1 / 46

การควบคุมภายในตามระเบียบ คตง.

โดย นายเจริญ ทองศิริผู้อำนวยการโรงเรียนพะโต๊ะวิทยา. การควบคุมภายในตามระเบียบ คตง. เนื้อหาการบรรยาย. * แนวคิดเกี่ยวกับการควบคุมภายใน * วัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน * สาระสำคัญของตัวระเบียบฯ * มาตรฐานการควบคุมภายใน 5 องค์ประกอบ. ปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ.

shad-hansen
Download Presentation

การควบคุมภายในตามระเบียบ คตง.

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. โดย นายเจริญ ทองศิริผู้อำนวยการโรงเรียนพะโต๊ะวิทยา การควบคุมภายในตามระเบียบคตง.

  2. เนื้อหาการบรรยาย * แนวคิดเกี่ยวกับการควบคุมภายใน * วัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน * สาระสำคัญของตัวระเบียบฯ * มาตรฐานการควบคุมภายใน 5 องค์ประกอบ

  3. ปัญหาของหน่วยงานภาครัฐปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ ปัญหาในการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ ที่ยังขาดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และไม่ปรับตัวให้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติปฏิบัติงาน ความสิ้นเปลือง ความสูญเปล่า ความไม่ประหยัด ข้อผิดพลาด ข้อบกพร่อง การรั่วไหล การทุจริตและประพฤติมิชอบ และปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์

  4. ความเสี่ยงของหน่วยงานความเสี่ยงของหน่วยงาน • การไม่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย • การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ • ผลการดำเนินงานมีข้อบกพร่องผิดพลาด • การใช้จ่ายเงินไม่ประหยัดและไม่คุ้มค่า • มีปัญหาการทุจริต

  5. การควบคุมความเสี่ยงของหน่วยงานการควบคุมความเสี่ยงของหน่วยงาน 1. การกำกับการดูแลที่ดี (Good Governance) 2. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) 3. การควบคุมภายใน (Internal Control)

  6. ระบบการควบคุมภายใน หน่วยงานภาครัฐ จะต้องจัดวางระบบการควบคุมภายใน ตามระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการ กำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ. 2544 เพื่อให้มีการควบคุมกำกับดูแลที่ดีและลดปัญหาความเสี่ยง ภายในหน่วยงาน ซึ่งเป็นการสร้าง วัฒนธรรมองค์กร

  7. วัตถุประสงค์ของการควบคุมภายในวัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน ประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการดำเนินงาน รวมทั้งการดูแลรักษาทรัพย์สิน การป้องกันการ รั่วไหล สูญเสีย และการทุจริต ความเชื่อถือของรายงานทางการเงิน การปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่ เกี่ยวข้อง

  8. แนวคิดเกี่ยวกับการควบคุมภายในแนวคิดเกี่ยวกับการควบคุมภายใน 1. แทรกหรือแฝงอยู่ในการปฏิบัติงานตามปกติ 2. บุคลากรทุกระดับมีส่วนร่วมในการทำให้ ระบบการควบคุมเกิดขึ้น 3. ให้ความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลเท่านั้น

  9. เหตุผลที่ทำให้การควบคุมภายในล้มเหลวเหตุผลที่ทำให้การควบคุมภายในล้มเหลว * การใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจ * ผู้บริหารใช้อำนาจหรืออภิสิทธิ์สั่งการเป็นอย่างอื่น * ผู้ปฏิบัติงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่องค์กรกำหนด * การสมรู้ร่วมคิดกันโดยทุจริตกระทำการฉ้อโกง * ขาดความเข้าใจในกลไกของการควบคุมที่กำหนดขึ้น * ความคุ้มค่ากับต้นทุนที่เกิดขึ้น

  10. ใครคือผู้รับผิดชอบต่อการวางระบบการควบคุมภายในใครคือผู้รับผิดชอบต่อการวางระบบการควบคุมภายใน - ผู้บริหารระดับสูง - ผู้บริหารระดับรองลงมาทุกระดับ

  11. หน้าที่ของผู้บริหารระดับสูงหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูง 1. รับผิดชอบโดยตรงในการจัดให้มีการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในระดับที่น่าพอใจอยู่เสมอ 2. ประเมินผลการควบคุมภายในของหน่วยงาน 3. กำหนดให้หน่วยตรวจสอบภายในเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมภายใน

  12. หน้าที่ของผู้บริหารระดับรองลงมาทุกระดับหน้าที่ของผู้บริหารระดับรองลงมาทุกระดับ 1. จัดให้มีการควบคุมภายในของส่วนงานที่ตนรับผิดชอบ 2. สอบทานการปฏิบัติงานที่ใช้บังคับในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบ 3. ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการควบคุมภายในให้รัดกุม

  13. สาระสำคัญของระเบียบ คตง. • ตัวระเบียบ 9 ข้อ • มาตรฐานการควบคุมภายใน 5 องค์ประกอบ

  14. ตัวระเบียบ มีทั้งหมด 9 ข้อ ข้อ 1 ชื่อระเบียบ ข้อ 2 วันบังคับใช้ ข้อ 3 ความหมายต่าง ๆ ข้อ 4 ผู้รับผิดชอบในการนำมาตรฐานไปใช้

  15. ส่วนที่1: ตัวระเบียบ • - การรายงานความคืบหน้าตามระเบียบฯ ข้อ 5 • จัดวางระบบการควบคุมภายในให้เสร็จภายใน 1 ปี • (27 ต.ค.2544 - 26 ต.ค. 2545) • รายงานความคืบหน้าทุก 2 เดือน (60 วัน) • รายงานครั้งแรกภายในสิ้นเดือน มี.ค. 2545

  16. ส่วนที่1: ตัวระเบียบ (ต่อ) • การรายงานตามระเบียบฯ ข้อ 6 • รายงานอย่างน้อยปีละครั้ง • รายงานภายใน 90 วัน นับจากวันสิ้นปีงบประมาณ (30 ก.ย.) หรือปีปฏิทิน(31 ธ.ค.) • รายงานครั้งแรกรายงานภายใน 240วัน หรือ ภายในสิ้นเดือนมิ.ย. 2546 • รายงานครั้งปีที่ 2 ภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2546 หรือ มี.ค. 2547 แล้วแต่กรณี

  17. ข้อ 7 ไม่สามารถปฏิบัติได้ ทำข้อตกลง ข้อ 8 บทลงโทษ • แจ้งกระทรวงเจ้าสังกัด หรือผู้บังคับบัญชา • รายงานต่อประธานรัฐสภา • อาจต้องรับโทษปรับทางปกครอง ตามระเบียบความ ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ. 2544

  18. ข้อ 9 ประธาน คตง. มีอำนาจตีความ และวินิจฉัย ปัญหาที่ เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ระเบียบนี้

  19. มาตรฐานการควบคุมภายในมาตรฐานการควบคุมภายใน 5 องค์ประกอบ

  20. 5 องค์ประกอบ • สภาพแวดล้อมของการควบคุม • การประเมินความเสี่ยง • กิจกรรมการควบคุม • สารสนเทศ และการสื่อสาร • การติดตามประเมินผล

  21. 1. สภาพแวดล้อมของการควบคุม สภาพแวดล้อมของการควบคุม หมายถึง ปัจจัยต่างๆซึ่งร่วมกันส่งผลให้มีการควบคุมขึ้นในหน่วยรับตรวจหรือทำให้การควบคุมที่มีอยู่ได้ผลดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามก็อาจทำให้การควบคุมย่อหย่อนลงได้

  22. 1. สภาพแวดล้อมของการควบคุม ปัจจัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของการควบคุม - ปรัชญาและรูปแบบการทำงานของผู้บริหาร - ความซื่อสัตย์และจริยธรรม - ความรู้ ทักษะและความสามารถของบุคลากร - โครงสร้างการจัดองค์กร - การมอบอำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบ - นโยบายและวิธีบริหารบุคลากร

  23. 1. สภาพแวดล้อมของการควบคุม มาตรฐาน: ผู้กำกับดูแล ฝ่ายบริหาร และบุคลากรของหน่วยรับตรวจต้องสร้างบรรยากาศของการควบคุมเพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการควบคุมภายใน โดยส่งเสริมให้บุคลากรทุกคนในหน่วยงานรับตรวจเกิดจิตสำนึกที่ดีในการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบและตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญของการควบคุมภายใน รวมทั้งดำรงรักษาไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมของการควบคุมที่ดี

