1 / 11

ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ภูมิปัญญาท้องถิ่น. ลพบุรี. จัดทำโดย. 1.ด.ญ.ชิดชนก บุษยะกนิษฐ์ ม.1/1 เลขที่ 22. 2.ด.ญ.ณัฐจิรา สีโน ม.1/1 เลขที่ 27. เสนอ. อ.ฐิตาพร ดวงเกตุ. พระนารายณ์มหาราช.

Download Presentation

ภูมิปัญญาท้องถิ่น

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลพบุรี จัดทำโดย 1.ด.ญ.ชิดชนก บุษยะกนิษฐ์ ม.1/1 เลขที่ 22 2.ด.ญ.ณัฐจิรา สีโน ม.1/1 เลขที่ 27 เสนอ อ.ฐิตาพร ดวงเกตุ

  2. พระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททองและพระนางศิริธิดา ต่อมาภายหลังถูกยกเป็นพระราชเทวี ซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างมารดาของพระเจ้าปราสาททองเสด็จพระ-บรมราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. 2175 และมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาคือ สมเด็จเจ้า-ฟ้าศรีสุวรรณ กรมหลวงโยธาทิพ หรือพระราชกัลยาณี[พระนมอยู่พระองค์หนึ่ง คือ เจ้าแม่วัดดุสิต ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของพระเจ้าปราสาททองเช่นกัน

  3. พระปรางค์สามยอด ตั้งอยู่บนเนินดินด้านตะวันตกของทางรถไฟ   ใกล้กับศาลพระกาฬ มีลักษณะเป็นปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมติดต่อกัน พระปรางค์สามยอดเป็นศิลปะเขมรแบบบายน ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 สร้างด้วยศิลาแลง และตกแต่งลวดลายปูนปั้นที่สวยงามเสาประดับกรอบประตูแกะสลักเป็นรูปฤาษีนั่งชันเข่าในซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งเป็นแบบเฉพาะของเสาประดับกรอบประตูศิลปะเขมรแบบบายน ปรางค์องค์กลางมีฐาน แต่เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและมีเพดานไม้เขียนลวดลายเป็นดอกจันสีแดง

  4. วังนารายณ์ราชนิเวศ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ 8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมพ.ศ. 2232 ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนารายณ์ราชนิเวศน์ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราชนิเวศน์“

  5. บ้านวิชาเยนทร์ ตั้งอยู่ทางเหนือของวังนารายณ์ราชนิเวศน์ และวัดเสาธงทอง ทางตะวันตกใกล้กับวัดปืน ที่มีกรุพระหูยาน และทางตะวันออกใกล้กับเทวสถานปรางค์แขก บ้านหลวงรับราชทูตแบ่งได้ 3 ส่วน ด้านตะวันออกเป็นบ้านพักของคณะทูตชาวฝรั่งเศส ส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้า ภรรยา ส่วนกลางเป็นที่ตั้งของโบสถ์ของคริสต์ศาสนาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Renaissenceผสมสถาปัตยกรรมไทย แห่งแรกของไทย และของโลก

  6. ตึกพระเจ้าเหา ตึกหลังนี้แสดงให้เห็นลักษณะสถาปัตยกรรม ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ชัดเจนมาก ประตูหน้าต่างทำซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์ผนังด้านสกัดสูงยันอกไก่ ตรงจั่วเจาะเป็นช่องโค้งมี กำแพงแก้วเจาะเป็นช่องสำหรับวางตะเกียงล้อมรอบตึก ด้วยเหตุว่าภายในตึกมีฐานชุกชีปรากฏให้เห็นอยู่และ บันทึกชาวฝรั่งเศสระบุว่าเป็นวัด เพราะฉะนั้นตึกหลังนี้สันนิษฐานว่าเป็นหอพระประจำพระราชวัง เป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ชื่อว่า "พระเจ้าเหา" หรือ "พระเจ้าหาว" (หาว = ท้องฟ้า - ภาษาไทยโบราณ) ตึกหลังนี้ สันนิษฐานว่าสมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงใช้เป็นที่ประชุมขุนนาง และในตอนปลายรัชกาลขุนหลวง- สรศักดิ์ใช้ตึกนี้เป็นที่ชุมนุมขุนนางและทหาร เพื่อแย่งชิงราชสมบัติในขณะที่พระองค์ทรงพระประชวรหนัก 

