350 likes | 874 Views
บทที่ 2 ตลาดเงินในประเทศ. ความหมายของตลาดเงิน ตลาดเงิน หมายถึง ตลาดที่มีการระดมทุนและการให้สินเชื่อระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี เท่านั้น โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย สินทรัพย์ทางการเงินที่มีอายุการไถ่ถอนสั้น มีสภาพคล่องตัวสูงและมีความเสี่ยงน้อย. บทบาทของตลาดเงินในประเทศไทย
E N D
บทที่ 2 ตลาดเงินในประเทศ อ.ชารวี บุตรบำรุง
ความหมายของตลาดเงิน ตลาดเงิน หมายถึง ตลาดที่มีการระดมทุนและการให้สินเชื่อระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี เท่านั้น โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย สินทรัพย์ทางการเงินที่มีอายุการไถ่ถอนสั้น มีสภาพคล่องตัวสูงและมีความเสี่ยงน้อย อ.ชารวี บุตรบำรุง
บทบาทของตลาดเงินในประเทศไทยบทบาทของตลาดเงินในประเทศไทย ตลาดเงินในประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งจัดสรรเงินทุนให้กับผู้ต้องการเงินทุนทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชนเพื่อนำไปใช้ในการปรับสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้น และภาครัฐบาลได้มีการใช้นโยบายทางการเงินและการคลังเพื่อแก้ไขหรือ บรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงเวลาต่างๆ ผ่านตลาดเงิน ซึ่งตลาดเงินนับว่าเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง อ.ชารวี บุตรบำรุง
ลักษณะของตลาดเงินในประเทศไทยลักษณะของตลาดเงินในประเทศไทย ตลาดเงินเป็นการจัดหาเงินทุนระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี ตามนิยามเครื่องมือ ทางการเงินในตลาดเงินจึงเป็นเครื่องมือที่มีอายุคงเหลือ(maturity) ไม่เกิน 1 ปีในประเทศไทย ตลาดเงินสามารถแบ่งได้ตามประเภทของผู้ระดมทุนว่าเป็นภาครัฐ และภาคเอกชน สำหรับเครื่องมือทางการเงิน ภาครัฐใช้ประกอบด้วยตั๋วเงินคลัง การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลไทยแบบมีสัญญาขายคืนและซื้อคืน พันธบัตรระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนเครื่องมือทางการเงินที่ภาคเอกชนใช้ระดมทุนในตลาดเงินประกอบด้วย การกู้ยืมเงินระหว่างสถาบันการเงิน ธุรกรรมการซื้อคืนภาคเอกชน ตั๋วแลกเงิน ตั๋วแลกเงินที่รับรองโดยธนาคารพาณิชย์ ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้ ตราสารพาณิชย์(คือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ,เช็คลงวันที่ล่วงหน้า อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตลาดเงินที่สำคัญของประเทศ ประกอบด้วย 1. ตลาดซื้อคืนพันธบัตร ตลาดซื้อคืนพันธบัตร(repurchase market)จัดตั้งขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในปี พ.ศ.2522 เพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งปรับสภาพคล่องของสถาบันการเงิน เพิ่มการแข่งขันและลดอำนาจการผูกขาดในตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคาร ตลอดจนเป็นช่องทางให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินนโยบายการเงินแบบการดูดเงินหรือปล่อยเงินในตลาดซื้อคืนพันธบัตรตามจำนวนที่ต้องการในแต่ละวัน(open market operation)ได้ด้วย อ.ชารวี บุตรบำรุง
