590 likes | 1.18k Views
ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน ( Philosophy and Concepts of HCRD ) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ. ยุคความทันสมัย . เกิดขึ้นราวปี ค . ศ .1950 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอฟื้นฟู ประเทศในทวีปยุโรป เรียกว่า “ Marshall Plan ”.
E N D
ปรัชญาและแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชน (Philosophy and Concepts of HCRD) 02190611 ผศ.น.ท.ดร.สุมิตร สุวรรณ
ยุคความทันสมัย • เกิดขึ้นราวปี ค.ศ.1950 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 • สหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอฟื้นฟู ประเทศในทวีปยุโรป เรียกว่า “Marshall Plan”
ทฤษฎี/แนวคิดการพัฒนา กระแสหลัก • ทฤษฎีความทันสมัย (Modernization Theory) กระแสรอง/กระแสวิพากษ์ • ทฤษฎีการพึ่งพา (Dependency Theory) • ทฤษฎีมาร์กซิสต์ (Marxist Theory)
ทฤษฎีความทันสมัย (Modernization Theory) • นักวิชาการ : • Sir Karl Popper • Adam Smith • Rostow • Keynesian • Truman • Marshall • Alex Inkeles • Fred N.Riggs • T.R.Batten • Daniel Lerner
Modernization Theory Truman ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ.1945–1953
Modernization Theory • อุดมคติ : • เศรษฐกิจแบบทุนนิยม (Capitalism) • การเมืองแบบประชาธิปไตย (Democracy) • สังคมเมือง (Urbanization) • อุตสาหกรรม (Industrialization) • การแข่งขัน (Competition)
Modernization Theory แนวคิดหลัก : • สังคมมีความเจริญไม่เท่ากัน • สังคมไม่ควรยึดติดในประเพณีมากนัก • ประเทศที่ร่ำรวยต้องช่วยประเทศยากจน ทั้งด้านทุน เทคโนโลยี วิชาการ • ทำให้เป็นอุตสาหกรรม • หลุดพ้นจากความยากจน การพัฒนา=ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
Modernization Theory เกณฑ์วัดอัตราการพัฒนา : ทางเศรษฐกิจ- GNP, GDP, NI ทางสังคม-จำนวนคนรู้หนังสือ - พลเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง - จำนวนโทรศัพท์ รถยนต์ - เครื่องใช้ไฟฟ้า ทางการเมือง-การปกครองระบอบประชาธิปไตย
Modernization Theory • ลักษณะคน :เป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัท • ยึดถือประเพณีแต่ไม่ใช่ทาส • ตำแหน่งได้มาจากการทำงาน • ยึดถือความสามารถมากกว่าชาติกำเนิด • มุ่งอนาคต • มีเหตุผล • ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี • มุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
Modernization Theory • Alex Inkeles : Modern Man • เปิดรับประสบการณ์ใหม่ • มีความพร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง • ยอมรับความหลากหลายที่ต่างออกไป • แต่ไม่ขาดจุดยืนของตัว • เมื่อสงสัยอะไรต้องแสวงหาข่าวสาร • หรือความจริงให้ได้ • มองอนาคตและปัจจุบัน มากกว่าอดีต • มนุษย์สามารถเอาชนะธรรมชาติได้
Modernization Theory • มีการวางแผนที่ดี • มีความเชื่อมั่นว่าจะทำได้ • ให้คุณค่าด้านทักษะทางเทคนิค • ความรู้มากขึ้นค่าตอบแทนก็จะสูงขึ้น • ให้คุณค่าการศึกษาแบบทางการ/การเข้าโรงเรียน • เคารพเกียรติของผู้อื่น • เป็นคนที่มีเหตุผล
Modernization Theory การศึกษา • การสร้างทักษะที่จำเป็น • การสร้างคนให้มีความรู้เพื่อตอบสนองการผลิต • การสร้างความทันสมัย การศึกษา=ในระบบโรงเรียน (Formal Education)