  7. เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) (กรีก: Κωνσταντίνος Γεράκης โคนสตันตินอส เกราคิส, อังกฤษ: Constantine Phaulkon) เป็นนักผจญภัยชาวกรีก ผู้กลายมาเป็นสมุหนายกในรัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา นอกจากภาษากรีก ซึ่งเป็นภาษาแม่แล้ว ฟอลคอนยังสามารถพูดภาษาต่างๆมากมาย ได้แก่ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาโปรตุเกส และ ภาษามลายู

  8. ศาลพระกาฬ  สร้างด้วยศิลาแลงเรียงซ้อนกันเป็นฐานสูง แต่ก่อนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ศาลสูง" ทับหลัง ซึ่งทำด้วยศิลาทรายสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 สมัยขอมเรืองอำนาจ วางอยู่ติดฝาผนังวิหารหลังเล็กชั้นบน ณ ที่นี้ได้พบหลักศิลาจารึกแปดเหลี่ยมจารึกอักษรมอญโบราณพ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนรากฐานเดิมที่สร้างไว้ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในวิหารประดิษฐานพระนารายณ์ประทับยืน ซึ่งเดิมพระกร และพระเศียร หายไป แต่ต่อมามีผู้นำพระเศียร ของพระสมัยอู่ทอง และพระกรมาต่อ ตามตำนานกล่าวว่า ที่พระกรหายไปทั้งหมดเพราะ พระกาฬไปรับลูกระเบิด พระกรจึงขาดหายไปหมด

  9. ปรางค์แขก เทวสถานปรางค์แขก (ภาษาปากนิยมเรียก ปรางค์แขก) เป็นโบราณสถานอยู่ในเขตตำบลท่าหินอำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี ปัจจุบันตั้งอยู่บนเกาะกลางถนนบริเวณแยกถนนวิชาเยนทร์กับถนนสุระสงคราม ถือเป็นปราสาทขอมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ในยุคปัจจุบันนักวิชาการบางท่านได้สันนิษฐานว่าปรางค์แขกถูกสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 15บ้างก็ว่าสร้างตั้งแต่ช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 ถือเป็นปราสาทขอมที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี

  10. ดินสอพอง ดินสอพอง หรือ มาร์ล หรือ มาร์ลสโตน มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต หรือโคลนหรือหินโคลนที่อุดมไปด้วยเนื้อปูนที่มีองค์ประกอบที่แปรผันของแร่เคลย์และอาราโกไนต์ มาร์ลเป็นคำโบราณที่ถูกนำมาใช้เรียกวัตถุที่หลากหลายโดยส่วนใหญ่เป็นวัตถุเนื้อหลวมๆของดินที่มีองค์ประกอบหลักของเนื้อผสมระหว่างดินเคลย์และแคลเซี่ยมคาร์บอเนตเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดแวดล้อมที่เป็นน้ำจืดเป็นวัตถุเนื้อดินประกอบด้วยแร่เคลย์ร้อยละ 65 และคาร์บอเนตร้อยละ 65-35 [1] คำเรียกที่ใช้ในปัจจุบันหมายถึงตะกอนที่ตกสะสมตัวในทะเลและในทะเลสาบที่แข็งตัวซึ่งเพื่อให้ถูกต้องแล้วต้องเรียกว่ามาร์ลสโตน มาร์ลสโตนเป็นหินที่แข็งตัวมีองค์ประกอบเดียวกันกับมาร์ลที่อาจเรียกว่าหินปูนเนื้อดิน มาร์ลมีการแตกแบบกึ่งก้นหอยและมีแนวแตกถี่ได้น้อยกว่าหินดินดาน คำว่า “มาร์ล” เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกกันอย่างกว้างขวางในทางธรณีวิทยา ขณะที่คำว่า “เมอร์เจิล” และ “ซีเกรด” (ภาษาเยอรมันเรียกว่า “ซีชอล์ค”) ถูกใช้เรียกกันในยุโรป

  11. ปลาส้มฟัก ปลาส้มฟัก เป็นภาษาท้องถิ่นของคนไทยพวน หมายถึง การถนอมอาหารโดยการทำปลาให้เปรี้ยว เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แหนมปลา มีปริมาณโปรตีนจากเนื้อปลาสูง มีเกลือแร่ และสมุนไพรจากกระเทียม

More Related