1. ตลาดซื้อคืนพันธบัตร(ต่อ) ผู้เข้าร่วมในตลาดซื้อคืนพันธบัตร ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองชิเอร์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจบางแห่ง(ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ การประปานครหลวง เป็นต้น) การเผยแพร่ข้อมูลในตลาดจะเป็นลักษณะเรียลไทม์(real-time)แสดงการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยประเภทอายุต่างๆ รวมทั้งดอกเบี้ยเสนอซื้อสูงสุด และเสนอขายต่ำสุดในแต่ละขณะผ่านเครือข่ายของสำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวบิสนิวส์ทำให้ผู้เสนอซื้อขายได้ทราบผลรวดเร็วว่าสามารถทำธุรกรรมในอัตราดอกเบี้ยตามที่เสนอได้หรือไม่ โดยไม่ต้องรอถึงเวลาปิดทำการของตลาดและเพื่อให้ตลาดเงินอื่นๆสามารถใช้ อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรเป็นอัตราอ้างอิงได้ อ.ชารวี บุตรบำรุง
2.ตลาดเงินให้กู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน2.ตลาดเงินให้กู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน ตลาดเงินให้กู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน(interbank market)เป็นแหล่งเงินกู้ระยะสั้นระหว่างสถาบันการเงินเองเพื่อปรับสภาพคล่อง ซึ่งธุรกรรมอาจอยู่ในรูปการกู้ยืมแบบเรียกคืนทันที(at call)หรือการกู้ยืมแบบมีกำหนดระยะเวลาแน่นอนตั้งแต่ 1 วันถึง 6 เดือนอย่างไรก็ตามธุรกรรมประมาณร้อยละ 95 เป็นการกู้ยืมระยะ 1 วัน(overnight)ส่วนอีกประมาณร้อยละ 5 เป็นการกู้ยืมแบบจ่ายคืน เมื่อทวงถาม(at call)ส่วนการกู้ยืมแบบมีกำหนดระยะเวลา(term)แทบไม่ปรากฏธุรกรรม ผู้ให้กู้ยืมที่สำคัญในตลาด ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4-5 แห่ง(รวมธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแลพกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ) ส่วนผู้กู้ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ.ชารวี บุตรบำรุง
3. ตลาดตราสารพาณิชย์ ตลาดตราสารพาณิชย์ (commercial paper market)เป็นตลาดตราสารการเงินระยะสั้น ซึ่งโดยปกติจะมีอายุต่ำกว่า 1 ปี ได้แก่ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยธุรกิจและกิจการอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงและฐานะมั่นคง และตั๋วแลกเงินเพื่อระดมทุนที่ออกโดยสถาบันการเงิน สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ เช่น ซิตี้โน้ต(city note) เชสโน๊ต(chase note) อ.ชารวี บุตรบำรุง
3.ตลาดตราสารพาณิชย์(ต่อ)3.ตลาดตราสารพาณิชย์(ต่อ) ตั๋วเงินที่เป็นหลักทรัพย์ หมายถึง เฉพาะตั๋วแลกเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกเพื่อระดมทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือตั๋วเงินที่มีความเสี่ยงต่ำได้แก่ (1)ตั๋วเงินที่ออกโดยสถาบันการเงินเพื่อเป็นหลักฐานการรับเงินจากประชาชนเป็นปกติของการประกอบธุรกิจ (2) ตั๋วเงินที่มีความเสี่ยงอันเนื่องมาจากธนาคาร(bank risk)ซึ่งรวมถึงตั๋วเงินที่มีสถาบันการเงินเป็นผู้รับ และตั๋วเงินที่สถาบันการเงินเป็นผู้จ่ายและการให้การรับรองหรือเป็นผู้รับอาวัล และ(3)ตั๋วเงินที่กระทรวงการคลังอาวัลหรือค้ำประกัน อ.ชารวี บุตรบำรุง
3. ตลาดตราสารพาณิชย์(ต่อ) ตั๋วแลกเงินสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท 3.1 ตั๋วแลกเงิน(B/E)ที่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนเป็นผู้รับรองหรืออาวัล โดยผู้ที่ออกตั่วส่วนใหญ่เป็นบริษัทระดับกลางและไม่เป็นที่รู้จักมากนัก บริษัทที่ต้องการออกตั๋วจะต้องยืนข้อเสนอต่อธนาคารพาณิชย์(ตั๋วแลกเงินที่ได้รับการรับรองโดยธนาคารที่มีชื่อเฉพาะว่า bank’s acceptance) 3.2 ตั๋วแลกเงินที่ไม่มีการอาวัลหรือรับรอง ผู้ออกตั๋วส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง อัตราดอกเบี้ยของตั๋วแลกเงินประเภทนี้จะสูงกว่าประเภทแรก 3.3 ตั๋วแลกเงินแบบแบ็ค ทู แบ็ค (back to back)โดยผู้ออกตั๋วและผู้ซื้อตั๋วเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน อ.ชารวี บุตรบำรุง
