831 likes | 2.49k Views
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล. อ.ดร. ภญ. ราตรี สว่างจิตร. ขอบเขตการเรียน. ที่มา ความสำคัญ ความหมายการใช้ยาสมเหตุผล ขั้นตอนและกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ตัวอย่างการใช้ยาที่ไม่สมเหตุผล. ที่มาความสำคัญ. มีการใช้ยาไม่เหมาะสมมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา
E N D
การใช้ยาอย่างสมเหตุผลการใช้ยาอย่างสมเหตุผล อ.ดร.ภญ.ราตรี สว่างจิตร
ขอบเขตการเรียน • ที่มา ความสำคัญ • ความหมายการใช้ยาสมเหตุผล • ขั้นตอนและกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผล • ตัวอย่างการใช้ยาที่ไม่สมเหตุผล
ที่มาความสำคัญ • มีการใช้ยาไม่เหมาะสมมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา • ยาปฏิชีวนะ มีการสั่งใช้อย่างไม่สมเหตุผลในอัตราที่สูงมาก (ร้อยละ 41-91) • การใช้ยาอย่างไม่สมเหตุเกิดได้กับยาทุกกลุ่ม และกับผู้สั่งใช้ยาทุกระดับ • ผลเสีย • ทำให้มีการใช้ยาที่ไม่จำเป็น เพิ่มความเสี่ยงจากการใช้ยา • ทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาในวงกว้าง • สร้างความสิ้นเปลืองให้แก่ระบบประกันสุขภาพ และตัวผู้ป่วยเอง • กระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยไม่ช่วยแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยของผู้ป่วย
ความหมาย “การใช้ยาโดยมีข้อบ่งชี้ เป็นยาที่มีประสิทธิภาพจริง สนับสนุนด้วยหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ให้ประโยชน์กับผู้ป่วยมากกว่าความเสี่ยงจากการใช้ยาอย่างชัดเจน มีราคาเหมาะสม คุ้มค่าตามหลักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข เป็นการใช้ยาตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามแนวทางการพิจารณาการใช้ยา โดยใช้ยาในขนาดที่พอเหมาะกับผู้ป่วยในแต่ละกรณี ด้วยวิธีการให้ยาและความถี่ในการให้ยาที่ถูกต้องตามหลักเภสัชวิทยาคลินิก ด้วยระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยให้การยอมรับ และสามารถใช้ยาดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง กองทุนในระบบประกันสุขภาพหรือระบบสวัสดิการสามารถให้เบิกจ่ายค่ายานั้นได้อย่างยั่งยืนไม่เลือกปฏิบัติ”
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 1. ข้อบ่งชี้ (Indication) • ใช้ยาเมื่อมีความจำเป็น (เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ) ตัวอย่าง • การให้ยาลดไขมันในผู้ป่วยที่ไขมันในเลือดสูงและมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ • การใช้ยา ABO ในผู้ป่วยที่เป็นหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย • การให้ยาคลายกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ • เวียนหัว ท้องผูก ง่วงซึม ปากแห้ง ความจำเสื่อม
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 2. ประสิทธิผล (Efficacy) • ยานั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างแท้จริง • ดูกลไกการออกฤทธิ์ • ยาคลายกล้ามเนื้อ ใช้ในโรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง ไม่ใช่ใช้ในโรคที่มีการอักเสบของกล้ามเนื้อ เช่น RA, OA • มีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนเพียงพอ • พาราเซตามอล ใช้แก้ปวดลดไข้ • กลูโคซามีน ใช้ลดภาวะข้อเสื่อม ยังมีข้อขัดแย้ง • ประโยชน์แตกต่างจากยาหลอกและมีความหมายทางคลินิก • ยาลดบวม ผลไม่ต่างจากยาหลอก • ใช้ยา bromhexineลดเสมหะได้ 4 ml (ผู้ป่วยแยกความต่างไม่ได้)
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 3. ความเสี่ยง (Risk) • คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก • ประโยชน์มากกว่าโทษ • ยาลดไขมันในผู้ป่วยไขมันสูง หรือผู้ป่วยเบาหวานที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ • การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ (Orphenadrine) ในผู้สูงอายุ • ไม่มีข้อห้ามในผู้ป่วย • การใช้ Atorvastatin พาราเซตามอล ในคนที่เป็นโรคตับ • การใช้แอสไพรินในเด็กต่ำกว่า 12 ปี
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 4. ค่าใช้จ่าย (Cost) • ใช้ยาอย่างพอเพียงและคุ้มค่า • การใช้ยาตามชื่อสามัญ (พาราเซตามอล กับ ไทลินอล) • การใช้ยาต้นแบบที่ผลิตจากต่างประเทศ • ยากลุ่มยับยั้ง COX-II กับ NSAIDs
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 5. องค์ประกอบอื่น ๆ ที่จำเป็น (Other considerations) • รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง รับผิดชอบและใช้ยาอย่างเป็นขั้นตอนตามมาตรฐานทางวิชาการ • ไม่ใช้ยาซ้ำซ้อน: Norgesicกับพาราเซตามอล • ไม่ใช้ยาพร่ำเพรื่อ: ยาปฏิชีวนะ • ใช้ยาตามแนวทางการรักษา • ใช้พาราเป็นยาตัวแรกในการรักษาเข่าเสื่อมอาการเล็กน้อย
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 6. ขนาดยา (Dose) • ใช้ยาถูกขนาด ไม่น้อยหรือมากเกินไป ไม่ปรับยาเอง 7. วิธีให้ยา (Method of administration) • ใช้ยาถูกวิธี • ยาก่อนอาหาร กินตอนท้องว่าง • หลีกเลี่ยงการใช้ยาฉีดโดยไม่จำเป็น • หลังพ่นยาสเตียรอยด์ควรบ้วนปาก • ยาหยอดจมูกแก้คัดจมูกไม่ควรใช้เกิน 3 วัน
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 8. ความถี่ในการให้ยา • ใช้ยาด้วยความถี่ที่เหมาะสม • Amoxicillin ใช้วันละ 2-3 ครั้ง (ไม่ควรใช้ 4 ครั้ง) • Cloxacillin ใช้วันละ 4 ครั้ง 9. ระยะเวลาในการให้ยา (Duration of treatment) • ใช้ยาในระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม ไม่นานหรือสั้นเกินไป • การใช้ยารักษาแผลในกระเพาะควรใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ • การใช้ยารักษาสิวใช้ต่อเนื่อง 6-8 สัปดาห์
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่างกรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง 10. ความสะดวก (Patient compliance) • ใช้ยาโดยคำนึงถึงความสะดวกและการยอมรับของผู้ป่วย • อธิบายหรือให้ข้อมูลให้ผู้ป่วยเข้าใจ • Tretinoinชนิดทาทำให้ระคายเคือง สิวเห่อในสัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงแสงแดด • เลือกยาที่ใช้สะดวก เช่น กินวันละ 1-2 ครั้งมากกว่ากินวันล 3-4 ครั้ง • มีการตรวจสอบความเข้าใจและติดตามผลการใช้ยาทุกครั้ง
ตัวอย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมที่พบบ่อยตัวอย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมที่พบบ่อย • ยาระบาย นำมาใช้เป็นยาลดความอ้วน • ไม่มีข้อบ่งใช้ ไม่มีหลักฐานทางิชาการสนับสนุน กลไกการออกฤทธิ์ไม่สนับสนุน • พาราเซตามอล • ปกติกินวันละไม่เกิน 4 กรัม กินติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน หลีกเลี่ยงการใช้ในคนที่เป็น G-6PD ผู้ที่ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ • ปัญหาที่เจอ: • กินติดต่อกันทุกวัน มีการกินยาในคนที่ดื่มสุรา • กินยาเกินขนาด
ตัวอย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมที่พบบ่อยตัวอย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมที่พบบ่อย • ไม่สบายต้องฉีดยาจึงจะหาย • การหยุดยาเอง หรือปรับยาเอง • การกินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ • ท้องเสีย เจ็บคอ • การฉีดยาให้ผิวขาว • กลูตา • วิตามินซี