1 / 17

RAM (Random Access Memory)

RAM (Random Access Memory). (หน่วยความจำหลัก) เป็น หน่วยความจำที่ต้องการไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายพลังงานเลี้ยงตลอดเวลาขณะทำงาน ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์ทำงาน หน่วยความจำแรมจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆ เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ (Power Off) ข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในหน่วยความจำจะสูญหายไปทันที.

barney
Download Presentation

RAM (Random Access Memory)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. RAM (Random Access Memory) (หน่วยความจำหลัก) เป็นหน่วยความจำที่ต้องการไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายพลังงานเลี้ยงตลอดเวลาขณะทำงาน ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์ทำงาน หน่วยความจำแรมจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆ เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์(Power Off) ข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในหน่วยความจำจะสูญหายไปทันที

  2. ประเภทของแรม RAM (Random Access Memory) • FPM DRAM (Fast Page Mode DRAM)หน่วยความจำที่เป็นแบบ SIMM (Single Inline Memory Module) มีจำนวนขา 30 ขา และ 70 ขา มีเส้นทางเดินข้อมูลขนาด 8 บิต ใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า

  3. ประเภทของแรม RAM (Random Access Memory) • EDO RAM (Extended Data Output RAM)หน่วยความจำที่มีจำนวนขา 72 ขา มีเส้นทางเดินข้อมูลขนาด 32 บิต ใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ เช่น รุ่น Pentium

  4. ประเภทของแรม RAM (Random Access Memory) • SDRAM (Synchronous Dynamic Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่ทำงานในช่วงสัญญาณนาฬิกาขาขึ้นเท่านั้น มีทางเดินข้อมูลขนาด 64 บิต ติดตั้งกับช่องแบบ DIMM Socket (Double Inline Memory) มี 168 ขา

  5. การ์ดแสดงผลภาพ (Graphic Card) • เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ (System Unit) กับจอภาพ (Monitor) ทำหน้าที่ผลิตสัญญาณภาพเพื่อส่งไปแสดงผลบนจอภาพ สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท

  6. ประเภทของ Graphic Card 1. Onboardคือการ์ดแสดงผลที่ติดตั้งมาบนแผงวงหลัก จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานทั่วไป 2. Expansion Cardจะเป็นแผ่นการ์ด การติดตั้งนั้นต้องอาศัยช่องเสียบการ์ดเสริมของแผงวงจรหลัก สามารถอัปเกรดเป็นรุ่นอื่น ๆ ได้ตามต้องการ ในการทำงานจึงไม่ทำให้โปรแกรมบางโปรแกรมมีปัญหา

  7. ความแตกต่างของการ์ดแสดงผลภาพทั้ง 2 แบบ • ส่วนเชื่อมต่อ (Interface) การเชื่อมต่อจะแบ่งเป็นแบบ AGP 8x กับ PCI Express x16 โดยในแต่ล่ะแบบจะไม่สามารถนำมาติดตั้งบนแผงวงจรแทนกันได้ • การส่งข้อมูล แบบ PCI Express จะเป็นการส่งข้อมูลแบบ 2 ทาง แต่ในแบบมาตรฐานการส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว

  8. การ์ดเสียง (Sound Card) • ทำหน้าที่ในการแสดงผลระบบเสียงจากคอมพิวเตอร์ไปยะงลำโพง ซึ่งจะมีการแปลงข้อมูลจากสัญญาณ Digital ไปเป็นสัญญาณ Analog

  9. ประเภทของการ์ดเสียง 1. Expansion Cardมี 2 ชนิด • ISA Card เป็นการ์ดรุ่นเก่าที่ใช้กับ ISA Slot บนแผงวงจร • PCI Card เป็นการืดที่ต้องเสียบลงในช่องติดตั้งการ์ดเสริมบนแผงวงจรหลัก 2. Sound Onboard เป็นแบบติดตั้งชิปแสดงผลเสียงมาพร้อมกับแผงวงจรหลัก ปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมทั้งยังรองรับการแสดงผลระบบเสียงแบบลำโพงหลายตัว