4.ตลาดตั๋วเงินคลัง ตลาดตั๋วเงินคลัง ดำเนินการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง นอกจากทำหน้าที่ เป็นผู้ประกันการจำหน่ายตั๋วเงินคลังแต่ผู้เดียวแล้วยังทำหน้าที่เป็นตลาดรองของตั๋วเงินคลังอีกด้วยโดยทั่วไปตั๋วเงินคลังจะมีกำหนดอายุไม่เกิน 180 วันและมีการประมูลขายทุกสัปดาห์ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและทุนรักษาระดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจะเป็นผู้ซื้อและผู้ถือตั๋วเงินคลังรายใหญ่ สำหรับธนาคารพาณิชย์ ระยะเวลาการถือตั๋วเงินคลังจะแตกต่างไปตามฐานะสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ตั๋วเงินคลังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์สภาพคล่องตามกฎหมายได้เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาล อ.ชารวี บุตรบำรุง
5.ตลาดเงินตราต่างประเทศ5.ตลาดเงินตราต่างประเทศ ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ(foreign exchange market)เป็นตลาดเงินตราอีกประเภทหนึ่งที่สถาบันการเงินสามารถปรับเพิ่มหรือลดสภาพคล่องเงินบาทได้ด้วยการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ(เกือบทั้งหมดเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา:สรอ.)ระหว่างสถาบันการเงินด้วยกันเอง ธนาคารพาณิชย์ไทยให้ความสำคัญกับการเป็นผู้สร้างสภาพคล่องเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็นผู้สร้างสภาพคล่องอยู่แล้ว โดยการโค๊ดราคาซื้อขายและราคาขายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศต้องปรับฐานะด้านเงินตราต่างประเทศและยังต้องพึ่งพาเงินทุนระยะสั้นด้วยการกู้ยืมจากต่างประเทศ อ.ชารวี บุตรบำรุง
5.ตลาดเงินตราต่างประเทศ(ต่อ)5.ตลาดเงินตราต่างประเทศ(ต่อ) ประเภทธุรกรรมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ของไทยในตลาดเงินตราต่างประเทศมี 3 ประเภท คือ 5.1 การทำธุรกรรม สปอท(spot transaction)เป็นธุรกรรมที่กำหนดส่งมอบ ไม่เกิน 2 วันทำการ(value spot)ตามมาตรฐานสากลแทนการส่งมอบภายในวันที่ตกลงซื้อขาย(value today) 5.2 การทำธุรกรรม สวอป(swap)เป็นธุรกรรมที่ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศหรือการลงทุนในหุ้นและตราสารเงินบาท 5.3 การทำธุรกรรมการซื้อขายล่วงหน้า(outright forward)เป็นธุรกรรมซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเกิน 2 วันทำการ ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาส่งมอบกันไม่เกิน 2 เดือน อ.ชารวี บุตรบำรุง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงินผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน โดยบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินที่มีต่อตลาดเงินของไทยสามารถอธิบายรายละเอียดต่างๆได้ดังนี้ 1.บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในตลาดเงิน 1.1 การออกและพิมพ์พันธบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้พิมพ์พันธบัตรออกใช้ในประเทศไทย โดยมีโรงพิมพ์พันธบัตรเป็นผู้มีหน้าที่ออกแบบและพิมพ์พันธบัตรรวมทั้งสิ่งพิมพ์ มีค่าอื่นๆตามที่ธนาคารกำหนด 1.2 การเป็นนายธนาคารของรัฐบาลธนาคารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่เก็บรักษาเงินคงคลังของรัฐบาล รับเงินฝากจากรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้รัฐบาลกู้เงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้บริการการจำหน่ายตั๋วเงินคลังและพันธบัตรรัฐบัตร 1.3 การดำเนินนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นองค์กรกลาง ทำหน้าที่ดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ อ.