490 likes | 694 Views
การอภิปรายเสริมสร้างสมรรถนะในการให้คำปรึกษา และการไกล่เกลี่ยประนีประนอม. นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ นบ. (เกียรตินิยม) ศศ. ม. (สาขาการจัดการความขัดแย้งแบบ บูรณา การ) ประธานมูลนิธิสถาบันศึกษาและพัฒนาการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี (ส. พ.ส. ).
E N D
การอภิปรายเสริมสร้างสมรรถนะในการให้คำปรึกษา และการไกล่เกลี่ยประนีประนอม นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ นบ. (เกียรตินิยม) ศศ.ม. (สาขาการจัดการความขัดแย้งแบบบูรณาการ) ประธานมูลนิธิสถาบันศึกษาและพัฒนาการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี (ส.พ.ส.)
“การยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีจำเป็นในการป้องกันและแก้ไข ตลอดจนให้ความช่วยเหลือร่วมกัน โดยการคุ้มครองช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ บำบัดผู้กระทำและผู้ได้รับผลกระทบ อื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กที่อาจตกเป็นผู้ถูกกระทำ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม การยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีถือเป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องปรับเปลี่ยน เจตคติให้ถูกต้องว่าเป็นเรืองของสังคมที่ทุกคนต้องตระหนักและร่วมรับผิดชอบ มิใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป” พระดำรัสของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา วันที่ 22 พฤศจิกายน 2551 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โครงการการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงโครงการการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และบุคคล ในครอบครัวตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ในชุมชนอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดย ศาลจังหวัดนนทบุรี สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคม และสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยฯ
โครงการสัมมนาเชิงรุกแบบบูรณาการโครงการสัมมนาเชิงรุกแบบบูรณาการ เรื่อง “กระบวนการยุติธรรมกับการบังคับใช้มาตรการการคุ้มครองสวัสดิภาพตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 โดย สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
โครงการอบรมความรู้ในเรื่องโครงการอบรมความรู้ในเรื่อง “การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐” โดย สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมกับ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สัมมนา 4 ภาค
เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ คุ้มครองสิทธิผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว มุ่งให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุ เมื่อพบเห็นการกระทำความรุนแรง ในครอบครัว แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด รักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
สถานการณ์ ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว
รายงานธนาคารโลกประมาณการว่า.....รายงานธนาคารโลกประมาณการว่า..... กว่า 1ใน 5 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยถูก ทำร้ายร่างกายหรือ ทำร้ายทางเพศ และทุก 15 นาที ทั่วโลกจะมีผู้หญิงถูกข่มขืน ถึง 20 ราย
การนำแนวคิดกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์การนำแนวคิดกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) มาใช้ในการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐
หลักการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 15 วรรค 1 ไม่ว่าการพิจารณาคดี การกระทำความรุนแรงในครอบครัวจะได้ดำเนินไปแล้วเพียงใด ให้ศาลพยายามเปรียบเทียบให้คู่ความได้ยอมความกัน โดยมุ่งถึงความสงบสุขและการอยู่ร่วมกันในครอบครัวเป็นสำคัญ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงหลักการต่อไปนี้
หลักการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 15 วรรค 1ทั้งนี้ให้คำนึงถึงหลักการต่อไปนี้ 1. การคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว 2. การสงวนและคุ้มครองสถานภาพของการสมรสในฐานะที่เป็นศูนย์รวมของชายและหญิงที่สมัครใจเข้ามาอยู่กินฉันสามีภริยา หากไม่อาจรักษาสถานภาพขอการสมรสได้ ก็ให้การหย่าเป็นไปด้วยความเป็นธรรมและเสียหายน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของบุตรเป็นสำคัญ 3. การคุ้มครองและช่วยเหลือครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ครอบครัวนั้นต้องรับผิดชอบในการดูแลให้การศึกษาแก่สมาชิกที่เป็นผู้เยาว์ 4. มาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือสามีภริยาและบุคคลในบุคคลในครอบครัวให้ปรองดองกันและปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกันเองและกับบุตร
หลักการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 16 วรรค 1 เพื่อประโยชน์ในการยอมความในคดีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว พนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาล แล้วแต่กรณี อาจตั้งผู้ประนีประนอม ประกอบด้วยบุคคลหรือคณะบุคคลซึ่งเป็นบิดามารดา ผู้ปกครอง ญาติของคู่ความหรือบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลเห็นสมควรเพื่อให้คำปรึกษา หรือช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ยอมความกัน หรืออาจมอบหมายให้นักสังคมสงเคราะห์ หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ หรือบุคคลใดช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ยอมความกันก็ได้
หลักการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 16 วรรค 2 เมื่อผู้ประนีประนอมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลแล้ว ให้รายงานผลการไกล่เกลี่ยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลแล้วแต่กรณีด้วย ในกรณีที่การไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จ บุคคลดังกล่าวจะจัดให้มีการทำสัญญายอมความขึ้นหรือจะขอให้เรียกคู่ความมาทำสัญญายอมความกันต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลก็ได้
หลักการไกล่เกลี่ยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 16 วรรค 3 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลเห็นว่าสัญญายอมความไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาลดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญายอมความนั้น
การไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข (Restorative Justice) ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ (Healing Mediation)
บทนำ การไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขตาม พ.ร.บ. ความรุนแรงในครอบครัว เป็นรูปแบบหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกระทำและผู้กระทำได้พบกันเพื่อให้ผู้กระทำได้รับรู้ผลกระทบผู้ถูกกระทำได้รับจากการกระทำของผู้กระทำ มุ่งหวังให้ผู้ถูกกระทำได้รับการเยียวยาบรรเทาความเสียหาย พร้อมมาตรการแก้ไขผู้กระทำ ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) • ปรัชญา / แนวคิด / กลวิธี • ในการฟื้นฟู “เหยื่อ” คืนสู่สภาพปกติ ให้โอกาส • “ผู้กระทำผิด” สำนึก / ขอโทษ / ชดเชยค่าเสียหาย • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ • ความขัดแย้งระหว่างบุคคล เหยื่อไม่ถูกกีดกันออก • จากกระบวนการยุติธรรม
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) UN การอำนวยความยุติธรรมที่ต้องการให้ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมได้กลับคืนสู่สภาพดีเช่นเดิมโดยจัดการกับผลเสียหายภายหลังการกระทำผิด หรือ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ประเภทคดี ที่สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ • ความผิดที่เด็กหรือเยาวชนเป็นผู้กระทำ (Juvenile Delinquent) • ความผิดจากความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence) • ปัญหาสังคมกึ่งอาชญากรรม • ความผิดอาญาต่อส่วนตัว หรือความผิดอาญาอันยอมความได้ • ข้อพิพาททางแพ่งเกี่ยวเนื่องทางอาญา • ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ อื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจำคุกระยะสั้น • คดีครอบครัว
รูปแบบของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์รูปแบบของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ขึ้นกับบริบทสังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสำคัญ บางแห่งใช้โปรแกรมแบบผสมผสาน (Multiform Programs) 1. การไกล่เกลี่ยเหยื่ออาชญากรรม – ผู้กระทำผิด (Victim – Offender Mediation หรือ VOM) 2. การประชุมกลุ่มครอบครัว (Family Group Conference หรือ FGC 3. การพิจารณาแบบล้อมวง (Sentencing Circle) 4. คณะกรรมการบูรณาการชุมชน (Community Reprative Boards)
รูปแบบของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์รูปแบบของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ที่นำมาใช้ในประเทศไทย • การประชุมกลุ่มเพื่อเยียวยาแก้ไข (Healing Conference) • การไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความใน พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ (Healing Mediation) • การประนอมข้อพิพาทเชิงสมานฉันท์หรือเชิงเยียวยาแก้ไข (Victim – Offender Mediation หรือ VOM) • การประชุมจัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนตาม พ.ร.บ ศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓
การไกล่เกลี่ยอาญา ≠ การไกล่เกลี่ยตามแนวคิด RJ • มุ่งมองอัตราโทษเพื่อความสงบเรียบร้อย • 2. เพื่อบรรเทาโทษ ไม่ได้ให้ ความสำคัญกับผู้ถูกกระทำ • มุ่งมองความเสียหาย ค้นหามาตรการในการแก้ไข บำบัดฟื้นฟูผู้กระทำ • ให้ความสำคัญกับผู้ถูกกระทำ การบรรเทาความเสียหาย การชดใช้เยียวยา
โครงสร้างการแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยโครงสร้างการแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ย พนักงานเจ้าหน้าที่หรือศาล พิจารณาตามมาตรา 16 วรรค 3 ดำเนินคดีต่อ แต่งตั้ง ขอให้เรียกคู่กรณีมาทำสัญญา ผู้ไกล่เกลี่ย รายงาน ไกล่เกลี่ย คู่ความ จัดทำสัญญา รายงาน รายงาน ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคดีความรุนแรงในครอบครัวกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคดีความรุนแรงในครอบครัว โจทย์ยื่นฟ้อง ศาลส่งคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย แต่งตั้งผู้พิพากษาหรือผู้ไกล่เกลี่ยทำการไกล่เกลี่ย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ไกล่เกลี่ยไม่ประสบผลสำเร็จ ศาลมีคำสั่งให้มีคู่ความปฏิบัติตามสัญญายอมความแล้วแจ้งพนักงานคุมประพฤติสอดส่องดูแลให้ปฏิบัติตาม ส่งสำนวนคืนสู่การพิจารณาคดี ถ้าผู้กระทำไม่ปฏิบัติตามสัญญายอม ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้ เมื่อปฏิบัติสัญญายอมความครบถ้วนแล้ว ศาลจึงจะพิพากษาคดี
หลักการสำคัญของการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ผู้ไกล่เกลี่ยดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ภายใต้แนวคิด 3 ประการ • เพื่อให้ผูกระทำความผิดแสดงออกถึงความรู้สึกผิด ขอโทษ และพร้อมรับผิดชอบแก้ไขพฤติกรรมที่ • ก่อให้เกิดความรุนแรงให้กับผู้ถูกกระทำ 2. เพื่อให้ผู้ถูกกระทำได้รับความรู้สึกที่ดี และตระหนักว่าทุกคนมิได้เพิกเฉยความเสียหายที่เขาได้รับ 3. เพื่อแสวงหาแนวทางยุติการกระทำด้วยความรุนแรงฟื้นฟูสัมพันธภาพและเยียวยา บรรเทาความ เสียหายให้กับผู้ถูกกระทำพร้อมมาตรการ ตามมาตรการ 12 วรรค 1 ในการป้องกัน แก้ไขผู้กระทำ ความผิดมิให้กระทำความผิดซ้ำ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 1. ผู้เข้าร่วมไกล่เกลี่ยรับรู้และเข้าใจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 2. ผู้ถูกกระทำเล่าถึงผลและความเจ็บปวดของตนที่ตนได้รับ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 3. ผู้เข้าร่วมได้แสดงความคิดเห็น เสนอแนะแนวทางในการวางแผน เยียวยาผู้ถูกกระทำและแก้ไขผู้กระทำความผิดรวมทั้งให้ผู้กระทำ เข้ามารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของตน
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 4. ผู้ประนีประนอมต้องเปิดโอกาสให้ผู้กระทำความผิดและผู้ถูกกระทำได้แสดง ความรู้สึก เจตนารมณ์ในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดีกว่า และ การพยายามช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและผู้กระทำความผิดให้กลับมาอยู่ใน ครอบครัวได้อย่างปกติสุขดังเดิม
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 5. ต้องไม่มีการเตรียมการหรือกำหนดล่วงหน้าให้ ผู้เข้าร่วมพูดหรือแสดงออกในเรื่องใด อย่างไร
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 6. ผู้ไกล่เกลี่ยต้องจำกัดขอบเขตของประเด็นปัญหา ที่กำลังดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อหาแนวทางการ เยียวยาแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 7. พยายามค้นหาหนทางที่จะสมานฉันท์และประสาน รอยร้าวระหว่างผู้ถูกกระทำและผู้กระทำความผิด
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข ดำเนินการเพื่อให้ได้สาระดังนี้ 8. เพื่อผลสุดท้าย คือ ความสงบสุข และการอยู่ ร่วมกันในครอบครัวเป็นสำคัญ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ วิธีการดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข เมื่อถึงวันไกล่เกลี่ย 1. ผู้ไกล่เกลี่ยเริ่มดำเนินการ กล่าวต้อนรับ แนะนำตัว แจ้ง วัตถุประสงค์ กฎระเบียบ ขั้นตอนการไกล่เกลี่ย บทบาทก่อนและ หลักการไกล่เกลี่ยของแต่ละฝ่าย และให้ผู้เข้าร่วมไกล่เกลี่ยแนะนำ ตนไปจนครบ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ วิธีการดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข เมื่อถึงวันไกล่เกลี่ย • 2. ผู้ไกล่เกลี่ยแจ้งห้ามนำข้อมูลไปเปิดเผย • 3. ผู้ไกล่เกลี่ยสรุปการกระทำผิดโดยย่อ ถามผู้กระทำความผิดถึงการ ยอมรับผิดด้วยความสมัครใจ
