1 / 22

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

S.N.P. NEWS. ข่าวสารฉบับที่ 141. S.N.P. GROUP OF COMPANIES. CLICK HERE. Free. www.snp.co.th Tel.0-2333-1199 ( 12 Line ). 1. CEO Articles. Global News. 2. 3. Supply & Demand. ทัศนา นานาท่าเรือ. 4. 5. All about Logistics. 6. SNP Joke. 7. New Promotion.

ayasha
Download Presentation

S.N.P. GROUP OF COMPANIES

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. S.N.P. NEWS ข่าวสารฉบับที่ 141 S.N.P. GROUP OF COMPANIES CLICK HERE Free

  2. www.snp.co.thTel.0-2333-1199 ( 12 Line ) 1 CEO Articles Global News 2 3 Supply & Demand ทัศนา นานาท่าเรือ 4 5 All about Logistics 6 SNP Joke 7 New Promotion Logistics Specialist and International Freight Forwarder

  3. CEO Articles ด่วนพิเศษ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับคำสั่งจากผู้ประกอบการรายหนึ่งให้ไปนำสินค้าจากต่างประเทศมาส่งให้ในประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไข DDU (Delivery Duty Unpaid) ซึ่งเป็นสินค้าได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามข้อตกลง AFTA (Asean Free Trade Agreement) อันหมายถึง สินค้ามีสิทธิ์ได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าของประเทศไทย ขณะที่เอเย่นต์ต่างประเทศของผมกำลังติดต่อประสานงาน ปรากฎว่าโรงงานผลิตสินค้าล่าช้า ต้องการปกปิด และต้องการเอาใจผู้นำเข้า จึงตัดสินใจรีบส่งสินค้าผ่านบริการส่งพัสดุย่อยระหว่างประเทศ (Courier) โดยสำแดงราคาต่ำมากเพื่อให้ผู้นำเข้าชำระภาษีถูกลงเพราะไม่อยากเสียเวลาทำใบรับรองเมืองกำเนิดมารับสิทธิยกเว้นภาษี AFTA ข้างต้น เมื่อสินค้ามาถึง ผู้นำเข้าประสงค์ชำระภาษีให้ถูกต้อง ไม่อยากถูกตรวจสอบย้อนหลังเพราะหลักฐานการชำระเงินค่าสินค้ามันชัดและฟ้องอยู่ จึงปรึกษาผม เมื่อผมแนะนำให้นำใบกำกับสินค้า (Invoice) ฉบับถูกต้องไปให้ผู้ให้บริการส่งพัสดุย่อยดำเนินการ ปรากฎว่า ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากระบบงานเดินหน้าไปแล้ว และฝืนชำระภาษีในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง นำสินค้ามาส่งให้ผู้นำเข้าโดยไม่สนใจใด ๆ เมื่อผู้นำเข้าได้รับสินค้า กลับพบว่าสินค้าครึ่งหนึ่งไม่ตรงสเป็ก จึงไม่ได้ใช้ประโยชน์ และต้องส่งคืน จึงตัดสินใจให้ผมช่วยเหลือ แต่ปัญหาได้เกิดทันทีและมหาศาลดังนี้ครับ อ่านต่อหน้า 2