ชารวี บุตรบำรุง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ)ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ) 1.4 การบริการอัตราแลกเปลี่ยน การประกาศเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนจากระบบเงินบาทที่อิงกับตะกร้าเงินมาเป็นอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้การจัดการ 1.5 การเป็นนายธนาคารของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่เป็นผู้รักษาเงินสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์โดยรับฝากและโอนเงินรวมทั้งทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชีระหว่างธนาคารพาณิชย์ หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือการเป็นผู้ให้กู้ยืมแหล่งสุดท้ายแก้สถาบันการเงิน 1.6 การเป็นผู้กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ อ.ชารวี บุตรบำรุง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ)ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ) 2.บทบาทของสถาบันการเงินในตลาดเงิน 2.1 บทบาทในการเป็นแหล่งระดมเงินออม ธนาคารพาณิชย์เป็นสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่ในการระดมเงินออมได้มากที่สุด 2.2 บทบาทในการอำนวยสินเชื่อ ธนาคารพาณิชย์นับว่าเป็นสถาบันการเงินที่มีบทบาทเด่นมากที่สุดในการระดมสินเชื่อให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจของไทย 2.3 บทบาทในการอำนวยความสะดวกในการชำระหนี้ จากการที่สถาบันการเงินได้มีการนำเอาเครื่องมือทางการเงินชนิดต่างๆ เข้ามาใช้ในระบบการเงินมากขึ้น 2.4 บทบาทในด้านการสนับสนุนการเกษตร ในปัจจุบันการเงินต่างๆได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้น อ.ชารวี บุตรบำรุง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ)ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดเงิน(ต่อ) 2.5 บทบาทในการสร้างงาน สถาบันการเงินนับว่ามีบทบาทในการสร้างงานได้เช่นกัน 2.6 บทบาทต่อสังคม การดำเนินของสถาบันการเงินต่างๆ ได้หันมาให้ ความสนใจเกี่ยวกับการทำประโยชน์ให้กับสังคมเพิ่มขึ้น 2.7 บทบาทในการให้บริการด้านอื่นๆ เกี่ยวกับการให้บริการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตราสารทางการเงินในตลาดเงินของไทยตราสารทางการเงินในตลาดเงินของไทย สินทรัพย์หรือตราสารทางการเงิน ซึ่งถือว่าเป็นเครดิตระยะสั้น (short-term credit instruments) สามารถนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้และเป็นที่ยอมรับในตลาดเงินซึ่งมีอยู่ 6 ประเภท คือ ตราสารพาณิชย์ (commercial paper) ตั๋วแลกเงินที่รับรองโดยธนาคารพาณิชย์ (banker’sacceptance) ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้ (negotiable certificate of deposit) บัญชีลูกหนี้ (account receivable) ตั๋วเงินคลัง (treasury bill) และพันธบัตร (bond) ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้ อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตราสารทางการเงินในตลาดเงินของไทยตราสารทางการเงินในตลาดเงินของไทย ตราสารทางพาณิชย์ ตราสารทางพาณิชย์(commercial paper)เป็นตั๋วสัญญาระยะสั้น ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 4-6 เดือน โดยไม่มีหลักประกันใดๆนอกจากชื่อเสียงของธุรกิจผู้ออกหรือสั่งจ่าย ผู้รับอาวัลและผู้รับรอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะตั๋วเงินบัญญัติให้ตั๋วเงินมี 3 ประเภทคือ 1.ตั๋วสัญญาใช้เงิน(promissory note) 2.เช็ค(cheque) 3.ตั๋วแลกเงิน(bill of exchange) อ.ชารวี บุตรบำรุง
