670 likes | 813 Views
รู้จัก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค. ก่อตั้งในปี 2537 เป็นองค์กรเอกชนสาธารณกุศล กิจกรรมที่สำคัญ นิตยสารฉลาดซื้อ ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จัดตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือผู้บริโภคทางกฎหมาย ฯลฯ. เงินสนับสนุนของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 576 ตามประกาศของกระทรวงการคลัง.
E N D
รู้จัก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค • ก่อตั้งในปี 2537 • เป็นองค์กรเอกชนสาธารณกุศล • กิจกรรมที่สำคัญ • นิตยสารฉลาดซื้อ • ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค • จัดตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือผู้บริโภคทางกฎหมาย ฯลฯ
เงินสนับสนุนของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 576 ตามประกาศของกระทรวงการคลัง เงินสนับสนุนองค์กร • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) • การสมัครสมาชิกนิตยสารฉลาดซื้อ • สมาชิกใหม่ 1 ปี(12 ฉบับ) 700 บ. แถมฟรี ถุงผ้าลดบริโภค ลดโลกร้อน
ยุทธการปลดหนี้สุดขอบฟ้ายุทธการปลดหนี้สุดขอบฟ้า การฝึกอบรม “เป็นหนี้จะแก้ไขชีวิตอย่างไร” มุ่งให้ความรู้ในแนวทางการจัดการปัญหาหนี้สิน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้สามารถรอดพ้นจากวิกฤตหนี้สินได้ด้วยตนเอง และกลับมาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าต่อหน่วยงานของตน และของประเทศชาติได้ต่อไป
หนี้ในระบบ - หนี้นอกระบบ
หนี้ในระบบ(บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล)หนี้ในระบบ(บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล) • เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ทางแบงค์ชาติกำหนด • เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงค์) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย แยกเป็นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต 12 บริษัท และบริษัทผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล 32 บริษัท • หนี้สินเชื่อบุคคล ประมาณ 7 ล้านบัญชี • บัตรเครดิต ประมาณ 11.2 ล้านบัตร
หนี้ของคุณ...มาจากไหน ? • ไม่มีวินัยการเงิน ใช้-จ่ายไม่มีการวางแผน ฟุ่มเฟือย • หางานทำไม่ได้ เพิ่งถูกไล่ออกจากงาน หรือมีเหตุฉุกเฉิน • กู้เงินเอามาลงทุนแต่ธุรกิจฝืดเคือง ไม่ประสบความสำเร็จ • กู้เงินมาหมุนเพื่อเอาไปใช้หนี้อีกเจ้าหนึ่งและอีกเจ้าหนึ่ง เป็นทอด ๆ • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม
ดอกเบี้ยตามกฎหมายอยู่ที่เท่าไหร่ดอกเบี้ยตามกฎหมายอยู่ที่เท่าไหร่ • กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.654 ให้เรียกเก็บดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี • การเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรามีโทษทางอาญา ตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทำไมธนาคารถึงคิดดอกเบี้ยได้มากกว่าร้อยละ 15 • เนื่องจาก มีการอ้างถึงความจำเป็นในสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่เปลี่ยนไปและความอยู่รอดทางธุรกิจของสถาบันการเงินต่าง ๆ รัฐบาลจึงได้ออกกฎหมายที่ชื่อ “พ.ร.บ. ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2523” ขึ้นมา และมีการแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 (พ.ศ.2524) และฉบับที่ 3 (พ.ศ.2535) ซึ่งทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกเว้นการบังคับใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 654 และอนุญาตให้สถาบันการเงินเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าร้อยละ 15 ต่อปีได้ โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเป็นผู้ประกาศอัตราดอกเบี้ยตามคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทำไมนอนแบงค์คิดดอกเบี้ยได้ถึงร้อยละ 28 • เมื่อ มิ.ย. 2548 กระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 ม.ค.2515 ที่ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ออกประกาศกำหนดให้ธุรกิจสินเชื่อที่มีลักษณะกิจการคล้ายธนาคาร(Nonbank) เหล่านี้ให้เป็นกิจการที่ต้องขออนุญาตและให้อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 32 ราย)
