารถอยู่รอดได้ในฤดูหนาวเนื่องจากมีการเข้าซิสต์
ภาพที่ 2ค่าเฉลี่ยความชุกชุมของแมงกะพรุน Cyanialamarckii , C.capillata , Auraliaaurita ,C.hysoscellaในปี 2004 และ 2005 ในเดือนต่างๆ ที่มา : Barz and Hirche (2007)
อุณหภูมิของโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอุณหภูมิของโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้นสามารถชักนำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของแมงกะพรุนได้ เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อ การกระแพร่กระจาย การเจริญ และ การเติบโตในระยะอีไฟราของแมงกะพรุน(Richardson et al.,2009)สาเหตุที่ทำให้เกิดการบลูม ของแมงกะพรุนคือ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและ ปริมาณน้ำฝนที่ลดน้อยลงซึ่งสาเหตุเหล่านี้สามารถใช้ทำนายการเกิดการบลูมของแมงกะพรุนได้
ภาพที่3จำนวนหน่อ และ อีไฟรา ที่เกิดจากแมงกะพรุน Aurelia labiataที่นำมาเจากบริเวณทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก โพลิปและหน่อ จะถูกควบคุมด้วยปริมาณอุณหภูมิและ ความเค็มที่ต่างกันคือ อุณภูมิ 7 , 10 , 15 องศาเซียลเซียส และความเค็ม 20 , 27 , 34 ตามลำดับ ที่มา : Purcell, unpublished data
ภาพที่ 4 ปริมาณชีวมวลของแมงกระพรุน Chrysaora melanaster ที่พบในทะเลเบอริง บริเวณตะวันออก เฉียงใต้ ในปี 1975 - 2000 ที่มา : Brodeur et. Al (2002)
การกินอาหารตามธรรมชาติการกินอาหารตามธรรมชาติ ปรากฏการณ์ยูโทรฟิคเคชั่น(Eutrophication) ปรากฏการณ์ยูโทรฟิคเคชั่นคือ “กระบวนการเปลี่ยนแปลงระดับ ของปริมาณสารอาหาร โดยมีปริมาณสารอาหารและแหล่งของสารอาหาร เพิ่มขึ้นในมวลน้ำ ” แร่ธาตุ และปริมาณชีวมวลแพลงก์ตอนพืชและสัตว์ ที่มากเกินไปจะเป็นปัจจัยสนับสนุนแมงกะพรุนให้เจริญ เติบโตได้ดีและเกิดการบลูมของแมงกะพรุนได้ ( Mills, 2001; Diaz และ Rosenberg,2008)
ภาพที่ 5ความชุกชุมของแมงกะพรุน Aurelia auritaในอ่าว Tapong ประเทศใต้หวัน ตั้งแต่ปี 1999 – 2004 จากกราฟแสดงให้เห็นถึงปริมาณของแมงกะพรุน ในช่วงที่มีการ เลี้ยงปลาแบบควบคุมหนาแน่น และ หลังจากเส้นขั้นสีเทา เป็นปริมาณของแมงกะพรุน หลังจากที่เลิกการทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแล้ว ที่มา : Lo et al. ( 2008 )
การจับปลาเกินกำลังผลิตการจับปลาเกินกำลังผลิต แมงกะพรุนนั้นจะกินตัวอ่อนของ แพลงก์ตอนสัตว์ โคพีพอด และตัวอ่อนของโคพีพอดเป็นอาหาร อาหารที่มันกินนั้นเป็นอาหารชนิดเดียวกันกับปลาเศรษฐกิจชนิดหลักที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ต่อมาเมื่อปลาถูกจับจนเหลือปริมาณน้อยลง ทำให้แมงกะพรุนไม่มีคู่แข่งในการแย่งอาหารชนิดเดียวกัน ทำให้อาหารของมันนั้นมีปริมาณมากขึ้น และเป็นสาเหตุให้เกิดการบลูมของแมงกะพรุนได้ (Purcell and Arai,2001 ; Richardson et al.,2009)
ภาพที่6 ปริมาณของปลาทะเลที่จับได้ในทะเลจีน ระหว่างปี 1980 – 2004 ที่มา : SOA,2008
ภาพที่7 แสดงจำนวนของปลาแอนโชวี่ใน Yellow Sea ในรอบปี ต่างๆ ที่มา:Zhao et al., (2003)
สรุป กล่าวโดยสรุปได้ว่าการบลูมของแมงกะพรุนนั้น มักจะเกิดจากสาเหตุต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน เช่น จากระดับของอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและจากการที่อุณหภูมิของโลกที่มีแน้วโน้มสูงขึ้น ปรากฏการณ์ ยูโทรฟิคเคชั่นในแหล่งน้ำ และจากการจับปลามากจนเกินกำลังผลิตในธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุเหล่านั้นจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสภาพน้ำทะเลและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติด้วย การบลูม ของแมงกะพรุนจึงเสามารถใช้ป็นตัวชี้วัดสภาพแวดล้อม และ ระดับคุณภาพน้ำที่ต่ำลงได้
ตารางที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ของน้ำทะเลที่เกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟิคเคชั่นและแมงกะพรุน ที่มา : Arai (2001)