480 likes | 731 Views
ความรู้พื้นฐานด้านการตลาด. โดย อาจารย์ กัญจนา ทองสนิท. การตลาดคืออะไร. คอตเลอร์ ให้นิยามการตลาดว่า “ การตลาด คือกระบวนการทางสังคมและการบริหาร โดยปัจเจกบุคคล และกลุ่ม ให้ได้รับในสิ่งที่เขามีความจำเป็น ต้องการ โดยผ่าน การสร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยน ผลิตภัณฑ์ / บริการ และ มูลค่า กับผู้อื่น ”
E N D
ความรู้พื้นฐานด้านการตลาดความรู้พื้นฐานด้านการตลาด โดย อาจารย์ กัญจนา ทองสนิท
การตลาดคืออะไร • คอตเลอร์ ให้นิยามการตลาดว่า “การตลาด คือกระบวนการทางสังคมและการบริหาร โดยปัจเจกบุคคล และกลุ่ม ให้ได้รับในสิ่งที่เขามีความจำเป็น ต้องการ โดยผ่าน การสร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยน ผลิตภัณฑ์ / บริการ และ มูลค่า กับผู้อื่น” หน้าที่ทางการตลาด “กิจกรรมทางธุรกิจที่จะทำให้สินค้าหรือบริการเคลื่อนย้ายจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคหรือผู้ใช้ คำถาม การตลาด แตกต่างจาก การขาย อย่างไร
อะไรบ้างที่ทำการตลาดได้อะไรบ้างที่ทำการตลาดได้ • Product : รถยนต์ เสื้อผ้า เครื่องจักร อุปกรณ์ หนังสือ • Services : ธนาคาร โรงภาพยนตร์ การศึกษา การ รักษาพยาบาล การฝึกอบรม • Ideas : การรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย การรักชาติ-ใช้ ของไทย • People : ดารา ผู้แทนราษฏร สามารถนำดารามาทำ การตลาดในแง่ บุคคลได้ • Places : unseen in Thailand • Experiences: การเล่นบันจี้จัมพ์ การพายเรือแคนนู ปีนเขา
วิวัฒนาการของการตลาด • ระยะมุ่งความสำคัญที่การผลิต (Production Orientation Stage)เน้นเพื่อผลิตของให้ได้มากๆ ในราคาถูก • การมุ่งความสำคัญที่การขาย (Sales Orientation Stage) หาวิธีการขายที่ทำให้ขายได้มากที่สุด เนื่องจากเริ่มมีสินค้าออกมาแข่งขันมากขึ้น • การมุ่งความสำคัญที่การตลาด (Marketing Orientation Stage) เริ่มมีการค้นหาความต้องการของลูกค้า มีการติดตามการเปลี่ยนแปลงเพื่อต้องการของลูกค้ามากขึ้น
แนวคิดหลักการตลาดที่ควรเข้าใจแนวคิดหลักการตลาดที่ควรเข้าใจ • Needs : ความจำเป็น ทุกคนต้องมีความจำเป็นบน พื้นฐานทางร่างกาย • Wants : ความต้องการ คือ สิ่งที่เราต้องการที่เวลาใดเวลา หนึ่งอันเป็นผลมาจากบุคลิกภาพ ประสบการณ์ วัฒนาธรรม • Demand : ความต้องการของมนุษย์ที่มีอำนาจการซื้อเช่นมี เงิน มีกำลังซื้อ
แนวคิดหลักการตลาดที่ควรเข้าใจแนวคิดหลักการตลาดที่ควรเข้าใจ ตัวอย่าง เดชา ต้องการอาหารเช้า (Need) โดยนึกอยากรับประทาน ข้าวหรือ บุฟเฟ่ตามโรงแรม ถ้าเดชาเป็นคนอเมริกันอยากจะรับประทานอเมริกันเบรคฟาสต์ (want) แต่เดชามีงบอยู่ 35 บาท และไม่มีทางเลือกมากนัก เดชาจึงเลือกซื้อ ข้าวเหนียว หมูปิ้ง 25 บาท กาแฟ 1 ถุง 10 บาท ดังนั้น ต้องรู้ถึงจิตใจลูกค้าว่าอะไรคือความจำเป็น ความต้องการ และกำลังซื้อของลูกค้าในตลาดที่ดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งได้จากการวิจัยตลาด
การวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์สภาวะตลาด เพื่อบอกได้ว่า • กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: ลูกค้าคือใคร • ขนาดของตลาด : ขนาดของตลาดใหญ่สักแค่ไหน • แนวโน้มการตลาด: ความต้องการในปัจจุบันแนวโน้มในอนาคต • คู่แข่ง : ใครเป็นคู่แข่งของเราบ้าง กำลังทำอะไรอยู่ • แนวโน้มการตลาดจากปัจจัยภายนอก: เศรษฐกิจ สังคม การเมือง กฎหมาย สิ่งแวดล้อม
คู่แข่ง • คู่แข่งเสนออะไร ขนาด, ราคา, สีสัน, การใช้งาน, รูปลักษณ์, น้ำหนัก, การติดตั้ง, การดูแลรักษา, สมรรถนะ, ความทนทาน, บรรจุภัณฑ์, ทำเลที่ตั้ง, การบริการ เช่นการจัดส่ง ฟรี, การส่งเสริมการขาย ( ข้อมูลดังกล่าวอาจดูได้จากเอกสารการขาย หรือสอบถามจากพนักงานขายสอบถาม อื่นๆ)
แนวโน้มการตลาดจากปัจจัยภายนอก: เศรษฐกิจ สังคม การเมือง กฎหมาย สิ่งแวดล้อม • แนวโน้มหลักด้านประชากร: อัตราการเติบโตของประชากร การเปลี่ยนโครงสร้างด้านอายุ กลุ่มการศึกษา รูปแบบครอบครัว • สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจ: จะส่งผลต่อกำลังซื้อ รูปแบบการใช้จ่าย ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย การว่างงาน • แรงผลักดันทางการเมืองกฏหมาย :เช่นนโยบาย หรือโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล • เทคโนโลยี : เช่น internet งานวิจัยการพัฒนาใหม่
ตัวอย่าง แนวโน้มจากปัจจัยภายนอกด้าน กระแสสุขภาพ ทางออกของสุขภาพดีเป็นโอกาสในการเติบโต ของกลุ่มสินค้า และธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพต่าง ๆ • สถานที่ให้บริการสุขภาพจากการออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส ธุรกิจความสวยความงาม เช่น สปา • กลุ่มอาหาร หรือเครื่องดื่มสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม น้ำดื่มชาเขียว น้ำผลไม้ น้ำผักรวม ข้าวกล้อง นม • ผลิตภัณฑ์ด้านความสวย ความงาม เช่น เครื่องสำอางจากสารสกัดธรรมชาติ น้ำมันหอมระเหย อโรมาเธอราปี ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลดริ้วรอย • สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ เช่น เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองน้ำ
สาเหตุที่เป็นแรงผลักดันให้กลุ่มสุขภาพเติบโตเร็วสาเหตุที่เป็นแรงผลักดันให้กลุ่มสุขภาพเติบโตเร็ว • คนมีความรู้มากขึ้น ข่าวสาร ข้อมูลกระจายรวดเร็วขึ้น ทำให้คนตระหนักถึงความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้น • คนแต่งงานช้า สนใจตัวเองมากขึ้น พยายามปรุงแต่งทำให้ดูดีตลอดเวลาจึงเป็นโอกาสของ ผลิตภัณฑ์ด้าน beauty & fasion รวมถึงผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ความอ้วน อาหารเสริม • ผู้สูงอายุมากขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์บริการสำหรับผู้สูงอายุ ศูนย์สุขภาพ • คนทำงานนอกบ้านมากขึ้น มีรายได้ดี มีการศึกษา ทำให้อะไรก็ตามที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตัวเอง จะรับรู้และยอมรับเร็ว