  4. 1. การชำระภาษีอากรขาด ได้กลายเป็นความผิดสำเร็จไปแล้วตามมาตรา 27 และ 99 โดยผู้นำเข้าหนีไม่พ้นความผิด ต้องยื่นเรื่องต่อฝ่ายคดี กรมศุลกากร เพื่อขอผ่อนผันค่าปรับและแสดงตนเป็นพลเมืองดีขอชำระภาษีอากรที่ขาดให้ครบก่อนถูกตรวจพบที่รูปคดีต่างกัน 2. จากประสบการณ์ของผม ส่วนใหญ่ฝ่ายคดีจะผ่อนผันค่าปรับให้ในฐานพลเมืองดี จากนั้น จึงค่อยส่งสินค้าที่ไม่ตรงสเป็ก กลับออกไปตามมาตรา 19 ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ของนั้นมิได้ใช้ประโยชน์ใด ๆ ระหว่างอยู่ในประเทศ สำแดงราคาสินค้าจริงที่ถูกต้อง และขอคืนภาษีที่ชำระเดิมและชำระใหม่ในส่วนของสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพและส่งกลับ 3. ขณะขอคืนภาษีตามมาตรา 19 ต้องสำแดงตัวเลขที่ประสงค์ขอคืนตามใบเสร็จรับเงินค่าภาษี 2 ฉบับ และดำเนินการพิสูจน์ ประเด็นสำคัญที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เนื่องจาก ผู้นำเข้ากลัวว่าขบวนการทั้งหมดนี้ จะทำให้ผู้นำเข้าถูกปรับทั้งที่ทำตัวเป็นพลเมืองดีประการที่หนึ่ง และอีกประการหนึ่ง ผู้นำเข้ากลัวว่าไม่ได้ภาษีคืนภายหลังการส่งกลับออกไปตามมาตรา 19 ท่านผู้ประกอบการอ่านเรื่องนี้แล้ว ถ้าท่านต้องอยู่ในสภาพผู้นำเข้ารายนี้ ท่านจะรู้สึกแบบนี้ไหมครับ และท่านจะตัดสินใจอย่างไรต่อไปครับ สาเหตุเกิดเพียงผู้ให้บริการส่งพัสดุย่อยระหว่างประเทศไม่ยอมเปลี่ยนพิธีการที่ส่งไปแล้วเท่านั้น และผมเองก็ต้องเข้ารับภาระมิให้มีค่าปรับเกิดขึ้นและเป็นนายประกันแทนกรมศุลกากรเพื่อให้ผู้นำเข้ามั่นใจว่า จะได้รับภาษีคืนทั้งนี้สาเหตุผมมิได้ก่อแต่อย่างใด สิทธิชัย ชวรางกูร กลับสู่หน้าหลัก

  5. Global News สิ่งทอไทยอ่วมปัจจัยลบรุมล้อม นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยกำลังเผชิญผลกระทบ 2 ด้าน คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาฝ้ายปรับเพิ่มขึ้นเท่าตัวสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวชะลอการรับคำสั่งซื้อหรือออเดอร์จากระยะยาวเป็นระยะสั้น และหันไปใช้เส้นใยสังเคราะห์มากขึ้น ทั้งนี้ สถาบันสิ่งทอยังมั่นใจว่าการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยจะมีการขยายตัวตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 7,487 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ 224,000 ล้านบาทขยายตัวที่ระดับ 15.2% เนื่องจากมีออเดอร์สินค้าไว้ล่วงหน้า เพียงแต่การส่งมอบสินค้าให้เหมาะสมและไม่สร้างภาระทางด้านรายได้โดยช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ที่ผ่านมามีการขยายตัว 17% คิดเป็นมูลค่า 4,256 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 127,000 ล้านบาท สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือราคาฝ้ายที่เป็นวัตถุดิบสำคัญมีราคาสูงเท่าตัวจาก 6 เดือนก่อนมีราคาอยู่ที่ 50 เซนต์/ปอนด์ แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 1 เหรียญสหรัฐฯ/ปอนด์ และอาจเจอกับปัญหาขาดแคลน ผลจากราคาฝ้ายที่ปรับสูงขึ้นเท่าตัวทำให้ผู้ประกอบการลำบาก โดยเฉพาะโรงทอและโรงปั่นด้ายเพราะปรับราคาสินค้าไม่ได้ เมื่อเจอกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าและภาครัฐก็ยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาดูแลที่ชัดเจนอีก โดยลูกค้าชะลอสั่งออเดอร์ไปขณะที่ผู้ประกอบการก็ปรับตัวโดยรับออเดอร์ระยะสั้นลง จาก 6 เดือนเหลือ 3 เดือน. ไทยรัฐออนไลน์ อ่านต่อหน้า 2

