250 likes | 840 Views
บทที่ 5 ทฤษฎีการผลิต. การศึกษาด้านอุปทาน ทฤษฏี การผลิต (บทที่ 5) ต้นทุนการผลิต (บทที่ 6) รายรับจากการผลิต (บทที่ 6). การผลิต (Production). การผลิต : กระบวนการหรือกิจกรรมใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงหรือแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นสินค้าและบริการ
E N D
บทที่ 5 ทฤษฎีการผลิต • การศึกษาด้านอุปทาน • ทฤษฏีการผลิต (บทที่ 5) • ต้นทุนการผลิต(บทที่ 6) • รายรับจากการผลิต(บทที่ 6)
การผลิต (Production) • การผลิต : กระบวนการหรือกิจกรรมใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงหรือแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นสินค้าและบริการ • สินค้าและบริการที่ผลิตได้ถือเป็นเศรษฐทรัพย์ • เป้าหมายของผู้ผลิต คือ กำไรสูงสุด (Maximize Profit)
ประสิทธิภาพในการผลิต • ประสิทธิภาพทางเทคนิค (Technical Efficiency) : วิธีการผลิตที่ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยที่สุด โดยให้ผลผลิตเท่ากับวิธีอื่น • ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ (Economic Efficiency) : วิธีการผลิตที่เสียต้นทุนต่ำสุด โดยให้ผลผลิตเท่ากัน เป็นการนำราคา ปัจจัยการผลิตมาพิจารณาด้วย
การผลิตแบ่งออกเป็น 2 ระยะ • ระยะสั้น (Short Run) : ช่วงเวลาที่จะต้องมีปัจจัยคงที่อย่างน้อยหนึ่งปัจจัย ดังนั้นการที่จะผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นในระยะสั้นทำได้โดยการเพิ่มปัจจัยแปรผัน • ระยะยาว (Long Run) : ช่วงระยะเวลาที่ไม่มีปัจจัยใดคงที่ ปัจจัยการผลิตทุกชนิดสามารถเปลี่ยนแปลงได้
การวิเคราะห์การผลิตในระยะสั้นการวิเคราะห์การผลิตในระยะสั้น • ปัจจัยการผลิตในระยะสั้น ปัจจัยคงที่ (eg. land, capital) ปัจจัยแปรผัน (eg. labor, raw material) • ฟังก์ชั่นการผลิต การแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการผลิตต่างๆ และจำนวนผลผลิต เมื่อกำหนดเทคนิคการผลิตให้ Total Product (TP) = f (a1, a2, a3) = f (ปัจจัยคงที่, ปัจจัยแปรผัน)
ความหมายและความสัมพันธ์ระหว่างผลผลิตแบบต่างๆความหมายและความสัมพันธ์ระหว่างผลผลิตแบบต่างๆ • ผลผลิตรวม (Total Product : TP) : ผลผลิตทั้งหมดที่ผู้ผลิตได้รับ จากการใช้ปัจจัยการผลิตแบบแปรผันร่วมกับปัจจัยคงที่ • ผลผลิตเพิ่ม (Marginal Produc : MP) : จำนวนผลผลิตที่เพิ่มขึ้น เมื่อใช้ปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้น 1 หน่วย MP = TP / L, MPn = TPn – TPn-1 • ผลผลิตเฉลี่ย (Average Product :) : ผลผลิตทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยปัจจัยแปรผัน AP = TP / L
ความสัมพันธ์ระหว่าง TP , MP และ AP
ความสัมพันธ์ระหว่าง TP , MP และ AP(continued) • TP & MP : Max TP, MP = 0 • AP & MP : • AP increase, when MP > AP • AP decrease, when MP < AP
กฏการลดน้อยถอยลงของผลผลิตเพิ่ม(Law of Diminishing Marginal Physical Returns) • ถ้ามีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งคงที่แล้ว การเพิ่มปัจจัยแปรผันขึ้นเรื่อย จะก่อให้เกิดการลดน้อยถอยลงของผลผลิตหน่วยสุดท้ายในที่สุด และผลผลิตหน่วยสุดท้ายอาจจะลดลงเท่ากับศูนย์หรือต่ำกว่าศูนย์ก็ได้
