Lecture 2 เริ่มต้นกับ Visual Studio 2008

1. Lecture 2เริ่มต้นกับ Visual Studio 2008

2. เป็นชุดโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับใช้พัฒนา Windows Application(โปรแกรมที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟวินโด้ว์) ที่รวมเอาภาษาคอมพิวเตอร์หลายภาษาไว้ด้วยกัน แต่ใช้ Debug (เครื่องมือแปลภาษาคอมพิวเตอร์ให้เป็นโปรแกรม) ตัวเดียวกัน และมีระบบติดต่อกับผู้ใช้แบบ GUI ทำให้การเขียนโปรแกรมทำได้สะดวก รวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ดังกล่าวได้แก่ • Visual Basic. • Visual J#. • Visual C++. • Visual C#. Microsoft Visual Studio

3. Windows Applicationหมายโปรแกรมที่ทำงานได้บนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟวินโด้ว์ และตัวโปรแกรมจะมีลักษณะการทำงานแบบกราฟฟิกยูสเซอร์อินเทอร์เฟส (GUI)คือผู้ใช้กดปุ่มสั่งโปรแกรมทำงาน แทนการพิมพ์คำสั่ง เป็นต้น Title Bar Control Buttons Windows Button Windows Application

4. เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง (Height Level Computer Language) ที่มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ มีแนวของภาษาเป็นแบบโปรแกรมเชิงวัตถุสมัยใหม่ (Modern Object Oriented Programming) คือมองทุกอย่างเป็นวัตถุทั้งหมด และใช้การคิดสำหรับเขียนโปรแกรมแบบการควบคุม และจัดการกับเหตุการณ์ (Even Driving Programming) เช่น ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ใช้ใช้เม้าส์คลิ๊กปุ่ม OK โปรแกรมทำงาน คลิ๊กปุ่ม Exit จบโปรแกรม เป็นต้น Visual VB

5. การใช้งาน MS Visual Studioมีลำดับเรียงตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. New Project 2. Design Form 3. Source Code 4. Debug Yes Error ลำดับขั้นการใช้งาน MS Visual Studio No Windows Application

6. Microsoft .NET คืออะไร • Microsoft .NET Framework หรือ เรียกสั้นๆ ว่าMicrosoft.net คือ Platform ที่ไมโครซอฟต์ออกแบบ และพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของโลกอินเทอร์เน็ต • .Net จะใช้พื้นฐาน XML ในการรับส่งข้อมูล ทำให้โปรแกรมประยุกต์ใหม่และที่มีอยู่สามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์และบริการในหลายระบบปฏิบัติการ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นระบบวินโดวส์หรือไม่ก็ตาม .Net จะสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างเข้าใจ • ตัวอย่าง ถ้าเราใช้ Microsoft Office เราสามารถติดต่อกับโปรแกรมอื่นในระบบปฏิบัติการอื่นได้โดยผ่านตัว .Net

7. สถาปัตยกรรม .NET Framework • สถาปัตยกรรม .NET Framework คืออะไร • Platform ที่ใช้รันโค้ด • ใช้ในการรัน .Net แอพพลิเคชัน • สามารถคอมไพล์ได้หลายภาษา โดยมี Common Language Runtime (CLR)ในการจัดเตรียมบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โปรแกรมที่ขอใช้บริการสามารถทำงานได้ • มีคลาสไลบราลีที่ใช้ได้ทุกภาษา

8. โครงสร้างภายในของ .Net Framework จะต้องมีไฟล์ Source Code ที่เขียนด้วยภาษาใดภาษาหนึ่งก่อนเช่น C# , VB.Net , C++ คอมไพเลอร์จะแปล Source code ให้เป็นภาษามาตรฐาน เรียกว่า Microsoft Intermediate Language (MSIL เรียกสั้นๆ ว่า IL) ส่วนของ Common Language Runtime (CLR) คือ ตัวกลางระหว่างไฟล์นามสกุล .exe (ที่เก็บ IL) กับระบบปฏิบัติการ เช่น Windows Common Language Runtime หรือ CLR มีหน้าที่ในการจัดเตรียมบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โปรแกรมที่ขอใช้บริการสามารถทำงานได้

9. โครงสร้างภายในของ .Net Framework • คอมไพเลอร์จะเข้าไปอ่านใน code ว่ามีการเรียกใช้ Object หรือ Control อะไร ซึ่ง .Netได้เตรียม Control แบ่งเป็น 5 กลุ่มคือ • Web service • Web Form • Windows Forms • Database Class • Base Class • .Net Framework Class Library คือไฟล์องค์ประกอบที่ทำหน้าที่ในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องเรียกใช้งาน ในการพัฒนาโปรแกรม

10. IL (ไฟล์ .exe)

11. ข้อดีของ .Net Framework สามารถใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ใดก็ได้ในการเขียนโค้ด มีออบเจ็คกลาง หรือไลบรารีกลาง ที่ทุกภาษาคอมพิวเตอร์สามารถนำไปใช้ได้สามารถนำเอาโค้ดภาษาหนึ่งที่ผ่านการคอมไพล์เป็น IL แล้ว ไปใช้งานหรือพัฒนาต่อยอดในอีกภาษาหนึ่งได้ CLR จะแปลได้เร็วกว่า JVM

12. Common Language Infrastructure (CLI) Architecture of .NETIntroduction to .NET

13. .NET Framework version history Architecture of .NET Introduction to .NET

14. VB VB VB VB VB VB VB VB VB VB VB VB … Win Forms VB C++ C# Common Language Specification Operating System Visual Studio .NET ADO.NET and XML Base Class Library Common Language Runtime ASP.NET • .NET Architecture Architecture of .NET Introduction to .NET

15. Procedural Programming Main Program ------------------------------------------ ----------------------------------------- ----------------------------------------- ------------------------------------------ ----------------------------------------- ----------------------------------------- ------------------------------------------ ----------------------------------------- END FunctionA ---------- ---------- End FunctionB ---------- ---------- End

16. Event-Driven Programming FORM Function Sub Events Users Controls Messages

17. Sub1 Event1 Event2 Sub2 Event3 Sub3 เหตุการณ์ โปรแกรมย่อย Object เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัตถุควบคุม

18. ตัวอย่าง การการสร้างแบบ Windows Application

19. สร้างฟอร์ม, วางคอนโทรล และกำหนด Properties

20. code

21. คีย์จำนวนเงิน User Interface เริ่ม เลิก

22. Thank You…