  6. ศุลกากรเพิ่มมาตรฐานส่งออก ดึงผู้ประกอบการเข้าโครงการร่วม AEO นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดี กรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตนารมณ์ (Letter of Intent) ในการนำมาตรฐานองค์การศุลกากรโลก(World Customs Organization: WCO)มาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อกระตุ้นให้ศุลกากรและภาคเอกชนตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน เพื่อลดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของประเทศคู่ค้า และนำไปสู่การอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ กรมศุลกากรจึงตั้งคณะทำงานจัดทำโครงการผู้ประกอบการทางเศรษฐกิจที่ได้รับอนุญาต(Authorized Economic Operators หรือAEO Program)ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 4 ปี (พ.ศ.2551-พ.ศ.2554) เพื่อกำหนดรูปแบบ AEO และเตรียมความพร้อมในการนำ AEO มาใช้ในงานศุลกากร โดยได้เชิญผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและสนใจเข้าร่วมโครงการนำร่อง เพื่อสอบถามความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับสถานภาพเป็น AEO หมายถึง ผู้ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ตัวแทนออกของ ฯลฯ ที่เข้ามาร่วมมือกันด้วยความสมัครใจ เพื่อรับรองและปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ศุลกากรกำหนดขึ้นภายใต้กรอบแนวทาง WCO โดยผลของการปฏิบัติเช่นนั้น ผู้ประกอบการจะได้รับการรับรองจากศุลกากร และจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ศุลกากรกำหนด รวมถึงสิทธิประโยชน์อันจะมีในอนาคต ภายหลังจากการตกลงแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ด้านศุลกากรระหว่างประเทศ อ่านต่อหน้า 3

  7. บทบาทของศุลกากรในปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะการจัดเก็บรายได้จากภาษีสินค้านำเข้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีบทบาทในการป้องกันการนำเข้าสินค้าที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย สุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม และตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้า รวมทั้งพัฒนาการจัดการความเสี่ยง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างศุลกากรกับภาคธุรกิจด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับกฎระเบียบการเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง อันจะส่งผลให้สินค้าไทยได้รับความสะดวกในการขนส่ง เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและจะทำให้การค้าระหว่างกันขยายตัวเพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไป ดังนั้นกรมศุลกากรจึงมีความจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรจากหน่วยงานภายในและภายนอกกรมศุลกากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ เพื่อร่วมมือกันพัฒนาโครงการ AEO ให้สมบูรณ์ เป็นมาตรฐานในระดับสากล อ่านต่อหน้า 4

  8. สรรพสามิตเปิด Single Window นำเข้าสุรา ยาสูบ ไพ่ ณ จุดเดียว นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย กระทรวงการคลังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยงานจัดเก็บภาษี ผ่านระบบ Single Window  เพื่อให้บริการนำเข้าสุรา ยาสูบ ไพ่ ณ จุดเดียวโดยกรมสรรพสามิตได้พัฒนาระบบ Back-end-integration เชื่อมโยงกับระบบ National Single Window ของกรมศุลกากรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการขอใบอนุญาตนำเข้า สุรา ยาสูบและ ไพ่ ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอใบอนุญาตนำเข้าสุรา ยาสูบ ไพ่ได้ที่หน่วยงานของกรมสรรพสามิตเพียงแห่งเดียว หลังจากนั้นข้อมูลใบอนุญาตจะถูกส่งไปยังศุลกากรผ่านทางระบบ National Single Window เพื่อรอให้ผู้ประกอบการดำเนินการจัดทำใบขนสินค้า จัดทำพิธีการทางศุลกากรผ่านระบบ e-Customs  ของกรมศุลกากร เสร็จแล้วศุลกากรจะส่งข้อมูลกลับไปยังกรมสรรพสามิต เพื่อนัดหมายกับผู้ประกอบการให้ไปดำเนินการออกของ ณ คลังสินค้าต่อไป การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาระบบ National Single Window  ในประเทศไทยอีกทั้งยังส่งเสริม สนับสนุน รวมถึงช่วยผลักดันให้ระบบ  National Single Window  ของประเทศไทย มุ่งสู่การเชื่อมโยงในระดับอาเซียนเป็น  Asean Single Window  ได้อย่างเต็มรูปแบบต่อไป นอกจากนี้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์การนำเข้า – ส่งออก สินค้าที่อยู่ในความควบคุม และกำกับดูแลของทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อนำไปพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับผู้นำเข้า ผู้ส่งออกในการขอยกเว้น / คืนภาษีช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน่วยงานจัดเก็บภาษีในด้านงานบริการมากยิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการบริหารการจัดเก็บภาษี ของหน่วยจัดเก็บภาษี อ่านต่อหน้า 5

