1 / 38

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ..กับ..ภาคเกษตร …. : ความท้าทาย & โอกาส

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ..กับ..ภาคเกษตร …. : ความท้าทาย & โอกาส. รัชนี สนกนก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 24 มกราคม 2554. เค้าโครงบรรยาย. ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ โลกร้อน คืออะไร 2 . การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรอย่างไร 2.1 มีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

treva
Download Presentation

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ..กับ..ภาคเกษตร …. : ความท้าทาย & โอกาส

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ..กับ..ภาคเกษตร…. : ความท้าทาย & โอกาส รัชนี สนกนก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 24 มกราคม 2554

  2. เค้าโครงบรรยาย • ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ โลกร้อน คืออะไร 2.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรอย่างไร 2.1 มีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.2 มีศักยภาพในการกักเก็บและดูดซับก๊าซเรือนกระจก 2.3 ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 3. ประเด็นท้าทาย 4.โลกร้อน..วิกฤติหรือโอกาสภาคเกษตร 5. แนวทางการพัฒนาภาคเกษตร 2

  3. 1. ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ โลกร้อน คืออะไร 3 ที่มา: องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก นิยามศัพท์ • สภาพอากาศ (weather) หมายถึง สภาพอากาศเกิดขึ้นในระยะสั้น ตามฤดูกาล ที่เกิดในปัจจุบันหรือในอนาคตอันใกล้ เช่น การเกิดฝนตก ฝนแล้ง การคาดการณ์สภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นเรียกว่าการพยากรณ์อากาศ • ภูมิอากาศ (climate) หมายถึง หมายถึงค่าเฉลี่ยของปัจจัยภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน ในระยะยาวเป็นเวลา 30 ปีการคาดการณ์ภูมิอากาศในอนาคตทำได้โดยการสร้างภาพจำลองเหตุการณ์ภูมิอากาศ • การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climatechange) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆของภูมิอากาศที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์

  4. ....... ก๊าซเรือนกระจก : สาเหตุสำคัญของโลกร้อน 4 4

  5. 5 • ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญมี 5 ชนิด คือ 1. ก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน) การเผาขยะ เผาป่า 2. ก๊าซไนตรัสอ๊อกไซด์ กระบวนการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม การเผา เชื้อเพลิงฟอสซิล 3. ก๊าซมีเทน การย่อยสลายของขยะ ของเสียประเภทอินทรีย์ 4. ก๊าซโอโซน 5. ก๊าซคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน 5

  6. ก๊าซเรือนกระจกจากฝีมือมนุษย์ก๊าซเรือนกระจกจากฝีมือมนุษย์ 6

  7. ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก ปี 2548

  8. ประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตรประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร

  9. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของประเทศไทยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของประเทศไทย 9

  10. 2. การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเกี่ยวกับภาคเกษตรอย่างไร Climate Change ความสัมพันธ์ 3 มิติ มิติแรก: ภาคเกษตรมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมิติที่สอง: ภาคเกษตรเป็นแหล่งเก็บกักและดูดซับ ก๊าซเรือนกระจก มิติที่สาม: ภาคเกษตรได้รับผลกระทบโดยตรง Agriculture

  11. ภาคเกษตรมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตรมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก • ก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตร ที่สำคัญ คือ • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ : การเผาเศษซากพืชและอินทรียวัตถุในดิน • ก๊าซมีเทน : การย่อยสลายอินทรียวัตถุ การย่อยอาหารสัตว์ การหมักมูลสัตว์ และการทำนาข้าวน้ำขัง • ก๊าซไนตรัสอ๊อกไซด์ : การใช้ปุ๋ย การเผา เป็นต้น • สัดส่วนของก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร • : คาร์บอนไดออกไซด์= 9%: อายุ 120 ปี • : ไนตรัสออกไซด์ = 45% : GWP = 298 อายุ 120 ปี • มี เทน= 46% : GWP = 21 : อายุ 14.5 ปี