1.1 ตั๋วสัญญาใช้เงิน(promissory note) เป็นตราสารที่ออกโดยลูกหนี้ให้แก่ เจ้าหนี้ ตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตามคำสั่งของของบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับเงิน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดและ วัน เดือน ปี ที่กำหนดบนหน้าตั๋วสัญญาใช้เงินหรือเมื่อทวงถาม อ.ชารวี บุตรบำรุง
1.2 เช็ค(cheque) เช็ค(cheque) เป็นหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่ง(ที่เป็นลูกหนี้ของผู้ที่จะรับชำระหนี้ด้วยเช็ค)โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งเช็คออกได้เป็น 2 ประเภทคือ เช็คระบุชื่อและเช็คผู้ถือ โดยเช็คระบุชื่อคือเช็คที่ผู้สั่งจ่ายออกโดยสั่งธนาคารให้จ่ายเงินโดยระบุชื่อผู้รับเงินหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลนั้น และเช็คผู้ถือคือ เช็คที่ผู้สั่งจ่ายออกโดยสั่งธนาคารให้จ่ายแก่ผู้ถือหรือจ่ายตามคำสั่งของผู้ถือหรือระบุชื่อผู้รับเงินและมีคำว่าหรือผู้ถือรวมอยู่ด้วย จะให้ผู้ออกเช็คเขียนหรือพิมพ์ลงไปได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค 2.คำสั่งซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอนโดยไม่มีเงื่อนไขในการใช้เงิน 3.ชื่อหรือยี่ห้อ และสำนักงานของธนาคาร 4.ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงินหรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ 5.สถานที่ใช้เงิน 6.วัน เดือน ปี และสถานที่ที่ออกเช็ค 7.ลายมือชื่อ(ลายเซ็น)ของผู้สั่งจ่าย อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตัวอย่าง เช็ค อ.ชารวี บุตรบำรุง
1.3 ตั๋วแลกเงิน (bill of exchange) ตั๋วแลกเงิน คือ หนังสือตราสาร ซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จ่ายให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า ผู้รับเงิน โดยทั่วไปแล้วตั๋วแลกเงินจะประกอบไปด้วยรายการดังต่อไปนี้ 1.คำบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน 2.คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้จ่ายเงินเป็นจำนวนแน่นอน 3.ชื่อหรือยี่ห้อผู้จ่าย 4.วันถึงกำหนดใช้เงิน 5.สถานที่ใช้เงิน 6.ชื่อหรือยี่ห้อผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ 7.วันและสถานที่ออกตั๋วเงิน 8.ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตัวอย่าง ตั๋วแลกเงิน อ.ชารวี บุตรบำรุง
2. ตั๋วแลกเงินที่รับรองโดยธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์นี้มีอยู่ 2 ชนิด คือ 2.1ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารพาณิชย์รับรองให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจและบุคคลทั่วไป เพื่อการชำระหนี้หรือหาเงินทุนในตลาดเงิน 2.2ตั๋วแลกเงินที่รับรองโดยสถาบันการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศตามระบบการค้าระหว่างประเทศ อ.ชารวี บุตรบำรุง