  9. สบน.ฉวย"บาทแข็ง" เร่งใช้หนี้นอก ขายพันธบัตรหมื่นล.อายุ50ปี ดึงต่างชาติลงทุนยาว นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลดีต่อการชำระหนี้คืนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ โดยเชื่อว่าทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ โดยหากเห็นว่าการชำระคืนหนี้ในช่วงนี้ช่วยลดภาระเงินต้นในการซื้อเงินตราต่างประเทศได้ถูกลง และช่วยลดภาระดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้ สบน.กำลังจัดทำแผนการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ 2554 ที่จะเริ่มเดือนตุลาคม ซึ่งจะครอบคลุมทั้งหนี้ในประเทศและหนี้ต่างประเทศ ภายใต้งบประมาณที่ได้รับจัดสรรมา 8 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนหนี้ในประเทศ ประมาณ 90% ส่วนอีก 10% หรือประมาณ 8 พันล้านบาท อาจนำมาบริหารจัดการลดหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศลงในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ล่าสุดมีประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท โดยเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท โดยมองว่าหนี้สกุลยูโรที่มีจำนวน 41 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาการชำระหนี้เหลือตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป น่าจะสามารถจ่ายหนี้ก่อนกำหนดได้ ส่วนหนี้สกุลเงินดอลลาร์ ประมาณ 226 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7 พันล้านบาท พบว่ามีปัญหาขั้นตอนทางราชการที่ไม่สามารถทำได้เร็ว ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างจะอ่อนไหว และมีแนวโน้มที่เงินบาทจะอ่อนค่าลงได้ในเร็วๆ นี้ หากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปดูแลเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกจึงยังไม่ควรเร่งจ่ายคืนหนี้ก่อนกำหนด อ่านต่อหน้า 6

  10. นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จากกระแสเงินทุนไหลเข้ามายังตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่องเป็นมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ทำให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง กระทรวงการคลังจึงเตรียมออกตราสารทางเงิน 3 ประเภท เพื่อดูดซับสภาพคล่องและเงินทุนให้เข้าถือตราสารในระยะยาวมากขึ้น คือ 1.พันธบัตรรัฐบาลอายุ 50 ปี คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสแรกของงบประมาณปี 2554 โดยเบื้องต้นกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 4.25 แต่คงจะออกจำหน่ายไม่มากนัก ประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท เพื่อทดลองตลาดไปก่อน 2.พันธบัตรอิงกับอัตราเงินเฟ้อ มีอายุประมาณ 10 ปี จะมีการสอบถามนักลงทุนว่ามีความสนใจอย่างไรบ้าง 3.ตั๋วสัญญาใช้เงิน (พี/เอ็น) ดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว 12-20 ปี จะดำเนินการเพื่อแปลงหนี้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งนำมาใช้ในโครงการไทยเข้มแข็ง ทั้งหมดเป็นการใช้นโยบายการคลังช่วยดูแลเงินทุนไหลเข้าในช่วงนี้ มติชนออนไลน์ กลับสู่หน้าหลัก