Work shop 1 • ให้จับคู่เพื่อนที่นั่งด้านข้าง พร้อมทั้งยกตัวอย่างธุรกิจ SMEs มา 1 บริษัท และวิเคราะห์ว่านโยบายรัฐบาลต่าง ๆ ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกหรือเชิงลบ ต่อธุรกิจนั้น ๆ อย่างไรบ้าง และนำเสนอ นโยบายด้านสาธารณสุข : 30 บาทรักษาทุกโรค , โครงการอาหารสะอาด , โครงการอาหารรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพ , GMP นโยบายด้านการค้า และอุตสาหกรรม : OTOP (รวมถึงการเสนอขายสินค้าผ่านทาง internet ), ฟื้นฟูภูมิปัญญาไทยและสิทธิบัตร , สมุนไพรไทย นวดแผนไทย ,HUB สุขภาพ , เอเชียครัวของโลก , กรุงเทพเมืองแฟชั่น , ยานยนตร์ , การท่องเที่ยว(MICE - meeting ,incentive , conference & entertainment) นโยบายอื่น ๆ การวางพื้นที่จังหวัดเขตติดชายแดนต่างประเทศเป็นเขตกลยุทธ์การค้า , การประกันราคายางพารา, การปรับโครงสร้างราชการ , ผู้ว่า CEO , โครงการบ้าน คอมพิวเตอร์ แท๊กซี่ เอื้ออาทร โครงการ ICT , การปรับปรุงผังเมือง เช่นการย้ายหน่วยงานของรัฐไปนครนายก , การสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่หนองงูเห่า โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน โครงการสายการบินราคาต่ำ
การวิจัยตลาด • การวิจัยตลาด (Marketing Research) เป็นกระบวนการในการออกแบบเก็บรวบรวม วิเคราะห์ และรายงานผลข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและมีผลต่อกิจการอย่างเป็นระบบ โดยมีวิธีการหลากหลาย อาจไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก
การวิจัยตลาด : แหล่งข้อมูล • หากตลาดยิ่งมีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมากโอกาสที่จะต้องใช้เงิน และเวลาในการได้มาซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ก็ยิ่งมากขึ้น แหล่งข้อมูลที่สำคัญมี 3 แหล่ง - แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary sources) - แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary sources) - แหล่งข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert sources)
แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary sources) • เป็นการรวบรวมข้อมูลที่มีบุคคล หรือองค์กร หนึ่งจัดทำไว้ก่อนแล้ว โดยประโยชน์ของข้อมูลนี้ช่วยทำให้เห็นภาพรวมของตลาดที่สนใจ ทำให้รู้ว่าต้องเก็บข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มหรือไม่ • แหล่งข้อมูลมีหลายแหล่ง เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติ กรมศุลกากร สมาคมต่าง ๆ วารสาร งานวิจัย ของมหาวิทยาลัย
ตัวอย่างข้อมูล ทุติยภูมิ
แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary sources) • บางครั้งข้อมูลทุติยภูมิก็ไม่ตรงกับความต้องการดังนั้นต้องมีการเก็บข้อมูลโดยตรง โดยใช้วิธีการดังนี้ -การสังเกตโดยตรง (Direct Observation)เช่น สังเกตพฤติกรรมของการซื้อ การใช้สินค้าของลูกค้า - การทดสอบตลาด (Marketing Test)เป็นการทดลองวางสินค้าโดยตรง เพื่อดูการตอบรับ - สำรวจ(Survey) การสัมภาษณ์ลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้เกี่ยวข้อง อาจสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
