1 / 39

เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics )

วิชา SSC 281 : Economics ภาคการศึกษาที่ 1 /2552. เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics ). ดร.ศศิธร สุวรรณเทพ. เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics ). ขอบเขตของวิชา ศึกษาถึงภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่ง กำหนดรายได้ การผลิต ระดับการบริโภค การออม และการลงทุน

Download Presentation

เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics )

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิชา SSC 281 : Economicsภาคการศึกษาที่ 1/2552 เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics ) ดร.ศศิธร สุวรรณเทพ ศศิธร สุวรรณเทพ

  2. เศรษฐศาสตร์มหภาค ( Macroeconomics ) • ขอบเขตของวิชา • ศึกษาถึงภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่ง • กำหนดรายได้ การผลิต ระดับการบริโภค การออม และการลงทุน • ของประเทศ การจ้างงาน ระดับราคาสินค้าทั่วๆไป เป็นต้น • ศึกษานโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น นโยบายการเงิน • นโยบายการคลัง เป็นต้น • ศึกษาเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศ • ทั้งทางด้านการค้า และการเงินระหว่างประเทศ ศศิธร สุวรรณเทพ

  3. 1.การเพิ่มขึ้นของรายได้ประชาชาติและผลิตภัณฑ์ประชาชาติ: อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับที่สูง 2. การเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน (หรืออัตราการว่างในระดับต่ำ) 3. การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ภายใน: อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย ดุลงบประมาณ อัตราการว่างงาน ภายนอก: ดุลการค้า ดุลการชำระเงิน อัตราแลกเปลี่ยน 4. ความเป็นธรรมและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ เป้าหมายของเศรษฐกิจมหภาค ศศิธร สุวรรณเทพ

  4. เศรษฐกิจไทยปัจจุบัน ศศิธร สุวรรณเทพ

  5. ม.หอการค้าฯเชื่อ 6 มาตรการรัฐกดเงินเฟ้อ 51 โตไม่เกิน 7%ดัน GDP โต 5-6% • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า 6 มาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาในวันนี้ถือว่าดีทั้งหมด เพราะช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้ทั้งการลดค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา และค่ารถเมล์ ส่วนการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจะมีส่วนช่วยให้ต้นทุนการขนส่งลดลงได้และทำให้เงินเฟ้อลดลงได้ เช่นเดียวกับการชะลอปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือน .อย่างไรก็ตาม แม้จะประกาศใช้มาตรการดังกล่าวเพียง 6 เดือน แต่จะช่วยให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(GDP)โตได้ตามกรอบที่รัฐบาลกำหนดไว้คือ 5-6% และเชื่อว่าจะทำให้เงินเฟ้อทั้งปีนี้ไม่สูงเกิน 7% โดย ไทยแลนด์อินดัสตรี้ดอทคอม  วันที่ 2008-07-1609:05:44 ศศิธร สุวรรณเทพ

  6. 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤต (ต่อ) • ."ทั้ง 6 มาตรการจะช่วยเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายให้กับกลุ่มรากหญ้า และน่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวจากการใช้จ่ายได้ 0.3-0.5% ต่อเดือน เพราะรายจ่ายค่าครองชีพพื้นฐานลดลง ประชาชนมีเงินเหลือใช้จ่ายด้านอื่นมากขึ้น" นายธนวรรธน์ กล่าว .ทั้งนี้ต้องต้องยอมรับว่า 6 มาตรการนี้ทำให้เงินของรัฐหายไปส่วนหนึ่ง แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะได้ชดเชยกลับมาในรูปของภาษีเงินได้ และอยากให้รัฐบาลออกมาตรการระยะยาวเสริมต่อจากมาตรการระยะสั้น เร่งโครงการเมกะโปรเจกต์ กระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ และเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ศศิธร สุวรรณเทพ

  7. 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤต (ต่อ) • แต่อย่างไรก็ดี การที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนในครั้งนี้ อีกด้านหนึ่งย่อมหมายถึงภาระที่รัฐบาลจะต้องรับการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้การขาดดุลงบประมาณในปี 51 สูงขึ้นมาเป็นประมาณ 2.2 แสนล้านบาท จากเดิมที่ประมาณ 1.72 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณ 2.3% ของจีดีพี จากเดิมที่ 1.7% ของจีดีพี ซึ่งจะมีผลต่อสถานะทางการคลังที่จะต้องจัดหาวงเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และอาจมีผลดึงสภาพคล่องจากระบบการเงินไปบางส่วน ศศิธร สุวรรณเทพ