  11. Supply & Demand กล้วยไม้ไทย.. ไม่กล้วยในตลาดโลก สวัสดีค่ะท่านผู้ประกอบการ พบกันอีกแล้วนะคะสำหรับคอลัมน์ Supply&Demand สำหรับสัปดาห์นี้เรามาดูเรื่องของตลาดกล้วยไม้ไทยในต่างประเทศกันบ้างค่ะ ในทุกๆปี (โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์) ประเทศไทยจะมีการนำเข้าดอกไม้จากประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นจำนวนมาก ดอกไม้ที่นิยมนำเข้ามามากที่สุดก็ไม่พ้นดอกกุหลาบพันธ์ก้านยาวและดอกทิวลิปในขณะเดียวกันดอกไม้จากไทยก็เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ดอกกล้วยไม้" ประเทศไทยส่งออกกล้วยไม้พันธุ์เมืองร้อนเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยที่กล้วยไม้จากไทยเป็นที่นิยมเนื่องจากสีสันที่สดใสมีความหลากหลายทั้งพันธุ์และกลิ่น ดอกกล้วยไม้ที่นำเข้าจากไทยเมื่อไปขายอยู่ตามตลาดของประเทศต่างๆในยุโรปจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจนเกือบ 200% ไทยส่งออกกล้วยไม้ไปตลาดญี่ปุ่นอันดับ 1 มาตลอด สัดส่วนส่งออกตลาดญี่ปุ่น อันดับ 1 ทั้งการส่งออกดอกกล้วยไม้และต้นกล้วยไม้ ซึ่งตลาดญี่ปุ่น กล้วยไม้ไทยต้องแข่งกับสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน และนิวซีแลนด์ รวมทั้งยังต้องแข่งกับไม้ตัดดอกประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะดอกเบญจมาศจากเนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ดอกกุหลาบและลิลลี่จากอินเดีย เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม กล้วยไม้ไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่น ที่นิยมดอกไม้ต่างถิ่นที่มีความ อ่านต่อหน้า 2

  12. สวยงามแปลกแตกต่างออกไป (Exotic Beauty) ไทยนับว่าครองตลาดไม้ตัดดอกนำเข้าอันดับ 2 รองจากเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบัน ความต้องการไม้ตัดดอกในญี่ปุ่นอยู่ในเกณฑ์สูง เฉลี่ย มูลค่าตลาดไม้ตัดดอกในญี่ปุ่น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ศูนย์ส่งเสริมไม้ดอกญี่ปุ่น (The Japanese Flower Promotion Centre)ทำการสำรวจแล้วว่าความต้องการไม้ตัดดอกของญี่ปุ่น ยังคงขยายตัวอีกเกือบเท่าตัว เป็นผลจากในญี่ปุ่น มีหลากหลายเทศกาล ที่ให้ของขวัญ เช่น วันแม่ ช่วงเดือนแห่งการแต่งงาน พฤษภาคม มิถุนายน และธันวาคม เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ (The Prayer Month of Obon) ช่วงกรกฎาคม เป็นต้น รวมทั้งใช้ไม้ตัดดอกในชีวิตประจำวัน ทำให้ความต้องการไม้ตัดดอกเพิ่มขึ้น จากเดิมต้องการไม้ตัดดอกเฉพาะบางโอกาส หรือบางสถานที่ เช่น โรงแรม จัดงานปาร์ตี้ เป็นต้น ทำให้ตลาดไม้ตัดดอกของญี่ปุ่น เป็นที่สนใจของประเทศผู้ส่งออกไม้ตัดดอกทั่วโลก หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องการส่งออกกล้วยไม้ไปยังญี่ปุ่นสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมายังทีมข่าว SNP ได้เลยค่ะ เพนกวิ้นตัวกลม กลับสู่หน้าหลัก

