220 likes | 557 Views
การสอนคำสอนเทศกาลปัสกา ปี C. สมโภช พระตรีเอกภาพ. พระคัมภีร์ สภษ 8 : 22-31 รม 5 : 1-5 ยน 16 : 12-15.
E N D
การสอนคำสอนเทศกาลปัสกาการสอนคำสอนเทศกาลปัสกา ปี C
สมโภชพระตรีเอกภาพ พระคัมภีร์ สภษ 8:22-31 รม 5:1-5 ยน 16:12-15
สภษ 8:22-31 พระยาห์เวห์ทรงสร้างดิฉันตั้งแต่แรก ก่อนสร้างสิ่งใดๆ ดิฉันเป็นผลแรกในบรรดาพระราชกิจดั้งเดิมของพระองค์ ดิฉันได้รับการสถาปนาไว้ตั้งแต่นิรันดร ตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนที่แผ่นดินจะมีขึ้น ดิฉันถือกำเนิดมาเมื่อยังไม่มีมหาสมุทร เมื่อยังไม่มีพุน้ำที่มีน้ำมากมาย ดิฉันถือกำเนิดมาแล้วก่อนที่ฐานของภูเขาจะถูกวาง และก่อนเนินเขาทั้งหลาย ก่อนที่พระเจ้าทรงสร้างแผ่นดินและท้องทุ่ง ก่อนทรงสร้างผงคลีแรกของโลก เมื่อทรงจัดวางท้องฟ้า ดิฉันก็อยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อทรงลากเส้นรอบวงบนพื้นผิวมหาสมุทร
เมื่อทรงรวบรวมเมฆเบื้องบนให้อยู่ด้วยกัน เมื่อทรงบันดาลให้น้ำพุขึ้นจากขุมลึกของมหาสมุทร เมื่อทรงกำหนดเขตจำกัดให้แก่ทะเล เพื่อน้ำจะไม่ล่วงล้ำเลยเขตที่ทรงกำหนดไว้ เมื่อพระองค์ทรงวางรากฐานของแผ่นดิน เวลานั้นดิฉันอยู่เคียงข้างพระองค์เหมือนนายช่าง ทำให้พระองค์ทรงยินดีทุกวัน ดิฉันชื่นชมเฉพาะพระพักตร์พระองค์ทุกเวลา ร่าเริงอยู่ทั่วแผ่นดินที่มีคนอาศัย ปีติยินดีที่จะอยู่กับมวลมนุษย์”
รม 5:1-5 ดังนั้น เมื่อได้เป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อแล้ว เราย่อมมีสันติกับพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา โดยทางพระองค์ เราจึงเข้าถึงพระหรรษทานและกำลังดำรงอยู่ในพระหรรษทานนี้ เราภูมิใจในความหวังที่จะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้น เรายังภูมิใจในความทุกข์ เพราะรู้ว่า ความทุกข์ก่อให้เกิดความพากเพียร ความพากเพียรก่อให้เกิดคุณธรรมที่แท้จริง คุณธรรมที่แท้จริงก่อให้เกิดความหวัง ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะพระจิตเจ้าซึ่งพระเจ้าประทานให้เรา ได้หลั่งความรักของพระเจ้า ลงในดวงใจของเรา
ยน 16:12-15 พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกท่าน แต่บัดนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้ เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมา พระองค์จะทรงนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา และจะทรงแจ้งให้ท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น พระองค์จะทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ เพราะพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงได้รับจากเรา ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเราด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา
หัวข้อ “การประกาศยืนยันความเชื่อ ครั้งแรกกระทำในพิธีศีลล้างบาป ศีลล้างบาปนั้นโปรด “ในนามของพระบิดา และพระบุตรและพระจิต” (มธ 28:19) ข้อความจริงแห่งความเชื่อที่ประกาศยืนยันด้วยความเชื่อ คือการเข้าร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต เป็นการเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักร ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดความเชื่อมายังเรา
