160 likes | 231 Views
กลุ่มที่ 4. ประเภทของโรงเรียนและรูปแบบการสอน ที่มีผลต่อการเรียนการสอน. ประเภทของโรงเรียน. 1. โรงเรียนสายสามัญขั้นพื้นฐานทั่วไป 2. โรงเรียน EP 3. โรงเรียน M ini EP 4. โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศตามมาตรา 15 (2) 5. โรงเรียนนานาชาติ.
E N D
กลุ่มที่ 4 ประเภทของโรงเรียนและรูปแบบการสอน ที่มีผลต่อการเรียนการสอน
ประเภทของโรงเรียน 1. โรงเรียนสายสามัญขั้นพื้นฐานทั่วไป 2. โรงเรียน EP 3. โรงเรียน Mini EP 4. โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศตามมาตรา 15 (2) 5. โรงเรียนนานาชาติ
เป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ของโรงเรียน แต่ละประเภท 1. โรงเรียนสายสามัญขั้นพื้นฐานทั่วไป - นักเรียนที่จบ ม.6 ทุกคนสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านได้อย่าง แท้จริง โดยให้สามารถวัดผลได้จากผลสอบ NT ที่วัดทักษะทั้ง 4 ด้าน - เด็กสอบทุกวิชาได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50% 2. โรงเรียน EP เมื่อเด็กนักเรียนจบ ม.6 ให้เด็กสามารถสอบ International Standard ได้ใน ระดับ Intermediate - ในการสอบ NT ของโรงเรียน EP ให้ออกข้อสอบให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาที่ เรียน เช่น กำหนดให้เรียนวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษก็ให้ออกข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ
เป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ของโรงเรียน แต่ละประเภท (ต่อ) 3. โรงเรียน Mini EP - นักเรียนที่จบ ม.6 ทุกคนสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านได้ อย่างแท้จริง โดยให้สามารถวัดผลได้จากผลสอบ NT ที่วัดทักษะทั้ง 4 ด้าน ผ่านการสอบระดับ Pre Intermediate ได้ 4. โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศตามมาตรา 15 (2) สามารถวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับต่าง ๆ เช่น - เรียน 100 ชั่วโมงขึ้นไปอายุ 8 ปีสอบผ่าน Cambridge YLE Starter - เรียน 175 ชั่วโมง อายุเกิน 10 ปี สอบผ่าน Cambridge YLE Mover
เป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ของโรงเรียน แต่ละประเภท (ต่อ) - เรียน 250 ชั่วโมง อายุ 12 ปี สอบผ่าน Cambridge YLE Flyer หรือ KET - เมื่อจบชั้น ม.3 ควรจะสอบได้ Cambridge PET ในระดับ Pre Intermediate - เมื่อจบชั้น ม.6 ควรจะสอบได้ Cambridge FCE ในระดับ Intermediate
เป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ของโรงเรียน แต่ละประเภท (ต่อ) - สนับสนุนรัฐบาลในการอบรมทั้งครูไทยและครูต่างประเทศเป็น จำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง - การอบรมครูต่างประเทศ สามารถอบรมได้ตาม International Standardเช่น CELTA ของ U. of Cambridge หรือ TESOL ของ U. of London และ CELTYL U. of Cambridge - การอบรมครูไทยสามารถทำการอบรมได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง - การอบรมครูไทยใช้มาตรฐานเดียวกันกับมาตรฐานครูต่างชาติ
เป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ของโรงเรียน แต่ละประเภท (ต่อ) 5. โรงเรียนนานาชาติ - มีความรู้ภาษาทั้ง 4 ด้าน สามารถไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลักสูตร โรงเรียนทุกประเภทไม่มีปัญหาเรื่องหลักสูตร 1. โรงเรียนสายสามัญขั้นพื้นฐานทั่วไป 1. ควรมีชั่วโมงภาษาอังกฤษ 3-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้มีการปรับโครงสร้างของเวลาเรียน 2. หลักสูตรให้ยืดหยุ่นตามศักยภาพของแต่ละโรงเรียน โดยให้ เขตพื้นที่การศึกษาทำ KPI ตามความต้องการของพื้นที่เพื่อความ เหมาะสมกับท้องถิ่น 3. การจัดการเรียนการสอนต้องมีความต่อเนื่อง มีความเชื่อมโยง และมีสร้างความเข้าใจในเรื่องนโยบายให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจได้อย่างชัดเจน และสามารถปฏิบัติได้จริง