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ วิธีการดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข เมื่อถึงวันไกล่เกลี่ย • 4. ให้ผู้กระทำเล่าถึงการกระทำผิดในประเด็นต่าง ๆ เช่น ผู้กระทำคิด อะไรอยู่ / อย่างไรกับสิ่งที่ทำลงไป • 5. ให้ผู้ถูกกระทำผิดเล่าถึงความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้น
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ วิธีการดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข เมื่อถึงวันไกล่เกลี่ย • 6. ให้ผู้กระทำเล่าถึงความรู้สึกและผลกระทบ • 7. ผู้ไกล่เกลี่ยเปลี่ยนเรื่องปัจจุบันไปสู่อนาคตที่จะนำไปสู่แนวทางความ รับผิดชอบ การเยียวยา การชดเชยความเสียหายทางด้านจิตใจ หรือ ด้านร่างกาย
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ วิธีการดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไข เมื่อถึงวันไกล่เกลี่ย 8. ผู้ไกล่เกลี่ยเปลี่ยนประเด็นไปสู่ข้อตกลง ด้วยการแสวงหา แนวทางจากผู้เข้าร่วมไกล่เกลี่ย เพื่อเยียวยาผู้เสียหาย แก้ไข จำเลย พร้อมนำข้อมูลที่ได้รับมาสร้างข้อตกลงเบื้องต้นหรือ สัญญาประนีประนอมแบบมีเงื่อนไข
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ บันทึกข้อตกลงเบื้องต้นหรือสัญญาประนีประนอมแบบมีเงื่อนไข คือผลสุดท้ายที่ได้จากการไกล่เกลี่ยจะเป็นหลักและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้กระทำความผิด 1. ต้องเกิดจากการเห็นพ้องต้องกันของ คู่กรณีโดยไม่มีการบังคับ 2. ต้องเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงใน ครอบครัว
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ บันทึกข้อตกลงเบื้องต้นหรือสัญญาประนีประนอมแบบมีเงื่อนไข คือผลสุดท้ายที่ได้จากการไกล่เกลี่ยจะเป็นหลักและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้กระทำความผิด 3. ต้องเป็นไป เพื่อปกป้องคุ้มครอง ผู้ถูกกระทำ ด้วยความรุนแรงในครอบครัว 4. ต้องเป็นไป เพื่อรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัว
กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความกระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อเยียวยาแก้ไขคู่ความ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การติดตามบันทึกข้อตกลงหรือตามสัญญาประนีประนอมแบบมีเงื่อนไข ศึกษาบันทึกข้อตกลงในมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในแผนหรือตามสัญญาประนีประนอมแบบมีเงื่อนไข • บทบาทผู้ติดตาม • พนักงานคุ้มประพฤติ • พนักงานเจ้าหน้าที่ • สมาชิกเครือข่ายทาง • สังคมตาม พ.ร.บ. ติดตามสอดส่องประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง เมื่อไม่ได้รับความร่วมมือหรือมีเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญายอมความได้ ต้องรายงานให้ศาลทราบโดยทันทีเพื่อศาลจะได้พิจารณาตามที่เห็นสมควร หรือศาลอาจมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อมีการดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วต้องสรุปผลรายงานศาลเพื่อมีคำพิพากษา
การให้คำปรึกษา (Counseling) กับกระบวนการไกล่เกลี่ย (Mediation) การให้คำปรึกษาจะเน้นผลลัพธ์ในการลดความตึงเครียดระหว่างคู่กรณี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความแตกต่าง กระบวนการไกล่เกลี่ย จะเน้นผลลัพธ์ที่การจัดการปัญหาเฉพาะด้าน
เน้นการบรรลุถึงข้อตกลงร่วมกันของคู่กรณีที่จะมีต่อกันในอนาคต แต่หากได้มาซึ่งการแก้ไขต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต และสามารถที่จะพัฒนาพฤติกรรมของคู่กรณี การไกล่เกลี่ย (Mediation)
เป็นกระบวนการที่ผู้ให้และผู้รับบริการมีปฏิสัมพันธ์กัน โดยผู้ให้การปรึกษา ใช้คุณสมบัติส่วนตัว ความสามารถ และทักษะต่าง ๆ กระตุ้นให้ ผู้รับการปรึกษาได้สำรวจตัวเองมีความเข้าใจปัญหาที่แท้จริง สาเหตุและความต้องการ จนกระทั่งสามารถหาวิธีการแก้ปัญหาได้ด้วยศักยภาพของตนเอง การให้บริการปรึกษา
ธรรมชาติของการให้คำปรึกษาธรรมชาติของการให้คำปรึกษา เป็นการดูแลทางจิตสังคม “เน้น ความรู้สึกมากกว่าข้อมูล” เน้นสัมพันธภาพเป็นพื้นฐาน “ความไว้วางใจหมายถึงความสำเร็จ” มองปัจจุบันสู่อนาคตอันใกล้ “ทิ้งอดีต สะสางปัจจุบัน มุ่งมั่นอนาคต” เน้นเจตคติที่ดีของผู้ให้บริการ “ท่าที จริงใจ ห่วงใย สำคัญเท่า คำพูด” เป็นการดูแลทางจิตสังคม “เน้น ความรู้สึกมากกว่าข้อมูล”
เจตคติที่สำคัญของผู้ให้คำปรึกษาเจตคติที่สำคัญของผู้ให้คำปรึกษา • Empathy • การเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น • ต่างจาก Sympathy หมายถึง ความรู้สึกคล้อยตาม • Non – judgment Acceptance • การยอมรับโดยไม่ตัดสิน ความคิด ความเห็นการกระทำของผู้อื่นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
สวัสดี คุณก็มีส่วนร่วมที่จะช่วยให้ความรุนแรง ในครอบครัวยุติลงได้