3.ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้3.ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้ ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้ (negotiable certificate of deposit หรือ NCD) ในต่างประเทศถือเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่งที่มีความคล่องตัวมากในการเปลี่ยนมือเพื่อการโอนสิทธิเพียงแต่ผู้ถือลงรายมือชื่อสลักหลังเท่านั้นก็เปลี่ยนมือได้และใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้นี้จะมีทั้งประเภทระบุชื่อผู้ถือและประเภทที่ไม่ระบุชื่อผู้ถือและอัตราดอกเบี้ย จะมีทั้งกำหนดไว้ตายตัวและอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อ.ชารวี บุตรบำรุง
4.บัญชีลูกหนี้ บัญชีลูกหนี้ (account receivable) ตามระบบบัญชีธุรกิจหมายถึงลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับ(account and note receivables)ได้แก่ เงินที่ลูกค้าค้างชำระค่าสินค้าและค่าบริการที่ได้ขายไปตามการดำเนินงานปกติและลูกหนี้ตามตั๋วเงินรับ 5.ตั๋วเงินคลัง ตั๋วเงินคลัง(treasury bill)จัดเป็นหลักทรัพย์รัฐบาล(governmental securities)ประเภทหลักทรัพย์ที่รัฐบาลออกเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนมือกันในตลาดเงินตั๋วเงินคลังนี้ถือได้ว่าเป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง(liquidity)สูงกล่าวคือ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายโดยการนำไปขายลด(discount)ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย อ.ชารวี บุตรบำรุง
6. พันธบัตร พันธบัตร (bond) เป็นหลักทรัพย์ที่ออกโดยรัฐบาลและถือเป็นหลักทรัพย์ในตลาดทุน แต่เนื่องจากพันธบัตรเป็นหลักทรัพย์ที่มีความคล่องตัวและมีความปลอดภัยสูงจึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือกู้ยืมในตลาดเงินได้ เช่น นำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน การกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน ปกติจะแบ่งพันธบัตรเป็น 3 ชนิด คือ ชนิดแรกเป็นพันธบัตรที่มีระยะเวลาซื้อคืนสั้นที่สุดคือ 1 วัน ชนิดที่2เป็นพันธบัตรที่สามารถผ่อนผันระยะเวลาซื้อคืนไปได้อีก ถ้าผู้ขายไม่สามารถซื้อคืนได้ทันตามกำหนดที่ตกลงไว้และชนิดสุดท้ายเป็นพันธบัตรที่มีกำหนดเวลาซื้อคืนไว้แน่นอนและค่อนข้างยาวกว่า 2 ชนิดแรก คือประมาณ 60 วันหรือ 180 วันเป็นต้น อ.ชารวี บุตรบำรุง
ลักษณะของตลาดเงินระหว่างประเทศลักษณะของตลาดเงินระหว่างประเทศ • ตลาดเงินระหว่างประเทศเป็นแหล่งของการดำเนินกิจกรรมระหว่างประเทศที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างๆ และตราสารหนี้ระยะสั้นที่เปลี่ยนมือได้ ณ ศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ • โดยตลาดเงินระหว่างประเทศจะมีชื่อเรียกที่ต่างกันไป เช่น ยูโรดอลลาร์ (eurodollar) ยูโรเคอเรนซี่ (eurocurrency)กิจการวิเทศธนกิจ (international banking facilities) ตลาดออฟชอร์(offshore financial market) เป็นต้น อ.ชารวี บุตรบำรุง
ตลาดเอเชียดอลลาร์ • ตลาดเอเชียดอลลาร์(asian dollar) หมายถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่หมุนเวียนอยู่ในทวีปเอเชีย โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์เริ่มตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1960 เพราะสิงคโปร์มีความพร้อมอยู่หลายประการ เช่นสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ มีสถาบันการเงินสำคัญๆหลายแห่ง มีระบบสื่อสารที่ดีมาก มีเสถียรภาพทางการเมือง การกู้ยืมเอเชียดอลลาร์ในตลาดสิงคโปร์มีอัตราดอกเบี้ยที่เรียกว่า ไซบอร์(SIBOR หรือSingapore inter-bank offer rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินต่างๆในสิงคโปร์ให้กู้ยืมเอเชียดอลลาร์ระหว่างกัน อ.ชารวี บุตรบำรุง