  12. ภาคเกษตรเป็นแหล่งเก็บกักและดูดซับก๊าซเรือนกระจก IPCC: ภาคเกษตรมีศักยภาพในการลดภายในปี 2030 ได้ 5.5-6 ล้านGt.CO2/ปี • 89 % ทำได้โดยการกักเก็บคาร์บอนในดิน ด้วยการการจัดการพื้นที่เกษตรอย่างเหมาะสม การฟื้นฟูอินทรียวัตถุในดิน • ศักยภาพในการลด 70% มาจากประเทศกำลังพัฒนา และอีก 30% มาจากประเทศพัฒนาแล้ว JGSEE: ศักยภาพในการลดของไทยจากภาคเกษตรและป่าไม้ 39 ล้านตันCO2ภายในปี 2030 และ 50 ล้านตันCO2ภายในปี 2050

  13. ภาคเกษตรได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความเสียหายจากภัยธรรมชาติของภาคเกษตร

  14. ความเสียหายจากภัยธรรมชาติของภาคเกษตร(ต่อ)ความเสียหายจากภัยธรรมชาติของภาคเกษตร(ต่อ)

  15. ความเสียหายจากภัยธรรมชาติของภาคเกษตร (ต่อ)

  16. 4. ประเด็นท้าทาย 4.1 ความไม่แน่นอนและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางการเกษตร

  17. 4. ประเด็นท้าทาย 4.1 ความไม่แน่นอนและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางการเกษตร

  18. 4.1 ความไม่แน่นอนและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรการเกษตร(ต่อ) ที่มา: FAO

  19. 4.1 ความไม่แน่นอนและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรการเกษตร (ต่อ)

  20. 4. ประเด็นท้าทาย (ต่อ) ปริมาณการผลิตและการบริโภคข้าวของโลก

  21. 4. ประเด็นท้าทาย (ต่อ) 4.2 ความมั่นคงทางอาหาร FAO (1996):ความมั่นคงทางอาหารเกิดขึ้นเมื่อคนสามารถเข้าถึงอาหาร ได้อย่างเพียงพอปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอสำหรับความต้องการสารอาหารและความชอบ FAO (2002): 4 องค์ประกอบสำคัญของความมั่นคงทางอาหาร : การมีปริมาณอาหารอย่างเพียงพอ ความสามารถในการเข้าถึงอาหาร (logistic and ecoomics)การใช้ประโยชน์จากอาหาร และความมีเสถียรภาพของระบบการผลิตการบริโภคอาหาร

  22. 4.2 ความมั่นคงทางอาหาร ดัชนีสะท้อนความมั่นคงทางอาหารของไทยที่สำคัญ ที่มา: FAO, the World Bank

  23. 4.2ความมั่นคงทางอาหาร (ต่อ) ความมั่นคงทางอาหาร (ความมั่นคงรายได้)

  24. 4.3 ความยืดหยุ่นในการปรับตัว • การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกของเกษตรกร เมื่อผลตอบแทนเปลี่ยนแปลง หรือเมื่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ผลการศึกษาเบื้องต้น เมื่อผลตอบแทนเปลี่ยนแปลง • พื้นที่ปลูกพืชขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากการปลูกพืชในปีก่อน และพื้นที่ปลูกในปีก่อน • พื้นที่เพาะปลูกข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพด มีความยืดหยุ่นน้อย • ถ้าผลตอบแทนต่อไร่เพิ่มขึ้น 1% พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพดจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.24 - 0.25% • ถ้าผลตอบแทนต่อไร่ของพืชอื่นที่ปลูกทดแทนกันได้เพิ่มขึ้น พื้นที่ปลูกจะลดลงไม่มาก ระหว่าง 0.01- 0.16% • พื้นที่ปลูกข้าวตอบสนองต่อผลตอบแทนในการปลูกข้าวค่อนข้างน้อย ความยืดหยุ่นแค่ 0.05% และ ไม่ตอบสนองต่อผลตอบแทนจากพืชไร่ตัวอื่น