  8. Asian Development Outlook 2008 GDP Table • http://www.adb.org/Media/Articles/2008/12437-asian-gdp-comparisons/ ศศิธร สุวรรณเทพ

  9. Asian Development Outlook 2008 GDP Table 2003 2004 2005 2006 2007 2008 2009 ศศิธร สุวรรณเทพ

  10. รายได้ประชาชาติและการคำนวณรายได้ประชาชาติและการคำนวณ ความหมาย: ผลรวมของรายได้ประเภทต่างๆที่บุคคลในระบบเศรษฐกิจได้รับในฐานะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ในรอบระยะเวลาหนึ่ง (1 มกราคม-31 ธันวาคม) • ระบบบัญชีประชาชาติมี 3 ระบบ 1. ระบบขององค์การสหประชาชาติ 2. ระบบของประเทศสหรัฐอเมริกา 3. ระบบของกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ ศศิธร สุวรรณเทพ

  11. บัญชีประชาชาติของไทย • มีพัฒนาการมาจากระบบบัญชีประชาชาติปีพ.ศ. 2496 ขององค์การสหประชาชาติ(UN SNA 1953) ต่อมาพัฒนาเป็นระบบบัญชีประชาชาติปีพ.ศ. 2529 ขององค์การสหประชาชาติ(UN SNA 1986) • ปัจจุบันองค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้แก่องค์การสหประชาชาติ(UN) ธนาคารโลก(World Bank) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) กลุ่มความร่วมมือทางสถิติภาคพื้นยุโรป(Eurostat) และองค์กรความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ(OECD) ร่วมกันพัฒนาเป็นระบบบัญชีประชาชาติปีพ.ศ. 2536 (SNA 1993) • ประเทศได้จัดทำข้อมูลตามระบบบัญชีประชาชาติระบบเก่าUN SNA 1953 แต่ได้พัฒนาแนวคิดและประยุกต์บางส่วนของSNA 1993 ศศิธร สุวรรณเทพ

  12. การคำนวณหารายได้ประชาติ มี 3 แนวทางคือ • การคำนวณทางด้านผลผลิต (Product Approach) • การคำนวณทางด้านรายได้ (Income Approach) • การคำนวณทางด้านรายจ่าย (Expenditure Approach) ศศิธร สุวรรณเทพ

  13. การคำนวณด้านการผลิต (Production Approach) การคำนวณด้านการผลิตเริ่มจาก • การคำนวณหามูลค่าผลผลิตภายในประเทศเบื้องต้น ณ ราคาตลาด (Gross Domestic Product at market price):เป็นการนำจากมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (Final Goods) ซึ่งหมายถึงสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นมาและมิได้ถูกนำไปใช้ในการผลิตอื่นๆนอกจากการบริโภค เมื่อนำมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายมารวมกันจะได้ผลิตภัณฑ์เบื้องต้นของประเทศ (GDP at mkp ) ศศิธร สุวรรณเทพ

  14. ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น(Gross Domestic Product : GDP at market price): • มูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ประเทศสามารถผลิต • ขึ้นได้ในระยะเวลาหนึ่งคิดที่ราคาตลาด • ปัญหาที่เกิดจากการใช้มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายคือ • การนับซ้ำ(double counting) และการที่สินค้าไม่ผ่านตลาด • ดังนั้นจึงใช้วิธีการคำนวณจากมูลค่าเพิ่ม (value added) • ประเทศไทยใช้หลักการคำนวณหาจากผลรวมของมูลค่าเพิ่มของสาขาการผลิต 16 สาขา (TSIC 2001) • มูลค่าเพิ่ม = มูลค่าที่ขายไป - มูลค่าที่ซื้อมา ศศิธร สุวรรณเทพ