  24. การสร้างบรรยากาศของการควบคุมการสร้างบรรยากาศของการควบคุม * การควบคุมที่มองไม่เห็น(Soft Controls) ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส การมีผู้นำที่ดี ความมีจริยธรรม * การควบคุมที่มองเห็นได้(Hard Controls) โครงสร้างองค์กร นโยบาย ระเบียบวิธีปฏิบัติ ฯลฯ

  25. 2. การประเมินความเสี่ยง ความเสี่ยง หมายถึงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดความเสียหาย การรั่วไหล ความสูญเปล่า หรือเหตุการณ์ซึ่งไม่พึงประสงค์ ที่ทำให้งาน ไม่ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด

  26. 2. การประเมินความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยง มาตรฐาน: ฝ่ายบริหารต้องประเมินความเสี่ยง ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกที่มีผลกระทบ ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยรับตรวจ อย่างเพียงพอและเหมาะสม

  27. การบริหารความเสี่ยง * ยอมรับความเสี่ยงนั้น ไม่แก้ไขใด ๆ * ควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ * พยายามขจัดความเสี่ยงนั้นให้เหลือศูนย์ หรือไม่มีความเสี่ยงนั้น ๆ เลย * โอนความเสี่ยงไปให้บุคคลที่ 3

  28. 3. กิจกรรมการควบคุม กิจกรรมการควบคุมหมายถึง นโยบายและวิธีการต่าง ๆที่ฝ่ายบริหารกำหนดให้บุคลากรของหน่วยงานปฏิบัติเพื่อลดหรือควบคุมความเสี่ยงและได้รับการสนองตอบโดยมีการปฏิบัติ

  29. 3. กิจกรรมการควบคุม มาตรฐาน: ฝ่ายบริหารต้องจัดให้มีกิจกรรมการควบคุมที่ มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เพื่อป้องกัน หรือลดความเสียหายความผิดพลาดที่อาจเกิด ขึ้นและให้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุ ประสงค์ของการควบคุมภายใน

  30. 3. กิจกรรมการควบคุม ในเบื้องต้นจะต้องแบ่งแยกหน้าที่งานภายในหน่วยงานอย่างเหมาะสม ไม่มอบหมายให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบปฏิบัติงานที่สำคัญ หรืองานที่เสี่ยงต่อความเสียหายตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ถ้ามีความจำเป็นให้กำหนดกิจกรรมการควบคุมอื่นที่เหมาะสมทดแทน

  31. 3. กิจกรรมการควบคุม * การควบคุมแบบป้องกัน (Preventive Control) * การควบคุมแบบค้นพบ (Detective Control) * การควบคุมแบบแก้ไข (Corrective Control) *การควบคุมแบบส่งเสริม(Directive Control)

  32. 4. สารสนเทศและการสื่อสาร • สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลข่าวสารทางการเงิน และข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับการ ดำเนินงานของหน่วยงาน ไม่ว่าเป็นข้อมูลจากแหล่งภายใน หรือภายนอก • การสื่อสาร หมายถึง การส่งสารสนเทศระหว่างบุคลากร

  33. 4. สารสนเทศและการสื่อสาร ฝ่ายบริหารต้องจัดให้มีสารสนเทศอย่างพอ เพียงและสื่อสารให้ฝ่ายบริหารและบุคลากร อื่นๆที่เหมาะสมทั้งภายในและภายนอกหน่วย รับตรวจ ซึ่งจำเป็นต้องใช้สารสนเทศนั้นใน รูปแบบที่เหมาะสมและทันเวลา มาตรฐาน:

  34. 5. การติดตามประเมินผล มาตรฐาน ฝ่ายบริหารต้องจัดให้มีการติดตามประเมินผล (Monitoring) โดยการติดตามผลในระหว่าง การปฎิบัติงาน (Ongoing Monitoring) และ การประเมินผลเป็นรายครั้ง (Separate Evaluation)

  35. การติดตามผล(Monitoring) • ใช้สำหรับมาตรการหรือระบบการควบคุมภายในที่อยู่ระหว่างการออกแบบหรือการนำออกสู่การปฏิบัติ