  25. 4.4 ตัวแปรภูมิอากาศมีผลต่อผลผลิตต่อไร่ ผลการศึกษาเบื้องต้น • ตัวแปรภูมิอากาศมีผลต่อผลผลิตต่อไร่ของแต่พืชในลักษณะและขนาดที่ต่างกัน • ข้าว: อุณหภูมิกลางคืนเพิ่มขึ้น 1 องศาทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น 0.31% แต่ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิน 26 องศาจะทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง • มันสำปะหลัง: ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น 100 มม.ทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น 0.2% แต่หากปริมาณน้ำฝนมากกว่า 1263 มม. จะทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง (แต่ลดลงน้อยมาก) ภัยแล้งที่รุนแรงเช่นปี 2537 และ 2548 ทำให้ผลผลิตลดลงประมาณ 13%

  26. 4.4 การคาดการณ์ : ผลผลิตลด พื้นที่วิกฤติเพิ่ม • เกริก ปั้นเหน่งเพ็ชร และคณะ, 2552 • คาดการณ์ผลกระทบต่อข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด • ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น: อ้อย (6.25%) ข้าวนาน้ำฝน (8.7%) • ผลผลิตต่อไร่ลดลง : ข้าวชลประทาน (15.16%) • มันสำปะหลัง (43.9%) • จำนวนพื้นที่วิกฤติที่เร่งแก้ปัญหาเพิ่มขึ้น • ข้าว: 2 ล้านไร่จาก 45.7 ล้านไร่นาน้ำฝน • อ้อย: 1.2 ล้านไร่จาก 12.7 ล้านไร่ • มันสำปะหลัง : 4.27 ล้านไร่จาก 11.6 ล้านไร่ • ข้าวโพด: 0.37 ล้านไร่จาก 10.9 ล้านไร่ 26

  27. 4.5 ผลจากอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( United Nation Framework on Climate Change, UNFCCC) วัตถุประสงค์: เพื่อควบคุมความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่ไม่ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฝีมือมนุษย์ไปแทรกแซงระบบสภาพภูมิอากาศ การควบคุมระดับดังกล่าวต้องทำในช่วงเวลาที่เร็วพอที่จะทำให้ระบบนิเวศน์ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ตามธรรมชาติ และเพื่อไม่ให้การผลิตอาหารถูกคุกคาม และให้การพัฒนาเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน

  28. 4.5 ผลจากอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ UNFCCC ยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซจากภาคเกษตร แต่มีการประเมินศักยภาพในการลดการปล่อยทางเทคนิคและเชิงเศรษฐกิจแล้ว ประเทศภาคีผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางด้านวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีในการลดการปล่อย เป็นไปได้ว่าเมื่อได้เทคนิคที่เห็นพ้องว่าเหมาะสมแล้ว ในอนาคตก็อาจจะนำไปสู่การ(บังคับ) ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้น โดยการกำหนดมาตรฐานต่างๆ ผลกระทบของมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 28

  29. ผลกระทบของมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลกระทบของมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 29

  30. ผลกระทบของมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ต่อ) มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร (สรุปจาก Blandford, D. and Josling, T., 2009) • กำหนด Performance Standards • ให้แรงจูงใจในการทำ Best-Practice Measures • ให้เงินสนับสนุนในการผลิตและการใช้พลังงานจากแหล่งที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก • ภาษีคาร์บอน • Cap and Trade • การสนับสนุนในการทำวิจัยที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร

  31. 4. โลกร้อน..วิกฤติหรือโอกาสภาคเกษตร 4.1 เป็นแรงจูงใจ(ภาคบังคับ) ให้ปรับระบบการผลิต /การตลาด - เกษตรปลอดภัย / GAP/ เกษตรอินทรีย์ - ลดการใช้ปุ๋ยเคมี / ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ - ปรับระบบการจัดการน้ำ / การใช้พลังงานทดแทน - การจัดการวัสดุเหลือใช้ /ไถกลบตอซัง/มูลสัคว์ - การปลูกไม้ยืนต้น/ไม้โตเร็ว/เกษตรผสมผสาน/วนเกษตร ฯลฯ 3.2 โอกาสทางการตลาด ตลาดเกษตรอินทรีย์ ตลาดสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปรินต์ 31