  13. ทัศนา นานาท่าเรือ ไปชม Port Klang ที่ Malaysia กับ โย่ง ยิงยาว สวัสดีครับ ท่านผู้ประกอบการทุกท่าน เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนาเชิงวิชาการที่ Imperial Queens Park จัดโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หัวข้อเรื่อง "รู้ทันเปิดโลกโลจิสติกส์ในอาเซียน" ซึ่งมีผู้บรรยายหลายท่านจากประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เอง ได้แก่ ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งหลายๆคนคงได้ยินมาว่า "เวียดนามกำลังจะแซงบ้านเราแล้ว" ซึ่งพอได้ฟังบรรยายแล้วนั้น ก็พบว่าจริงๆ แล้วความพร้อมในเรื่องของระบบคมนาคม และการออกกฎหมายขนส่งที่ เวียดนามนับว่ายังไม่ถึงจุดที่ดีพอเมื่อเทียบกับบ้านเมืองเรา หรือแม้แต่ทางลาว ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นหลายๆด้าน ในการที่จะเปิดตลาดผ่านแดนทั้งในทางไทย กัมพูชา และทางเวียดนาม ยิงยาวไปจนถึงการเปิดตลาดในจีนทางตอนใต้ ฝั่งยูนนาน กวางสี ไปจนถึงกวางเจาเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ติดใจผมคือ การบรรยายของทางวิทยากรจากมาเลเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาแล้ว (ไปไกลแล้วกว่าบ้านเราอีก) ในหลายๆด้าน ซึ่งจากมุมมองและ ความคิด บวกกับข้อเสนอของวิทยากรท่านนี้มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องพาท่านผู้ประกอบการไปชมที่ Port Klang ของ Malaysia กันครับ อ่านต่อหน้า 2

  14. Port Klang ตั้งอยู่บนเมือง Klang ห่างจากเมืองหลวง Kuala Lumpur ประมาณ 38 กิโลเมตร ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ อุตสาหกรรมหลักของท่าเรือนี้ในอดีตค่อนข้างจะโด่งดังในเรื่องของกาแฟครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกาแฟของ Port Klang ดูจะอ่อนรสชาติลงไปหรืออย่างไร ทำให้ความโดดเด่นโอนเอนเป็นเรื่องของ อุตสาหกรรมยางไปครับ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของ สินค้าจำพวกสารกำจัดแมลง และสัปปะรดกระป๋องอีกด้วยที่เข้ามาเป็นตัวชูโรง ในอดีตกาลนั้น ในสมัยยุคล่าอาณานิคมโดยชาวโปรตุเกส และอังกฤษ และก่อนที่จะโด่งดังในเรื่องของกาแฟ ท่าเรือนี้คือท่าเรือสำคัญในการผลิตและส่งออกดีบุกครับ ซึ่งในสมัยนั้นดีบุกเป็นเเร่ที่ต้องการมากทางฝั่งตะวันตก ผ่านมาจนถึงยุคต้น ศตวรรษที่ 19 ท่าเรือดังกล่าวถูกพบว่ามีความลึกของพื้นทะเลซึ่งเหมาะสมยิ่งนัก ที่จะทำให้เป็นท่าเรือน้ำลึกเป็นเรื่องเป็นราวบวกกับการเข้ามาถึงของรถไฟลำเลียงสินค้า ก็ยิ่งทำให้การพัฒนานั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นครับ เนื่องจากอยู่ใกล้กับ Klang Valley ซึ่งเป็นย่านที่มีประชากรชาวมาเลเซียอยู่กันค่อนข้างมาก และยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งด้วย ในปี 1993 รัฐบาลเลือก Port Klang ให้เป็นท่าเรือนานาชาติ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีความเพียบพร้อมและด้วยมาตรฐานระดับโลกเลยก็ว่าได้ Port Klang มีการติดต่อค้าขายกับประเทศอื่นๆ กว่า 120 ประเทศ และ 500 ท่าเรือทั่วโลก และจากที่ได้รับการบรรยาย และภาพประกอบจากท่านวิทยากรจาก Malaysia ก็ยิ่งเน้นย้ำให้เชื่อได้เลยว่า Malaysia และ Port Klang นั้น กำลังเติบโตไปในทิศทางที่องศาสูงทีเดียว ซึ่งจากเดิมเคยรองรับ Container อยู่ที่ 3.6 ล้าน TEU แต่ปี 2010 นี้ได้ตั้งเป้าไว้ว่าศักยภาพของท่าเรือจะต้องรองรับได้ถึง 8.4 ล้าน TEU ทีเดียว (คิดเป็น 3 เท่าได้เลยล่ะ) และด้วยทำเลชัยภูมิที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับทาง Singapore ในอีกไม่นาน Singapore เองก็คงต้องร้อนๆ หนาวๆ เหมือนกัน กับการก้าวขึ้นมาของ Port Klang TIPS: Port Klang เป็นท่าเรือ และเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย : มีประชากรประมาณ 631,000 คน : ชื่อเดิมของ Port ชื่อ Port Swettenham : ประชาชนส่วนใหญ่นับถือ ศาสนา อิสลาม โย่ง ยิงยาว กลับสู่หน้าหลัก