เนื้อหา ในบทอ่านที่ 1 (สภษ 8:22-31) ผู้แต่มองจักรวาลในความยิ่งใหญ่ มีความสอดคล้องต้องกันและมีความงดงาม ความน่าพิศวงเหล่านี้สรุปอยู่ในองค์พระผู้สร้าง ในบทอ่านที่ 2 (รม 5:1-15) ไม่ว่าเราจะประสบสิ่งใดในชีวิต เราต้องหันเข้าหาความเชื่อในความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อสิ่งสร้าง ซึ่งเรามนุษย์ได้รับเลือกสรร
ในบทพระวรสาร (ยน 16:12-15) การแสดงออกของความรักที่มองเห็นได้ของพระเจ้า ปรากฏอยู่ในพระบุคคลของพระคริสตเจ้า องค์อิมมานูเอล พระเจ้าสถิตกับเรา พระบิดาตรัสกับทุกคนโดยทางพระองค์ ความเข้าใจลึกซึ้งของเราในเอกภาพนี้ของพระบิดาและพระบุตรได้รับการทำให้ลึกซึ้งมากขึ้นภายใต้อำนาจชักจูงของพระจิต
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพซึ่งเราสมโภชในวันนี้นั้นบอกเราว่าธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพซึ่งเราสมโภชในวันนี้นั้นบอกเราว่า • พระบิดาเป็นพระเจ้า • พระบุตรเป็นพระเจ้า • พระจิตเป็นพระเจ้า
แต่มิใช่มีพระเจ้าสามพระองค์ เป็นพระเจ้าองค์เดียวคือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต เป็นธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพ สามพระบุคคลในพระเจ้าหนึ่งเดียว ถ้าเราพยายามเข้าใจธรรมล้ำลึกนี้ สิ่งหนึ่งที่ครบบริบูรณ์เพียงพอคือสิ่งที่องค์พระเยซูเจ้าเองทรงมอบแก่เรา เมื่อตรัสว่า “พระบิดาผู้ทรงชีวิตทรงส่งเรามา และเรายังมีชีวิตเพราะพระบิดาฉันใด ผู้ที่กินเนื้อของเราจะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้น” (ยน 6:57) นี่เป็นการเปรียบเทียบระหว่างพระตรีเอกภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันของบุคคลต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นรหัสกายของพระคริสตเจ้าโดยทางศีลมหาสนิท
ธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพ เป็นธรรมล้ำลึกศูนย์กลางแห่งความเชื่อและชีวิตของคริสตชน เป็นธรรมล้ำลึกของพระเจ้าในพระองค์เอง ดังนั้น จึงเป็นต้นกำเนิดแห่งธรรมล้ำลึกอื่นๆ ทั้งหมดเกี่ยวกับความเชื่อ เป็นแสงสว่างที่ทำให้ธรรมล้ำลึกอื่นๆ กระจ่างแจ้งขึ้นมา ธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพเป็นคำสั่งสอนในระดับพื้นฐานที่สุด และสำคัญที่สุด ใน “พระฐานานุกรมแห่งความจริงเกี่ยวกับความเชื่อ” (GCD 43) “ประวัติศาสตร์แห่งความรอดทั้งหมด มิใช่อื่นไกล นอกจากประวัติศาสตร์แห่งลู่ทางและวิธีการ ซึ่งพระเจ้าเที่ยงแท้หนึ่งเดียว พระบิดา พระบุตร และพระจิต ทรงใช้ในการเผยแสดงพระองค์ ทรงคืนดี และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ ผู้หันหลังให้บาป” (GCD 47)(คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 234)
พระตรีเอกภาพเป็นธรรมล้ำลึกด้านความเชื่อ เป็นหนึ่งในธรรมล้ำลึกทั้งหลายที่ซ่อนในพระเจ้า ซึ่งเป็นที่รู้จักไม่ได้ หากมิได้รับการเผยแสดงจากเบื้องบน พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงว่าพระเจ้าคือ “พระบิดา” ในความหมายที่พระเจ้ามิได้ทรงเป็นบิดาในฐานะที่ทรงเป็นพระผู้สร้างเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นพระบิดานิรันดร ในความสัมพันธ์กับพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ “ไม่มีใครรู้จักพระบุตร นอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดา นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรเปิดเผยให้ทราบ” (มธ 11:27) ด้วยเหตุนี้ บรรดาอัครสาวกจึงประกาศยืนยันถึงพระเยซูในฐานะ