Modernization Theory T.R.Batten: Mature Man 1.รู้จักใช้ความคิดแบบมีจุดหมายปลายทาง 2.มีความสามารถคาดการณ์ภายหน้าได้ดี 3.สามารถทำงานสลับซับซ้อนได้ดี 4.ยินดีรับฟังและทำความเข้าใจความคิดเห็นของผู้อื่น 5.ชำนาญในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น
Modernization Theory Fred N.Riggs- ลักษณะสังคมประเทศกำลังพัฒนา เป็นสังคมทวิลักษณ์ • เกษตรVSอุตสาหกรรม • ความเชื่อแบบดั้งเดิม VS วิทยาศาสตร์ • แบบแผนพฤติกรรมชาติกำเนิด VS ความสามารถ • บุคลิกภาพเป็นแบบอนุรักษ์ VS สมัยใหม่
Modernization Theory Talcott Parsons- สังคมประเพณี 1. ความสัมพันธ์แบบเฉพาะตัว 2. สถานภาพยึดตามชาติวุฒิ 3. หน้าที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน 4. ไม่มีเหตุผลใช้อารมณ์มาเข้าเกี่ยวข้อง 5. มุ่งประโยชน์ส่วนรวม
Modernization Theory Talcott Parsons- สังคมสมัยใหม่ 1. ความสัมพันธ์แบบสากล 2. สถานภาพยึดตามคุณวุฒิ 3. หน้าที่มีขอบเขตแน่นอน 4. มีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง 5. มุ่งประโยชน์ส่วนตน
Modernization Theory กลยุทธ์การพัฒนา • ให้เอกชนเป็นผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมแทนรัฐ • เปลี่ยนฐานเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม • เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) และรายได้ต่อหัวของประชาชน (NI) • ใช้ทรัพยากรและความมั่งคั่งในชนบทเป็นปัจจัย ในการสร้างความเจริญให้แก่เมือง
Modernization Theory • กลยุทธ์การพัฒนา • ใช้กลไกของตลาด เปิดการค้าเสรี • รัฐเป็นผู้ลงทุนในโครงการขั้นพื้นฐาน • รัฐกำหนดค่าจ้างแรงงานให้อยู่ในระดับต่ำ • รัฐจะต้องสร้างกำลังทหาร-ตำรวจให้เข้มแข็ง • การพัฒนาเริ่มจากรัฐบาล
Modernization Theory Rostow : The Stage of Economic Growth 1. Traditional Society 2. Precondition for Take-off 3. Take-off Stage 4. Stage of High Mass Consumption 5. Beyond Consumption
Modernization Theory สุธี ประศาสน์เศรษฐ์- ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อ 1.ลัทธิพัฒนานิยม-การพึ่งพาต่างประเทศ 2.ลัทธิบริโภคนิยม-การดำเนินชีวิตแบบชนชั้นสูง 3.ลัทธิความมั่นคง-การควบคุมของรัฐ
Modernization Theory การพัฒนา (Development) หมายถึง... • การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) • การทำให้เป็นตะวันตก (Westernization) • การทำให้เป็นเมือง (Urbanization) • การทำให้เป็นอุตสาหกรรม (Industrialization)
Modernization Theory เครื่องมือ/องค์กรทางการเงิน • ธนาคารโลก (World Bank) • ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนา (IBRD) • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) • ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB)
ทฤษฎีการพึ่งพา (Dependency Theory) • เกิดขึ้นในราวปี ค.ศ.1960 • มีกำเนิดมาจากปัญหาความด้อยพัฒนา ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา
Dependency Theory • นักวิชาการ : • Gunnar Frank • Seer • Cardoso • Santos • Nyerere • Wallerstein • Gandhi
Dependency Theory • อุดมคติ: • การหลุดพ้นจากการพึ่งพา • จุดมุ่งหมาย : • ลดความไม่เท่าเทียมกัน • การว่างงาน • ความยากจน • การพึ่งตนเอง
Dependency Theory แนวคิดหลัก : • สภาพด้อยพัฒนาเป็นผลมาจากการที่ ทรัพยากรและส่วนเกินทางเศรษฐกิจไหล (Drained) ไปสู่โลกเหนือ เนื่องจากลัทธิล่าอาณานิคม