  15. All about Logistics งานแสดงสินค้า ความเสี่ยงที่น่าลงทุน ในฉบับที่แล้ว ผู้เขียนได้เขียนถึงเรื่อง Shanghai World Expo 2010 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับโลก ฉบับนี้ผู้เขียนก็ยังติดลม อยากจะมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับ งานแสดงสินค้างานอื่นๆที่หลายๆประเทศจัดกันอย่างครึกโครมตลอดช่วงปีดูบ้าง จะเห็นได้ว่า 10-20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ มีงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติเกิดขึ้นกันอย่างมากมาย ทั้งที่แต่ก่อนมีการจัดกันอยู่เพียงไม่กี่ประเทศ และไม่กี่ประเภท แต่ปัจจุบัน ได้แตกหน่อออกสาขากันแทบจะครบทุกผลิตภัณฑ์และกระจายพื้นที่การจัดงานจนเกือบครบทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว ในขณะที่ประเทศไทยประกาศเจตนารมย์อย่างชัดแจ้งว่าต้องการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Expo ในอีก 10 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งฉายให้นานาชาติเห็นถึงความพร้อมของไทยในการจัดงานแสดงสินค้าชนิดต่างๆนั้น ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการด้านธุรกิจส่งออกก็ยังคงต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนการนำสินค้าไปงานแสดงที่ประเทศต่างๆ ด้วยเช่นกัน การนำสินค้าไปแสดงยังงานแสดงต่างประเทศนั้น จะมากจะน้อย ย่อมมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกครั้ง อีกทั้งการนำสินค้าไปแสดงในงานต่างๆนั้น ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าเจ้าของสินค้า จะได้คุ้มกับเสียหรือไม่ ปะเหมาะเคราะห์ร้าย หากวางแผนการส่งสินค้าไม่ดี อาจทำให้สินค้าส่งไปไม่ทันตามที่ผู้จัดงานกำหนด สินค้านั้นก็ถือว่าส่งไปสูญเปล่าแถมยัง ต้องจ่ายเงินนำของกลับมาอีก เรียกว่ามีแต่เสียกับเสียอย่างเดียวจริงๆ อ่านต่อหน้า 2