  32. เกษตรอินทรีย์: ได้ประโยชน์ทั้งการลดการปล่อยและ การปรับตัว ประเด็น • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (IFOAM , 2009) • การเก็บกักคาร์บอนในดินของเกษตรอินทรีย์กับเกษตรแบบทั่วไป ต่างกันประมาณ 200 กก.– 2 ตัน CO2ต่อเฮกตาร์ต่อปี ขึ้นอยู่กับการจัดการดิน ชนิดดิน สภาพอากาศ • ถ้าเปลี่ยนระบบพื้นที่เกษตรทั้งหมดเป็นเกษตรอินทรีย์จะเก็บกักได้ประมาณ 2.4-15.5พันตันคาร์บอนต่อปี ทั้งจากการลดการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน ลดการเผา และลดการการไถพรวน • การปรับตัว • เกษตรอินทรีย์ป้องกันดินเสื่อม ปุ๋ยอินทรีย์ทำให้ดินมีสุขภาพดี ช่วยอุ้มน้ำ ลดผลกระทบจากภาวะฝนแล้งและความผันผวนของสภาพอากาศ • ต้นทุนส่วนเพิ่มค่อนข้างต่ำ ต้นทุนการให้ข้อมูล ความรู้

  33. เกษตรอินทรีย์: พื้นที่เกษตรอินทรีย์ปี 2551 ที่มา: FiBL & IFOAM

  34. เกษตรอินทรีย์: พื้นที่เกษตรอินทรีย์ของไทย

  35. ตลาดสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปรินต์ตลาดสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปรินต์ • ตลาดสินค้าในต่างประเทศที่มีนโยบายเรื่องการติดฉลากคาร์บอน • อังกฤษ: มีผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากคาร์บอนวางจำหน่ายมากกว่า 1,000 รายการ • ฝรั่งเศส:มีผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากคาร์บอนวางจำหน่ายมากกว่า 300 รายการ • เกาหลี: ได้มีการจัดเก็บฐานข้อมูล LCI (Life Cycle Inventory) ของประเทศ จำนวน 400 ชนิด ที่มา: บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์, นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7-10 มีนาคม2553 • ฉลากคาร์บอนในประเทศไทย: • องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้อนุมัติบริษัทขึ้นทะเบียน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2553) • คาร์บอนฟุตพริ้นท์ 22 บริษัท เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตร 11 บริษัทและ • ฉลากลดคาร์บอน 15 บริษัท เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตร 3 บริษัท

  36. ตลาดสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปริ้นต์ตลาดสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปริ้นต์ • ตัวอย่างสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนฟุตปริ้นต์ในประเทศไทย • ไก่ย่างเทอริยากิ ซีพี ขนาดบรรจุ 110 กรัม (302 กรัม) • เนื้อไก่สด ซีพี ขนาดบรรจุ 1,000 กรัม (2.90 กิโลกรัม) • เส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปน้ำใส มาม่า ขนาดบรรจุ 55 กรัม (375 กรัม) • น้ำสับปะรดเข้มข้น ทิปโก้ ขนาด 200 ลิตร (583 กิโลกรัม) • ข้าวหอมมะลิ 100 % หงส์ทอง ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม (2.29 กิโลกรัม) • แกงเขียวหวานทูน่า ตราซีเล็ค ขนาด 185 กรัม (521 กรัม) ที่มา: องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

  37. 4. ความท้ายทายในการจัดการ ทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดการตระหนักและการรับรู้ถึงปัญหาและความสำคัญของปัญหา จะเตรียมการอย่างไรให้มีความพร้อมของข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และตัดสินใจเชิงนโยบาย จะพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร / ชุมชน /องค์กรเอกชน และรัฐในการปรับตัวสร้างโอกาสให้กับภาคเกษตร อย่างไร

  38. แนวทางการพัฒนาภาคเกษตร การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การเงิน เทคโนโลยี

More Related