  15. การคำนวณหามูลค่าเพิ่มการคำนวณหามูลค่าเพิ่ม ศศิธร สุวรรณเทพ

  16. ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น ณ ราคาตลาด (Gross National Product at market price : GNP at mkp ): มูลค่าของสินค้าและบริการที่ประชาชาติหนึ่งผลิตขึ้นได้ในรอบ ระยะ เวลาหนึ่งโดยคิดที่ราคาตลาด GNP at mkp = GDP at mkp + รายได้สุทธิจากต่างประเทศ รายได้สุทธิจากต่างประเทศ (Net Income from Aboard)= รายได้ของไทยในตปท. – รายได้คนตปท.ในไทย ศศิธร สุวรรณเทพ

  17. ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิ ณ ราคาตลาด (Net National Product at market price : NNP at mkp): มูลค่าของสินค้าและบริการที่ประชาชาติหนึ่งผลิตขึ้นได้ในรอบ ระยะเวลาหนึ่งโดยคิดที่ราคาตลาด และหักค่าเสื่อมราคาสินค้าทุน (Depreciation) NNP at mkp = GNP at mkp - ค่าเสื่อมราคาสินค้าทุน ศศิธร สุวรรณเทพ

  18. ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิ ณ ราคา (Net National Product at • factor cost: NNP at fc) • มูลค่าสินค่าและบริการขั้นสุดท้ายที่ประชาชาติหนึ่งผลิตได้ในรอบ • ระยะเวลาหนึ่ง โดยคิดที่ราคาทุน • ราคาทุน = ราคาตลาด - ภาษีทางอ้อม - เงินโอนธุรกิจ + เงินอุดหนุน • NNP at fc = NNP at mkp - ภาษีทางอ้อม - เงินโอนธุรกิจ + เงินอุดหนุน • NNP at fc = NI (National Income) ศศิธร สุวรรณเทพ

  19. การคำนวณรายได้ประชาชาติด้านรายจ่ายการคำนวณรายได้ประชาชาติด้านรายจ่าย • เป็นการนำรายจ่ายที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาหนึ่งรวมเข้าด้วยกัน • รายการที่นำมารวมด้านรายจ่ายประกอบด้วย • รายจ่ายในการบริโภคของบุคคล ( C ) • รายจ่ายเพื่อการลงทุนภายในประเทศ ( I ) • รายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการของรัฐบาล ( G ) • รายได้จากการส่งออกสุทธิ ( X – M ) เมื่อนำรายการข้างต้นมารวมเข้าด้วยกันจะได้ GDP at mkp และสามารถนำไปคำนวณหารายได้ประชาชาติ GDP at mkp = C + I +G + (X-M) ศศิธร สุวรรณเทพ

  20. สินค้าประเภทถาวร รถยนต์ ตู้เย็น พัดลม ยกเว้นรายจ่ายเพื่อใช้จ่ายเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สินค้าประเภทไม่ถาวร อาหาร เสื้อผ้า บุหรี่ ยาสีฟัน (1) รายจ่ายเพื่อการบริการบริโภคภาคเอกชน(Personal consumption expenditure: C) ค่าใช้จ่ายของฝ่ายครัวเรือนในซื้อสินค้าและบริการ ประกอบด้วย รายจ่ายค่าบริการ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูภาพยนตร์ ค่าตัดผม ค่าเช่าบ้าน ฯลฯ ศศิธร สุวรรณเทพ

  21. (2) รายจ่ายเพื่อการลงทุนภายในประเทศ(Gross domestic investment: I) • รายจ่ายเพื่อการลงทุน เป็นรายจ่ายของภาครัฐ/ธุรกิจที่ใช้จ่ายเพื่อทรัพย์สินถาวรเพื่อใช้ในการผลิต • รายจ่ายเพื่อการก่อสร้างใหม่ (New construction) เช่น • ค่าก่อสร้างโรงงาน • สถานที่เก็บสินค้า • การสร้างที่อยู่อาศัย • รายจ่ายเพื่อซื้อเครื่องมือเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อผลิตสินค้าและบริการ • ส่วนเปลี่ยนของสินค้าคงเหลือ( Change in business inventories) การ สะ สม ทุน ศศิธร สุวรรณเทพ

  22. ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลือ อาจแสดงด้วยสมการดังนี้ ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลือ ปี 49 =(สินค้าคงเหลือปลายปี 50 – สินค้า คงเหลือต้นปี 50) คือสินค้าคงเหลือปลายปี 49 ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลืออาจเป็น บวก (+) หรือ ลบ (-) จำนวนผลิต = จำนวนขาย + ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลือ หรือ จำนวนผลิต = จำนวนขาย + (สินค้าคงเหลือปลายปี – สินค้าคงเหลือต้นปี) ศศิธร สุวรรณเทพ