พระวจนาตถ์ ซึ่งในปฐมกาลสถิตอยู่กับพระเจ้า และทรงเป็นพระเจ้า (ยน 1:1) เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า ผู้ซึ่งไม่ประจักษ์แต่ตา (คส 1:15) เปิดแสงสะท้อนพระสิริของพระเจ้าและทรงมีสภาวะเป็นพิมพ์เดียวกับพระองค์ (ฮบ 1:3)
ก่อนฉลองปัสกาของพระองค์ พระเยซูเจ้าได้ทรงกล่าวนำไว้ถึงการส่งพระจิตลงมา “พระผู้ปลอบโยนอีกองค์หนึ่ง” ลงมา คือพระจิตผู้ปฏิบัติงานมาตั้งแต่มีการสร้างโลก ในอดีตก็ได้เคย “ตรัสผ่านทางประกาศก” บัดนี้พระองค์จะประทับอยู่ใกล้บรรดาสานุศิษย์ และอยู่ในตัวเขา เพื่อสอนเขา และนำทางเขาไป “สู่อัตถ์ความจริง” (ยน 16:13) พระจิตทรงได้รับการเผยแสดงด้วยประการฉะนี้ ในฐานะเป็นพระเจ้าอีกพระบุคคลหนึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับพระเยซูและพระบิดา
ศาสนาและวิทยาศาสตร์ล้วนนำเราไปสู่ความจริง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ “เชื่อหรือไม่เชื่อ” วิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับโลกทางกายภาพ ศาสนาแสวงหาที่จะกระทำในด้านความต้องการฝ่ายจิตของสิ่งสร้าง การสมโภชพระตรีเอกภาพมีจุดศูนย์รวมความตั้งใจของเราในมุมมองของ “ธรรมล้ำลึก” ในความเชื่อของเราคือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต สามพระบุคคล แต่เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว”
กิจกรรม ในทุกๆ ครั้งที่เราทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน เมื่อเรากล่าวว่า “เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต” เราเข้าใจอย่างแท้จริงในสิ่งที่เรากล่าวหรือไม่ (ให้ทุกคนทำสำคัญมหากางเขนพร้อมกัน) วันนี้เราลองมาทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขนอย่างมีความหมายพร้อมๆ กัน
ทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขนพร้อมกัน ให้ทุกคนกล่าวช้าๆ และทำพร้อมกัน “เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน” • ให้แต่ละคนทำอีกครั้งอย่างช้าๆ ในความเงียบ
ให้แบ่งปันในกลุ่มย่อยว่าให้แบ่งปันในกลุ่มย่อยว่า ทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขนในครั้งนี้รู้สึกอย่างไร และความรู้สึกนั้นแตกต่างจากที่เคยกระทำหรือไม่ เพราะอะไร การทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน เป็นการยืนยันความเชื่อของเราคาทอลิกว่า เราเชื่อในพระบิดา พระบุตร และพระจิต ถ้าเราตระหนักในเรื่องนี้ ทุกครั้งที่เรากระทำเครื่องหมายนี้เราจะกระทำอย่างดีและตั้งใจทำ
ไตร่ตรอง การสมโภชพระตรีเอกภาพเตือนเราว่าหัวใจของความเชื่อของเราคือความรักของพระเจ้าที่เรามองเห็นได้ ที่แสดงในพระบุคคลของพระคริสตเจ้า ผู้ทรงเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” พ่อจ๋า เป็นการยืนยันถึงเอกภาพของพระองค์กับพระบิดา และแน่นอนว่าผู้ที่ยอมรับพระองค์ พวกเขาจะได้รับความเข้มแข็งอย่างมั่นคงจากอำนาจของพระจิตจนถึงวันที่เขาสิ้นใจ พวกเขาจะได้ความรักนี้ของพระองค์อย่างบริบูรณ์ “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่ฟังวาจาของเรา และมีความเชื่อในพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา ก็ย่อมมีชีวิตนิรันดร และไม่ต้องถูกพิพากษา แต่เขาได้ผ่านจากความตายเข้าสู่ชีวิตแล้ว” (ยน 5:24)