340 likes | 618 Views
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของ ลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) กลุ่มวิชาชีพ. สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2554. หนังสือที่ สธ.0201.034 /ว.101 ลว. 7 เมย.54 และ ว.142 ลว.24 พค.54. ถือปฏิบัติตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป.
E N D
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของ ลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) กลุ่มวิชาชีพ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2554 หนังสือที่ สธ.0201.034 /ว.101 ลว. 7 เมย.54 และ ว.142 ลว.24 พค.54
ถือปฏิบัติตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป
วัตถุประสงค์ • เพื่อใช้เป็นเครื่องมือให้ ผบ. ในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน และนำผลการประเมินเพื่อประกอบการพิจารณา • 1. ปรับค่าจ้างและค่าตอบแทนอื่นๆ • 2.การพัฒนาและการแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติงาน • 3. การให้ออกจากราชการ • 4.การบริหารงานบุคคลอื่นๆ
การพิจารณาผลการปฏิบัติราชการการพิจารณาผลการปฏิบัติราชการ • 1. ผลสัมฤทธิ์ของงาน ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 • -ปริมาณผลงาน • -คุณภาพผลงาน • -ความรวดเร็วหรือความตรงต่อเวลา • -การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า • 2. พฤติกรรมการปฏิบัติงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 • -การมุ่งผลสัมฤทธิ์ • -การบริการที่ดี • -การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ • -การยึดมั่นในความถูกต้อง ชอบธรรม จริยธรรม • -การทำงานเป็นทีม
องค์ประกอบผล สัมฤทธิ์ของงาน ผลลัพธ์ หรือ ผลผลิต ที่ควรทำได้ ( what ) • ประเมินด้วยตัวชี้วัด • และค่าเป้าหมายที่ตก • ลงไว้ ประเมินโดยอ้างอิง นิยามสมรรถนะ ที่สะท้อนพฤติกรรมที่มุ่งหวัง องค์ประกอบ พฤติกรรม ทำอย่างไรจึงทำให้เกิด ผลลัพธ์ หรือ ผลงาน (how)
รอบการประเมิน ปีละ 2 รอบ • รอบที่ 1 : 1 ตุลาคม - 31 มีนาคม ของปีถัดไป • รอบที่ 2 : 1 เมษายน - 30 กันยายน
กำหนดให้มีการกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ ของงานที่ชัดเจน ระหว่าง • ผู้ประเมินและผู้รับการประเมิน • เช่น - ผลงานที่กำหนดในการมอบหมายงาน หรือ แผนงานโครงการ • - ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย • - ผลผลิต หรือผลลัพธ์ ที่คาดหวัง จากการปฏิบัติงาน • และตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน
9. เมื่อเสร็จสิ้นการประเมินผลการปฏิบัติงานให้ผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นผู้ประเมินแจ้ง ผลการประเมินให้ลูกจ้างชั่วคราวดังกล่าว ได้รับทราบและให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อแก้ไข ปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น
ให้หัวหน้าหน่วยบริการแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการประเมินผลการปฏิบัติงาน ซึ่งมีองค์ประกอบดังนี้ (1) หัวหน้าหน่วยบริการ เป็นประธาน (2) หัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย เป็นกรรมการ (3) ผู้ปฏิบัติงานด้านงานบุคคล เป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการกลั่นกรองการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีหน้าที่ในการกลั่นกรอง การประเมินผลการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมจากการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้ประเมินก่อน ที่จะเสนอผลการประเมินต่อหัวหน้าหน่วยบริการ
10. ลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) ผู้ใด ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ประเมินผลการปฏิบัติงานแล้วมีค่าเฉลี่ย ของผลการประเมินติดต่อกัน 2 ครั้ง ต่ำกว่าระดับดี ให้ผู้บังคับบัญชาทำความเห็นเสนอ ผู้มีอำนาจสั่งจ้างเพื่อพิจารณาเลิกจ้างต่อไป พร้อมกับแจ้งให้ ลูกจ้างชั่วคราวดังกล่าวทราบภาย ในเจ็ดวันนับตั้งแต่วันทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน
11. กรณีที่จะมีการจ้างงานต่อเนื่องในลักษณะงานเดิมหรือลักษณะงานใหม่ ให้นำผลการประเมินการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณา โดยผู้ได้รับการพิจารณาให้จ้างงานต่อเนื่องได้ จะต้องมีผลการประเมินการปฏิบัติงานโดยเฉลี่ย 2 ครั้ง ไม่ต่ำกว่าระดับดี ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาทำความเห็นเสนอผู้มีอำนาจจ้างพิจารณาสั่งจ้างต่อไป
หลักเกณฑ์และวิธีการปรับขั้นค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวหลักเกณฑ์และวิธีการปรับขั้นค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว เงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) กลุ่มวิชาชีพ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2554
ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการปรับขั้นค่าจ้างให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการปรับขั้นค่าจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) กลุ่มวิชาชีพ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป บริหารลูกจ้าง
ให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ได้รับมอบหมายประเมินผลให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ได้รับมอบหมายประเมินผล การปฏิบัติงานบนพื้นฐานของผลสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ ของงานเป็นหลัก เพื่อใช้ในการประเมินปรับขั้นค่าจ้างไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง ตามแบบประเมินที่กำหนด
การปรับขั้นค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) ให้ปรับปีละ 1 ครั้งคือวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี เฉพาะกรณีที่เป็นการจ้างงานที่มีลักษณะต่อเนื่อง โดยหน่วยบริการจัดทำเป็นคำสั่งจ้างและกำหนดอัตราค่าจ้าง ตามผลการประเมินการปฏิบัติงานในข้อ 3 สำหรับบัญชีโครงสร้างค่าจ้างให้เป็นไปตามที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด กรณีที่หน่วยบริการกำหนดต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างท้ายบัญชีนี้
การปรับขั้นค่าจ้างตามหลักเกณฑ์นี้ให้คำนวณการปรับขั้นค่าจ้างตามหลักเกณฑ์นี้ให้คำนวณ เป็นอัตราร้อยละจากฐานค่าจ้างเดิมก่อน การปรับขั้นค่าจ้างในปีนั้น แต่ไม่เกินร้อยละ 6 และให้ปรับได้ไม่เกินขั้นสูงของอัตราค่าจ้างที่ กำหนด
ลูกจ้างชั่วคราวอาจได้รับการพิจารณาปรับขั้นค่าจ้างเป็นพิเศษ โดยผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาผลการประเมินการปฏิบัติงานตามข้อ 3 แล้ว เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับดีเด่นหรือดีมากอาจได้รับการปรับค่าจ้างเป็นพิเศษ ในอัตราร้อยละ 3 - 6ทั้งนี้ ผู้ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงาน ในระดับดีเด่นหรือดีมาก ต้องมีสัดส่วนได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนลูกจ้างชั่วคราว ที่มีอยู่ณ วันที่ 1 กันยายน
ในกรณีนี้ หน่วยบริการอาจกำหนดวงเงินเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม แต่ไม่เกินร้อยละ 4
ลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการพิจารณาปรับขั้นค่าจ้างในรอบปีที่แล้วมาต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังนี้ลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการพิจารณาปรับขั้นค่าจ้างในรอบปีที่แล้วมาต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังนี้ (1) ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตนด้วยความสามารถและอุตสาหะ จนเกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ทางราชการ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาผลการประเมินการปฏิบัติงานตามข้อ 3 แล้ว เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับดี (2) ต้องไม่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยหรือถูกศาลพิพากษาในคดีอาญาให้ลงโทษในความผิด จนถึงวันออกคำสั่งจ้าง(1 ตุลาคม) (3) ต้องไม่ขาดราชการโดยไม่มีเหตุอันควร (4) ต้องไม่ลาหรือมาทำงานสายเกินจำนวนครั้งที่หน่วยงานกำหนด โดยคำนึงถึงลักษณะงานและสภาพท้องที่อันเป็นที่ตั้งของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งอนุโลมตามที่ถือปฏิบัติกับข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือพนักงานราชการในตำแหน่งที่มีลักษณะเช่นเดียวกันก็ได้