  16. ดังนั้น กระบวนการโลจิสติกส์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก การวางแผนที่ดี และรัดกุม เท่ากับว่าเจ้าของสินค้ามีชัยไปกว่าครึ่ง ข้อพึงระวังหลักๆ ในการส่งสินค้าไปงานแสดงนานาชาติก็คือ "เงื่อนไขเวลา" ท่านผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงเส้นตายที่ทางผู้จัดงานกำหนดให้สามารถส่งสินค้าไปยังงานสถานที่จัดงานเป็นสำคัญ เพราะนั่นจะเป็นตัวแปรที่สำคัญสำหรับเงื่อนไขเวลาสำหรับกิจกรรมอื่นๆตามมา อาทิเช่น ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าทั้งจากไทยไปยังประเทศปลายทาง และระยะเวลาในการดำเนินพิธีการขาเข้าของประเทศนั้นๆอีกด้วย ในกรณีที่ท่านผู้ประกอบการไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ท่านสามารถร้องขอให้เอเย่นต์ หรือตัวแทนที่จอง freight ให้ท่านสอบถามถึงเงื่อนไขเวลาของกระบวนการต่างๆจากเอเย่นต์ปลายทางได้เช่นกัน เช่น หากท่านต้องการส่งสินค้าไปงานแสดงที่ประเทศเยอรมัน ทางแอร์ สินค้าของท่านจะต้องส่งถึง Cologne Airport ก่อนวันสุดท้ายที่ทางผู้จัดอนุญาตให้ส่งสินค้า ประมาณ 5 วัน แต่ถ้าหากเป็นทางเรือ สินค้าจะต้องแตะบนพื้น Hamburg Port ประมาณ 10วัน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เขียนได้แนบตารางการจัดงานแสดงระหว่างประเทศ (ที่มา กรมส่งเสริมการส่งออก) เผื่อว่าท่านผู้ประกอบการท่านใดมีความประสงค์ที่จะส่งสินค้าไปร่วมงานแสดงต่างๆ ก็สามาถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราได้ด้วยเช่นกัน อ่านต่อหน้า 3

  17. อ่านต่อหน้า 4

  18. อ่านต่อหน้า 5

  19. Sathinun กลับสู่หน้าหลัก

  20. SNP JOKE ความจริงบางอย่าง ... เกี่ยวกับอวัยวะคนเรา ตา ►►► อวัยวะที่ใช้ในการมอง ... มักจะมีอุณหภูมิสูงมากขึ้น เมื่อเห็นใครได้ดีหู►►► อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ... ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา เพื่อความสะดวกในการพกพาปาก►►► อวัยวะที่ใช้ในการพูด ... ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจจมูก► อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ ... ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่น เรียกว่า "แส่"บ่า+ไหล่ ► อวัยวะที่อยู่คู่กันมานาน ดังคำที่ว่า "เคียงบ่า เคียงไหล่" ... มีไว้ให้คนขี้เหงาได้ซบหัวใจ ► อวัยวะที่ใช้สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ... คนเจ้าชู้ส่วนใหญ่มักเก็บตัวจริง แล้ว นำส่วนที่ถ่ายเอกสารไว้ ไปใช้อย่างพร่ำเพรื่อ อ่านต่อหน้า 2

  21. ปอด ►►► อวัยวะที่ใช้ฟอกโลหิต ... ถ้า "ปอดแหก" จะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้นม ►►► อวัยวะที่สุภาพสตรีทั้งหลาย ... อยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง ส่วนสุภาพบุรุษ คิดว่า "บ่ได่กิ๋น ... บ่ายซื่อซื่อกะมีแฮง"ศอก ►►► อวัยวะที่เป็นข้อต่อระหว่าง ท่อนแขนส่วนบนกับท่อนแขนส่วนล่าง มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย ... หรือใช้รองน้ำดื่มสำหรับผู้หญิงที่มาทีหลังสะดือ ►►► เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ ยามอยู่ในครรภ์ ... เมื่อใดใช้วัดความสุภาพ ... ต่ำกว่าสะดือถือ ว่าทะลึ่งขาอ่อน ►►► อวัยวะที่เชื่อมต่อจากสะโพกลงมา ... นิยมใช้ในการประกวด เพราะเห็นได้ชัดกว่า "สมอง"หัวเข่า ►►► ข้อต่อระหว่างขากับแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ... ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนผู้ชาย และบางคนใช้ เช็ดน้ำตา นิยมมากสำหรับคนที่"รักผัวชาวบ้าน"ขนหน้าแข้ง►►► อวัยวะที่วัดระดับฐานะทางการเงิน ... ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อยเท้า ►►► เป็นอวัยวะที่ใช้ในการยืน เดิน หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า "ถีบ"ตัว ►►► เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกาย ให้อวัยวะอื่นได้พักพิง ... จะลืมกันมากในเวลาได้ดี กลับสู่หน้าหลัก

  22. กลับสู่หน้าหลัก Logistics Specialist and International Freight Forwarder

More Related