ทำไมรถมาถึงแล้วลงสินค้าไม่ได้

1. N S P ระบบ Single Window กับกรมศุลกากร ข้อควรระวังจากต้นทางขนส่งสินค้าเพื่อนำเข้า ทำไมรถมาถึงแล้วลงสินค้าไม่ได้ MD Says

2. ที่ผ่านมาศุลกากรอาเซียนได้ให้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาระบบข้อมูลทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของศุลกากรสมาชิกอาเซียน รวมทั้งการจัดตั้งและนำ ASW มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อย และการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในประเทศและระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ในส่วนของกรมศุลกากรไทยโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันกรมศุลกากรได้นำระบบการผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Customs) มาใช้ เช่น ระบบ e-Import ระบบ e-Export และการใช้บริการรับชำระภาษีอากร (e-Payment) ฯลฯ รวมทั้งการพัฒนาระบบงานไปสู่การทำงานแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service: OSS) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้รับมอบหมายจากคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลและบริการภาครัฐเพื่อการนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์ ให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้ง National Single Window เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสารระหว่างกรมศุลกากร และหน่วยงานอื่นจำนวน 28 หน่วยงาน ที่ออกใบอนุญาต/ใบรับรอง/ใบสั่งปล่อย ในการตรวจสอบใบอนุญาตและใบรับรองต่างๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนการตรวจปล่อยสินค้า ขณะนี้ได้นำร่องลงนามกับ 6 หน่วยงานได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมธุรกิจพลังงาน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน S N P ต่อหน้า 2

3. หน้า 2 สำหรับการตรวจสอบสินค้า กรมศุลกากรได้ใช้ระบบบริหารความเสี่ยงในการตรวจสอบสินค้า โดยใช้วิธีสุ่มตรวจประมาณร้อยละ 20 ของสินค้าขาเข้า และร้อยละ 3 ของสินค้าขาออก นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการควบคุมทางศุลกากร เช่น เครื่องเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบตู้สินค้าด้วยรังสีเอกซเรย์โดยไม่ต้องเปิดตู้ ส่งผลให้มีความสะดวกรวดเร็ว ปัจจุบันกรมศุลกากรมีระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าแบบเคลื่อนที่ได้ 7 ระบบ และระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าแบบติดตั้งถาวร 2 ระบบ ติดตั้ง ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และด่านศุลกากร นอกจากนี้ยังเร่งติดตั้งระบบ CCTV เพื่อความสะดวกรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำในการให้บริการ รวมถึงพัฒนาระบบ RFID ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบตู้สินค้าที่ติดผนึก Tag อิเล็กทรอนิกส์ บันทึกวันที่/เวลา ประเภทของสินค้า เพื่อกรมศุลกากรสามารถตรวจสอบติดตามการเคลื่อนย้ายตู้ได้ตลอดเวลา หากระบบไอทีของประเทศพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ จะส่งผลให้กระบวนการโลจิสติกส์โดยรวมดีขึ้น และทำให้เศรษฐกิจของประเทศทั้งในภาคการค้าการลงทุนมีความเข็มแข็ง สามารถแข่งขันทางการค้าในตลาดโลกได้ ... S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

4. พิธีการในการนำเข้าหรือส่งออกสินค้ามีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งหลายๆครั้งมักจะเกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ในขณะเดียวกันในแต่ละประเทศก็มีขั้นตอนที่ค่อนข้างเหมือนกัน แต่ไม่อาจบอกได้ว่าจะไม่มีขั้นตอนใดเลยที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นซึ่งจะนำมาซึ่งความล่าช้าในการตรวจปล่อยสินค้าได้ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการท่านหนึ่งต้องการให้นำเข้าสินค้ามาจากประเทศจีน โดยใช้บริการจาก Freight Forwarder ของเราในประเทศจีนซึ่งอยู่เมือง Shenzhen แต่ต้องไปรับสินค้าจากอีกเมืองหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของเราจึงทำการติดต่อประสานงานนำรถไปรับสินค้าจากโกดังของ Shipper เพื่อทำการตรวจปล่อยสินค้าขาออกจากประเทศต้นทาง แต่เมื่อทำการขนสินค้าไปแล้ว ไม่สามารถตรวจปล่อยสินค้าได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่า Shipper มี Export License ที่เมือง Fenggeng ดังนั้นสินค้า Shipment นี้ต้องทำการตรวจปล่อยที่เมืองนี้ก่อนจึงทำการขึ้นสินค้าได้ที่ เมือง Shenzhen ซึ่งต้องใช้รถของทางเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเป็นผู้ขนถ่ายสินค้ามาที่เมือง Shenzhen ซึ่งสินค้าดังกล่าว ทาง Consignee ต้องการส่งด่วน จึงทำให้เกิดความล่าช้าไม่สามารถส่งได้ตามแผนการที่วางไว้ ซ้ำยังเสียค่าใช้จ่ายในการขนสินค้าโดยไม่เกิดผลใด ๆ ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้น บางครั้งเป็นหลักการในแต่ละประเทศซึ่งต่างกันไป บางครั้งไม่สามารถควบคุมได้ จำเป็นต้องใช้ความรู้ และประสบการณ์ ในการคาดการณ์ หากในเหตุการณ์นี้เรารู้ก่อนว่า ต้องทำการตรวจปล่อยที่เมืองที่ Shipper มี Export Licenseอยู่ คงจะไม่ทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นในการนำเข้าสินค้าเช่นนี้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดข้อพิพาทว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายขนส่งที่เสียไปอีกด้วย หากท่านผู้ประกอบการต้องการรับคำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะ สามารถติดต่อได้ที่ คุณ ต้นวงศ์ หมั่นผจง 02-333-1199 ต่อ 202 ตลอดเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