แหล่งข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert sources) • แหล่งข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ มาจาก ที่ปรึกษา ผู้นำการปกครองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน นายธนาคาร ตัวแทนหอการค้า สมาคมการค้าต่าง ๆ
การใช้การวิจัยตลาดในธุรกิจขนาดเล็กการใช้การวิจัยตลาดในธุรกิจขนาดเล็ก • ตัวอย่าง สมชายเป็นช่างไฟฟ้า คิดจะมีกิจการขนาดเล็กเป็นตัวเอง จังหวัดที่สมชายอยู่มีผู้รับเหมาระบบไฟฟ้าอยู่หลายแห่ง ที่รับออกแบบระบบ เดินกระแสไฟในอาคาร โดยข้อมูลที่สมชายอยากรู้ได้แก่ - มีลูกค้าจำนวนเท่าไร ในธุรกิจนี้ - การแข่งขันสูงขนาดไหน - แนวโน้มของธุรกิจเป็นอย่างไร - ลูกค้ามีความต้องการอย่างไร - บริการอะไรที่คู่แข่งยังไม่มี
วิธีการหาข้อมูลของสมชายวิธีการหาข้อมูลของสมชาย • ไปที่เทศบาลของเมืองหรือจังหวัดเพื่อตรวจว่าพื้นที่ไหนมีการขยายตัวมาก สามารถตรวจสอบได้จากจำนวนการขออนุญาตก่อสร้าง การขอเลขที่บ้าน การขอใช้น้ำ – ไฟ • ไปที่สำนักงานสถิติ เพื่อตรวจสอบว่าคนส่วนใหญ่อายุเท่าไร เป็นหนุ่มสาวที่เพิ่งสร้าง ครอบครัวหรือไม่ • สอบถามผู้รับเหมาอื่น ๆ ว่ามีความต้องการผู้รับเหมาช่วงหรือไม่ • ตรวจสอบรายชื่อบริษัทรับเหมาไฟฟ้าจากหนังสือรวบรวมรายชื่อ หรือจากการจดทะเบียนที่พาณิชย์จังหวัดดูว่าบริษัทเหล่านี้ให้บริการอะไรบ้าง • คุยกับลูกค้า อาจใช้เวลาในการขับรถไปรอบ ๆ พื้นที่ที่มีบ้านใหม่ กำลังก่อสร้าง คุยกับลูกค้าว่าอยากได้บริการประเภทไหน ยินดีจ่ายในราคาขนาดไหน บริการอะไรที่ยังไม่ได้รับจากผู้รับเหมาะอื่น ๆ
กรณีศึกษา บ้านไร่กาแฟ
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการแบ่งส่วนการตลาดการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการแบ่งส่วนการตลาด • “ ความผิดพลาดที่สำคัญของผู้ประกอบการคือการพยายยามที่จะเป็นทุกอย่างสำหรับลูกค้า ซึ่งเป็นไปได้ยาก” ดังนั้นจึงเป็นที่มาของแนวคิดของการแบ่งส่วนตลาด (Market Segment)
มองอุตสาหกรรมให้ออกในภาพรวมก่อนแบ่งส่วนการตลาดมองอุตสาหกรรมให้ออกในภาพรวมก่อนแบ่งส่วนการตลาด • การวิเคราะห์อุตสาหกรรม เริ่มต้น จาก • การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขนาด • อัตราการเติบโต • โครงสร้างของอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว อาหาร ขนส่ง ทำให้สามารถเตรียมตัวได้ดีกว่าที่จะวางแผนกการวางตำแหน่งในตลาดเลย ตัวอย่าง หากมีบริษัทรถบัส ที่ให้บริการรถบัสทางไกล ดังนั้นเราเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจขนส่ง ไม่เพียงแต่รู้ลูกค้าเป้าหมายเท่านั้น แต่ควรรู้จักอุตสาหกรรมในภาพรวมด้วย เนื่องจากหาค่าเครื่องบิน ค่ารถไฟ เพิ่มขึ้นหรือลดต่ำลงก็มีผลต่อธุรกิจ
การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation) • ผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าในตลาดมีลักษณะที่แตกออกมาเป็นกลุ่มย่อย ๆมากมาย แต่ละกลุ่มนั้นเรียกว่า ส่วนแบ่งตลาด(Segment) ตัวอย่าง สถาบันการศึกษามีกลุ่มลูกค้าคือ ผู้เรียน - กลุ่มที่มาเรียนที่สถาบัน - กลุ่มที่เรียนทางไกล ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มก็ตอบสนองแตกต่าง กัน เช่นบางกลุ่มชอบของคุณภาพพื้น ๆ แต่ราคาถูก , บางกลุ่มการของพิเศษแตกต่าง โดยยินที่จะจ่ายแพง หรือพฤติกรรมการซื้อบางกลุ่มซื้อไปใช้ที่บ้าน ซื้อคราวละไม่มาก ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่สะดวก มียี่ห้อน่าเชื่อถือ แต่บางพวกก็ซื้อครั้งละมาก ๆ
ดังนั้น ผู้ประกอบการสามารถมองว่าในตลาดประกอบด้วยกลุ่มคนต่าง ๆ มากมายทั้งในแง่ ความชอบ ความนิยม พฤติกรรมการซื้อ
ขั้นตอนการแบ่งส่วนการตลาด ระบุตลาดเป้าหมาย และวางตำแหน่งทางการตลาด
การแบ่งส่วนการตลาด (Market segmentation) • การแบ่งส่วนการตลาดควรเป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้ • A - Accessible หมายถึงตลาดย่อยนั้นต้องสามารถเข้าถึง หรือหาซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจได้ • M – Measurableหมายถึง ส่วนแบ่งการตลาดนั้น ต้องสามารถกำหนดจำนวนตัวเลขที่สามารถวัดได้ เช่นกลุ่มคนอายุ 15-30 ในอำเภอนี้มีประมาณ 30000 คน • S – Sizableกลุ่มลูกค้ามีขนาดที่ใหญ่พอที่สามารถดำเนินธุรได้ ทำกำไรได้
การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด S :Segmentation ตาราง แสดงหลักเกณฑ์ในการแบ่งส่วนตลาด
การแบ่งส่วนการตลาด (Market segmentation) • การแบ่งสามารถแบ่งได้หลายลักษณะ ซึ่งสามารถผสมผสานรูปแบบข้างต้นได้ เช่น - แบ่งส่วนของตลาดออกเป็นกลุ่มผู้ที่มีการศึกษาสูง ในเขตชนบท หรือ ผสมผสานระหว่าง ด้านประชากรศาสตร์กับด้านภูมิศาสตร์ หรือ อื่นๆ
การระบุตลาดเป้าหมาย • หลังจากพบว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้กี่กลุ่ม กลุ่มใดบ้าง ซึ่งแต่ละกลุ่มมีลักษณะที่แตกต่างกันแล้ว จึงเลือก ตลาดเป้าหมาย ( Target Marketing) โดยประเมินจากความน่าสนใจของแต่ละกลุ่ม จากจำนวน อัตราการเติบโต กำลังซื้อ ความยากง่ายในการเข้าถึง โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักและกลุ่มเป้าหมายรอง
กลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมายกลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมาย • กลยุทธ์ในการเลือกตลาดรวมแบ่งออกเป็น 3 แนวทางได้แก่ 1. กลยุทธ์ตลาดรวม (Mass marketing) เนื่องจากมองว่าตลาดมีความต้องการคล้ายกันไม่มีความแตกต่างกัน ตัวอย่าง • อดีต โคคา โคล่า ได้เสนอผลิตภัณฑ์รสชาติเดียว ขนาดเดียว บรรจุภัณฑ์เดียว สู่ตลาด แต่ในที่สุดก็ต้องปรับกลยุทธ์ หลังจากที่คู่แข่ง คือ Pepsi เสนอน้ำอัดลมหลายขนาดสู่ตลาด - บริษัทรถยนต์ ฟอร์ด เริ่มแรกเสนอ รถยนต์ Model T เพียงสีเดียว คือสีดำสู่ตลาดทั้งหมด ทำให้เสียส่วนครองตลาดให้ General Motor ซึ่งมีรุ่นมากกว่า สีมากกว่า
กลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมายกลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมาย 2. กลยุทธ์หลายส่วนตลาด (Multiple Segment Strategy)เป็นการเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างกันสองกลุ่มขึ้นไป เพื่อพัฒนาส่วนประสมทางการตลาด ในแต่ละกลุ่มเป้าหมายซึ่งแตกต่างกัน ตัวอย่าง โตโยต้า ผลิตรถกะบะ Tiger สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่นิยมรถกะบะ และผลิต Camry สำหรับผู้นิยมใช้รถเก๋ง สหพัฒน์ เสนอบะหมี่สำเร็จรูปสูตรต่าง ๆ เช่น มาม่าหมูสับ มาม่าต้มยำกุ้ง มาม่าเย็นตาโฟ
กลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมายกลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมาย 3. การมุ่งเน้นเฉพาะส่วนตลาด (Concentrated Segment , Single Segment) กลยุทธ์นี้เหมาะกับบริษัทที่มีทรัพยากรจำกัด มีความชำนาญเฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง ไนโซรัล ผลิตแชมพูกำจัดรังเพียงอย่างเดียว โดยไม่ผลิตแชมพูประเภทอื่น โดยมุ่งส่วนตลาดนี้ และสร้างความแข็งแกร่งในส่วนตลาดนี้
ครั้งหน้า เรียนเรื่องส่วนประสมด้านการตลาด
Assignment 2 • ให้ไปดูงานที่ OTOP – SME – BOI ที่อิมแพคเมืองทองธานี ที่ 11 – 20 มิถุนายน 2547 • ให้ไปหาข้อมูลโครงการว่ามีโครงการอะไรบ้างที่เกี่ยวกับการสร้างผู้ประกอบการ หรือการสร้างธุรกิจ • โดยเลือกผลิตกภัณฑ์ที่ประทับใจ 5 ผลิตภัณฑ์ - สอบถามแนวคิดของการสร้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าว - สอบถาม กลุ่มลูกค้า
Assignment 3 • ทำรายงานด้านการวิเคราะห์ด้านการตลาด ในหัวข้อดังนี้ • ลักษณะของสินค้า / ผลิตภัณฑ์ เช่น ขนาดบรรจุ รูปลักษณ์ Specification ,ตราสินค้า , Model สินค้า, การให้บริการ • ภาพรวมของตลาด / ธุรกิจ : อัตราการเติบโต โครงสร้างของอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว อาหาร ขนส่ง การนำเข้า ส่งออก โครงการรัฐบาลอื่น ๆ • วิเคราะห์คู่แข่ง • แบ่งส่วนการตลาด และกำหนดเป้าหมายการตลาด
เพิ่มเติม ภาพรวมของตลาด ปริมาณความต้องการของตลาดรวม ( Demand) • ภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์ว่ามีตลาดเป็นอย่างไร • แนวโน้มที่ผ่านมาในอดีต 2-3 ปี (ขึ้นกับผลิตภัณฑ์)มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น • หรือลดลงอย่างไร • สถานการณ์การคาดการณ์ในอนาคตสามารถใช้ตัวเลขอัตราการเจริญเติบโต • เปรียบเทียบเช่น รายได้ต่อคน , รายได้ประชาชาติ , สถิติการนำเข้า-ส่งออก , • ปริมาณการก่อสร้างโดยข้อมูลดังกล่าวสามารถหาได้จาก หน่วยงานราชการ เช่น • กรมศุลกากร , สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , หอการค้าไทย , • สภาอุตสาหกรรมไทย อื่น ๆ
เพิ่มเติม ภาพรวมของตลาด ตัวอย่าง : ปริมาณความต้องการของตลาดรวม ( Demand)
การวิเคราะห์การแข่งขันในตลาดการวิเคราะห์การแข่งขันในตลาด
การแบ่งส่วนการตลาด Segmentation ผู้มีฐานะต้องการ ทหารต้องการ
ตาราง แสดงหลักเกณฑ์ในการแบ่งส่วนตลาด
การระบุตลาดเป้าหมาย • กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าคือใคร เพศ อายุ รายได้ มีขนาด (ปริมาณ) เท่าไร มาจากที่ไหน มีกำลังซื้อเท่าไร