(5) ต้องมีเวลาปฏิบัติงานครบ 12 เดือน โดยมีวันลาไม่เกิน 30 วันทำการ(ลาป่วยและลากิจส่วนตัว) แต่ไม่รวมถึงการลาดังต่อไปนี้ (ก) ลาคลอดบุตรไม่เกิน 90 วัน (ข) ลาพักผ่อน (ค) ลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหารเข้ารับการระดมพล หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม ปีหนึ่งไม่เกิน 60 วัน (6) กรณีได้รับการจ้างงานใหม่ ต้องมีเวลาปฏิบัติราชการดังนี้ (6.1) มีเวลาปฏิบัติราชการในปีที่แล้วมาไม่น้อยกว่า 8 เดือน (6.2) ได้รับการจ้างงานในวันที่ 2 หรือวันเปิดทำการแรกของเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากวันที่ 1 หรือวันถัดไปของเดือนดังกล่าวตรงกับวันหยุดราชการ
ลูกจ้างชั่วคราวอาจได้รับการพิจารณาปรับขั้นค่าจ้างเป็นพิเศษ โดยผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาผลการประเมินการปฏิบัติงานตามข้อ 3 แล้ว เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับดีเด่นหรือดีมากอาจได้รับการปรับค่าจ้างเป็นพิเศษในอัตราร้อยละ 3 - 6ทั้งนี้ ผู้ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับดีเด่นหรือดีมาก ต้องมีสัดส่วนได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนลูกจ้างชั่วคราวที่มีอยู่ณ วันที่ 1 กันยายน และต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ประการใดประการหนึ่ง ดังนี้ (1) ปฏิบัติงานตามหน้าที่ได้ผลดีเด่นหรือดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันก่อให้เกิดประโยชน์และผลดียิ่งต่อทางราชการ จนถือเป็นตัวอย่างที่ดีได้ (2) ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเริ่มในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเป็นพิเศษ
(3) ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่มีสถานการณ์ตรากตรำเสียงอันตรายมากหรือมีการต่อสู้ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของชีวิตเป็นพิเศษ (4) ปฏิบัติงานที่มีภาระหน้าที่หนักเกินกว่าความรับผิดชอบของตำแหน่งจนเกิดประโยชน์ต่อทางราชการเป็นพิเศษ และปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ของตนเป็นผลดีด้วย (5) ปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ด้วยความตรากตรำ เหน็ดเหนื่อย ยากลำบากเป็นพิเศษและงานนั้นได้ผลดียิ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและสังคม
ในกรณีที่มีการคำนวณเพื่อปรับขั้นค่าจ้าง หากคำนวณแล้วมีเศษไม่ถึงห้าบาทให้ปรับเพิ่มเป็นห้าบาท
บัญชีค่าจ้างขั้นต่ำ – ขั้นสูง ลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มวิชาชีพ
บัญชีค่าจ้างขั้นต่ำ – ขั้นสูง ลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มวิชาชีพ (ต่อ) หมายเหตุสายงานที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพจะได้รับเพิ่มเงิน พตส. ตามระเบียบ ที่ กพ.กำหนด
บัญชีค่าจ้างขั้นต่ำ – ขั้นสูง ลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มวิชาชีพ (ต่อ) หมายเหตุสายงานที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพจะได้รับเพิ่มเงิน พตส. ตามระเบียบ ที่ กพ.กำหนด
บัญชีค่าจ้างขั้นต่ำ – ขั้นสูง ลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มวิชาชีพ (ต่อ) หมายเหตุสายงานที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพจะได้รับเพิ่มเงิน พตส. ตามระเบียบ ที่ กพ.กำหนด
บัญชีค่าจ้างขั้นต่ำ – ขั้นสูง ลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มวิชาชีพ (ต่อ) หมายเหตุสายงานที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพจะได้รับเพิ่มเงิน พตส. ตามระเบียบ ที่ กพ.กำหนด
ขอบคุณ สวัสดี