  23. ยกเว้น การซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น • พันธบัตรรัฐบาล • หุ้นธุรกิจ • การซื้อสินค้าทุนที่ใช้แล้ว (Second – hand goods) • ไม่ถือเป็นรายจ่ายเพื่อการลงทุน เพราะการซื้อขายหลักทรัพย์เหล่านี้เป็นเพียงการเปลี่ยนมือผู้ถือหลักทรัพย์เท่านั้น ศศิธร สุวรรณเทพ

  24. (3) รายจ่ายของรัฐบาลในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ(Government purchase of goods and services: G) • รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายจากภาคธุรกิจ • ค่าจ้างและเงินเดือนข้าราชการ • แต่ทั้งนี้ไม่รวมรายจ่ายในรูปเงินโอน (เงินสงเคราะห์ เงินบำนาญ รายจ่ายเพื่อสวัสดิการสังคม เป็นต้น) ศศิธร สุวรรณเทพ

  25. (4) การส่งออกสุทธิ (Net exports: X-M) • ผลิตผลที่ประเทศผลิตได้ส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปขายยังต่างประเทศ (Exports) • ผลิตผลส่วนหนึ่งที่ซื้อขายภายในประเทศจะเป็นผลิตผลที่สั่งเข้าจากต่างประเทศ (Imports) ดังนั้น การส่งออกสุทธิ = มูลค่าการส่งออก – มูลค่าการนำเข้า Net export = Exports - Imports ศศิธร สุวรรณเทพ

  26. การคำนวณหารายได้ประชาชาติด้านรายได้การคำนวณหารายได้ประชาชาติด้านรายได้ • เป็นการรวมผลตอบแทนที่ปัจจัยการผลิตได้รับจากการมีส่วนร่วมในการผลิตในรอบระยะเวลาหนึ่ง คือ ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย และกำไร • จะต้องรวมเฉพาะรายได้หรือผลตอบแทนจากปัจจัยการผลิตที่มีส่วนช่วยให้การผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากแผนภาพกระแสการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ศศิธร สุวรรณเทพ

  27. กระแสการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ (Economic Circular Flows) ค่าตอบแทน (ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย กำไร) ปัจจัยการผลิต (ที่ดิน แรงงาน ทุน ผู้ประกอบการ) ธุรกิจ ครัวเรือน สินค้าและบริการ ค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ศศิธร สุวรรณเทพ

  28. รายละเอียดของรายการต่างๆที่ใช้คำนวณหารายได้ประชาชาติด้านรายได้รายละเอียดของรายการต่างๆที่ใช้คำนวณหารายได้ประชาชาติด้านรายได้ (1) ค่าจ้างเงินเดือนและเงินทดแทนแก่ลูกจ้าง • ค่าตอบแทนลูกจ้างที่จ่ายให้โดยตรงคือเงินเดือนค่าจ้าง • ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่จ่ายเพิ่มเติมทางอ้อม • ทั้งที่เป็นตัวเงิน • ที่เป็นสิ่งของซึ่งสามารถประเมินค่าออกมาเป็นตัวเงินตามราคาตลาดได้ ศศิธร สุวรรณเทพ

  29. (2) รายได้จากการเกษตรกร การประกอบอาชีพอิสระที่มิใช่นิติบุคคล • รายได้เกษตรกร แพทย์ สถาปนิก แม่ค้าหาบเร่ ร้านค้าเบ็ดเตล็ด ฯลฯ • รายได้นี้ประกอบด้วย • กำไรจากการประกอบการ • ค่าแรงเจ้าของกิจการ รวมบุคคลในครอบครัวที่ทำงานโดยไม่ได้ค่าจ้าง ศศิธร สุวรรณเทพ

  30. 3. รายได้จากทรัพย์สินของครัวเรือน และสถาบันไม่แสวง กำไร • ค่าเช่าที่ดิน ดอกเบี้ย เงินปันผล และผลประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมที่ครัวเรือน สถาบันไม่แสวงกำไรได้รับ 4. เงินออมนิติบุคคล • เงินออมสุทธิ ซึ่งได้แก่กำไรของธุรกิจนิติบุคคล เอกชน สหกรณ์ รัฐวิสาหกิจ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินปันผล และเงินส่วนที่รัฐวิสาหกิจต้องนำส่งรัฐ ศศิธร สุวรรณเทพ