  10. ตัวอย่างช่องเสียบ Sound Onboard • Center/Subwoofer port (Orange) ใช้เชื่อมต่อกับลำโพงแบบ 6 Channel • Rear Speaker Out port (Black) ใช้เชื่อมต่อกับชุดลำโพงแบบ 4 Channel • Side Speaker Out port (Gray) ใช้เชื่อมต่อกับชุดลำโพงแบบ 8 Channel

  11. ตัวอย่างช่องเสียบ Sound Onboard • Line in port (Light Blue) ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเพื่อรับสัญญาณเสียงเข้าสู่การ์ด • Line Out port (Lime) ใช้เชื่อมต่อกับลำโพงที่มีเครื่องขยายอยู่ในตัวหรือเครื่องขยายเสียงต่างๆ • Microphone port (Pink) ใช้ต่ออุปกรณ์จำพวกไมโครโฟน

  12. อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Device) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น โปรแกรมต่าง ๆ ตลอดจนข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล แบ่งตามลักษณะการทำงานได้ 2 ประเภท 1. อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้หลักการสนามแม่เหล็กในการทำงาน (Magnetic Storage Device) - FDD (Floppy Disk Drive) - HDD (Hard Disk Drive)

  13. 2. อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้หลักการของแสงในการทำงาน (Optical Storage Device) CD Drive แบ่งออกเป็น - CD - ROM Drive - CD - RW Drive DVD Drive แบ่งออกเป็น - DVD - ROM Drive - DVD - Rewritable Drive

  14. ฮาร์ดดิสก์ไดฟ์ (HDD : Hard Disk Drive) • เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบใช้แผ่นโลหะแข็งในการจัดเก็บข้อมูล แผ่นโลหะแข็งจะถูกติดตั้งไว้ภายในตัวฮาร์ดดิสก์

  15. ส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์ส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์ • ตัวถัง (Case) จะเป็นวัสดุอะลูมิเนียม ช่วยในการถ่ายเทความร้อน จะมีการปิดฝาครอบไว้เพื่อป้องกันฝุ่นละออง • แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Logic Board)ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของ Head / การหมุนของจานดิสก์ • แขนของหัวอ่าน/เขียน (Actuator Arm) จะทำงานร่วมกันกับ Voice Coil ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า มีความแม่นยำสูงกว่า

  16. หัวอ่าน/เขียนข้อมูล(Head)ทำหน้าที่ในการอ่าน/เขียนข้อมูลลงบนแผ่นดิสก์ ภายในประกอบด้วยขดลวด เมื่อมีคำสั่งมาจะแปลงเป็นแรงดันไฟฟ้าเพื่อป้อนเข้าสู่ขดลวด ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำทางแม่เหล็ก ทำให้เกิดการเรียงตัวหใม่เพื่อใช้ในการอ่าน/เขียน • แผ่นจานดิสก์หรือแผ่นจานแม่เหล็ก (Platter)มีลักษณะเป็นแผ่นจานโลหะที่บริเวณผิวถูกเคลือบด้วยสารแม่เหล็กสารแม่เหล็กจะถูกเหนี่ยวนำโดยหัวอ่าน/เขียนข้อมูล เพื่อกำหนดสภาวะให้มีค่าเป็น 0 หรือ 1 เพื่อนำไปใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ในการจัดเก็บข้อมูลจะแบ่งเป็นแทร็กและเซกเตอร์

  17. มอเตอร์หมุนจานแผ่นดิสก์ (Spindle Motor)เป็นมอเตอร์ที่ใช้ในการหมุนแผ่นดิสก์โดยความเร็วในการหมุนแผ่นดิสก์จะมีผลในการอ่าน/เขียนข้อมูล • Interface Connectorคือส่วนเชื่อต่อฮาร์ดดิสก์เข้ากับแผงวงจรหลัก

More Related