  36. การประเมินผล(Evaluation) • ใช้สำหรับมาตรการหรือระบบการควบคุมภายในที่ได้ใช้ไปแล้วเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่จะได้รับการประเมินว่ายังมีความเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เปลี่ยนไปอยู่อีกหรือไม่

  37. การติดตามประเมินผล การประเมินผลเป็นรายครั้ง (Separate Evaluation) การติดตามผล ระหว่างการปฏิบัติงาน (Ongoing Monitoring) ประเมินตนเอง ประเมินอิสระ

  38. ประเมินตนเอง Control Self Assessment ประเมินอิสระ Independent Assessment ภายใน คือ ผู้ตรวจสอบภายใน ทุกคนในองค์กรประเมินความเสี่ยง แบบสอบถาม ประชุมเชิงปฏิบัติการ ภายนอก คือ ผู้ตรวจสอบอิสระ

  39. สวัสดี 10/25/2014 39

  40. ประเมินการควบคุมภายในด้วยตนเองประเมินการควบคุมภายในด้วยตนเอง CONTROL SELF-ASSESSMENT 40

  41. กระบวนการ ที่เจ้าของกิจกรรมเป็นผู้ประเมิน ระบุปัญหา(ความเสี่ยง) ที่มีผลต่อ ความสำเร็จที่ต้องการ วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา (ความเสี่ยง) ระบุวิธีการที่มีอยู่(การควบคุม) เพื่อ จัดการกับปัญหา วัดความสามารถ ที่มีอยู่(ประเมินผล)ของวิธีการจัดการกับปัญหา ค้นหาวิธีการจัดการกับปัญหา ถ้าพบว่า ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอและเกิดผล กำหนดแผนเพื่อการปรับปรุงและการติดตามผล สรุป ขั้นตอนการจัดทำ CSA 10/25/2014 41

  42. ขั้นตอน 1. เลือกกระบวนการปฏิบัติงานที่สำคัญ 2. พิจารณาขั้นตอน/กิจกรรมของกระบวนการนั้น 3. พิจารณาวัตถุประสงค์ของแต่ละขั้นตอน/กิจกรรม 4. ระบุความเสี่ยงของแต่ละขั้นตอน/กิจกรรม 5. ระบุปัจจัยเสี่ยง(สาเหตุ)ทั้งภายในและภายนอกที่ทำให้ขั้นตอน/กิจกรรมไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ การประเมินความเสี่ยง 10/25/2014 42

  43. ยอมรับความเสี่ยงนั้นไม่แก้ไขใดๆยอมรับความเสี่ยงนั้นไม่แก้ไขใดๆ ควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับ ที่ยอมรับได้ พยายามขจัดไม่ให้มีความเสี่ยงนั้น โอนความเสี่ยงไปให้บุคคลที่สาม การบริหารความเสี่ยง 10/25/2014 43

  44. สรุปผลการประเมิน ความ เพียงพอ มี ประสิทธิ ภาพ สิ่งที่ต้องปรับปรุง 10/25/2014 44

  45. เป็นการที่เจ้าของกิจกรรม (Process) หรือ หน่วยงาน (Business Unit) ประเมินความสามารถของตนเอง ในการแก้ไขปัญหา (Problems) ที่มีหรืออาจจะเกิดขึ้น ด้วยกระบวนการเหล่านี้ : 1. ระบุผลสำเร็จ/วัตถุประสงค์ ที่ต้องการ 2. ระบุปัญหา(ความเสี่ยง)ที่มี หรืออาจจะเกิดขึ้น จนทำให้มีผลต่อ ผลสำเร็จที่ต้องการ 3. วิเคราะห์ความหนักเบาของปัญหา จากผลกระทบ และโอกาสที่จะเกิดขึ้นของปัญหา 4. วิเคราะห์หาสาเหตุ(ปัจจัยเสี่ยง)ที่แท้จริงของปัญหา 5. ระบุวิธีการแก้ไข/ป้องกันปัญหาที่มีอยู่ 6. เพียงพอกับการป้องกันปัญหาหรือต้องปรับปรุงหรือไม่ สรุปความเข้าใจง่าย ๆ ของ CSA 10/25/2014 45

More Related