Dependency Theory แนวคิดหลัก : • การพึ่งพาระบบทุนนิยมทำให้กลายเป็น ประเทศบริวารทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นแหล่งวัตถุดิบ ตลาดสินค้าอุตสาหกรรม เป็นแหล่งขยายตัวการลงทุน
Dependency Theory แนวคิดหลัก : • ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะเอารัดเอาเปรียบ เช่น การขายวัตถุดิบราคาถูก แต่กลับต้องซื้อสินค้าอุตสาหกรรมในราคาแพง โดยการถ่ายโอนบรรษัทข้ามชาติ
Dependency Theory แนวคิดหลัก : • การพัฒนาและความด้อยพัฒนาไม่แยกจากกันเกิดในประเทศเดียวกันและระหว่างประเทศ • สภาพด้อยพัฒนาเป็นกระบวนการเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ
Dependency Theory • ลักษณะสังคมที่พัฒนา : • การหลุดพ้น/ปลดเปลื้องภาวะการพึ่งพา • พึ่งตนเอง • การจัดระเบียบทางสังคม ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
Dependency Theory • ลักษณะคนที่พัฒนา : • ต้องพึ่งตนเอง (Self-Reliant) • มีจิตใจเพื่อสังคม (Socialist-Mine)
Dependency Theory • แนวทางการพัฒนา : • การปฏิวัติแบบสังคมนิยม • การตัดความสัมพันธ์กับประเทศศูนย์กลาง • การพึ่งตนเองเป็นหลัก
Dependency Theory • แนวทางการพัฒนา:Seers • ลดการพึ่งพาจากการนำเข้าทั้งอาหารและน้ำมัน • เปลี่ยนแปลงรูปแบบและรสนิยมในการบริโภค • กระจายรายได้และใช้นโยบายภาษี • รัฐอาจต้องเป็นเจ้าของกิจการทรัพยากรธรรมชาติ • ดำเนินนโยบายทางวัฒนธรรมเพื่อลดการพึ่งพา
Dependency Theory • บทบาทการศึกษา : • การศึกษาในระบบโรงเรียนทำให้เกิดการพึ่งพา ต้องแบมือขอ เป็นบ่อเกิดความด้อยพัฒนา • การศึกษาต้องทำให้คนช่วยตัวเองได้ • การศึกษาควรแยกตามกลุ่มความสนใจ การศึกษาไม่ใช่แค่ในระบบโรงเรียน
Dependency Theory การพัฒนา (Development) หมายถึง... • ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ • การปฏิรูประเบียบสังคมให้มีความยุติธรรม • เอกราชของชาติ • อิสระจากการแทรกแซง/ครอบงำ
ทฤษฎีมาร์กซิสต์ (Marxist Theory) • วัยหนุ่มเขียนหนังสือ Economic & Philosophic Manuscripts of 1844 • วัยสูงอายุเขียนหนังสือ Capital • ค.ศ.1970 การปฏิวัติในจีน...
Marxist Theory Karl Marx : • การผลิตแบบทุนนิยมเป็นที่มาของ ความทุกข์ยากของกรรมกร • ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สำคัญน้อยกว่า เครื่องจักร • เจ้าของปัจจัยการผลิตยิ่งผลิตได้มาก ยิ่งสร้างความร่ำรวย แต่กรรมกรยิ่งจนลง
Marxist Theory • นักวิชาการ : • คาร์ล มาร์ก(Karl Marx) • สตาลิน(Stalin) • เลนิน (Lenin) • ฮิตเลอร์(Hitler) • เหมาเจ๋อตุง(Mao Jer Tung) • คัสโตร(Castro)
Marxist Theory • อุดมคติ : • การทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน • ไม่มีชนชั้น • เน้นเรื่องพลังมวลชนที่สามารถสร้าง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
Marxist Theory แนวคิดหลัก : พยายามจัดสรรอำนาจ ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทำสงครามประชาชน แย่งชิงอำนาจรัฐ ปลุกระดมมวลชนขับไล่ จักรวรรดินิยม
Marxist Theory สังคมที่พัฒนา : • ทุกอย่างเป็นของรัฐ • ไม่มีชนชั้น โดยสังคมจะเปลี่ยนผ่านจาก.. ประเพณี ขุนนาง เป็น ทุนนิยม สังคมนิยม และคอมมิวนิสต์
Marxist Theory ลักษณะคนที่พัฒนา : • มีจิตสำนึก (Minded Man) • ถูกปลดปล่อย (Liberated Man)
Marxist Theory บทบาทการศึกษา : • ต้องทำให้อ่านออกเขียนได้ • ยกระดับจิตสำนึกเพื่อความยุติธรรม
Marxist Theory การพัฒนา (Development) ความก้าวหน้าขั้นสูงสุด ต้องทำลายล้างการจัดระเบียบทางสังคมแบบทุนนิยม