ทำไมนอนแบงค์คิดดอกเบี้ยได้ถึงร้อยละ 28 • ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศตามมาเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยรวมกับค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมของสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี โดยแบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ที่เหลืออีกร้อยละ 13 คือค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม ให้มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 ก.ค. 2548
สถานการณ์หนี้ของคุณอยู่ในขั้นไหน?สถานการณ์หนี้ของคุณอยู่ในขั้นไหน? • ไฟเขียว • ไฟเหลือง • ไฟแดง • ไฟดับ
ไฟเขียว • ยังมีรายได้พอที่จะชำระขั้นต่ำได้ทุกบัญชี วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนี้ไม่มากเพียง 2-3 บัญชี ใช้กระแสเงินสดที่ได้รับในแต่ละเดือน หักด้วยค่าใช้จ่าย ที่จำเป็นในครัวเรือนแบบไม่ฟุ่มเฟือยแล้วยังมีเงินเหลือในการจ่ายหนี้ แต่วิธีนี้จะใช้เวลานานกว่าจะหมดหนี้ เพราะเงินต้นจะลดลงน้อยมาก
ไฟเหลือง สัญญาณแห่งความวิกฤต • ไม่อยากเสียเครดิต แต่ก็ไม่มีเงินพอจะชำระหนี้ • หยุดบ้าง จ่ายบ้าง เริ่มหาเงินจากแหล่งอื่นเพื่อมาจ่ายหนี้เดิม แล้วกดเงินสดออกมาใช้อีก เป็นวิธแก้หนี้ที่ผิดอย่างมหันต์ • หนี้เดิมที่มีอยู่จะขยายวงออกไปกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่อย่างรวดเร็ว
ควรหยุดทันที การก่อหนี้ใหม่มาจ่ายหนี้เดิมเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดวิธี ใครกำลังเข้าสู่วังวนก่อหนี้เพื่อชำระหนี้
ไฟแดง - ไฟดับ • ไฟแดง – หมดสภาพชำระหนี้ ไม่มีเงินใช้กินต่อวัน ต้องกู้ยืมเงินจากนอกระบบมาใช้ • ไฟดับ – ชีวิต จิตใจ ครอบครัว ล่มสลาย
มีหนี้ไม่มาก - ชำระคืนขั้นต่ำ มีหนี้มาก - หยุดชำระหนี้ เก็บเงิน รอหมายศาล หรือการเจรจา เพื่อตัดหนี้ ไม่มีห่วง ไม่มีทรัพย์ ให้ศาลพิพากษา อายัดเงินเดือน แนวทางการปลดหนี้ที่ถูกต้องและเป็นระบบ
การใช้เงินที่ผิดเมื่อมีรายรับหรือเงินเดือนออกการใช้เงินที่ผิดเมื่อมีรายรับหรือเงินเดือนออก • จ่ายหนี้นอกระบบ • จ่ายหนี้บัตรเครดิต • จ่ายหนี้สินเชื่อบุคคล • ผ่อนบ้าน • ผ่อนรถ • ใช้จ่าย ??? ฯลฯ
สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเมื่อเงินเดือนออกสิ่งแรกที่ควรนึกถึงเมื่อเงินเดือนออก • อันดับ 1 - ชีวิตตัวเอง ครอบครัวคุณ พ่อแม่ต้องมาก่อน • อันดับ 2 - ปัจจัยสี่ที่จำเป็นในชีวิต (อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, ที่อยู่อาศัย, ยารักษาโรค) • อันดับ 3 - ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ) • อันดับ 4 - ค่าพาหนะ ค่าเดินทาง • อันดับ 5 – หนี้ ไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องจ่าย
มีหนี้ไม่มาก - ชำระคืนขั้นต่ำ มีหนี้มาก - หยุดชำระหนี้ เก็บเงิน รอหมายศาล หรือการเจรจา เพื่อปิดหนี้ ไม่มีห่วง ไม่มีทรัพย์ ให้ศาลพิพากษา อายัดเงินเดือน แนวทางการปลดหนี้ที่ถูกต้องและเป็นระบบ
แนวทางที่ 1 การชำระคืนขั้นต่ำ • เหมาะสำหรับคนที่มีหนี้น้อย 2-3 บัญชี จ่ายด้วยเงินเดือนหรือรายได้ของตัวเอง • การใช้กระแสเงินสดที่ได้รับในแต่ละเดือน หักด้วยค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในครัวเรือนแบบไม่ฟุ่มเฟือย ยังมีเงินเหลือในการจ่ายหนี้อย่างไม่เดือดร้อน วิธีนี้จะใช้เวลานานมากกว่าจะหมดหนี้ เพราะเงินต้นจะลดลงน้อยมาก ช้ามาก
การตามทวงหนี้โหด การถูกฟ้องศาล การถูกยึดทรัพย์ อายัดเงินเดือน แนวทาง 2-4 สิ่งที่ลูกหนี้จะเจอและต้องเตรียมตัวเมื่อเลือกวิธีหยุดชำระหนี้