5. ในการส่งออกแต่ละครั้งนั้น แน่นอนว่าต้องมีใบขนสินค้า แต่ในการเอาสินค้าไปถึงยังท่าเรือแล้วไม่สามารถบรรจุสินค้าได้นั้นอาจเกิดจากกรณีดังต่อไปนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายหนึ่งนำสินค้ามาส่งที่ท่าเรือคลองเตย ซึ่งเมื่อรถส่งสินค้าของผู้ส่งออกมาถึงสถานที่บรรจุสินค้าแล้วปรากฏว่ารถส่งสินค้าของผู้ส่งออกไม่สามารถลงสินค้าได้ ซึ่งพนักงานของ SNP ที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการบรรจุสินค้าได้แจ้งกับพนักงานขับรถของผู้ส่งออกว่า ตอนนี้ลานรับบรรจุยังไม่สามารถลงสินค้าให้ได้ เมื่อทางผู้ส่งออกสอบถามมาทางเราฯก็จึงได้ทราบว่า ตอนนี้ที่ลานรับบรรจุสินค้านั้นจะรับลงสินค้าได้ก็ต่อเมื่อมีใบขนสินค้าขาออกมายืนยันกับลานรับบรรจุสินค้าเท่านั้นถึงจะลงสินค้าได้ ซึ่งผิดกับเมื่อก่อนที่ไม่ต้องนำใบขนมายืนยันแต่เนื่องจากทางกรมศุลกากรต้องการป้องกันความผิดพลาดในการลงข้อมูล จึงมีการออกกฎใหม่ที่ต้องนำใบขนมาแสดงในขั้นตอนของการบรรจุสินค้าด้วย ซึ่งเมื่อทางพนักงานบริษัทที่รับผิดชอบการดูแลการบรรจุสินค้าของ SNP ได้แจ้งกับพนักงานขับรถสินค้าไปแบบนี้ทางพนักงานขับรถสินค้าก็เข้าใจ และมีการส่งใบขนมาแสดงเพื่อทำการลงสินค้า        หากผู้ประกอบการท่านใดต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการบรรจุสินค้า สามารถสอบถามมาได้ที่ คุณจักรี หวังเกษม 02 333 1199 ต่อ 515 ตลอดเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

6. S มนุษยสัมพันธ์  การบริหารองค์กร หรือหน่วยงาน ก็ไม่ต่างอะไรกับการบริหารกองทัพที่ผู้บริหารจะต้องมีความชำนาญอยู่ 3 ด้าน ประกอบด้วย - ทักษะในด้านวิชาชีพ - ทักษะในการใช้สติปัญญา - ทักษะในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ในมุมมองของผมแล้วทักษะในการสร้างมนุษยสัมพันธ์มีความสำคัญมากที่สุด เพราะหากผู้บริหารที่มีความรู้มาก มีสติปัญญาที่ดี แต่กลับไม่สามารถสร้างมนุษยสัมพันธ์กับพนักงานได้ ผู้บริหารท่านนั้น ก็จะไม่สามารถชักจูงให้พนักงานปฏิบัติตามแนวทาง หรือนโยบายที่วางไว้ให้ประสบผลสำเร็จได้ ตัวอย่างที่เห็นได้เด่นชัด ก็คือ เหตุการณ์ในเรื่อง 3 ก๊ก ตัวละครเล่าปี่ ไม่มีความชำนาญในเรื่องการรบทัพจับศึก ไม่มีความสามารถในการใช้สติปัญญาที่เฉลียวฉลาด แต่กลับเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน มีมนุษยสัมพันธ์สามารถชักชวนให้กวนอู และเตียวหุยที่ชำนาญด้านการทำศึกมาร่วมในกองทัพ และยังสามารถชักชวนขงเบ้งผู้ปราดเปรื่องมาเข้าร่วมในก๊กของเขาได้อีกด้วย สรุปได้ว่า คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเท่านั้น จึงสามารถรวบรวมคนที่มีความสามารถ มีสติปัญญา และมีทักษะ ความชำนาญในหลายๆด้านมารวมตัวกันได้ N P ต่อหน้า 2

7. หน้า 2 ไม่ใช่เพียงผู้บริหารที่สมควรมีมนุษยสัมพันธ์เท่านั้น ในระดับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือพนักงานก็สมควรที่จะเสริมสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอีกด้วยดังนั้น มนุษยสัมพันธ์จึงมีความจำเป็น และสำคัญต่อทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพราะความล้มเหลวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็คือความล้มเหลวของทั้งสองฝ่าย แต่ความสำเร็จนั้น จะต้องเกิดจากทั้งสองฝ่ายร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน       ผมจึงมองว่าการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในองค์กรทั้งในระดับ ผู้บริหารด้วยกัน หรือในระดับพนักงานด้วยกัน และแม้กระทั้งในรัดับผู้บริหารกับพนักงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้องค์กรมีความเจริญก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ รวมไปถึงเป็นการสร้างการพัฒนาให้กับเศรษฐกิจของประเทศชาติ ที่อยู่บนพื้นฐานของความสำเร็จของผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั่วประเทศ อีกด้วย สิทธิชัย ชวรางกูร กรรมการผู้จัดการ 11/6/09 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก