E N D
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยมาช้านานมีถนนตัดเลียบหาดเคียงคู่ไปกับทิวมะพร้าวถัดเข้าไปมีร้านอาหารร้านขายของที่ระลึกและที่พักเรียงรายอยู่จำนวนมากนักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งพักผ่อนชมทิวทัศน์ทะเลกันบนเก้าอี้ผ้าใบบนชายหาดพร้อมมีบริการห่วงยางให้เช่าว่ายน้ำมีเรือบานาน่าโบ๊ตจักรยานให้เช่าและห้องอาบน้ำจืดทุกวันหยุดหาดบางแสนจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นชายหาดขนาดใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯมากที่สุดจึงสามารถเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับได้บางแสนเริ่มเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 จนถูกขนานนามว่า “บางแสนดินแดนสุขี”มีผู้เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากจนครั้งหนึ่งบางแสนเคยทรุดโทรม บางแสน
ผิดกับปัจจุบันที่ได้รับการดูแลจัดระเบียบอย่างดีจึงกลายเป็นชายหาดที่สะอาดน่าเที่ยวในทุกฤดูกาลโดยหาดบางแสนนี้มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 4.5 กิโลเมตรแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือหาดบางแสนเป็นช่วงกลางของหาดและเป็นจุดที่นิยมลงเล่นน้ำกันถัดมาคือแหลมแท่นเป็นช่วงเหนือสุดของหาดมีโขดหินสวยงามลงเล่นน้ำไม่ได้และส่วนสุดท้ายคือหาดวอนนภาเป็นชายหาดตอนใต้บรรยากาศเงียบสงบมีหมู่บ้านประมงพื้นถิ่นเล็กๆ กระจายอยู่ห่างๆ กัน ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตรที่ตำบลแสนสุขแยกขวาจากถนนสุขุมวิทตรงหลัก กม. 104 เข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงควบคู่กับหาดบางแสนเป็นทั้งที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นจุดชมวิบนยอดเขาสูงที่มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปเล่นน้ำที่หาดบางแสนก่อนกลับบ้านมักจะแวะเที่ยวที่นี่เช่นกันอีกทั้งยังเป็นบริเวณที่มีร้านอาหารทะเลอร่อยๆอยู่หลายร้านศาลเจ้าแม่สามมุขเป็นศาลเจ้าจีนที่ตั้งอยู่ภายใต้หลืบผาหินบริเวณเชิงเขาสามมุขด้านทิศเหนือหันหน้าออกสู่ทะเลโดยย้ายมาจากบริเวณด้านตะวันตกของเขาสามมุขศาลแห่งนี้มักมีผู้คนแวะมากราบไหว้ขอพรและบนบานกันอยู่เสมอโดยผู้ที่ได้รับผลสำเร็จตามคำขอจะแก้บนโดยการจุดประทัดและซื้อสร้อยมุขมาถวายแด่รูปปั้นเจ้าแม่นับเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกงและไต้หวันนิยมปฎิบัติกันมาก ชั้นบนของสารเจ้าแม่สามมุขเป็นวิหารพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ให้สักการะบริเวณหน้าวิหารมีระเบียงชมวิวทะเลด้วย จุดเด่นอีกอย่าง คือฝูงลิงป่าที่อาศัยอยู่บนเขาหินลูกนี้มาแต่เดิมพวกมันมักจะออกมา เขาสามมุข
อวดโฉมเพื่อขออาหารกันอยู่ตลอดวันลิงป่าที่นี่มีจำนวนนับพัน ตัวและบางตัวค่อนข้างดุจึงต้องระวังด้านความปลอดภัยด้วย ที่ตั้ง : อยู่บริเวณแหลมสามมุขจากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตรพบป้ายบอกทางไปเขาสามมุขเลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตรจนถึงศาลเจ้าแม่สามมุขหรือถ้ามาจากหาดบางแสนใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่นจะมีป้ายบอกทางไปตลอดห่างจากหาดบางแสนราวๆ 2 กิโลเมตรการเดินทาง : เขาสามมุขไม่มีรถสองแถวผ่านจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักหรือไม่ต้องเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่งแล้วรอรับกลับก็ได้เวลาทำการ : เขาสามมุขเป็นพื้นที่สาธารณะจึงผ่านไปชมได้ตลอดเวลาแต่กลางคืนค่อนข้างเปลี่ยวนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนและกราบไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุขในเวลากลางวันจนถึงเวลาประมาณ 18.00 น.
เขาสามมุขและศาลเจ้าแม่สามมุขเขาสามมุขและศาลเจ้าแม่สามมุข
"ถนนคนเดินบางแสน" หรือ "Bangsaen Walking Street"ตลาดนัดยามเย็น ริมทะเล กับบรรยากาศผ่อนคลาย สบายๆ เดินช้อปกับสินค้าแฟชั่น งานแฮนด์เมด อาหารหลากหลาย สนุกกับกิจกรรมต่างๆมากมาย โดยทาง ถนนคนเดินบางแสน(Bangsaen Walking Street) เปิดกว้างให้โอกาสกับผู้กล้าที่พร้อมโชว์ความสามารถอีกทั้งคอนเสิร์ตเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย หลากหลายสไตล์ สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างบรรยากาศครึกครื้น หากวันหยุดนี้ คุณยังไม่มีเป้าหมายที่ตรงใจคุณ ถนนคนเดินบางแสน(Bangsaen Walking Street) เราขอเสนอเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้คุณ เดินทางมายังบางแสนดินแดนแสนสุข พร้อมกับการพักผ่อนเดินเล่นริมทะเล แวะช๊อปกับสินค้าหลากหลายเอาใจผู้หลงใหลเสียงดนตรีกับคอนเสิร์ตเหล่าศิลปินชื่อดัง และเปิดให้โอกาสกับผู้กล้าที่พร้อมโชว์ความสามารถ ถนนคนเดินบางแสน
ถนนคนเดินบางแสน(Bangsaen Walking Street)
สถานที่นี้อยู่บริเวณหาดบางแสนเลยมาทางเขาสามมุขเป็นสถานที่สวยงาม เป็นแหลมที่ยื่นออกไปไม่มากนัก บริเวณนี้มักจะมีผู้คนมาตกปลากันมาก มีปติมากรรมรูปปลาโลมาสวยงามมาก ในช่วงเย็นๆ ก็จะมีผู้คนจากที่ต่างๆ ในจังหวัดและที่อื่นมาพักผ่อนกันมากมาย มีร้านขายอาหารแต่จะมากก็ช่วงวันศุกร์-เสาร์ อาหารก็มีตั้งแต่ ส้มตำ อาหารทะเล เครื่องดื่มชนิดต่างๆ ในปัจจุบันนี้ต่างจากเมื่อก่อนมาก มีการจัดแต่งได้สวยงาม มีการดูแลความสะอาดที่ดี ที่สำคัญ อย่าลืมถ่ายรูปคู่กับหินก้อนใหญ่เพราะเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ และเป็นจุดชมวิวที่ดีทีเดียว ท่านสามารถมองจากที่นี่ไปที่เขาสามมุขได้โดยจะเห็นเขาทั้งลูก ส่วนทางด้านหาดบางแสนก็จะสามารถมองเห็นแนวหาดบางแสนเป็นแนวยาวสุดตา แหลมแท่น
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีแล้วโดยเฉพาะมีตู้กระจกขนาดใหญ่ที่เรียกว่าอะควาเรียมเลี้ยงปลาทะเลและสิ่งมีชีวิตหลากชนิดหลากสีไว้ให้ชมสถาบันแห่งนี้มีเนื้อที่ราว 30 ไร่ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเลสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มไว้จัดแสดงและห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล (ส่วนนี้ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม) อะควาเรียมหรือตู้กระจกแสดงสัตว์น้ำของที่นี่อยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารโดยมีเส้นทางเป็นวงรอบไม่ย้อนกลับทางเดิมจัดไว้ให้ชมปัจจุบันมีตู้กระจกอยู่มากถึง 43 ตู้ตั้งแต่ตู้ขนาดเล็กบรรจุน้ำ 500 ลิตรไปถึงขนาดมหึมาบรรจุน้ำ 2 แสนลิตรโดยจัดแสดงเริ่มตั้งแต่สัตว์ชายฝั่งทะเลไปจนถึงสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังและเขตทะเลลึก สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา
อาทิเต่าทะเลฉลามปลาการ์ตูนดอกไม้ทะเลปลานกแก้วปลาผีเสื้อปลากะรังปลาข้างเหลืองม้าน้ำปลาสิงโตปลาปักเป้าปลาไหลทะเลกุ้งพยาบาลปูชนิดต่างๆปลาดาวกระเบนหอยเม่นฯลฯนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการมาเป็นครอบครัวเพื่อร่วมกันเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ปัจจุบันด้านหลังสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลกำลังมีการจัดสร้างอาคาร “โครงการโลกใต้ทะเล”โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดคาดว่าจะเปิดให้เข้าชมได้ในปลายปี พ.ศ. 2522 นี้และน่าจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของโลกใต้ทะเลที่สำคัญอีก แห่งหนึ่งของไทยในอนาคต
ที่ตั้ง : เลขที่ 169 ถนนลงหาดบางแสนตำบลแสนสุขอำเภอเมืองชลบุรีตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าของมหาวิทยาลัยบูรพาก่อนถึงหาดบางแสน 1 กิโลเมตรและห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 12 กิโลเมตรการเดินทาง : ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นรถประจำทางสายชลบุรี-บางแสน-หนองมนจากนั้นลงต่อรถสองแถวเข้าหาดบางแสนแล้วลงที่ด้านหน้าของมหาวิทยาลัยบูรพาเวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ปิดเพียงวันเดียวคือวันจันทร์ส่วนวันหยุดราชการเปิดถึง 17.00 น.สาธิตดำน้ำให้อาหารปลามีรอบเวลา 14.30 น.วันหยุดเพิ่มรอบ 10.30 น.ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 บาทเด็ก 10 บาทนักเรียนและนักศึกษาในเครื่องแบบ 5 บาท
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพาสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา
รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิทเข้าสู่เมืองชลบุรี 3 เส้นทางหลัก ได้แก่เส้นทางสายบางนา - ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรีเส้นทางสายกรุงเทพฯ - มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 ซึ่งจะผ่านทางฉะเชิงเทรา,บางปะกงและเข้าชลบุรีเส้นทางสายเก่าถนนสุขุมวิททางหลวงหมายเลข 3 ผ่านสมุทรปราการ ถึงแยกอำเภอบางปะกงจึงใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าชลบุรี รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) มีรถออกตลอดวัน แต่รถจากกรุงเทพฯ คันสุดท้ายจะออกตอน 4 ทุ่ม หลังจากนั้นต้องรอเช้ามืดและสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ (โทร. 0 2936 2852-66) วันต่อไปเลย รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการรถไฟไปจังหวัดชลบุรีทุกวัน วันละ 1 เที่ยว รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 0 223 7010, 0 223 7020 การเดินทาง