การตามทวงหนี้โหด • โทรทวงแบบไม่สุภาพ พูดเหมือนคุณเป็นขี้ข้าคนทวงหนี้ • ทวงไปถึงบุคคลที่สาม เช่นคนที่มีชื่ออ้างอิงในตอนสมัคร หรือตอนทำสัญญาปรับปรุงหนี้ • ทวงไปถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด • ทวงโดยฝากคำพูดกับผู้รับโทรศัพท์เวลาเราไม่อยู่ที่ทำงาน • ส่งแฟกซ์เข้าที่ทำงานประจานให้คนรับแฟกซ์เห็น และส่งวันละหลายครั้ง จนคุณถูกเจ้านายเรียกไปตักเตือน
การตามทวงหนี้โหด • ส่งไปรษณียบัตรไปที่บ้าน • ส่งจดหมายขู่สารพัดจากบริษัททนายตัวแทนสถาบันการเงินต่าง ๆ ล่าสุดมีการทำจดหมายเลียนแบบทำให้ลูกหนี้เข้าใจว่าเป็นคำสั่งศาล และขู่ว่าคุณจะโดนอายัดเงินเดือน ขู่ว่าจะฟ้องเจ้านาย ขู่ว่าคุณจะถูกดำเนินคดีอย่างร้ายแรงภายใน 3 วัน 7 วัน • ฯลฯ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการทวงหนี้ • เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้เจ้าหนี้ฟ้องเรียกชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยทางศาลได้ เมื่อมีคำพิพากษาแล้วจักบังคับใช้หนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ • ผู้ถูกทวงหนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกู้ยืมเงินเท่านั้น เช่น ลูกหนี้ ลูกหนี้ร่วม หรือผู้ค้ำประกัน เป็นต้น การไปข่มขู่ คุกคาม ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือผู้เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ ล้วนเป็นความผิดอาญาฐานกรรโชกทรัพย์ได้
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการทวงหนี้ • ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ ยอมให้ หรือ ยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือ ของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำผิดฐานกรรโชก มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการทวงหนี้ • การส่งคำเตือนเรื่องหนี้ด้วยวิธีก้าวร้าวหรือจงใจประจานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยวิธีใดๆ อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ และในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่น แล้วเปิดเผยความลับนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการทวงหนี้ • ลูกหนี้ที่เจอกับการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายให้สอบถามรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นชื่ออะไร สำนักงานไหน ได้รับอำนาจทวงหนี้จากบริษัทอะไร • ให้ทำจดหมายร้องเรียนถึง กรรมการบริหารบริษัทเจ้าหนี้ และสำเนาถึง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เลขที่ 211/2 ซ.งามวงศ์วาน 31 อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 • ร้องเรียนโดยตรงกับแบงค์ชาติ ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง โทร. 0-2283-6827 , 0-2356-7686
ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ • ถ้ามีเงินชำระหนี้ ไม่มีหนี้หลายทาง หากหยุดดอกเบี้ยให้ หรือไม่คิดดอกเบี้ย หรือตัดเงินต้น และแจ้งสัญญามาเป็นลายลักษณ์อักษร สามารถทำได้ • ถ้าไม่มีเงิน และ มีหนี้หลายทาง ไม่ควรทำ
ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ • การปรับโครงสร้างหนี้ส่วนใหญ่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยซ้ำซ้อน • มาตรา 655 ประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ ห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยในดอกเบี้ยที่ค้างชำระแต่ทว่าเมื่อดอกเบี้ยค้างชำระไม่น้อยกว่าหนึ่งปี คู่สัญญากู้ยืมจะตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยนั้นทบเข้ากับต้นเงินแล้วให้คิดดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ทบเข้ากันนั้นก็ได้ แต่การตกลงนั้นต้องทำเป็นหนังสือ… • ดังนั้นถ้าไม่มีการตกลงปรับโครงสร้างหนี้ เจ้าหนี้ก็ไม่สามารถคิดดอกเบี้ยในดอกเบี้ยที่ค้างชำระได้
ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ควรปรับโครงสร้างหนี้ดีหรือไม่ • ระวังถูกหลอกให้ปรับโครงสร้างหนี้ • การที่เจ้าหนี้รับปากทางโทรศัพท์ว่าจะตัดต้น ตัดดอกให้ และให้ลูกหนี้ชำระเงินต่อไปเป็นงวด ๆ หากไม่มีการแจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะมันคือการหลอกลวง
การถูกฟ้องศาล... เรื่องร้ายอาจกลายเป็นดี • เป็นการยืดเวลาเพื่อให้ลูกหนี้ได้ตั้งตัว ตั้งสติ • ลูกหนี้มีโอกาสต่อรองลดหนี้กับเจ้าหนี้ได้ • การคิดดอกเบี้ยและการบังคับคดีมีความเป็นธรรมมากกว่าการถูกทวงหนี้
อายุความของหนี้ • เมื่อลูกหนี้หยุดชำระหนี้ ระยะเวลาที่เจ้าหนี้จะต้องใช้สิทธิฟ้องร้อง • หนี้บัตรเครดิต 2 ปี • หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล 5 ปี • หนี้ระหว่างบุคคลทั่วไป 10 ปี • เมื่อศาลมีคำสั่งให้ชำระหนี้แล้วมีอายุความ 10 ปีเพื่อบังคับคดี
การถูกยึดทรัพย์ • เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้เจ้าหนี้ชนะคดี หากลูกหนี้ไม่ชำระคืนตามคำสั่ง เจ้าหนี้มีสิทธิร้องต่อศาลให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อออกหมายยึดและอายัดต่อไป
การถูกยึดทรัพย์ • 1. ทรัพย์สินที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต มูลค่ารวมกัน 50,000 บาทแรกห้ามเจ้าหนี้ยึด ทรัพย์ที่จำเป็นในการดำรงชีพ เช่น โต๊ะกินข้าว เก้าอี้ โทรทัศน์ เครื่องครัว แต่ถ้าเป็นสร้อย แหวน นาฬิกา ของเหล่านี้แม้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของลูกหนี้ แต่เจ้าหนี้ก็มีสิทธิยึดได้เพราะไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
การถูกยึดทรัพย์ • 2. ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของลูกหนี้ ถ้ามูลค่ารวมกัน 100,000 บาทแรก ห้ามเจ้าหนี้ยึด เครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร(ถ้าประกอบธุรกิจรับถ่ายเอกสาร) ในกรณีที่เครื่องมือประกอบอาชีพมีราคาสูงกว่า 100,000 บาท และจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ก็สามารถขอต่อศาลได้
การถูกยึดทรัพย์ • หากมีเจ้าหนี้หลายราย ทรัพย์ใดถูกยึดไปแล้ว ห้ามเจ้าหนี้รายอื่นมายึดซ้ำ เจ้าหนี้รายใดยึดก่อนก็ได้สิทธิก่อน • ทรัพย์ใดที่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นของลูกหนี้ จะไม่ถูกยึดจนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันได้
การอายัดเงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนต่าง ๆ • หากไม่มีทรัพย์สินจะให้ยึด เจ้าหนี้จะสืบต่อไปว่าลูกหนี้ทำงานที่ไหน เพื่อจะอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ ซึ่งสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้นี้ ก็เช่น สิทธิที่จะได้รับเงินเดือนจากนายจ้าง ค่าล่วงเวลา เงินโบนัส ค่าจ้างทำของต่าง ๆ เป็นต้น
การอายัดเงินเดือน โบนัสฯ • การสั่งอายัดเงินเดือน ค่าจ้าง ได้แค่ 30% ของเงินเดือน ขณะที่ได้รับหนังสืออายัด โดยคำนวณจากเงินเดือนก่อนหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ภาษี ประกันสังคม • เงินโบนัส อายัดได้ 50%
การอายัดเงินเดือน โบนัสฯ • เงินตอบแทนกรณีลูกหนี้ออกจากงาน อายัดได้ 100% • เงินค่าคอมมิชชั่นอายัดได้ 30% • เงินฝากในบัญชีสถาบันการเงิน
การอายัดเงินเดือน โบนัสฯ • ในกรณีลูกหนี้ เงินเดือน ไม่ถึง 10,000 บาท ห้ามเจ้าหนี้อายัดเงินเดือน แต่มิได้หมายความว่าหนี้จะหมดไป เพียงแต่แขวนหนี้เอาไว้ก่อน • หากลูกหนี้เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ห้ามเจ้าหนี้อายัดเงินเดือน
การอายัดเงินเดือน โบนัสฯ • เมื่อถูกอายัดเงินเดือน หรือรายได้ใด ๆ ก็ตาม รวมแล้วลูกหนี้ต้องมีเงินเหลืออย่างน้อยเดือนละ 10,000 บาท • ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่า 10,000 บาท เช่น มีลูกหลายคน ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ หรือมีโรคประจำตัว ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอลดหย่อนการอายัดรายได้ ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของเงินที่ถูกอายัด
การอายัดเงินเดือน โบนัสฯ • ในกรณีมีเจ้าหนี้หลายราย เมื่อถูกเจ้าหนี้รายใดอายัดเงินเดือนไปแล้ว ห้ามเจ้าหนี้อื่นอายัดเงินเดือนซ้ำอีก ต้องรอจนกว่าเจ้าหนี้รายแรกจะได้รับการชำระหนี้หมด