การแบ่งช่วงของการผลิต(Stage of Production)
ทฤษฎีการผลิตระยะยาว • การวิเคราะห์การผลิตระยะยาว ทำได้โดยใช้เครื่องมือ - เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Line) - เส้นต้นทุนเท่ากัน (Isocost Line) • กฏผลได้ต่อขนาด (Law of return to scale) • การประหยัดและไม่ประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of scale and Diseconomies of scale)
เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Line) • เส้นที่แสดงการใช้ปัจจัยการผลิต 2 ชนิดในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งให้ผลผลิตเท่ากัน
อัตราการใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน(Marginal Rate of Technical Substitution : MRTS) • จำนวนปัจจัยการผลิตชนิดหนึ่งที่ลดลงโดยที่ปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้น 1 หน่วย เพื่อให้ได้ผลผลิตจำนวนเท่าเดิม MRTSLK = - K / L : slope of IQ การใช้ปัจจัยการผลิต L เพิ่มขึ้น โดยลดปัจจัยการผลิต K ลง MRTSKL = - L / K การใช้ปัจจัยการผลิต K เพิ่มขึ้น โดยลดปัจจัยการผลิต L ลง
กฎการลดน้อยถอยลงของอัตราการใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน กฎการลดน้อยถอยลงของอัตราการใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน • ค่า MRTS ของปัจจัยการผลิต 2 ชนิดจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อใช้ปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้น และปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่งลดลง
เส้นต้นทุนเท่ากัน (Isocost Line) • เส้นที่แสดงส่วนผสมของปัจจัยการผลิต 2 ชนิดที่แตกต่างกันที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินทุนจำนวนเดียวกัน ปัจจัย K เส้นต้นทุนเท่ากัน slope = - PL / PK 10 4 0 5 12 ปัจจัย L
การเปลี่ยนแปลงของเส้นต้นทุนเท่ากันการเปลี่ยนแปลงของเส้นต้นทุนเท่ากัน • เส้นต้นทุนเท่ากันเปลี่ยนแปลงได้ 2 กรณี คือ • ราคาปัจจัยการผลิตเปลี่ยน รูป ก • งบประมาณการผลิตเปลี่ยน รูป ข ปัจจัย K ปัจจัย K 0 ปัจจัย L 0 รูป ก ปัจจัย L รูป ข
ดุลยภาพการผลิต ปัจจัย K ที่จุด E ค่าความชันของ Isocost = ค่าความชัน Isoquant E K1 = - PL / PK ปัจจัย L 0 L1 การใช้ส่วนผสมของปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม • เงื่อนไขการผลิตที่เหมาะสมกำหนดจากจุดที่เส้นผลผลิตเท่ากันสัมผัสกับเส้นต้นทุนเท่ากัน โดย ณ จุดสัมผัส ค่าความชันของเส้น Isoquant และเส้น Isocost จะมีค่าเท่ากัน
เส้นแนวทางขยายการผลิต(The Expansion Path) • เส้นที่แสดงส่วนผสมของปัจจัยการผลิตที่เสียต้นทุนต่ำสุด
กฎว่าด้วยผลได้ต่อขนาด(Law of Return to Scale) • Increasing Return to Scale : ผลได้ต่อขนาดเพิ่มขึ้นเนื่องจากการประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale) : division of labor, specialization, internal/external economies • Constant Return to Scale : ผลได้ต่อขนาดคงที่ • Decreasing Return to Scale : ผลได้ต่อขนาดลดลง เนื่องจากการไม่ประหยัด (Diseconomies of scale):internal/ external diseconomies