  31. 5. ภาษีทางตรงจากนิติบุคคล • ภาษีเงินได้จากการประกอบการของนิติบุคคลเอกชน และรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด 6. รายได้ของรัฐบาลจากทรัพย์สินและการประกอบการ • รายได้ที่รัฐบาลได้รับจาก ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล และเงินส่วนแบ่งกำไรที่รัฐวิสาหกิจนำส่ง ศศิธร สุวรรณเทพ

  32. 7. ดอกเบี้ยหนี้สาธารณะ • ดอกเบี้ยจากการกู้ยืมของรัฐบาล เพื่อใช้ในการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงดอกเบี้ยส่วนที่จ่ายในการกู้ยืมเพื่อการลงทุนของรัฐบาลด้วย รายการนี้ต้องนำไปหักการคำนวณทางรายได้จากรายการข้างต้น 8. ดอกเบี้ยหนี้บริโภค • ดอกเบี้ยที่ครัวเรือนกู้ยืมเพื่อการบริโภค ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลผลิต จึงนำไปหักจากการคำนวณข้างต้น ศศิธร สุวรรณเทพ

  33. National Income Account • http://www.nesdb.go.th/econSocial/macro/gdp_data/mainaccount.htm ศศิธร สุวรรณเทพ

  34. การคำนวณหารายได้ส่วนบุคคลและรายได้สุทธิส่วนบุคคลการคำนวณหารายได้ส่วนบุคคลและรายได้สุทธิส่วนบุคคล • รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income : PI) คือ รายได้ที่ตกทอดถึงมือประชาชนไม่ว่าจะเกิด จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตหรือจากการได้รับเงินโอนประเภทต่างๆ PI = NI – (รายได้ที่บุคคลไม่ได้รับแต่รวมอยู่ใน NI) + (รายได้ที่บุคคลได้รับที่ไม่อยู่ใน NI) ค่าประกันสังคม เงินโอนจากธุรกิจ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ดอกเบี้ยที่รัฐบาลจ่าย กำไรที่มิได้จัดสรร ดอกเบี้ยหนี้ผู้บริโภค ศศิธร สุวรรณเทพ

  35. รายได้สุทธิส่วนบุคคล (Disposable Income : DI or Yd) • รายได้ที่บุคคลสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยได้จริง รายได้สุทธิส่วนบุคคล (Yd) =PI - ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ศศิธร สุวรรณเทพ

  36. รายได้ประชาชาติที่แท้จริง (Real National Income or Real GDP or GDP at constant price) • รายได้ประชาชาติที่คำนวณข้างต้นเป็นการคำนวณโดยคิดที่มูลค่าปัจจุบันหรือราคาประจำปี (Current price or Nominal price) • หากเราต้องการเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มผลผลิตที่แท้จริงใน ปีปัจจุบันเทียบกับปีก่อน เราไม่สามารถทำได้ทันทีเพราะตัวเลขที่ได้มีผลของการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้ารวมอยู่ด้วยจำเป็นต้องขจัดผลดังกล่าวออกก่อนการกระทำดังกล่าวคือการคิดมูลค่าที่แท้จริงหรือราคาปีฐาน Real GDP = Current GDP X 100 GDP deflator ศศิธร สุวรรณเทพ

  37. อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) • อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สามารถคำนวณได้จาก อัตราการเปลี่ยนแปลงของ real GDP ของปีปัจจุบันกับปีก่อนหน้าดังนี้ • Growth rate ปี 2004 = (real GDP 2004 – real GDP 2003) * 100% real GDP 2003 • Growth rate ปีที่ n = (real GDP n – real GDPn-1)* 100 % real GDP n ศศิธร สุวรรณเทพ

  38. รายได้ประชาชาติ เฉลี่ยต่อบุคคล (Per Capita Income) เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนในประเทศมีรายได้เฉลี่ย คนละเท่าใด รายได้เฉลี่ยต่อบุคคล = รายได้ประชาชาติ จำนวนประชากร GDP per capita = GDP Population ศศิธร สุวรรณเทพ

  39. The End ศศิธร สุวรรณเทพ

More Related