หลักสูตร (ต่อ) 2. โรงเรียน EP ไม่มีปัญหาเรื่องหลักสูตร 3. โรงเรียน Mini EP หลักสูตรไม่มีปัญหา แต่ต้องการแนวทางที่ชัดเจนรวมทั้งโครงสร้าง ของชั่วโมงเรียน และคุณสมบัติของผู้สอน 4. โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศตามมาตรา 15 (2) - หลักสูตรไม่มีปัญหา โดยโรงเรียน 15 (2) แต่ละโรงเรียนจะปรับ หลักสูตรให้สอดคล้องกับโรงเรียน 15 (1) เพื่อประโยชน์ของผู้เรียน - เพื่อความคล่องตัวในการขออนุญาตเพิ่มหลักสูตรหรือการเปิดสาขา ใหม่ ขอให้ใช้หลักสูตรเดิมที่เป็นภาษาอังกฤษ โดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย และการตรวจอาคาร ควรเปลี่ยนจากการใช้วิศวกรวุฒิ เป็นวิศวกรสามัญหรือ ภาคี 5. โรงเรียนนานาชาติ ไม่มีปัญหา
ครู 1. โรงเรียนสายสามัญขั้นพื้นฐานทั่วไป 1.1 ต้องรีบพัฒนาครูไทยอย่างเร่งด่วน ให้มีขีดความสามารถ อย่างต่ำอยู่ในระดับ Pre Intermediate โดยอาศัยความร่วมมือจาก หน่วยงานอื่น ๆ อาทิ สถาบันสอนภาษาตามมาตรา 15 (2) ซึ่งมีความ ชำนาญเฉพาะด้าน หรือ สถาบันอุดมศึกษาในประเทศ หรือ สถาบัน สอนภาษา เช่น AUA British Council ฯลฯ 1.2 ครูต่างประเทศให้ใช้กฎเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติเดียวกัน ในการบรรจุ และได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งในโรงเรียนภาครัฐและเอกชน
ครู(ต่อ) 2. โรงเรียน EP 2.1 ต้องวางแผนพัฒนาครูไทยอย่างเป็นระบบทั้งในระยะสั้น และระยะยาว 2.2 ครูต่างประเทศให้ใช้กฎเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติ เดียวกันในการบรรจุ และได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในมาตรฐาน เดียวกันกับครูต่างประเทศในโรงเรียน EP ในภาครัฐและเอกชน
ครู (ต่อ) 3. โรงเรียน Mini EP 3.1 ครูไทยต้องมีคุณสมบัติในระดับ Pre Intermediate หรือสูงกว่า 3.2 ครูต่างประเทศให้ใช้กฎเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติ เดียวกันในการบรรจุ และได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในมาตรฐาน เดียวกันกับครูต่างประเทศในโรงเรียน EP ในภาครัฐและเอกชน
ครู(ต่อ) 4. โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศตามมาตรา 15 (2) 4.1 ครูไทยต้องกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำทั้งความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ และด้านการเป็นครู อาทิเช่น Cambridge TKT 4.2 ครูต่างประเทศเป็นไปตามคุณสมบัติที่รัฐบาลกำหนด 4.3 อนุญาตให้ครูต่างประเทศในโรงเรียน 15 (2) สามารถไปสอนใน โรงเรียน 15 (1) ได้ 4.4 อนุญาตให้บรรจุครูได้ตามจำนวนนักเรียนที่สอนตามความเป็นจริง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากสัญญากับโรงเรียน 15 (1) ที่ไปทำการสอน รวมทั้ง ทะเบียนนักเรียน
ข้อเสนอแนะอื่น ๆ 1. กำหนดให้การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศเป็นวาระแห่งชาติ 2 ให้มีการจัดตั้งองค์กรมหาชนที่รับผิดชอบการพัฒนาการใช้ภาษาต่างประเทศของชาติ 2.1 เป็นศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการใช้ภาษาต่างประเทศ โดยการวิจัยพัฒนา หรือการเลือกสื่อการสอนที่เหมาะสม 2.2 วางแผนพัฒนาครูอย่างเป็นระบบ ระยะสั้น ระยะยาว และต่อเนื่อง 2.3 กำหนดมาตรฐานและค่าตอบแทนของครูตามคุณสมบัติ 2.4 เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่แท้จริงของครูสอนภาษาอังกฤษ 2.5 เพื่อเป็นศูนย์รวมการจัดหาครูและพัฒนาครู 2.6 เพื่อศึกษาความต้องการและวางแผนการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ ความต้องการของตลาด
ข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ต่อ) 2.7 เพื่อเป็น one stop service ในการตรวจสอบเอกสารและอำนวยความ สะดวก ลดขั้นตอน และเวลาในการจัดทำในเรื่อง วีซ่า Teaching License และ workpermit ให้กับครูต่างประเทศ 2.8 เป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับครูที่ขาดคุณสมบัติและความรับผิดชอบใน การเป็นครู (Blacklist) 3. ให้สื่อมวลชนเข้ามามีบทบาทในการสอนภาษาต่างประเทศ อาทิเช่น วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ 4. ควรมีการกำหนด SOP (Standard Operation Process) ในการบรรจุครู ของแต่ละประเทศซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ต่อ) 5. สามารถเทียบโอนความรู้ตามมาตรฐานที่กำหนดทุกระดับชั้น ทั้งในโรงเรียน 5 (1) และ โรงเรียน 15 (2) เช่น AFS และอื่น ๆ 6. ให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ในเรื่องของเงื่อนเวลาและข้อตกลงเกี่ยวกับ Foreign Agreement (โรงเรียนต่างชาติ) ************